ยอดนักรบระห่ำโลก

บทที่12 ได้โปรดอย่าโศกเศร้า



บทที่12 ได้โปรดอย่าโศกเศร้า

บทที่12 ได้โปรดอย่าโศกเศร้า

“ฉู่เทียนเจียง คุณทำเกินไปนะ! ”

ฮัวว่านถงไม่สามารถทนต่อไปได้ ตะโกนเสียงดังออกมา แต่ฮัวผู้โก๋กลับเดินไปข้างหน้า โค้งคำนับต่ออีอีหนึ่งครั้ง

“อีอี ปู่รองต้องขอโทษหนูด้วย”

ขนาดพ่อยังทำแล้ว ฮัวว่านถงจะทำอะไรได้ ได้แต่ทำ

ตามเท่านั้น อีอีหวาดกลัวจนมุดหัวเข้าไปในอกของฉู่เทียนเจียง ไม่

กล้าพูดอะไรเลย

เมื่อเขายืนขึ้น สายตาอันเลือดเย็นของฮัวผู้โก๋ก็จ้องมอง ไปที่ฉู่เทียนเจียง

“ถ้าวันนี้เรื่องเงินกู้ไม่ได้รับการอนุมัติ ฉู่เทียนเจียง คุณ คงไม่อยากทราบผลลัพธ์ที่จะตามมาแน่ๆ”

ฉู่เทียนเจียงไม่ได้สนใจกับคำข่มขู่คุกคามแบบนี้ ตอนที่ ต่อสู้กับศัตรูนอกแผ่นดิน คำข่มขู่และภัยคุกคามที่รุนแรงกว่านี้เป็นพันเท่าหมื่นเท่าเขาก็เคยเจอมาเยอะ ถ้า เขากลัวจริงๆ ก็คงไม่มีชีวิตรอดมาจนถึงทุกวันนี้?

“พวกคุณยังไม่ได้ขอโทษพ่อของฉัน พ่อออกไปคุย ธุรกิจ พวกคุณรออยู่ในสนามหน้าบ้าน แน่นอน พวกคุณ เลือกจะกลับไปก็ได้

พ่อลูกสองคนเปิดประตูเตรียมจะกลับบ้านเมื่อได้ยินคำ พูดนี้ร่างกายหยุดนิ่งชั่วครู่ พวกเขาไม่พูดอะไรเลยและ เดินออกจากประตูไป

หลิวหลานรีบเดินไปดูที่หน้าต่างด้วยความระมัดระวัง ไม่ ต้องพูดก็รู้ พวกเขาสองคนรออยู่ที่สนามหน้าบ้านจริงๆ ไม่ได้จากไป

“เทียนเจียง ทำอย่างนี้ดีเหรอ คุณไม่กลัวอารองแก้แค้น ทีหลังหรือไง? ฉันจะพูดกับคุณตรงๆ ถ้าเกิดอะไรขึ้น พวกเราจะโยนความผิดทุกอย่างให้คุณ เพราะว่าพวกเรา ต้องปกป้องอีอี

คำพูดแบบนี้ แม้แต่ฮัวจิ่นถิงก็ยังรับไม่ได้

“คุณแม่ คุณ…………”

“ไม่มีอะไรหรอกที่รัก ถ้าเกิดอะไรขึ้นผมจะรับผิดชอบ เอง เพราะฉันเป็นผู้ชาย ต้องปกป้องครอบครัวของตนเอง”

คำพูดของฉู่เทียนเจียง ทำให้ฮัวจิ่นถึงมองเขาเปลี่ยนไป เธอรู้สึกว่า ผู้ชายคนนี้ที่ไปกองทัพมาสี่ปี เขาเปลี่ยนไป จริงๆ

หลังผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ประตูบ้านเปิดออก ฮัวเหวินฮุย เดินเข้ามา หลิวหลานมองเห็นสีหน้าของเขา รีบถามขึ้น มาทันที

“เหล่าฮัว คุณทำไมทำหน้าตกใจเหมือนเห็นผี

ฮัวเหวินฮุยพูดด้วยเสียงแหบแห้ง และชี้ไปที่ด้านนอกว่า

“พี่รองกับฮัวว่านถงอยู่ด้านนอก พวกคุณรู้ไหม? เมื่อ กี้ฉันตกใจมาก ตอนกำลังจะเอ่ยปากถาม พวกเขาก็โค้ง คำนับขอโทษฉัน ยังบอกสัญญาโรงอิฐเหมือนเดิม เธอดูสิ ฉันเหมือนคนเจอผีหรือเปล่า?

หลังจากที่หลิวหลานเล่าความเป็นมาของเรื่องทั้งหมด ฮัวเหวินฮุยก็จนปัญญาจริงๆ ยิ้มแบบขมขื่น

“เฮ้อ สะใจอะสะใจ แต่ครั้งนี้คงผิดใจกับพี่รองแน่ๆ จาก นี้ไป ยังไม่รู้จะเกิดอะไรบ้าง
ในอีกด้านหนึ่ง ในรถMercedes-Benzที่อยู่บนถนน ฮัว ว่านถงนั่งหายใจแรงๆด้วยความโกรธ

“คุณพ่อ ! ฉันรับไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่เคยมีใคร ทำให้พวกเราอัปยศอดสูแบบนี้ ยิ่งไปกว่านั้นมันคืออู่ เทียนเจียงผู้ชายไร้ประโยชน์ที่แต่งเข้าตระกูลเราอีก!

ฮัวผู้โก๋ปิดตาลงอย่างช้าๆ และมีเสียงพูดออกมา

“หุบปาก

หลังจากผ่านไปห้านาที โทรศัพท์มือถือของฮัวผู้โก๋ดัง ขึ้น เขาหยิบออกมาดู รีบรับโทรศัพท์ทันที

“เหล่าฮัว ประสิทธิภาพในการทำงานของคุณดีจริงๆ ฉู่ เทียนเจียงได้โทรศัพท์หาฉันแล้ว ทางฝั่งฉันพรุ่งนี้จะไป เซ็นชื่อที่ธนาคาร แค่นี้แหละ”

หายใจเข้าลึกๆหนึ่งครั้ง ฮัวผู้โก๋หันหัวมองไปที่ลูกชายตัว

เอง

“เรื่องกู้เงินตกลงเสร็จแล้ว ว่านถง มีบางเรื่อง ถึงเวลา ลงมือแล้ว”
เขาชกหมัดไปที่เก้าอี้ด้านหน้า ฮัวว่านถงหยิบโทรศัพท์ มือถือขึ้นมา

“ฉันจะทำให้ฉู่เทียนเจียงพิการและนอนอยู่บนเตียงไป ตลอดชีวิต”

ตอนดึกเวลาประมาณสามทุ่ม ฉู่เทียนเจียงที่กล่อมอีอี จนนอนหลับลงมาด้านล่างแล้วพูดว่า

“ที่รัก ฉันจะออกไปข้างนอก

ฮัวเหวินฮุยไม่พอใจ

“คุณจะไปทำอะไร? ตอนนี้คุณแค่ออกจากบ้าน ฉันก็ รู้สึกว่าจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น คุณอยู่บ้านเฉยๆไม่ต้องไป ไหนไม่ได้เหรอ? ”

เปลี่ยนรองเท้าเสร็จ ฉู่เทียนเจียงพูดจบเปิดประตูแล้ว เดินออกไป

“จะไปไหว้พ่อกับแม่ของฉัน”

เพราะคำพูดประโยคนี้ ทำให้ฮัวจิ่นถิงกำมือทั้งสองข้าง ไว้แน่ ความโศกเศร้าก็โผล่ออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ
พ่อกับแม่ของฉู่เทียนเจียงประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตขณะ ที่เขายังเรียนหนังสืออยู่ หลุมศพอยู่ที่สุสานซีซานที่อยู่ นอกเมืองหนิง ทุกปี ฉู่เทียนเจียงจะไปไหว้หลุมศพหลาย รอบ

เธอเข้าใจว่าทำไมฉู่เทียนเจียงต้องไปตอนกลางคืน เพราะกลางวันต้องอยู่กับอีอี เพื่อชดเชยเวลาที่เสียไป และมีเพียงตอนกลางคืนเท่านั้นที่พอจะมีเวลาว่าง เพราะ ไปกลับสุสานซีซานหนึ่งรอบ ต้องใช้เวลาอย่างน้อยสาม ชั่วโมงกว่า

“ลูกพี่ใหญ่ ฉู่เทียนเจียงที่เป็นเป้าหมายของเราออกจาก บ้านแล้ว เขาขึ้นรถแท็กซี่ไป ฉันกำลังตามอยู่”

“รับทราบแล้ว เดียวฉันจะส่งลูกน้องคนอื่นๆตามไป ช่วย

แชรตาแหน่งด้วย”

ในขณะเดียวกัน ที่ห้องส่วนตัวในร้านเหล้าแห่งหนึ่งที่ เมืองหนิง ผู้ชายร่างใหญ่ได้วางโทรศัพท์มือถือลง มองฝั่ง ตรงข้ามที่ฮัวว่านถงอยู่และพูดว่า

“คุณชายฮัว ฮ่าๆ ดูเหมือนสวรรค์เป็นใจ หลังเที่ยงคืนนี้ เงินค่าจ้างที่เหลือคุณคงต้องโอนให้ผมแล้ว พวกเรารอฟัง ขาวดีตรงนี้ดีกว่า”

ฮัวว่านถงดีใจมาก
“ฮ่า? เจ้าโง่อย่างฉู่เทียนเจียงดึกขนาดนี้ยังออกจาก บ้าน? สวรรค์เข้าข้างฉันชัดๆ แต่คุณฉงจื่อทำงานได้มี ประสิทธิภาพจริงๆ พึ่งสั่งลูกน้องไปเฝ้า ก็สามารถแจ้ง ข่าวดีมาได้

ชายร่างใหญ่ที่ชื่อฉงจื่อหัวเราะและยกแก้วเหล้าขึ้นมา

“เป็นเพราะคุณให้เงินมาเยอะ เรายินดีร่วมกัน”

ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง บนถนนเส้นหนึ่งนอกเมืองหนิง มีรถ แท็กซี่ขับอยู่ คนขับพึมพำอยู่ในใจ ดึกขนาดนี้ยังจะไป สุสานซีซาน ดูจากการแต่งตัวไม่เหมือนเจ้าหน้าที่รักษา ความปลอดภัยที่มาเปลี่ยนเวร ฉันคงไม่ได้รับคนสติไม่ดี ใช่ไหม

“พ่อหนุ่มน้อย ใกล้จะถึงแล้ว คุณดูสิค่ารถบนมิเตอร์คือ สองร้อยห้าหยวน เอาอย่างงี้ คุณให้ผมสองร้อยก็พอ คุณ จะจ่ายเงินสดหรือจ่ายโดยQR Code

“เงินสด”

ฉู่เทียนเจียงที่นั่งอยู่เบาะหลังยื่นเงินหนึ่งพันมาให้ จาก

นั้นพูดว่า

“รบกวนพี่คนขับรอผมสักครู่ ผมไหว้พ่อกับแม่เสร็จก็จะ กลับเลย”
เมื่อเห็นเงินหนึ่งพันสกุลดอลลาร์ ถ้าพูดว่าไม่อยากได้ก็ คงไม่จริง คนขับคบฟันแล้วตัดสินใจ

“ได้ครับ ผมรออยู่ที่นี่ เพื่อรับคุณกลับไปด้วย

แม่งเอ้ย ดึกขนาดนี้ยังมาไหว้บรรพบุรุษ? พ่อหนุ่มคนนี้

ใจกล้าจริงๆ

ที่ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจคือ ประตูของสุสานซีซาน เปิดอยู่ ไม่มีใครเข้ามาถามรถแท็กซี่ของเขาเลย

“คุณขับเข้าไปได้เลย ไปเขตBภาคจงหลิง

คนขับไม่ได้คิดอะไรมาก ขับตรงเข้าไปเลย

เมื่อถึงเขตBภาคจงหลิง หลังจากฉู่เทียนเจียงลงจากรถ เมื่อมองไปโดยรอบเห็นหลุมฝังศพที่เงียบสงัด คนขับรถ แท็กซี่จุดบุหรี่แล้วสูบทันทีเพื่อลดความกลัวของที่มีต่อ สถานที่แห่งนี้

และห่างจากจุดจอดแท็กซี่ไปประมาณสองร้อยเมตร ได้มีรถVolkswagen Jettaปิดไฟกำลังจอดอยู่ ในเวลา เดียวกัน เสียงสั่นของโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น

“เหี้ย! ขับมาสุสานซีซานทำไม”
“ฉันก็ไม่อยากมา? คนที่ลูกพี่ใหญ่ต้องการตัวเขามาที่ นี่ พวกเจ้ามาเร็วๆหน่อย ฉันอยู่ที่นี่คนเดียวรู้สึกน่ากลัว มากๆ”

“ได้ เหลืออีกไม่กี่นาทีก็ถึงแล้ว แม่งเอ้ย ดึกๆแบบนี้มาที่ สุสาน เขาเป็นคนสติไม่ดีหรือเปล่า”

ในความมืด ฉู่เทียนเจียงคุกเข่าลงไปบนพื้น มองเห็น แสงพระจันทร์สาดส่องไปยังรูปถ่ายที่หน้าหลุมศพ น้ำตา ของเขาก็ไหลออกมา

“คุณพ่อคุณแม่ครับ ตอนนี้ลูกชายมีอนาคตที่ดีแล้ว น่า เสียดายที่พ่อแม่ไม่ได้อยู่เห็นความสำเร็จ ฮ่าๆๆ ผมมี ลูกสาวแล้วครับ เป็นหลานสาวของพวกท่าน ชื่ออีอี เธอ น่ารักน่าเอ็นดูมากๆ……

เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ ไม่กี่นาทีต่อมา ฉู่เทียนเจียงที่ กำลังพูดอยู่ในความมืด ได้มีเสียงพูดดังขึ้นขัดจังหวะ

“พ่อหนุ่ม คุณชั่งเลือกสถานที่ให้ตัวเองได้ดีจริงๆ อนาคตคุณก็คงได้นอนอัมพาตอยู่บนเตียงแน่ๆ”

ในเงามืด มีคนเจ็ดแปดคนจู่โจมไปที่ฉู่เทียนเจียง บาง คนถือมีดด้านยาว บางคนถือไม้เบสบอล ทุกคนดูเหมือน เป็นคนดุดันและโหดเหี้ยม
แต่ฉู่เทียนเจียง กลับยังคุกเข่าอยู่หน้าหลุมศพ ไม่ขยับ ตัวเลย ในปากยังคงพูดถึงเรื่องของเมื่อสักครู่

ทันใดนั้น ความมืดก็ได้หายไป ทำให้ทุกคนหยุดการ เคลื่อนไหว ใช้แขนบังสายตาแล้วมองไปข้างหน้า มีรถ หลายสิบคันที่ไม่รู้ยี่ห้อปรากฏตัว ไฟจากหน้ารถส่อง สว่างเหมือนตอนกลางวัน

สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นคือ มีคนกลุ่มหนึ่งใส่ชุดสมัย ราชวงศ์ถังเดินลงมา มีหลายร้อยคน จัดระเบียบเป็นแถว อย่างรวดเร็ว บนแขนมีปลอกแขนสีขาวอยู่

ทั้งเจ็ดคนตกตะลึงทันที ไม่กล้าขยับตัว

เวลาต่อมา มีดและไม้เบสบอลที่ถืออยู่ในมือก็หล่น ลงพื้น ขาทั้งสองข้างสั่นไปหมด

เห็นคนหลายร้อยคนปรากฏตัว พวกเขาทั้งหมดก้มหน้า ลง น้ำเสียงที่โศกเศร้าดังทั่วสุสานซีซาน

“ท่านครับ ได้โปรดอย่าโศกเศร้าเลยครับ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ