ตอนที่ 18
“มีดอกไม้ชนิดนึง อยู่บนยอดเขานั้น..เธอต้องไปเอามา ภายใน 1 ชั่วโมงนี้….
เขาพูดพร้อมกับชี้ไปยังยอดเขาอีกฝั่ง ที่ดูเหมือนไม่ไกล…แต่ ว่าถ้าเดินไปจริง ขาลากเลยนะนั่น..และที่สำคัญ…ทำไมเขาไม่ ไปเอง!!!
“คุณจะบ้าหรือไง.. ฉันต้องถ่ายหนังต่อนะ คุณว่างคุณก็ไปเอา เองสิ”
และทันทีที่ฉันพูดจบ เขาก็มองฉันนิ่งๆ พร้อมกับแบมือออก มา..ที่เป็นการบ่งบอกว่า..ถ้าไม่ทํา ก็เอาเงินมา..
โอ๊ยยยย.. ฉันเพิ่งรู้นะ ว่านอกจากความร้ายกาจแล้ว เขายัง กวนอีก..
แล้วฉากที่ฉันจะถ่ายอีกครั้ง มันก็อีก 3 ชั่วโมง ..เอาไงดีล่ะ.. ว่าแต่..
“คุณจะเอาดอกไม้นั่นไปทําไม..
“เธอมีหน้าที่ทำตามที่ฉันสั่งเท่านั้น…หรือว่าแค่นี้ก็เดินไม่ไหว?”
หยยย ไอคนบ้าอำนาจ!!! แล้วนี่ก็จะดูถูกสตั้นอันดับนึงอย่าง ฉันเกินไปแล้ว.
“…แค่นี้นะ สบายมาก! ว่ามาเลยดีกว่า ว่าดอกไม้ที่ว่าหน้าตา เป็นยังไง..
ฉันพูดหงุดหงิดใส่เขาทันที ในขณะที่เขาก็พูดมานิ่งๆ..ก่อน ที่จะเดินออกไปจากตรงนี้ทันที..
“ บนยอดเขานั้นมันมีอยู่แบบเดียว ดอกสีแดง.. ถ้าอีก 1 ชั่วโมงยังไม่กลับมาเตรียมตัวจ่ายเงินได้เลย..
ฮะ?! เอาจริงดิ นี่ฉันต้องวิ่งด้วยหรือเปล่าเนี่ย!!!
และทันทีที่เขาเดินไป ฉันก็เลยหยิบมือถือออกมาก่อนจะจับ เวลาตั้งเดือน 1 ชั่วโมงหลังจากนี้ทันที ก่อนที่จะรีบก้าวเดิน ไป..พร้อมกับใจที่หงุดหงิด และอยากด่าเขามาก.. แต่ตอนนี้ ฉันก็ทำได้แค่เดิน เดิน เดิน..เดินไปยังปลายทางที่เขาต้องการ เท่านั้น..
เอาเถอะ ยังไงฉันว่า..ฉันก็เคยเดินป่าบ่อยตอนมหาลัย.. มัน คงไม่มีปัญหาอะไรหรอก.. ชั่วโมงนึงก็น่าจะทันอยู่
ว่าแต่ ทําไมเขาต้องเอาดอกไม้นั้นด้วยนะ… หรือว่าจะเอาไป ให้ยัยเจนนิเฟอร์ อืม….มันก็คงเป็นอย่างนั่นแหล่ะ เขาคงไม่ เอามานั่งดูเล่น แล้วก็ทิ้งๆไปหรอก..
ไม่อยากจะคิดเลย คนที่นิ่ง เย็นชา และร้ายกาจแบบนั้น จะ หวานเป็นเหมือนกันแหะ.. จะว่าไป เขาก็คงจะรักเธอมากจริงๆ ไม่งั้นคงไม่มาเฝ้าเธอเวลาถ่ายทำแบบนี้บ่อยๆ ไม่ลงทุนมาคุย กับฉันเพื่อที่จะให้ฉันตามดูสอดส่องเจนนิเฟอร์หรอก..
เห้ออ..แต่ว่า ฉันไม่อยากเจอเขานี่นา …อยากให้หนังเรื่องนี้ จบๆลงซะที จะได้ไม่ต้องเจอคนอย่างเขาอีก..
ตอนนี้ฉันได้แต่เดินๆๆ คิดนั้นคิดนี่ไปเรื่อย
แต่แล้วในขณะที่ฉันเดินไปได้ประมาน เกือบๆกิโล.. ฉันก็เจอ รอยเท้าสัตว์…ที่มันใหญ่มาก.. และจากที่ดูก็เหมือนว่า..รอย เท้านั้นมันก็เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานด้วย
เลือก…
รอยเท้าสัตว์งั้นเหรอ..
หรือว่า …แถวนี้จะมีสัตว์ดุร้าย อย่างเช่น หมี เสือ สิงโตอะไรทํานองนี้..กันนะ..
แล้วฉันควรจะต้องรีบเดินอยู่มั้ย..
แล้วถ้าระหว่างที่เดิน เกิดสัตว์พวกนี้มันโผล่ออกมาละ ฉัน ควรจะทำยังไงดี..
วิ่งหนีเหรอ..ไม่ได้ๆ พวกมันวิ่งเร็วกว่าฉันอีก ฉันตายก่อนแน่ๆ
หรือว่านะแกล้งตายดี.. ในหนังสือเพื่อนสามเกลอเคยบอกว่า เจอหมีให้แกล้งตาย แต่มันจะได้ผลจริงๆเหรอ ฉันว่า..แบบนั้น โดนกินก่อนมากกว่า
หรือว่า..จะปีนต้นไม้….แต่ฉันเคยดูสารคดีอยู่ว่าพวกมันก็ปืน ต้นไม้ได้…
ทำไงดีนะ แล้วนี่..ฉันก็ไม่มีอะไรติดตัวด้วย นอกจากมือถือ เท่านั้น..
ฟู้ววว..
แต่แล้วระหว่างที่ฉันมโนไปไกลนัน..ฉันก็ต้องหายใจเข้าออ กลึกๆ และบอกตัวเองว่า..
ใจร่มๆนะ ริสา.. แกไม่เจอหรอก
ถ้าฉันมัวแต่กังวลแบบนี้..ฉันไม่ต้องไปไหนกันพอดี..และอีก อย่าง เป้าหมายแก ก็แค่ไปเก็บดอกไม้..แล้วก็เดินกลับสวยๆ แค่นั้น
เพราะฉะนั้น แก…ไม่เจอหรอก ไม่เจอหรอก ไม่เจอหรอก ไม่ เจอหรอก
เอาละ..ลุย!
แต่ว่า ถึงฉันจะพยายามบอกตัวเองแบบนั้น แต่สุดท้าย ระหว่างเดิน มันก็อดไม่ได้ที่ฉันจะมองซ้ายมองขวา เหลียว หน้าเหลียวหลังไปเรื่อย.. เพราะการที่ฉันเดินคนเดียวเงียบๆ แบบนี้..มันก็ทำให้สมองฉัน หยุดคิดฟุ้งซ่านไม่ได้หรอก
ฉันก็เลยกลัวไปหมด จนทำให้ฉันเดินช้าๆ ย่างก้าวเบาๆ ไป เรื่อยๆ และ..ด้วยความที่ฉันมัวแต่ระหว่างรอบข้าง..แต่ไม่ได้ดู ตรงทางเดิน..ทำให้ฉันเผลอไปสะดุดรากต้นไม้ใหญ่ในทันที..
“ว้ายยยย!”
ตุ๊บ!!!
“โอ๊ยยยย..”
และตอนนี้ ฉันก็หน้าคว่ำไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว..
งื้ออออ…เจ็บ..
ฉัน ค่อยๆดันตัวเอง…ขึ้นมาอย่างช้าๆ พร้อมกับค่อยๆลุกขึ้น มา..แต่ทว่า..ท่าที่ฉันล้มนั้น มันทำให้ขาพับและล้มทับขาตัว เอง..จนตอนนี้ข้อเท้าฉันแพลง..
ฉันเลยได้แต่จับข้อเท้าของตัวเองไปมา..ด้วยความเจ็บปวด.. ก่อนจะเห็นว่า..ตรงข้อศอกและแขนก็มีรอยถลอกเช่นกัน..
ฮือออ ชีวิตไอริสา ทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยนะ..
แต่ถึงฉันจะเจ็บยังไง…หรือจะมีแผลมากน้อยแค่ไหน ก็ตาม…ฉันก็จะมานั่งท้อแท้และโวยวายตรงนี้ไม่ได้…ฉันต้อง ยืนให้ได้ ..
ฮับ!
เมื่อคิดได้เช่นนั้น ฉันก็รวบรวมแรงที่มีดันตัวเองให้ลุกขึ้น มา…ก่อนที่จะยืนค้ำกับต้นไม้ใหญ่.. และค่อยๆเดินออกมาจาก ตรงนั้น เพื่อปรับสภาพข้อเท้าของตัวเองให้มันไม่เจ็บ..
แม้ว่าจริงๆแล้วมันจะเจ็บมากก็ตามที..
โอ๊ยยยย…
ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก
สัตว์ป่าก็ต้องระวัง.. รากไม้ก็ต้องดู.. เท้าก็ต้องประคองเดิน.. แขนก็แสบแผล..
ชีวิตไอ้สา มันดีจริงๆโว้ยยย..
แล้วบอกเลยว่า…ปลายยอดที่ฉันเห็นนั่น..มันไม่ได้ใกล้ๆเลย ด้วย..
เห้ออออ… ฉันจะทำยังไงดี.. ฉันควรกลับไปที่กองถ่ายดีมั้ย นะ..
แต่ไม่สิ.. ถ้าฉันกลับไป นายนั้นต้องมองฉันนึงๆ ด้วยสายตาท ถากถางฉันสุดๆแน่…ว่าแค่นี้ก็ทำไม่ได้ อ่อน!
หี่ยย..ยิ่งพอนึกถึงสายตาที่เขาชอบมองมาที่ฉันนิ่งๆแบบนั้น แล้วละก็.. ..บอกเลยว่า ฉันละไม่มีวันยอมแพ้เด็ดขาด
ฉันไม่มีทางกลับไปอย่างคนขี้แพ้หรอก
ต่อให้ฉันเดินไปเอาดอกไม้ แล้วกลับไปที่กองถ่าย จนต้อง นอนโรงพยาบาล ฉันก็ยอม!!!
เมื่อคิดจนมีแรงฮึดแบบนั้น ฉันก็เดินต่อไปทันที..ด้วยใจที่ ท่องและบอกตัวเองเอาไว้ตลอดเวลาว่า..
ไม่เจอสัตว์ร้ายหนอ
ไม่เจ็บเท้าหนอ
ไม่แสบแผลหนอ
ฉันท่องคำพูดพวกนี้ในใจเพื่อสะกดตัวเองไปเรื่อยๆ ทั้งๆที่รู้ อยู่แก่ใจว่า…มันเจ็บมาก แสบมาก..แต่ว่าฉันก็ยังกัดฟันทนสู้ที่ จะเดินต่อไป.. จนกระทั่ง
เสียงตั้งเดือน 1 ชั่วโมง..ดังขึ้นมา..
ฮือออออ.. จะบ้าตาย…ผ่านไปชั่วโมงนึง ฉันยังไม่ถึงยอด เลย..
แล้วแบบนี้ฉันจะกลับไปกองถ่ายทันมั้ยนะ.. แต่มันก็อีก 2 ชั่วโมงเอง..คงทนแหล่ะ..เอาวะ กัดฟันทนหน่อยก็แล้วกัน
เมื่อคิดได้เช่นนั้น ฉันก็รีบเดินทันที…เพื่อให้มันเร็วกว่า เดิม..เดินทั้งๆ มากะเผลกเช่นนั้น เอาจริง..ถ้าฉันมองเห็นตัว เองได้ ฉันว่า สภาพฉันตอนนี้คงน่าอเน็จอนาถน่าดูเลย..
แต่ว่าก็เป็นความอเน็จอนาถที่สุดยอดเลย..เพราะว่าตอนนี้ฉัน กําลังเดินขึ้น..ไปยังยอดเขานั่นแล้ว..อีกนิดเดียว …สู้!
แต่ไอการสู้ของฉัน มันก็ทรหดเกินไป..เพราะไอเดินขึ้นที่ว่า นั่น มันเป็นการเดินขึ้น ที่ขึ้น ขึ้น และขึ้นสุดๆ ซึ่งมันก็ทรมานข้อ เท้าของฉันสุดๆเช่นกัน..
โอ๊ยย..อยู่ๆ ก็คิดถึงลิฟต์ หรือบรรไดเลื่อน.. ฮืออออ..
และตอนนี้ เมื่อฉันก้มลงไปดู เท้าของฉัน 2 ข้างนั้น ไม่เท่ากัน เป็นที่เรียบร้อยแล้วล่ะ จะว่าไป..เท้าแบบนี้ ฉันจะถ่ายทำฉาก ต่อไปได้มั้ยนะ..
คิดแล้วก็เครียด..เห้อออ..
แต่เอาเถอะ..ถึงทำไม่ได้ ฉันก็จะทำมันให้ได้ เหมือนกับที่ฉัน ยังเดินมาถึงยอดเขานี้ได้เลย.. และก็โชคดีที่หลังจากนี้ กว่าจะ มีคิวถ่ายอีกทีก็อึก 4 วัน เพราะฉะนั้นเอาให้หนักวันนี้ แล้วก็พัก เต็มที่ ตอนนั้นอาการก็คงจะดีขึ้นแล้วละมั้ง..
แต่ที่แน่ๆ วันนี้เอาตัวเองให้รอดก่อนดีกว่า..
เมื่อคิดได้เช่นนั้นฉันก็รีบเดินต่ออีกครั้ง จนกระทั่งในที่สุด…ฉัน ก็ถึงยอด..
พร้อมกับลมหนาวที่พัดปลิวมา จนเหงื่อมากมายที่ออกมา จากตัวของฉันมันเริ่มเฮือดแห้งไป รวมถึงความร้อนในร่างกาย ก็เช่นกัน…
และตอนนี้ไม่ใช่แค่ร่างกายที่มันสดชื่น และรู้สึกดีขึ้นเท่านั้น แต่จิตใจของฉันก็เช่นกัน เพราะบนยอดนั้น..ที่ฉันมาถึง มันสวยมากกกก
มันเป็นภาพของ วิวทุ่งดอกไม้ที่กว้างไกลสุดลูกหูลูก ตา..ดอกไม้ชนิดเดียวกัน ที่ฉันเองก็ไม่รู้จัก มันเป็นสีน้ำเงิน ดอกเล็กๆที่ผุดขึ้นเต็มที่แถวนี้ไปหมด ซึ่งตอนนี้ดอกไม้ เหล่านั้นกำลังปะทะกับแสงแดด จนทำให้มันเกิดแสงระยิบ ระยับเล็กๆ ที่ตัดกับหญ้าสูงสีเขียวสวย โดยมีต้นไม้สูงใหญ่ ประปรายเล็กน้อยในบริเวณนี้มาร่วมแซมทำให้ดูมีชีวิตชีวา และมีสีสันมากขึ้น ซึ่งทุกอย่างต่างรองรับกับท้องฟ้าสีฟ้าสวย และรวมกับลมที่พัดมาเบาๆ ให้เกิดกลิ่นหอม สดชื่น..
และทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้น ก็ทำให้ฉันต้องอ้าแขนรับอย่างมี ความสุขในทันที
สวยมาก..มันเป็นภาพที่สวยจริงๆ สวยในแบบที่ฉันไม่เคย เห็นมาก่อน..
จากที่เหนื่อยๆก่อนหน้านี้ เมื่อได้มาเห็นภาพนี้ มันก็ทำให้ฉัน ก็รู้สึกว่า…มันคุ้ม..มันคุ้มค่าจริงๆที่ฉันยอมเดินมาที่นี่ แม้ว่าฉัน จะเจ็บข้อเท้าเอามากๆเลยก็ตาม..
และมันก็อดไม่ได้ที่ฉันจะขอเก็บภาพประทับใจ บันทึกลง ในเครื่องมือสื่อสารของฉันที่ตอนนี้มันไร้สัญญาณไปเป็นที่ เรียบร้อยแล้ว..
แต่ว่ามันยังถ่ายรูปได้อยู่
ฉันก็เลยหยิบมันมาถ่ายรูปทันที..ถ่ายภาพทุ่งสีน้ำเงินสวย แปลกตาในแบบที่ฉันไม่เคยเห็นมากมายหลายรูปรัวๆ…รวม ถึง ถ่ายฉันที่เซลฟี่กับดอกไม้น่ารักๆพวกนี้ด้วยเช่นกันอย่างมี ความสุข..
เห้ออ..อยากอยู่ตรงนี้นานๆจังเลย..
อากาศก็ดี วิวก็สวย
อืม..จะว่าไป ไหนๆก็เกิน 1 ชั่วโมงแล้ว งั้น ฉันขอพักตรงนี้ หน่อยแล้วกัน เพราะตอนนี้เท้าของฉันมันก็บอกว่ามันไม่ไหว แล้วด้วย
พริบ!
พอคิดได้อย่างนั้น ฉันก็ล้มตัวลงนอนทันที โดยไม่สนแล้วว่า ตรงที่ฉันนอนมันคือดิน..หรือคือหญ้า..
ฉันรู้แต่ว่า..ฉันเหนื่อยมาก และฉันก็หมดเรี่ยวแรงจริงๆ..
ฉันได้แต่นอนมองท้องฟ้า..และแอบมองคุณดวงอาทิตย์ที่มัน มีเมฆมาบดบังอยู่ในตอนนี้ ก่อนที่จะยิ้มออกมาเบาๆ
“คุณพระอาทิตย์…คุณคงได้เห็นทุ่งนี้ทุ่งวันจนเบื่อแล้วสินะ คะ..น่าอิจฉาจังเลย…^ ^
แต่แล้วทุกครั้งที่ฉันคิดถึงคุณอาทิตย์ ฉันก็อดที่จะคิดถึงใคร อีก 2 คนไม่ได้
“พ่อคะ แม่คะ… มองดูสาจากตรงนี้หรือเปล่า.. สาเก่งมั้ย ที่ เดินมาถึงตรงนี้ได้ ทั้งๆที่เท้าแพลง แต่ว่าสาก็โชคดีนะ ที่สา ไม่เจอสัตว์ร้ายเลย..พ่อกับแม่ช่วยปกป้องสาอยู่ใช่มั้ยล่ะ…. สา รู้หรอกหนา..เนอะ..ฮึก..
พอได้พูดถึงพวกท่านแล้ว…อยู่ๆน้ำตา…มันก็ค่อยๆไหลออก
มา.
…ฉันอยากให้พ่อกับแม่อยู่ดูวิวนี้ด้วยกันกับฉันจังเลย..
ฉันคิดถึงพวกท่าน..จังเลย..
แต่ว่า ฉันก็ยังคงยิ้มเหมือนเดิม.. ยิ้มให้คุณพระอาทิตย์ท กำลังอายและหลบอยู่หลังก้อนเมฆ ยิ้มให้กับสายลมที่พัดมา อ่อนๆ ที่ทำให้ความเหน็ดเหนื่อยของฉันมาจางหายไป และยิ้ม ให้กับตัวเอง..ที่เดินมาถึงตรงนี้ได้จริงๆ..
ก่อนที่ฉันจะยกมือขึ้นมาทำท่าในแบบที่ฉันทำเสมอในวัย เด็ก..กับดวงอาทิตย์ของฉัน..ที่ยังคงแอบอยู่หลังก้อนเมฆสวย บนท้องฟ้า
“คุณอาทิตย์คะ.. ขอให้เขาใจร้ายกับสาน้อยลงกว่านี้หน่อย ได้มั้ย..
หลังจากที่ฉันพูดเสร็จ…ฉันก็ยิ้มเบาๆ ก่อนที่จะเอามือ ลง..และหลับตาด้วยความเหนื่อยล้า…รับลมและแสงแดงที่พัด พามาด้วยความสุข
พร้อมกับบอกตัวเองเบาๆว่า
“ขอพักร่างกายสักครู่หน่อยนะ..ริสา”
แต่ว่า ฉันก็ยังคงยิ้มเหมือนเดิม.. ยิ้มให้คุณพระอาทิตย์ท กำลังอายและหลบอยู่หลังก้อนเมฆ ยิ้มให้กับสายลมที่พัดมา อ่อนๆ ที่ทำให้ความเหน็ดเหนื่อยของฉันมาจางหายไป และยิ้ม ให้กับตัวเอง..ที่เดินมาถึงตรงนี้ได้จริงๆ..
ก่อนที่ฉันจะยกมือขึ้นมาทำท่าในแบบที่ฉันทำเสมอในวัย เด็ก..กับดวงอาทิตย์ของฉัน..ที่ยังคงแอบอยู่หลังก้อนเมฆสวย บนท้องฟ้า
“คุณอาทิตย์คะ.. ขอให้เขาใจร้ายกับสาน้อยลงกว่านี้หน่อย ได้มั้ย..
หลังจากที่ฉันพูดเสร็จ…ฉันก็ยิ้มเบาๆ ก่อนที่จะเอามือ ลง..และหลับตาด้วยความเหนื่อยล้า…รับลมและแสงแดงที่พัด พามาด้วยความสุข
พร้อมกับบอกตัวเองเบาๆว่า
“ขอพักร่างกายสักครู่หน่อยนะ..ริสา”
มันเจ็บปวดเกินไป และมันก็เจ็บปวดมาก..จนฉันอยากจะ ร้องไห้..
แต่ถ้าฉันไม่ฝืนและลงไปตอนนี้..อีกไม่นานที่นี่คงต้องมืดแน่ๆ แล้วตอนนั้น..ฉันว่าฉันได้ร้องไห้ของจริง
ฮีบบบบบบ…ฉันต้องเดินได้..
“โอ๊ยยย..
บอกตรงๆว่ามันเจ็บจริง เจ็บแบบ..เหมือนว่าถ้าฉันยังฝืนเดิน ต่อไป ฉันอาจจะพิการได้เลย.. แต่ว่าฉันก็ยังต้องฝืนเดิน.. แต่ ว่าก่อนที่จะเดินไปไหนนั้น ฉันมีสิ่งที่ฉันต้องทำก่อน..
นั่นคือ ฉันก็ไปดึงดอกไม้มา เพื่อเอาไปให้ผู้ชายคนนั้นที่สั่ง ฉันให้ขึ้นมาที่นี่..และนี่ก็คือเป้าหมายของฉันแต่แรกอยู่แล้ว..
“แกก็สวยดีอยู่หรอกนะ แต่การได้แกมา มันทรมานจริงๆ..
ฉันบ่นออกมาพร้อมกับชูกำดอกไม้ที่เพ็งดิ่งมา เพื่อคุยกับ มัน..ก่อนที่จะหายใจเข้า หายใจออกลึกๆ..และเริ่มก้าวขาเดิน ต่อ..
ก…..ครืดดดด ตึก……ดดดดด .-ก….. ครืดดดด
สภาพตอนนี้อย่างเรียกว่าเดินเลยเถอะ เรียกว่า พยายาม ลากขาตัวเองดีกว่า เพราะตอนนี้แค่จะยกเท้าขึ้น ฉันยังยกไม่ ได้เลย..มันเจ็บ..เจ็บจริงๆ
เจ็บจนตอนนี้ ฉันไม่ไหวแล้วกับขาลง..ที่ลงเอียงประมาน 30 องศาได้..
เผาะ
น้ำตาของฉันค่อยๆร่วงไหล..กับความเจ็บนั้น..และฉันก็รู้สึก ว่าฉันอยากจะกลิ้งลงไปมากกว่าเดินแล้ว..บางทีมันอาจจะเจ็บ น้อยกว่าด้วยซ้ำ.. แต่ว่าฉันก็คงไม่คิดสั้นขนาดนั้น.. นอกจาก ยังคงฝืนเดินต่อไปเรื่อยๆ พร้อมกับน้ำตาที่ไหลริน..
“อีก..ริสา..แกต้องทําได้สิ..ฮึก..โอ๊ย..แก..ทําได้..โอ๊ยยยย.
ฉันเดินอยู่ในสภาพนั้นไปเรื่อยๆ และก็ร้องไห้เหมือนเด็กขี้แย ที่หาแม่ไม่เจอ..แต่ว่าตรงนี้ก็ไม่มีใครเห็น เพราะฉะนั้นฉันก็ไม่สนอะไรแล้ว
นอกจากเดิน..ร้องไห้ ปาดน้ำตา และบอกตัวเองว่า..
“แกทำได้ ริสา..ฮึก..
จนในที่สุด ฉันก็ควรต้องยอมรับได้แล้วว่า..ร่างกาย และเท้า ของฉัน..มันไม่ไหวอีกต่อไป
“ริสา..แก..ทำ…ไม่ได้แล้วโว้ยย!!!
ตุ๊บ..
ตอนนี้ฉันไม่ไหวแล้วจริงๆ และฉันก็ล้มลงนั่งทันที..พร้อมกับ นั่งชันเข่าข้างนึงที่ไม่ได้เป็นอะไร..ก่อนที่จะซบใบหน้าลงและ ร้องไห้อย่างไม่อายใครอีกแล้ว
“ฮืออออออออออออออ….เจ็บ..มันเจ็บนะ..ไอ้ข้อเท้า บ้า….ฮือออออ..เจ็บจริงๆ ฮึก..
ฉันควรจะทำยังไงดีกับความเจ็บนี้.. มือถือก็ไม่มี
สัญญาณ..และเวลาตอนนี้มันก็ 5 โมงเย็นแล้ว…อีกไม่นานก็คง มืด ฉันต้องลงไปไม่ทันแน่ๆ
แล้วป่านนี้คนที่กองถ่ายจะหาตัวฉันกันอยู่มั้ย แล้วป่านนี้ทุกคนต้องยกกองไปเพราะฉันหรือเปล่า แล้วป่านนี้..จะมีใครรู้มั้ยว่าฉันอยู่ตรงนี้…
ฮือออ…
เดี๋ยวนะ…รู้สิ มีนายนั่นที่รู้ว่าฉันอยู่ที่นี่..
แต่…เขาคงจะไม่สนใจ ไม่บอกใคร และเขาก็คงจะทิ้งฉันไว้ที่ นี่คนเดียวแน่ๆ..
พอคิดได้แบบนั้น ฉันก็รู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ.. กลัวว่าฉันจะติด ค้างอยู่บนนี้คนเดียวทั้งคืน และได้แต่นั่งก้มหน้าร้องไห้ด้วย ความกลัวจริงๆ..
ฉันจะทำยังไงดี..ฉันกลัวเหลือเกิน.. ใครก็ได้..ช่วยฉันที..ฮือ
“ไหนบอกว่า เดินแค่นี้สบายไง..
พริบ!!
แต่แล้วก็มีเสียงทุ้มพูดขึ้นมาที่ทำให้ฉันเงยหน้าไปมอง ทันที…คุณไค..!
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ