ยอดนักรบระห่ำโลก

บทที่ 7 ขอเชิญคุณออกไปด้วย



บทที่ 7 ขอเชิญคุณออกไปด้วย

บทที่ 7 ขอเชิญคุณออกไปด้วย

“คุณพ่อคะ เราไปกันเถอะค่ะ ที่นี่มีแต่คนร้าย หนูไม่ เอากระโปรงแล้ว หึ! ต่อไปที่หนูจะเอารถถังคันใหญ่ที่พึ่ หลินเฉินให้หนูพกติดตัวไว้ รถถังเก่งมากเลยนะคะ ทำให้ คนร้ายวิ่งหนีไปได้เลยน้า”

ในร้านเงียบผิดปกติ แม้แต่เสียงเข็มตกลงพื้นยังสามารถ ได้ยิน จนกระทั่งอีอีดึงมือของฉู่เทียนเจียง ถึงได้มีเสียง ขึ้นมาอีกครั้ง

และก็เป็นเสียงของอีอีเช่นเคย ที่ทำให้ผู้จัดการอานหลุด จากภวังค์ในทันที รีบหยิบการ์ดใบนั้นคืนให้กับฉู่เทียน เจียง หน้าผากของเขามีเหงื่อผุดขึ้นมาเต็มไปหมด สอง มือของเขายื่นออกไปพลางพูดขึ้นด้วยเสียงสั่นเทา

พูดคุณอยู่นาน ตอนนี้ผู้จัดการอานแทบจะร้องไห้อยู่ แล้ว เขารู้สึกว่าตัวเองต้องตายแน่ ลูกค้าระดับสูงขนาดนี้ เขากลับผิดใจได้ ความคิดที่อยากจะตายก่อขึ้นทันที

รปภ.สี่คนนั้นทำตัวไม่ถูก สถานการณ์เปลี่ยนเร็วเกินไป
“อีอีหนูชอบกระโปรงตัวนี้ไหมคะ? ”

เขาไม่ได้สนใจผู้จัดการอาน ฉู่เทียนเจียงนั่งยองลงมา แล้วใช้ปลายนิ้วเขี่ยไปที่จมูกน่ารักๆของอีอีอย่างเอ็นดู

“หึๆ! อี……..หนูไม่ชอบแล้ว

ถึงปากจะพูดแบบนั้น แต่สายตากลับจริงใจมาก ฉู่เทียน เจียงยิ้มบางๆ แล้วยื่นมือขวาออกไป

พนักงานขายที่ยืนนิ่งอยู่กับที่ตกใจมาก รีบจัดการห่อ กระโปรงตัวนั้นส่งมอบให้กับเขาไป

จนถึงเวลานี้ ฉู่เทียนเจียงถึงพึ่งมองไปที่ผู้จัดการอานที่ ยืนก้มหัวอยู่

“ตอนนี้ ฉันไปได้รึยัง? ”

“คะ…..คุณเชิญ……..

ผู้จัดการอานถึงกับเข่าอ่อน ยังคงพูดออกไปไม่เต็ม ประโยค

เขาไม่ได้สนใจคนระดับล่างพวกนี้อีก ฉู่เทียนเจียงอุ้มอีอี เดินออกจากร้านไป
“เมียจ๋า ผมไปช้อปปิ้งเป็นเพื่อนคุณนะ คุณอยากได้ เสื้อผ้าหรือกระเป๋าครับ? ”

สายตาแห่งความตกใจของฮัวจิ่นถิงยังคงไม่หายไป เธอ จ้องมองฉู่เทียนเจียงด้วยแววตายากที่จะอธิบาย ตอบ ปฏิเสธออกไป

“กลับกันเถอะ กว่าคุณจะเก็บหอมรอมริบมาได้ไม่ง่าย เลยนะ อย่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเลย ปีหน้าอีอีก็ต้องเข้าเรียน อนุบาลแล้ว ต้องใช้เงิน”

“ได้ครับ”

หลังจากที่ฉู่เทียนเจียงเดินจากไปได้ยี่สิบนาทีเห็นจะ ได้ ในห้องรปภ.ที่อยู่ชั้นหนึ่ง ก่อนหน้านี้ผู้หญิงที่ถูกหักมือ กลับมาอีกครั้ง ข้างๆยังยกพวกมาอีกสิบกว่าคน เห็นได้ว่า มือของเธอได้รับการปฐมพยาบาลเรียบร้อยแล้ว

“ผู้จัดการอาน มันอยู่ไหน?

สายตาของหญิงสาวเต็มไปด้วยไฟแห่งความโกรธ เกรี้ยว เธอจะให้คนที่เธอพามาด้วยสิบกว่าคนนี้ หักขาทั้ง สองข้างของฉู่เทียนเจียงให้ได้

“คน? คนอะไรครับ? อ๋อ….ผมนึกขึ้นมาได้แล้ว คุณหลี่ ครับ ขอโทษด้วยจริงๆครับ ตอนที่ผมไปถึง เขาได้เดินออกจากห้างไปแล้วครับ ไม่งั้นคุณไปหาเขาอีกครั้ง

ไหมครับ?

“อะไรนะ? ไปแล้ว? แม่งเอ้ย”

เธอสบ ด่าไปหนึ่งคำ จากนั้นหญิงสาวก็เริ่มพาคนออก ไปตามหาในห้างทันที

เขามองดูแผ่นหลังของคุณผู้หญิงหลี่เดินจากไป สายตา ของผู้จัดการอานก็กลับมาเย็นชาอีกครั้ง

“อิกะหรี่เอ้ย เกือบทำให้กูเสียงานไปแล้วไหมล่ะ ผู้ชาย คนนี้สามารถมีบัตรพรีเมี่ยมการ์ดVIPของห้างสรรพ สินค้าตงหัวของพวกเราได้ น่ากลัวขนาดไหน แกไปลิ้ม ลองรสชาติเองเถอะไป

เขาไม่ได้บอกอะไรกับเธอทั้งนั้น แน่นอนว่าผู้จัดการคิด อยากแก้แค้นในใจ

อีกด้านหนึ่ง พอหลังจากกลับถึงบ้าน อีอีก็ขึ้นไปนอน กลางวัน ฮัวจิ่นถึงลากฉู่เทียนเจียงเข้าไปอีกห้องหนึ่ง

“คุณบอกความจริงกับฉันมานะ ที่ร้านนั้นน่ะ ในมือคุณ ถือการ์ดอะไร? ทำไมท่าทีของผู้จัดการคนนั้นถึงได้ เปลี่ยนไปถึงร้อยแปดสิบองศาแบบนี้ล่ะ”
เขารู้อยู่แล้วว่าฮัวจิ่นถึงจะต้องถามคำถามแบบนี้ ฉู่เทียน เจียงจึงพูดออกไปว่า

“บัตรของทหารที่ปลดประจําการ ด้านบนมียศของผม กํากับไว้ คนพวกนี้พอเห็นมันแล้ว เป็นธรรมดาที่ต้องกลัว

ตอนนี้เอง ฮัวจิ่นถึงหัวเราะออกมา

“เหอะๆ พูดจนฉันใกล้เชื่อแล้วนะเนี่ย สี่ปีก่อนคุณไม่มี ความสําเร็จที่เป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง เป็นเขยแต่งเข้า บ้านพวกเรา เข้าประจำการในกองทัพมาสี่ปี กลับออกมา ประสบความสำเร็จซะงั้น? คุณจะบอกว่ายศของคุณสูง มากสินะ? ”

“เอาเถอะ”

ไม่ใช่ฉู่เทียนเจียงไม่อยากพูดความจริง แต่เขาไม่ สามารถให้ใครรู้ตัวคนของเขาในตอนนี้ได้ ไม่อย่างงั้น ตาแก่ กับพวกฮัวว่านถงก็จะมาคุกเข่าคำนับอย่างรู้สึกผิด อย่างว่าง่ายแล้วล่ะ ถ้าเป็นแบบนั้น คงจะเป็นการปล่อย พวกมันง่ายเกินไป

เพียงแต่ สิ่งที่ความแก้ไขก็ต้องแก้ไขให้ดี เขาจะไม่เก็บ ซ่อนมันไว้
เธอไม่อยากไต่ถามอะไรอีก ฮัวจิ่นถึงกำลังจะเดินออก

ไป แต่ถูกฉู่เทียนเจียงดึงแขนไว้ เธอใช้สายตากวาดมอง

ไป คนที่อยู่ด้านหลังรีบปล่อยมือทันที

“เมียจ๋า ไปธนาคารกับผมหน่อยสิ”

ฮัวจิ่นถึงสงสัยมาก

“ไปที่นั่นทำไม? อยากจะโชว์ทรัพย์สินที่คุณเก็บมา ตลอดสี่ปีนี้งั้นเหรอ?”

เขาไม่ได้สนใจความดูถูกแบบนี้ ฉู่เทียนเจียงส่ายหัว

“ไม่ใช่ครับ ไปหาผู้จัดการธนาคาร เขามีวิธีทำให้อารอง ทั้งครอบครัวขอร้องอ้อนวอนให้เรากลับไปร่วมงานกับ โรงงานอิฐ”

เธอหัวเราะอย่างเย้ยหยัน ฮัวจิ้นถิงหมดคำพูดแล้วจริงๆ

“ฉู่เทียนเจียง ฉันว่าคุณเข้ากองทัพมาหลายปี ไม่เพียง ไม่มีการพัฒนา กลับกันยังมีสิยคุยโวโอ้อวดอีกด้วย ถ้า หากคุณกล้าทำต่อหน้าอีอีแบบนี้อีก ฉันไม่ปล่อยคุณไว้ แน่”
มองดูแผ่นหลังของฮัวจิ่นถึงเดินจากไป ฉู่เทียนเจียงไม่รู้ จะทำยังไงแล้ว จึงทำได้เพียงแค่ออกไปคนเดียว เขาบอก ว่าจะเริ่มปฏิบัติการทวงความยุติธรรมคืนให้กับลูกสาว ไม่มีทางล่าช้าโดยเด็ดขาด

“ลูกจ๋า ฉู่เทียนเจียงไปไหนอีกแล้ว เขารีบมากเลย หรอ? ”

หลิวหลานที่นั่งดูโทรทัศน์อยู่ตรงห้องรับแขกได้ยินเสียง เปิดประตู จึงลุกขึ้นไปยืนมิงดูที่บานหน้าต่าง อย่างหน้า เสียเล็กน้อย

“รีบมากค่ะ ฉู่เทียนเจียงบอกว่าจะให้อารองทั้งบ้านมา ขอร้องอ้อนวอนให้กลับไปรวมงานกับโรงงานอิฐ”

หลิวหลานโกรธจนหัวเราะออกมา

“เขายังจะให้อารองของหนู…..ช่างเถอะ ยังไงซะตอนนี้ฉู่ เทียนเจียงก็รับบทเป็นพ่อของอีอีแล้ว รอให้อีอีมีวุฒิภาวะ ก่อน สามารถรับกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นได้ พวกหนู ค่อยหย่ากันนะ”

“เอ่อจริงสิ หนูโทรหาเมิ่งหยวนหน่อย ไม่ว่าใครจะเป็น คนถูกหรือผิด หนูตบน้องไปฉาดใหญ่ เข้าใจไหม? อย่างไรเสียสุดท้ายยังไงก็เป็นน้องสาวแท้ๆของหนูนะ”
ฮัวจิ่นถิงถอนหายใจออก แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เธอรู้สึกลังเลใจ

ณ ธนาคารฮัวรุ่ย สถานที่หรูหราที่สุดในโลก ธนาคาร ที่มีมาตรการที่ปลอดภัย ทั่วทุกมุมโลก ขอเพียงแค่เป็น เมืองที่มีค่าGDPถึงเกณฑ์ จะมีธนาคารสาขาย่อยตั้งอยู่ ทั้งนั้น

ในตอนนี้เอง ฉู่เทียนเจียงที่ออกมาจากบ้าน ปรากฏตัว ขึ้นที่หน้าประตูธนาคารฮัวรุ่ย

พอก้าวเท้าเข้าไปเสร็จ พนักงานของธนาคารที่ดูแลรับ ใช้เฉพาะคนรวย ในตอนนี้เองมีหญิงสาวหน้าตาดีคนหนึ่ง

เดินออกมาต้อนรับ

“คุณผู้ชายคะ ขออนุญาตสอบถามนะคะต้องการทำ ธุรกรรมอะไรคะ? ”

“ฉันจะเข้าพบผู้จัดการธนาคารของพวกเธอ”

พนักงานสาวต้อนรับหยุดหายครู่หนึ่ง แต่รอยยิ้มยังคง

ไม่จางหาย

“ท่านได้ทำการนัดไว้รึเปล่าคะ? ”
บ้าหน้า ผู้จัดการธนาคารธรรมดาทั่วไปเป็นคนระดับ ไหน อยากพบก็ได้พบงั้นเหรอ? ยิ่งไปกว่านั้นที่นี่เป็น ธนาคารฮัวรุ่ยเชียวนะ

ไม่ได้พูดจาพร่ำเพรื่ออีกต่อไป ฉู่เทียนเจียงยื่นการ์ดใบ หนึ่งออกมา การ์ดใบนั้นสีม่วงทั้งใบ ด้านบนไม่มีแถบแม่ เหล็ก ชิป แม้กระทั่งตัวหนังสือและอื่นๆ ไม่มีอะไรทั้งนั้น

หลังจากที่รับมามองดูแวบหนึ่ง รอยยิ้มบนใบหน้าของ พนักงานสาวที่ต้อนรับหายไปทันที เธอได้จำแนกฉู่เทียน เจียงเป็นคนบ้าเรียบร้อยแล้ว

ในตอนที่กำลังจะเปิดปากพูด ทันใดนั้นก็มีลมหอมๆพัด ปลิวเข้ามา ตามมาด้วยน้ำเสียงที่เขาเกลียดเข้ากระดูก

“ดีเลย! ก็ว่าทำไมเสียงคุ้นๆ ที่แท้ก็ไอ้บัดซบนี่เอง!

มาวันนี้หญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างๆฉู่เทียนเจียง เป็นคุณผู้ หญิงหลี่ที่ถูกเขาหักมือหนึ่งข้างที่ห้างสรรพสินค้าตงหัว นั่นเอง

“ปากคุณสกปรกไปนะ มืออีกข้างไม่อยากได้แล้วใช่ ไหม? ”

พอได้ยินคำพูดนี้ คุณผู้หญิงหลี่ถอยออกไปสองก้าวอย่างรู้ตัว แต่พอนึกถึงว่าที่นี่เป็นธนาคารฮัวรุ่ย ไม่มีใคร หน้าไหนกล้าโวยวายก่อเรื่องที่นี่ เธอจึงรู้สึกกล้ามากยิ่ง ขึ้น ในขณะเดียวกันเถอะก็หยิบมือถือขึ้นมาเล่นวีแชทไป ด้วยพูดอย่างเย้ยหยันไปด้วย

“แกเนี่ยนะจะเข้าพบผู้จัดการธนาคาร? หยุดล้อเล่น เถอะ รปภ.อย่างพวกแกยืนทำซากอะไรรีบไล่มันออกไป สิ สมองมันมีปัญหา ตอนเช้าที่ห้างตงหัว ไม่มีเงินแม้แต่ แดงเดียวยังอยากจะซื้อของ”

สีหน้าของคนทุกผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์เริ่มแปลกขึ้นเรื่อยๆ ราวกับมองดูคนสติปัญญาไม่ดีก็ไม่ปาน พนักงานสาวที่ ทำหน้าที่ต้อนรับแทบจะขำออกมา ตอนแรกอยากจะไล่ฉู่ เทียนเจียงออกไปอู่แล้ว แน่นอนว่าเธอจะยืมใช้ประโยชน์ จากมือของอื่นเพื่อลงจากหลังลา มือขวาทำท่ามือผาย เชิญ

“คุณผู้ชาย ขอความกรุณารีบออกไปด้วยค่ะ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ