มัจจุราชซาตาน

ตอนที่ 13



ตอนที่ 13

“นี่นาย..มีคนซุ่มโจมตีนายอยู่ เขาอยู่หลังฉัน….

ตึกตึก ตึกตึก..

ขอร้องล่ะ.. ขอร้องให้นายนั่นอย่ายิงฉันเลยนะ

แต่แล้ว..ระหว่างที่ฉันยืนเหงื่อตกตื่นเต้นอยู่ข้างใน..อีกฝ่ายก็ ยังเหมือนเดิม นั่งตรงและมองหน้านิ่ง

หรือว่า เขาจะไม่ได้ยินกันนะ.. เพราะมันต้องผ่านหัวหมาที่ ค่อนข้างใหญ่.. สงสัยจะใช่

อืม..งั้นก็..มือถือ.. ใช่ๆ พิมพ์ผ่านมือถือก็ได้

เมื่อคิดได้อย่างนั้น.. ฉันก็ดึงแขนตัวเองให้เข้ามาอยู่ในตัว มาสคอต.. เพื่อที่จะหยิบมือถือ จากกระเป๋ากางเกงของตัวเอง ทันที..

แล้วไงต่อวะ.. แล้วฉันจะมองเห็นได้ยังไงว่าฉันพิมพ์อะไร อยู่.. หรือฉันควรยืมมือถือเขามาพิมพ์ แต่ว่า..ฉันมือใหญ่แบบ นี้ จะไปพิมพ์โดนได้ยังไง..
โอ๊ยยย…ทําไมมันลำบากลำบนวะ..

แต่แล้ว อยู่ๆ เขาก็หยิบมือถือมารับสายก่อนจะกรอกเสียง พูดออกมา ทั้งๆที่มองหน้าฉันที่ไม่เห็นใบหน้าของฉันอย่างไม่ วางตา

“อืม..จัดการมันแล้วโทรมารายงานฉันด้วย..

กรีก

และหลังจากที่เขาวางสาย เขาก็ลุกขึ้นยืน และเอื้อมมือมา เพื่อที่จะดึงหัวหมาของฉันในทันที

พริบ!!!

เอ๊ย เขาจะถอดออกเหรอ!!

และฉันก็จับหัวของฉันกลับคืน.. เพราะ ฉันไม่อยากเจอเขา ต่อหน้าอีก….

หมับ!!

นั่นเลยทำให้ฉันกับเขาซื้อกันไปมา เขาจะถอดออก ส่วนฉันก็จะไม่ให้ถอด แต่แล้วสุดท้ายฉันก็แพ้แรงของเขา..

แหะๆๆ..เออ..สวัสดี ฉันเอง…

แต่แล้วทันทีที่เขาเขาเห็นฉัน..เขาก็ยัดหัวหมาใส่มือของฉัน ก่อนที่จะบีบแขนฉันแรง ทะลุผ่านเสื้อหนา และพูดด้วยเสียง นิ่งแต่ทว่าดูน่ากลัว

“เธอคิดจะทำอะไร..มีแผนการอะไรกันแน่..

ฮะ.. อะไรอะ? นี่ฉันยอมเสี่ยงตาย เพื่อช่วยเขาเลยนะ..แต่ เขากลับคิดว่าฉันเป็นคนร้ายอีกแล้วเหรอ เขาคิดว่าฉันมีแผน บ้าๆอะไรอย่างนั้นเหรอ

ไม่ทนเป็นคนดีแล้วโว้ยย!

“เป็นบ้าหรือไงฮะ!! หรือว่าชีวิตมีปัญหา.. ถึงได้ขวางโลกแบบ นี้! คนอะไรใจแคบที่สุด ฉันอุตส่าห์เสี่ยงชีวิตมาเตือน แต่ดูคุณ ทำสิ.. ได้.. หลังจากนี้ คุณจะโดนยิง หรือโดนอะไร ฉันไม่แคร์ อีกแล้ว!”

หลังพูดจบ ฉันก็สะบัดหน้า สะบัดแขน หมุนตัวจากผู้ชายคน นั้นทันที..พร้อมกับคิดว่า ฉันไม่น่าเข้าไปช่วยเลย แค่ว่าจะ ตอบแทนเรื่องที่เขามาส่งฉันก็เท่านั้น ใช่สิ เรื่องที่เขามาส่ง..

ฟรีบ!!

ฉันก็หมุนตัวไปหาเขาอีกครั้ง พร้อมกับโพล่งปากทันที..

“อ้อ ขอบคุณที่มาสงคราวที่แล้ว หลังจากนี้ ฉันไม่มีอะไรติด ค้างคุณอีก..ขออย่าให้เราได้เจอกันอีกเลย! ที!!!”

ฟรีบ!!

เมื่อพูดจบ ฉันก็หมุนตัวและเดินออกไปจากคนนั้นจริงๆพร้อม กับอารมณ์ที่โมโหสุดๆ แต่แล้วระหว่างนั้นเอง.. อยู่ๆแขนของ ฉันก็โดนเขาจับที่เดิม..ก่อนที่ฉันจะโดนพาลากไปไหนก็ไม่รู้ ทันที..

“เฮ้ย… ทำบ้าอะไรน่ะ.. ปล่อยนะ..ฉันมีถ่ายหนังต่อนะ ปล่อย

ยย

และคิดว่าเขาจะฟังฉันมั้ยล่ะ.. ก็ไม่ไง.. และเขาก็เอาแต่ลากๆ ๆๆ ลากฉันไปไหนไม่รู้จนในที่สุด…เขาก็พาฉันเข้ามายังห้องน้ำ สาธารณะ.. แต่มันจะไม่อะไรเลย ถ้าไม่ใช่ห้องน้ำสาธารณะ ชาย!!
พร้อมกับปิดประตูทางเข้า ล็อกห้อง โยนหัวหมาที่ฉันถือไปที่ พื้น…ด้วยความเร็ว…ก่อนที่จะเอาวัตถุอะไรบางอย่างมาฉันตรง คอ..

และเมื่อฉันมองต่ำลง..ก็รับรู้ได้ว่าสิ่งนั้นมันคือ.. มีด มีดพก เล่มเล็ก..และแม้ว่ามันจะเล็กยังไง ถ้าเขาออกแรงที่มมาที่คอ ของฉัน..ฉันก็ไม่รอดแน่ๆ

เลือก…

“เธอมีแผนอะไร สารภาพมา..ไม่งั้น…มีดเล่มนี้เข้าไปในคอ เธอแน่..”

อีกแล้วนะ..เขามันเป็นบ้าหรือไง ไม่เชื่อใจใคร แถมเอะอะๆ ก็ จะฆ่าคน..

เขา..มันน่ากลัวชะมัด…และยิ่งสายตาที่เขามอง กับคำพูดนิ่งๆ แต่เด็ดขาดของเขา ก็ยิ่งทำให้เขาน่ากลัวไปอีก

แต่ถึงอย่างนั้น….แม้ว่าในใจจะกลัวแค่ไหนก็ตามที ฉันก็คิด ว่าฉันควรจะพูดอะไรออกไปซักหน่อย ไม่งั้นโดนแทงแน่ๆ

“ฉัน..เห็นผู้ชายคนนั้นมีปืน..และมองดูคุณหลังพุ่มไม้..
แต่แล้วฉันก็รับรู้สึกถึงความแหลม.. ที่มันจิ้มเข้ามาที่คอ มากกว่าเดิม..จนทำให้ฉันได้แต่ยืนตัวสั่นกลัว.. และไม่รู้จริงๆ ว่า ควรต้องพูดอะไร ให้คนตรงหน้าเชื่อ…

ทำไมพูดอะไรก็ไม่เคยฟังเลยนะ เอะอะก็จะฆ่าอย่างเดียว

แล้วนี่..ถ้าฉันไม่ได้อยู่ในชุดนี้ ฉันคงจับมือเขาบิดได้ เหมือน กับที่ฉันรู้การต่อสู้มา แต่ว่า..ฉันในชุดนี้มันไม่สะดวกเลยซัก

เพราะฉะนั้น ฉันเลยได้แต่มองหน้า สบตาเขาเท่านั้น และรอ ลุ้นแค่ว่า เขาจะเชื่อฉันหรือเปล่า

จนกระทั่ง..เสียงโทรศัพท์ของเขาสั่น.. เขาจึงใช้อีกมือกดรับ โทรศัพท์พร้อมมองหน้าฉันเช่นเดิม

ทำไมเขาต้องมองหน้าฉันอย่างนี้ด้วยนะ..

“เอามันไปเก็บไว้ก่อน..”
กรีก..

หลังจากที่เขาวางสายไป เขาก็ถอยตัวออกมา..ก่อนที่จะเก็บ มีด.. และมันทำให้ฉันโล่งใจไปในทันที

นี่เขาจะปล่อยฉันแล้วใช่มั้ย..

แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็ยังยืนมองเขา และไม่กล้าขยับตัวไป ไหน.. เพราะยังตื่นกลัวกับปลายมีดที่มาจิ้มที่คอของตัวเองอยู่ เมื่อครู่

ว่าแต่..ที่เขาคุยเมื่อครู่..คือเขาเจอตัวคนร้ายที่ฉันเห็นตรงพุ่ม ไม้แล้วใช่หรือเปล่า.. เขาถึงได้มองฉันแบบนั้น และเก็บมีดไป

“สรุปคุณเจอคนร้ายที่พุ่มไม้แล้วใช่มั้ย..

ซึ่งเมื่อฉันถามแบบนั้น เขาก็เอาแต่ยืนมองดูฉันนิ่งๆ เหมือน วิเคราะห์อะไรอยู่ตลอดเวลา แต่ฉันเชื่อว่า เขาเจอผู้ชายคน นั้นแล้วแน่ๆ และฉันคิดว่า ถ้าเป็นอย่างนั้น เขาควรที่จะพูด อะไรบางอย่างกับฉันนะ..
“ฉันว่าคุณติดค้างคำพูดอะไรที่ควรจะพูดกับฉันนะ”

“หื้ม?”

หม? งั้นเหรอ… อะไรคือการที่หน้านิ่งและทำหน้าเลิกคิ้วแค่ นี้.. ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ เขาจะฆ่าฉันเลยนะ..เข้าใจผิดขนาดนี้ยัง ไม่คิดจะขอโทษกันอีกงั้นเหรอ..

เขามันเป็นคนประเภทไหนกันแน่นะ… นั่นเลยทำให้ฉันสาย หน้าและมองเขาอย่างช้าๆ ก่อนจะพูดออกมา

“หึ ผู้ชายอย่างคุณ มันก็แค่ผู้ชายห่วยๆคนนึงเท่านั้น..

หมับ!!

“เธอพูดอะไร…” แต่แล้วเขาก็ทำแบบเดิม คือเอามือมาจับ ใบหน้าฉันด้วยความแรง พร้อมกับสีหน้าที่ดูไม่พอใจ แต่ครั้งนี้ ฉันไม่กลัวแล้ว…

เขาทำฉันกลัวบ่อยจนฉันไม่กลัวเขาอีกแล้วล่ะ..

พริบ
และทันทีที่เขาปล่อยมือฉันออก ฉันก็จ้องมองเขาไม่วางตา ก่อนจะพูดร่ายยาวออกมาด้วยความโมโห ในแบบที่ฉันไม่เคย เป็นกับใครมาก่อนในชีวิต

ฉันก็ไม่ยอมให้ใครมารังแกง่ายๆเหมือนกัน..

“ตอนเด็ก เคยมีใครสอนคุณมั้ย ว่าคุณควรพูดคำว่าขอบคุณ เมื่ออีกฝ่ายทำอะไรให้ และพูดขอโทษ เมื่อคุณทำอะไรผิด หึ..แต่คุณไม่ต้องบอกหรอก เท่าที่ฉันเห็นคุณแค่ 2 ครั้ง ฉันก็รู้ แล้วว่า ไม่มีใครเคยสอนคุณสินะ!! นั่นล่ะ ความหมายของคำว่า ผู้ชายห่วยๆ ที่คุณเป็น!!!

หลังจากที่ฉันพูดจบ..ด้วยความโมโห เขาก็เอาแต่นิ่ง..ไม่พูด ไม่จา นอกจากพูดออกมาเสียงเรียบและดวงตาที่มองหน้าฉัน ด้วยสายตาที่มันดูวาวโรจน์พร้อมระเบิด..

“เธอคิดว่าเธอเป็นใคร…ถึงกล้ามาพูดกับฉันแบบนี้…ฮะ!!!!

ปิ้ง!!!!!

ก่อนที่เขาจะเอามือของเขา…ทุบไปยังกำแพงของห้องน้ำที่ มันเฉียดใบหน้าฉันไปเพียงแค่นิดเดียว..

เลือก..
แต่ถึงแม้ว่า.. การกระทําของเขา มันจะน่ากลัวขนาดไหน..แต่ ว่า…ฉันก็ไม่มีทางแสดงให้เขาเห็นว่าฉันอ่อนแอเด็ดขาด และ ไม่ว่าเขาจะเป็นใครฉันก็ไม่สนใจทั้งนั้น

“ห..แล้วคุณละ คิดว่าคุณเป็นใคร!! ถึงได้กล้ามาวางกล้าม ใหญ่โตใส่คนอื่นเขาแบบกัน ฮะ!!”

“เธออยากตายหร…

“เลิกพูด ฉันซะ!!!!!! ตายงั้นเหรอ? หึ!! คุณต่างหากที่ สมควรตายไม่ใช่ฉัน! ฉันน่าจะปล่อยให้คุณตายๆไปซะ จาก การโดนซุ่มยิง… คนอย่างคุณ ฉันไม่แปลกใจเลย ทำไมถึงมี คนจะฆ่าคุณได้ เพราะคุณมันเป็นอย่างนี้ไงล่ะ…

“คุณรู้มั้ย ว่าฉันกลัวแค่ไหน ที่ฉันต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อเดินไป บอกคุณเรื่องคนร้ายนั่น ทั้งๆที่ฉันไม่ต้องไปบอกก็ได้ แต่เพราะ อะไรรู้มั้ย มันเป็นเพราะฉันเห็นคุณเป็นเพื่อนร่วมมนุษย์ของ ฉันคนนึง แต่จริงๆแล้ว มันไม่ใช่เลย….คุณ มันไม่ใช่มนุษย์… คุณมันมีจิตใจมืดดำเกินไปเกินกว่าที่จะเป็นมนุษย์คนนึงได้ ฉัน ไม่รู้หรอกนะ ว่าคุณเติบโตมาในสิ่งแวดล้อมรอบตัวแบบไหน แต่การกระทำที่คุณแสดงออกในตอนนี้ มันสื่อได้ชัดเจนว่า คุณ..ไม่ได้โตมาด้วยความรักของคนในครอบครั…โอ้ยย

“ออกไป..!!!”

แต่แล้วขณะที่ฉันพูดยังไม่ทันจบ เขาก็จ้องมองฉันด้วยแวว ตาเหมือนจะฆ่าฉันให้ได้ พร้อมกับเสียงดังลั่น ที่ฉันไม่เคยเห็น เขาเสียอาการแบบนี้มาก่อน

และคิดว่าฉันอยากอยู่นักหรือไ

“หึ ฉันออกไปแน่ แค่วินาทีเดียวฉันไม่อยากอยู่กับผู้ชาย ห่วยๆอย่างคุณ!! รู้ไว้ด้วย!

พริบ!!

แต่แล้วในขณะที่ฉันมองเขา ด้วยสายตาที่สะอิดสะเอียด และรังเกียจผู้ชายอย่างเขาเป็นที่สุด พร้อมกับจะเดินออกไป อย่างที่เขาเอ่ยปากไล่ก่อนหน้า อยู่ๆเขาก็คว้าตัวฉันมาชิดกับ กำแพงอีกครั้ง และทำอะไรบางอย่างที่ทำให้ฉัน..ช็อกไปใน

เพราะเขาจูบฉัน!!!
และก็ไม่ใช่จูบแบบ ชนปากเหมือนคราวที่แล้วด้วย…มันเป็น จูบที่เขาทั้งบดทั้งดันปากฉันด้วยความรุนแรง.. พร้อมกับมือ 2 ข้างที่แนบใบหน้าของฉันด้วยความแนบแน่น..

“อื้ออออ อ่ออยยย ออืออออออ” ฉันได้แต่ดินและผลักเขา เป็นพัลวัน.. แต่ว่าฉันก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากโดนเขาบดจูบ อยู่อย่างนั้น… จนกระทั่ง ฉันรับรู้ได้ถึงกกลิ่นเลือดที่มันออกมา จากปากของฉัน ที่เกิดจากแรงกัดจากปากของเขา ..มันรุนแรง และน่ากลัวอย่างที่สุด..

และไม่นาน เขาก็ถอนปากนั้นออก และมองหน้าฉันด้วย สายตาที่ดูร้ายกาจ ไม่ได้ดูนิ่งเรียบเหมือนหลายๆครั้งที่ผ่านมา

“หึ..เสียใจด้วย เพราะตอนนี้…เธออยู่กับฉันเกินวินาที และจูบ เธอ..มันก็..ห่วย

เกินไปแล้ว…เขาจะร้ายและทรามเกินไปแล้ว!! เขาทำแบบนั้น กับฉันได้ยังไง

“เลว!!! ผู้ชายอย่างคุณ มันเป็นผู้ชายที่น่ารังเกียจที่สุด เท่าที่ ฉันเคยรู้จักใครมาเลย!! จูบเมื่อกี้ฉันจะถือว่าให้ทานผู้ชายที่น่า สงสารและน่าสมเพชอย่างคุณไปก็แล้วกัน!!”
และทันทีที่พูดจบ พร้อมกับเขาที่ยืนนิ่งงันไป..ฉันก็รีบหยิบหัว มาสคอตที่ตกพื้นและรีบออกไปจากห้องน้ำนี้ทันที

และเมื่อฉันออกไปข้างนอก ประตูห้องน้ำชาย..ฉันก็เห็นอะไร บางอย่างที่ทำให้ฉันคิดอะไรขึ้นมาได้..

เรื่องจูบเมื่อครู่..ฉันขอเอาคืนหน่อยเถอะ..

ครืดดดดด

และการเอาคืนของฉันก็คือ…การลากกระถางต้นไม้ที่อยู่แถว นั้น มาปิดประตูเอาไว้.. ยังไงเขาก็มีมือถือ เดี๋ยวเขาก็โทรให้ ใครมาช่วยเอง.. เชิญทนดมกลิ่นห้องน้ำไปชั่วโมง 2 ชั่วโมงก็ แล้วกัน ห

แต่แล้วอยู่ๆ ฉันก็คิดอะไรได้.. เฮ้ย…ฉันต้องไปทำงานนี่หว่า ซวยแล้ว

เมื่อคิดได้เช่นนั้นฉันก็รีบวิ่งทันที พร้อมกับคิดตลอดเวลา ว่า..

ตาย ตายแน่ๆ อีริสา!!!!
และมันก็เป็นอย่างนั้น เมื่อฉันวิ่งไปถึงกอง ในเวลาที่เลยไป 10 นาที พร้อมกับคำกระแทกกระทั้น ของนางเอกที่ฉันเพิ่ง รู้จักร่างจริงเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้า

“หึ! เป็นแค่สตั้น แต่ทำให้คนอื่นต้องรอทั้งกอง!

และฉันก็ทำอะไรไม่ได้นอกจาก

“ขอโทษค่ะ..ขอโทษจริงๆ..

แม้ว่าทั้งกองจะมองฉันด้วยสายตาไม่ค่อยพอใจ แต่ฉันก็ เข้าใจดีว่า เรื่องนี้ฉันผิดจริง..และฉันก็รู้สึกผิดมากๆ จนกระทั่ง เสียงของริชาร์ดเอ่ยดังขึ้นมา..

“เอาละ มาครบแล้ว เราก็ถ่ายกันเถอะ…

ก่อนที่เขาจะหันมายิ้มให้ฉัน.. และคำพูดเขาก็ทำให้ผู้กำกับ และทุกคน…พยักหน้าและเตรียมจะถ่ายต่อทันที นั่นเลยทำให้ฉันส่งยิ้มกลับไป..ก่อนที่จะเดินไปฟังผู้กำกับบรี ฟการถ่ายทํา

เขาช่วยฉันสินะ.. บุญคุณครั้งนี้ ฉันจะไม่ลืมเลย..
จากนั้นฉันก็ถ่ายทำ ตามที่เตรียมตัวเตรียมใจมาแล้ว คือฉาก ตกน้ำ

ฉันที่สวมบทเป็นนางเอก ต้องตกน้ำ..และพระเอกก็ลงมา ช่วย…แต่ตลอดการถ่ายทำนั่น ฉันไม่มีกะจิตกะใจเลยซักนิด.. เพราะฉันเอาแต่คิดเรื่องเมื่อครู่..เกี่ยวกับผู้ชายคนนั้น

เขามาจูบฉันทำไม

จูบในแบบที่ฉันไม่เคยได้รับ..และไม่คิดด้วยว่าจะได้รับจาก คนแปลกหน้าอย่างเขาด้วย…

และเขาคือใครกันแน่ ทำไมเขาถึงได้น่ากลัวแบบนั้น..เขา จะฆ่าฉันจริงๆเหรอตอนนั้น แล้วที่สำคัญ ฉันเองก็แปลกใจ ว่า…ฉันไปเอาความกล้ามาจากไหนกันนะ ถึงได้กล้าด่าเขา แบบนั้นออกไป..

ฉันรู้แต่ว่าตอนนั้นฉันโกรธเขาจริงๆ ทั้งๆที่ฉันหวังดี ฉันเสี่ยง ชีวิตไปช่วยเขา แต่เขากลับไม่ไว้ใจและคิดว่าฉันจะมาทำร้าย เขาแทน..

เห้อ..แล้วไปเอากระถางต้นไม้บังไว้แบบนั้น อนาคตฉันจะมี ปัญหาหรือเปล่า.. เขาจะตามมาฆ่าฉันย้อนหลังมั้ยนะ
บอกตรงๆว่าฉันเอาแต่คิดไปต่างๆนาๆ ตลอดการถ่าย ทำ.. แต่ว่ามันก็โชคดีที่ฉากของฉันไม่ต้องมีบทบาทอะไร มาก..นอกจากพยายามว่ายท่าลูกหมาตกน้ำ

และในที่สุด มันก็ออกมาดีเลยทีเดียว…แต่ไม่ใช่เพราะฉัน หรอก มันเป็นเพราะพระเอกอย่างริชาร์ดต่างหาก…เพราะครั้งนี้ เขาถ่ายแค่เทคเดียวผ่านเลย!!..

จบซะที.. วันที่วุ่นวายและเหนื่อยล้าของฉันวันนี้

ซึ่งเมื่อฉัน…เปลี่ยนชุดและกำลังจะกลับ.. ริชาร์ด ก็เขามาพูด กับฉันอย่างเป็นมิตรทันที

“เพราะคุณ…เลยทำให้ผมสบายใจขึ้น ไม่กดดันกับตัวเอง…จน เทคเดียวผ่านแบบนี้…ขอบคุณนะครับ

นี่สิ มันต้องแบบนี้…คำขอบคุณแบบนี้.. ทำไมนายนั้นถึงไม่พูด เลยนะ..ทั้งๆที่ฉันเป็นคนมาเตือนเขาแท้ๆ เรื่องที่เขาจะโดน ทําร้าย..แถมยังมาทำให้ฉันโดนมองว่าไม่ตรงต่อเวลาอีก

… ก็สมควรแล้วละ ที่ต้องโดนฉันทำแบบนั้น ด่าแบบนั้น

“เออ..คุณริชครับ..เป็นอะไรหรือเปล่า…
ฮะ

ริสา.. เมื่อไรแกจะเลิกนึกถึงเรื่องผู้ชายคนนั้นสะทีนะ….สติ สติ เอาล่ะ..ฉันต้องเลิกคิดถึงเขา..

“อ้อๆ ค่ะ.. ดีใจด้วยนะ คุณเก่งมากเลย หลังจากนี้ก็สู้ๆนะคะ ไว้ฉันจะรอชมผลงานของคุณ..

“ครับ..ขอบคุณครับ..

หล่อแล้วยังนิสัยดีอีก..ดีจริงๆเลยนะพ่อค้นน

และหลังจากนั้น ฉันก็ขอตัวกลับ.. แต่ว่าสมองที่บอกว่าอย่า คิดถึงเรื่องของเขามันก็ไม่มีอยู่จริง..

เพราะระหว่างทางกลับ ฉันก็เจอคู่รักข้างทางที่จูบกันดูดดื่ม อยู่บนท้องถนน..และมันทำให้ฉันค่อยๆเอามือมาแตะที่ปาก ของตัวเองอย่างแผ่วเบา…พร้อมกับนึกถึงจูบของเขา..

ไม่อยากจะคิดเลยว่า…ชีวิตฉันต้องมาจูบกับผู้ชายป่าเถื่อน และเป็นคนแปลกหน้าแบบนั้น

คุณพระอาทิตย์… ไม่ว่าตอนนี้คุณจะอยู่ที่ไหน..หลังจากนี้ขอให้ฉันไม่ต้องเจอนายนั่นอีก..และขอให้ได้งานของบริษัท ซันชายน์ ด้วยเถิดด …เพี้ยง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ