ภรรยามือใหม่ของคุณจายสื่

ตอนที่ 4 แต่งก็เป็นคำคำเดียว



ตอนที่ 4 แต่งก็เป็นคำคำเดียว

“ไอเลว!”

ฝาปิดแก้วชาที่อยู่ในมือของคุณพ่อ ก็กระเด็นไปทาง เจ้าสาม เจ้าสามหลบอย่างรวกเร็ว ฝาปิดแก้วชาก็แตก กระจายไปที่พื้น แตกเป็นเศษมุมเล็กๆ

เจ้าใหญ่กับเจ้าสองกลั้นขำเอาไว้ พวกเขารู้อยู่แล้วว่า หลิงเล่ทั้งไม่ดี ทั้งยังพิการ และยังเป็นลูกที่เกิดมาจาก ผู้หญิงที่คุณพ่อรักสุดหัวใจ ดังนั้นหลายปีมานี้ เรื่องการ พิการของหลิงเล่ก็เป็นเรื่องต้องห้ามมาโดยตลอด ใครก็ พูดไม่ได้!

แต่ว่าพูดไม่ได้แล้วยังไง

พิการก็คือพิการ ต่อให้แต่งชุดของจักรพรรดิก็เปลี่ยน เป็นเจ้าชายไม่ได้

“พ่อครับ ผมขอโทษครับ เมื่อกี้ผม” เจ้าสามอยากจะ อธิบาย แต่กลับหันเจอเข้ากับสายตาที่เย็นชาของคุณพ่อ ก็เลยไม่กล้าพูดต่อ

เจิงเชี่ยนดูแล้วบรรยากาศไม่ค่อยดี ก็ยิ้มอ่อนหวานออก มาทันที แล้วก็เข้าไปออดอ้อนอยู่ในอ้อมกอดของคุณ พ่อ “ที่รัก ดูคุณสิ เจ้าสามตกใจจนไม่พูดจบแล้ว แต่ว่าฉัน ได้ยินมาว่า ตอนที่คุณพบกับคุณมู่ที่ห้องทำงานเช้าวันนี้ หมายความว่าคุณอยากจะช่วยเสี่ยวซื้อของพวกเราหา ภรรยาดีๆให้สักคน ใช่ไหมคะ”
เมื่อทุกคนได้ยินก็อึ้งทันที แต่หลังจากที่ประหลาดใจได้ ไม่นานก็กลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว

หลายปีมานี้ ถึงแม้ว่าหลิงเล่จะย้ายออกจากตระกูลหลิง และยืนด้วยลำแข้งของตัวเองแล้ว แต่ว่าคุณพ่อมีอะไรดีๆ ทั้งหมดก็จะส่งไปที่บ้านของหลิงเล่ก่อน

คุณพ่อยังเรียกชื่ออย่างเอ็นดู “เสี่ยวสื้อลำบากมากกว่า ใคร เขาจะได้รับการชดเชยให้สักหน่อย มันก็สมควร แล้ว”

ลูกชายที่เหลือที่มีความอิจฉาอยู่แต่เดิม แต่กลับคิดว่า หลิงเล่ก็เป็นแบบนี้แล้ว มันก็คือการละทิ้งลูกชาย การ แย่งชิงตำแหน่งทายาทในอนาคตเขาก็ถูกตัดไปโดย ปริยาย

ดังนั้นอะไรที่คุณพ่อให้รางวัลในตอนนี้กับเขา มันก็ได้ แค่ชั่วคราวเท่านั้น ภายในใจของพวกเขาก็รู้สึกวางใจเล็ก น้อย

ดวงตาของคุณพ่อเป็นประกาย ความโกรธในตอนแรก ค่อยๆสงบลงภายใต้ความออดอ้อนของภรรยาสาวสวย ตัวน้อย

เขาจับมือเล็กๆของเจิงเชี่ยนมาวางไว้ที่กลางฝ่ามือที่ แห้งเหี่ยวเล็กน้อยแล้วก็เล่นมันเบาๆ อย่างไม่ได้สนใจ สายตากลับมองตรงไปที่หลิงเล่ แล้วพูดว่า “เสี่ยวสื้อ แก คิดว่ายังไง”

สีหน้าของหลิงเล่นิ่งมาก ภายในใจกลับเข้าใจดีว่า คุณพ่อคิดแทนเขาชัดๆ กลัวว่าร่างกายที่พิการอย่างเขาจะ หาสะใภ้ดีไม่พอ ที่จริงถ้าพูดตรงๆ คุณพ่อยอมแพ้กับ ตำแหน่งทายาทของตระกูลของเขา แต่กลับเสียสละ เอางานแต่งงานของเขามาเป็นแผนเพื่อหาประโยชน์เข้า ตระกูลหลิง

นึกถึงที่ว่าอยู่ๆก็ได้จูบเมื่อครึ่งปีก่อนที่เขื่อนเก็บน้ำ ขนาดใหญ่เมืองชิงเฉิง

นึกถึงดวงตาที่แสนสดใสสวยงามที่เพิ่งเจอที่บน

ทางด่วนรอบเมือง

นึกถึงร่างขาวเล็กๆนั่นที่ถูกฝนกระหน่ำใส่จนเปียกโชก เขาเริ่มเข้าไปสู่ห้วงความคิด

เมื่อเจ้าใหญ่เห็นเขาไม่พูด ก็พูดอย่างมีความหมายลึก ซึ้งว่า “คิดๆดูแล้ว เสี่ยวซื้อก็คงกลัวว่าจะไปทำร้ายผู้หญิง สินะ”

ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคุณพ่อใช้วิธีอะไรถึงทำให้ฝั่งนั้น เอางานแต่งงานของลูกสาวคนเดียวที่เพิ่งจะอายุสิบแปด ทำให้มีน้ำหนักขึ้นมา แล้วยิ่งไม่รู้เลยว่าที่จริงแล้วคุณพ่อ ได้ผลประโยชน์เท่าไหร่จากการแต่งงานเพื่อธุรกิจครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม การเติบโตอย่างรวดเร็วของตระกูลมู่ใน เมืองMในช่วงสองปีที่ผ่านมา กลับเห็นได้ชัดในวงการ ธุรกิจ

ดังนั้น การแต่งงานของสาวน้อยแห่งตระกูลมู่ ปัญหามันอยู่ตรงไหนล่ะ

นี้มันทำให้ครอบครัวได้รับผลประโยชน์อย่างเห็นได้ชัด เมื่อได้รับความรักของคุณพ่อและให้การให้ความสำคัญ มากกว่าเดิม และยังให้ตัวเองเป็นภรรยาที่ฉลาดและ เพียบพร้อมอีกด้วย

เจ้าสองทำตาปริบๆ ยิ้มอ่อนๆมองไปที่คุณพ่อ แล้วพูด ว่า “พ่อครับ เพราะว่าผมเคยหย่ามาครั้งหนึ่งแล้ว ดังนั้น เรื่องการแต่งงานก็ต้องเอาจริงเอาจัง ได้ยินมาว่าเด็กผู้ หญิงสมัยนี้ค่อนข้างจะชอบผู้ชายที่มีประสบการณ์ เรียก ว่ากินเด็ก”

“ฟู่ว!” เจ้าสามหัวเราะออกมา ขัดการพูดของเจ้าสอง แล้วก็พูดว่า “กินเด็ก มันก็มีข้อจำกัดอยู่เหมือนกันนะ พี่ สองอายุของพี่ถ้าพี่แต่งงานไปกับคุณหนูของตระกูลมู่ คนเขาจะคิดว่าเธอเป็นลูกพี่ที่ไปทำเขาท้องตอนอายุสิบ กว่าแล้วไม่รับผิดชอบน่ะ”

“เหอะ ไม่แต่งงานกับฉันเขาก็ไม่แต่งงานกับแกหรอก ก็ ถูกที่แกโสด แต่ว่าตระกูลมู่เขาไม่ได้ตาบอด แกลงข่าว หนังสือพิมพ์นิตยสารเป็นที่สนใจทุกวัน เมื่อวานนี้ก็ควง นางแบบชื่อดัง วันนี้ก็เปลี่ยนมาควงกับนักแสดงสาวอีก แล้ว เขาคงจะวางใจที่จะให้ลูกสาวเพียงคนเดียวมาแต่ง กับแกมันแปลกๆนะ!”

“พี่มันโคแก่กินหญ้าอ่อน แล้วก็ไม่กลัวที่จะสำลักอีก! ผมแต่งงานมาวันเดียว ผมก็จะกลับตัวกลับใจแล้ว!”

“แกว่าใคร แกคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงไม่มีสมองที่อยู่ข้างนอกพวกนั้นของแกหรือไง”

“พอแล้ว!” คุณพ่อขมวดคิ้วแล้วก็พูดโพล่งมาคำหนึ่ง แล้วทั้งห้องก็เงียบลงทันที เขาหันไปมองหลิงเล่ด้วย สายตาเป็นมิตร แล้วก็ถามคำถามเดิม “เสี่ยวสื้อ แล้ว แกล่ะ”

หลิงเล่หลับตาลง หลังจากคิดไตร่ตรองอยู่แปปนึง เขา ก็เข้าใจแล้วว่าสาเหตุที่คุณพ่อยืนกรานให้ตัวเองแต่งงา นกับมู่เทียนซิง ก็เพราะว่าเขาเป็นคนพิการ ดังนั้นถึงแม้ว่า เขาจะแต่งงานกับภรรยาที่อยู่ในครอบครัวที่ร่ำรวย ก็ไม่ สามารถที่จะคุกคามการเป็นหัวหน้าครอบครัวของคุณ พ่อได้

แต่ว่าถ้าเปลี่ยนเป็นลูกชายตระกูลอื่นแต่งงานกับมู่ เทียนซิง ผลที่ได้อาจจะไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของคุณ พ่อ

ก็จะเหมือนกับครอบครัวภรรยาของพี่ใหญ่ที่เป็น ครอบครัวครูธรรมดาๆ ภรรยาคนของเจ้าสองก็เป็นการ แต่งงานเพื่อธุรกิจ ครอบครัวเธอก็มีความสามารถที่โดด เด่น แต่หลังจากที่คุณพ่อได้ผลประโยชน์แล้วก็ทำให้ ครอบครัวของเจ้าสองแตกร้าวอย่างน่าไม่อาย ทำให้เจ้า สองสูญเสียแหล่งหาเงินที่สุดยอดไป เรื่องชู้สาวของเจ้า สามก็มีไม่หยุด แต่คุณพ่อกลับหลับหูหลับตาไม่เคยสนใจ ไม่เคยถามเลย

คุณพ่อคนนี้ ให้ความสำคัญกับอำนาจมากเกิน แล้วก็ขึ้ ระแวงสงสัยมากเกินไป!
ผู้ชายที่แรแวงลูกของตัวเองแบบนี้ แล้วจะได้รับความ รักและความเคารพจากลูกชายได้ยังไง

อย่างน้อยก็ไม่ได้จากหลิงเล่

หลิงเล่ไม่แสดงสีหน้า ไม่สบตากับเขาเลยสักนิด!

ทุกคนกำลังรอคำตอบจากหลิงเล่อยู่ เจ้าใหญ่พูดขึ้นมา อย่างช้าๆว่า “มนุษย์น่ะนะ จะต้องรู้จักตัวเองดี เมื่อมีภูเขา สูง ไม่ใช่นึกอยากจะปีนข้ามก็จะข้ามมาได้หรอกนะ”

มันก็หมายความว่า เพื่อที่จะทำให้หลิงเล่รู้ว่าจริงๆแล้ว ตัวเองกำลังเท่าไหร่ อย่าใช้กำลังเกินตัว

เมื่อเจ้าสามได้ยิน ก็คิดว่ายากที่จะต่อกลอนกับพี่ใหญ่ แต่กลับหัวเราะออกมาเสียงต่ำ สายตาเต็มไปด้วยการ เยาะหยัน

และในตอนนี้ หลิงเล่ก็ค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆ ปากกาที่จับ อยู่ในมือในที่สุดก็ขยับขึ้นมาเขียนบนกระดาษสีขาวสะ อาก

เมื่อฉีกกระดาษแผ่นนั้นอย่างรวดเร็ว หลิงเล่ก็หันไป โบกมือกับจั่วซี

จั่วซีมาตรงหน้าอย่างรู้กัน แล้วก็เข็นหลิงเล่ออกไปจาก บ้านใหญ่ตระกูลหลิง

ตลอดทาง หลิงเล่ก็ไม่ได้หันกลับไปมองใครอีกเลย
และทันทีที่เขาหันกลับมา หัวของทุกคนก็รวมกัน มอง กระดาษแผ่นนั้นที่เขาทิ้งไว้ที่โต๊ะชา

ในนั้น ก็มีเพียงคำเดียวเช่นเคย——แต่ง

“แต่งงั้นเหรอ เจ้าสามมองตาโต พูดอย่าง กระฟัดกระเฟียด “สรุปมันบอกว่าแต่งเหรอ มันไม่คิดสัก นิด มันทำอะไรของมัน

คุณพ่อกลับหัวเราะออกมาเหอะเหอะ อารมณ์ดีอย่าง

เห็นได้ชัด

ในขณะที่เจิงเชี่ยนประคองอยู่ เขาก็ลุกขึ้นยืนช้าๆ และตั้งใจพูดกำชับกับเจิงเชี่ยนว่า “ตามฉันไปเลือกของ หน่อยที่ห้องเก็บของ แล้วค่อยส่งของหมั้นไปให้ตระกูลมู่ สาวน้อยคนนั้นยังเรียนอยู่มหาลัย งั้นก็วันเสาร์นี้ ชวนเธอ มาทานข้าวที่บ้านนะ ฉันก็จะเรียกเสี่ยวซื้อมาเหมือนกัน ให้พวกเขารู้จักกันมากขึ้น

เจิงเชี่ยนพยักหน้ารับอย่างยิ้มๆ “ฉันเลือกของสะสมไม่ ค่อยเก่ง แต่ฉันสามารถไปให้ร้านเครื่องเพชรเตรียมชุด ของหมั้นที่เป็นไข่มุกสองสามชุดได้นะคะ เมื่อวานฉันนัด กับคุณหญิงมู่ไปเล่นไพ่นกกระจอกด้วยกันพอดี เรื่องนัด คุณหนูมู่ให้ฉันจัดการเถอะค่ะ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ