ยวนสวาทมาเฟีย

1 กรงสวาทมาเฟีย



1 กรงสวาทมาเฟีย

กรงสวาทมาเฟีย

สกายไฮท์ทาวเวอร์ มหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา

ประตูลิฟต์ของตึกสูงระฟ้าซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัท ผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ และอากาศยานยักษ์ใหญ่ใน สหรัฐอเมริกา ถูกเปิดออกอย่างเป็นอัตโนมัติทันทีที่มันถูก นิ้วเรียวยาวของผู้เป็นเจ้าของตึกกดเรียก จากนั้นร่างสูง กำยำที่อยู่ในชุดสูทแบรนด์ดังหรูหราก็ก้าวเข้าไปยืนข้างใน ด้วยท่วงท่าสง่างาม แผ่รัศมีการเป็น ผู้ทรงอิทธิพลออกมา อย่างมากล้น จนดูเหมือนเขาสามารถสยบทุกอย่างบนโลก ใบนี้ให้ศิโรราบได้ง่ายๆ แค่เพียงกระดิกนิ้วเท่านั้น!

เจ้าของร่างสูงสง่าพลิกข้อมือ และดูเวลาบนหน้าปัดของ นาฬิการาคาแพง ซึ่งเข็มสั้นยาวชี้บอกเขาอย่างซื่อสัตย์ เช่นเดียวกับพนักงานคนอื่นๆ ในตึกนี้ รวมถึงอีกหลายสิบ ตึกที่อยู่ภายใต้การควบรวมกิจการของบีเอเค ออโตบอตส์ ซิสเต็มส์
10.33 น.

นาฬิกาบอกเช่นนั้น ใช่…นี่เป็นเวลาที่สายมากเกินกว่าจะ เป็น เวลาเข้างานปกติ หากเป็นพนักงานคนอื่นๆ คงไม่มี อภิสิทธิ์ใดๆ ที่จะมาทํางานเวลาไหนก็ได้ตามอำเภอใจ เช่นนี้ แต่เป็นเพราะเขาคือเจ้าของอาณาจักรแห่งนี้และยัง สามารถทำงานอยู่ที่ไหนก็ได้บนโลก ขอเพียงมีระบบการ สื่อสารที่ดีเยี่ยมเท่านั้น อีกทั้งเมื่อวานเลขานุการหน้าห้อง รายงานให้ทราบเรียบร้อยแล้วว่าเช้านี้ไม่มีนัดสําคัญอะไร ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะอ้อยอิ่งอยู่บนเตียงหนานุ่มเพราะ เขาใช้เวลาเกือบครึ่งค่อนคืนไปกับกิจกรรมผ่อนคลายสุด เร่าร้อน ซึ่งสิ้นเปลืองพลังงานไปมากพอสมควร

หลังจากที่ร่างสูงกำยำเข้าไปยืนในลิฟต์ได้ไม่กี่วินาที ประตูสองบานก็เคลื่อนที่เข้าหากันทันที แต่ทว่าเสียงหวาน ใสที่ดังขึ้นอย่างเร่งรีบ ทำให้คนที่อยู่ข้างในต้องกดปุ่มให้ มันเปิดออกอีกครั้ง

“รอด้วยค่ะ รอด้วยค่ะ”

คิวเข้มที่อยู่เหนือดวงตานิ่งดุขมวดเข้าหากันเล็กน้อย เมื่อ สาวน้อยรูปร่างอ้อนแอ้นวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาในลิฟต์ เธอคงไม่รู้สินะว่าลิฟต์ตัวนี้เป็นลิฟต์ส่วนตัวของเขา

“ขอบคุณค่ะ…”

ฟ้าลดาเอ่ยขอบคุณความมีน้ำใจของเขา ก่อนจะอ้าปาก ค้างอย่างเหวอๆ ไปชั่วขณะเมื่อเห็นจังๆ ว่าบุรุษที่ยืนอยู่ ตรงหน้าคือ ‘ไบรอัน เคลย์ตัน’ สามีทางนิตินัยของเธอ นั่นเอง!

เมื่อได้ยืนใกล้ๆ แบบนี้ก็รู้สึกทันทีว่าเขาหล่อเหลาคมคาย มากขึ้นเป็นกอง ริมฝีปากหยักลึกนั้นบ่งบอกว่าเป็นคนที่รัก แรงเกลียดแรง และเจ้าอารมณ์อยู่ไม่น้อย ตาสีฟ้าอมเทา ยังคงดูเย็นชา ยากแก่การคาดเดา แต่ก็ชวนมองจนแทบจะ ละสายตาไปไหนไม่ได้…

สาวน้อยวัยยี่สิบสองเกิดอาการเกร็ง สั่นเทิ้ม เสื้อผ้าที่ดู เจี๊ยบ เรียบหรู กลิ่นเสื้อผ้ารวมถึงกลิ่นกายสะอาดสะอ้าน แต่เต็มไปด้วยความเป็นบุรุษแสนเข้มข้นของเขาทำเอาใจ สั่นระรัวราวกับกลองรบเหมือนเช่นทุกครั้งที่ได้เผชิญหน้า กันใกล้ๆ เช่นนี้

หัวใจของฟ้าลดาเต้นแรงโลดราวกับจะทะลุออกมานอก อกยามที่สบประสานสายตากับดวงตาสีฟ้าอมเทาที่ดูเย็นชาแต่เซ็กซี่ คล้ายกับว่าแต่เขายืนนิ่งๆ ก็มีผลต่อระบบ การทำงานของทุกอวัยวะในร่างกายของเธออย่างรุนแรง โดยเฉพาะตรงท้องน้อยที่ดูเหมือนจะปั่นป่วนกว่าส่วน ไหนๆ

“หน้าผมมีอะไรผิดปกติหรือเปล่าคุณผู้หญิง

เสียงห้าวทุ่มน่าฟังของเขาดังขึ้นอย่างเป็นทางการ ทำให้ ฟ้าลดาได้สด ตายล่ะ! นี่เธอเผลอสำรวจเขานานขนาดนั้น เชียว ดวงตากลมโตที่ประดับด้วยแพขนตาดำขลับงอน หนารีบกะพริบปริบๆ เพื่อกลบเกลื่อนอาการของตัวเอง

“ฉันขอโทษค่ะ

มาทำอะไร

คิ้วเข้มดกหนาของเขาเลิกขึ้น ขณะมองเธออย่างสำรวจ ตรวจตราตั้ง แต่หัวจรดเท้า ก่อนจะมาหยุดมองที่ใบหน้า หวานใส มองนิ่งๆ แต่เพื่อไว้ด้วยความประหลาดใจและ ความโหยหาอย่างไม่ปิดบัง

“จะให้คุยในนี้เลยเหรอ…”
“คงไม่ได้หลงทางมาหรอกใช่ไหม

“เปล่า… แต่ตั้งใจมาค่ะ” ฟ้าลดาตอบเบาแสนเบาทว่านั่น ก็ฉะฉานที่สุดแล้วยามที่ต้องเผชิญหน้ากับผู้ชายแบบ…ไบ รอัน เคลย์ตัน

“คงไม่ใช่เพราะคิดถึง?”

“ไม่ใช่…” สาวน้อยเชิดคางมนขึ้นเล็กน้อย “คุณก็รู้ว่าฉัน ไม่เคยคิดแบบนั้น

“อืม…” ไบรอันพยักหน้านิดๆ “รู้พอๆ กับที่รู้ว่าคุณไม่ ซื่อสัตย์กับหัว ใจตัวเองนั่นแหละ”

ฟ้าลดารู้สึกอับอายจนแก้มแดงปลั่งเมื่อรู้สึกว่าตัวเอง ถูกจับไต๋ได้ มันคงเป็นคำโกหกที่ดูโง่เง่ามากในสายตา ของเขาสินะ ไบรอันทำให้เธอรู้สึกว่าตัว เองเป็นเด็กเลี้ยง แกะ ในขณะที่เขาเปิดเผยและตรงไปตรงมากับความรู้สึก ของตนเสมอ และเพราะอย่างนี้นี่เองเขาถึงได้ทะเลาะกับ ครอบครัวอย่างรุนแรง ถึงขนาดย้ายออกมาสร้างอาณาจักร ของตัวเองเพียงลำพัง จากนั้นก็กลับบ้านแทบจะนับครั้งได้ ตลอดช่วงสี่ปีที่ผ่านมา…
เมื่อคิดมาถึงตรงนั้น ฟ้าลดาก็หน้าเงื่อนไปเล็กน้อยหลัง จากนึกถึงสาเหตุที่ทำให้เขาทะเลาะกับครอบครัว

“มีอะไรด่วนมากที่ทำให้คุณมาหาผมถึงนี่ได้ล่ะมิสซิ สเคลย์ตัน” เขาเน้นคำสุดท้ายเป็นพิเศษ ก่อนที่ลิฟต์จะเปิด ออกเพียงไม่กี่ถึงอึดใจ ฟ้าลดารู้สึกเคืองใจไม่น้อยที่เขา เรียกเธออย่างห่างเหินและเย็นชาเช่นนั้น แต่ยังไม่ทันได้ ตอบโต้ลิฟต์ก็เปิดเสียก่อน

ร่างสูงสง่าผายมืออย่างให้เกียรติ สาวน้อยจึงต้องรีบก้าว ออกจากลิฟต์ เธอค่อนข้างที่จะตะลึงเมื่อมายืนข้างนอก แล้วพบว่าเบื้องหน้าเบื้องไปด้านขวามือมีการตกแต่งอย่าง โอ่อ่าหรูหราทุกตารางนิ้ว ตั้งแต่พื้นที่ปูพรมเนื้อดีไปยันจรด เพดานซึ่งประดับด้วยไฟสีสบายตา

พนักงานสาวน่าจะวัยไม่เกินสามสิบนั่งอยู่หลังโต๊ะหรูหรา สมฐานะหน้าห้องของเจ้าของบริษัท ซึ่งฟ้าลดาคาดว่าผู้ หญิงสวยสง่าคนนั้นน่าจะเป็นเลขานุการหน้าห้องของไบ รอัน

หญิงสาวคนนั้นรีบลุกขึ้นมาจากโต๊ะและกล่าวทักทายกับ ผู้เป็นเจ้านาย
“อรุณสวัสดิ์ค่ะท่าน

“มิสซิสเคลย์ตัน เธอเป็นแขกของผม” ไบรอันเอ่ย แนะนำฟ้าลดากับเลขานุการหน้าห้องของตัวเอง ซึ่งดู เหมือนฝ่ายนั้นจะชะงักไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินชื่อที่ไบรอัน ใช้เรียก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ