บทที่2.จบตอน
“อย่าทำอะไรเลยนะคะได้โปรดอย่าทำต่อเลยนะคะ เหนื่อย แล้ว อุ้ย อื้อออ…” เสียงวอนขอของเธอไร้ค่าเมื่อเขาไม่น่าพากับ น้ำตาที่อาบแก้มใส ร่างสูงใหญ่ถาโถมเขาหากายบางอวบอิ่ม ด้วยวัยสาวสดอย่างหิวกระหาย ดื่มกินยอดทรวงสีหวานด้วย ความร้อนแรงจนเจ้าของต้องหวีดร้องออกมาด้วยความเจ็บระคน เสียวซ่านมือหนาฟอนเป็นกายบางด้วยความหลงใหลลืมตัว เอว บางที่มือข้างเดียวแทบจะกรอบถูกเขาจับพลิกให้เธอนอนค่ำ พร้อมกับยกสะโพกมนขึ้นสูงก่อนจะสอดเสยความแข็งแกร่งเข้า หาช้าๆ ท่วงท่าเต็มไปด้วยความมั่นใจและหมายมาดจนเขา สามารถเข้าไปจนสุดทาง…
“อา… บารมี เธอนี่แน่นสุดยอดไปเลย… โอว… มันไม่น่า เชื่อ..” เขาขยับสะโพกสอบเข้าหาความอ่อนนุ่มของสะโพกหวั่น แน่นนั้นช้าๆ หมุนวนบดเบียดให้ความแข็งแกร่งเสียดสีเล้าโลม จนบารนี้เสียวไปทั้งกาย สาวน้อยแหงน ใบหน้าขึ้นพร้อมกับสูด ปากด้วยความเสียวกระสันเมื่อความใหญ่โตเคลื่อนไหวอย่างคึก คะนองในกายสาว ความร้อนผะผ่าววิ่งแล่นไปทั้งสรรพางค์จน เธอแทบจะมอดไหม้ ยิ่งเขากระแทกกายเข้าหาและบีบเป็นทรวง สาวอวบใหญ่เดินตัวมากเท่าไหร่ เธอก็เหมือนลอยล่องออกห่าง ความเป็นจริงทุกขณะ ตอนนี้บารนี้รู้สึกเหมือนตัวเองฝันไป ความ เสียวซ่านรัญจวนใจกับลีลาอันเจนจัดในเกมพิศวาสของของเขา ทําให้เธอมึนงง ความเจ็บปวดไม่มีอีกต่อไป มีเพียงความเสียดเสียวที่ทำให้เธอแทบแตกระส่ำด้วยความสุขสมที่เขามอบให้ครั้ง แล้วครั้งเล่า…
“กรี๊ดดดด….อ้า…” เสียงหวานผสานกับเสียงแหบห้าวของเขา ดังก้องห้องหอที่ไร้ซึ่งความรัก เสียงเนื้อหนุ่มสาวกระทบกันราว เสียงดนตรีกามาอันไพเราะก่อนที่อัคนี้จะพาเธอไปสู่จุดสูงสุด แห่งเกมสวาทอันร้อนแรง…
“อา… เธอนี่มันสุดยอดจริงๆ สมกับเป็นน้องของไอ้จอมฉก ที่ แย่งแฟนของคนอื่น ไม่รู้ว่าพี่ชายเธอมันจะลีลาดีเหมือนเธอ เปล่านะแพทถึงได้หลงมันจนทิ้งฉันไปเอาพี่เธอมาเป็นตัว…
“คุณ…” บารมีพูดไม่ออกเมื่อวาจาร้ายกาจดังออกมาจากปาก หยักสวยราวอิสตรีของเขา สาวน้อยน้ำตาซึมทั้งหอบด้วยความ เหนื่อยอ่อนจากบทรักเร่าร้อนหลายต่อหลายครั้งในค่ำคืนนี้ และ หอบหายใจไม่สะดวกจากอาการสะอึกสะอื้นในอกกับความ ใจร้ายของเขา…
“พูดไม่ออกนี่เพราะโดนจัดหนักหรือมันคือความจริงล่ะ อย่า หันหน้าหนีฉันนะบารนี” อัคนีกล่าวเสียงเข้มและแรงขึ้นด้วย อารมณ์เมื่อเธอหลับตาลงพลางหันหน้าหนีทำท่าเหมือนรังเกียจ เขากระนั้น ชายหนุ่มกระชากไหล่มนของคนที่นอนตะเคียงหัน ข้างให้ตนหันกลับมาแต่คราบน้ำตาและดวงตาที่ปิดสนิทพร้อม กับกายสาวสะท้านด้วยแรงสะอื้นทำให้อัคนี้รู้สึกใจหายอย่าง บอกไม่ถูก บารมีหลับไปแล้วและไม่มีทีท่าว่าจะตื่นมาฟังคำพู ดร้ายๆ จากเขา…
“โธ่ เว้ย บัดซบที่สุด…” เขาลุกขึ้นจากเตียงสีหวานยับย่นแล้ว เดินเข้าห้องน้ำชำระร่างกายด้วยความหงุดหงิดที่หวั่นไหวกับ คราบน้ำตาของเธอ…
“ไม่ ฉันไม่ไม่หวั่นไหว เธอไม่มีค่าสำหรับฉัน ไม่ๆ ม่ายยย… อัคนีผวาเชือกร่างสูงผุดลุกนั่งบนเตียงกว้างแล้วเสยผมหยักศกที่ ยุ่งเหยิงไม่เป็นทรงของตนแรงๆ ด้วยความหงุดหงิดและโมโห… ทำไม เขาต้องฝันซ้ำซากอยู่อย่างนี้มาตลอดสี่ปีเต็ม
“ทำไม… ทำไมต้องเป็นแบบนี้วะ” อัคนีลุกขึ้นเปิดประตูกระจก หรูแล้วเดินไปที่ระเบียงกว้าง ดวงตาคมทอดมองไปยังความมืด ก่อนจะเงยหน้ามองฟ้าที่พราวพร่างด้วยดวงดาวนับล้านๆ ดวง แล้วดาวที่มิวนิคจะเหมือนกันกับดาวที่กรุงเทพฯ ไหมหนอ…
“นี่ฉันคงบ้าไปแล้วที่ออกมายืนดูดาวอยู่ได้ทุกวัน…
ชายหนุ่มบ่นอย่างฉุนเฉียวกับตัวเองก่อนจะกลับเข้าห้องและ พยายามจะหลับให้ลง…
“หนูเล็กว่าบีควรตัดสินใจให้เด็ดขาดเสียที” ชลิตาบอกเพื่อน สาวคนสวยแต่ดวงตาเศร้าสร้อยเหลือเกินด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ทำอย่างไรล่ะหนูเล็ก ไม่รู้จะทำอย่างไรดี
“ก็คิดแค่คิดว่า ฉันอยากมีอิสระ อยากมีชีวิตใหม่…ปี ตัวทน ทุกข์มานานแล้วนะ ตัวไม่เคยเปิดโอกาสให้ตัวเองมองใครใหม่ อย่างพี่อาร์ตนั่นเขาก็รักบีกับลูกมาก เทียบกับใครบางคนที่ไม่ เคยมาเหลียวแล เป็นหนูเล็กนะ หนูเล็กเลือกพี่อาร์ตแทนที่ผู้ชาย ใจร้ายคนนั้นแน่ๆ”
ชลิตาเลือกที่จะพูดอย่างที่ใจคิด เธอไม่เข้าใจเลยว่าทำไม บารนี้ต้องทนทุกข์ทรมานกับความสัมพันธ์ที่ปราศจากความรัก ผูกตัวเองติดกับทะเบียนสมรสที่ใครอีกคนไม่ได้ใยดี บารนี้เป็น คนสวยสง่าและน่ารักเธอเองเป็นผู้หญิงด้วยกันยังชื่นชมและหลง รักความน่ารักของบารนี้โดยเฉพาะ อธิชาติ เพื่อนรุ่นพี่ที่ มหาวิทยาลัยซึ่งหลงรักบารมาตั้งแต่สมัยเรียนก็คอยแวะเวียน มาสานไมตรีด้วยดีมาเสมอด้วยความอดทนและพยายามจะ เอาชนะใจบารมี แต่ผ่านมาแล้วสี่ปี บารมียังคงรักษาสถานะ ความเป็นเพื่อนและพี่ชายไว้อย่างเหนียวแน่นจนเธอเองก็อด สงสารอธิชาติไม่ได้
“ไม่มีแต่จะ หากอยู่แบบนี้ตัวก็ต้องทนทุกข์ทรมานต่อไป เรื่อยๆ ไม่มีจบสิ้นแล้วผู้ชายใจร้ายคนนั้นก็ไม่เคยสนใจหรอกว่า ตัวจะอยู่อย่างไร ทำอะไร มีภาระอะไรบ้าง…บี ตัวต้องเลือกที่จะ ทําเพื่อตัวเองบ้าง…
“นี่เธอมาเสี้ยมสอนอะไรน้องสาวฉันอีกล่ะ พอกลับมาก็เอาแต่ เรื่องไม่ดีใส่หัวคนอื่นเลยนะ” เสียงนุ่มทุ่มน่าฟังของชายหนุ่มคน หนึ่งดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงสง่าดูมีเสน่ห์ของ อัครวัฒน์ เดินมายืน อยู่ตรงหน้าของทั้งสองสาว ชายหนุ่มผู้มีใบหน้าหล่อเหลาออก ทางค่อนข้างหวานด้วยดวงตายาวใหญ่ที่มีแววอ่อนเชื่อมหรือที่ เรียกว่า ตาหวาน นั้นรับกับคิ้วดกดำเรียวยาวเป็นระเบียบ จมูก โด่งสวยเหมือนจมูกของหญิงสาวมากกว่าจมูกของชายหนุ่มและ ริมฝีปากบางเฉียบสีแดงเรื่อจนผู้หญิงต้องอาย คุณโดมแห่งดีแลนด์อินเตอร์เนชั่นแนลแอร์ไลน์ เป็นชายหนุ่มทั้งหนุ่มทั้งต่างหลงใหลคลั่งไคล้ดาราดังบางเลยทีเดียวเขาก็มีกับสาวๆ เสมอ ไปสามหนุ่มแห่งบ้านดีแลนด์คงจะเพียงอัคราเท่านั้นกระมังไม่เคยข่าวคาวๆ กับผู้หญิงเพราะ ชอบหมกตัวอยู่แต่กับไร่และโรงเท่านั้น…
โดม มาทางไหนกลับไปทางนั้นเลยนะ คนกำลัง คุยกันเรื่องของสาวๆ หนุ่มแท้ไม่เกี่ยว
“อ้าวแบบนี้มาพิสูจน์กันมั้ยเล็กแต่ไม่เล็ก…วัฒน์ยียวนต่อปาก
“เอาล่ะค่ะ อย่าทะเลาะกันเป็นเด็กๆ สิคะ พี่โดมล่ะชอบยั่ว ประสาทหนูเล็กจริงเชียว”
พี่มาบอกข่าวลุงวิลสันตกลงผ้าซีซั่นหน้าจะใช้ลายที่ออกแบบด้วย ดีใจ ด้วยนะจ๊ะ”
“จริงหรือคะพี่โดม ไชโยๆ ดีใจด้วยนะคุณลุงเลือกผลงาน ของบีชลิตาร้องอย่างยินดีแล้วลุกขึ้นกระโดดเหมือนๆ ความดีใจกับตัวเองเป็นเจ้าของผลงานและเผลอเรียกอัคร วัฒน์ด้วยสรรพนามเหมือนกันกับบารนี้เรียกเขาโดม
แหมอย่างกับตัวเองเป็นเจ้าของผลงาน
ทำไมล่ะ ผลงานเพื่อนของเล็กเหมือนผลของหนูเล็กนั่นล่ะเนอะเนอะ
“จ้า ขอบใจมากนะหนูเล็ก
“เอาละ ดึกแล้วเรากลับกันเถอะ คุณพ่อคุณแม่แล้วก็พี่เด่นรอ อยู่” อัครวัฒน์บอกแล้วเดินออกไปก่อนการนีจึงหันมาลาเพื่อน รัก ชลิตาเดินมาส่งบารมีที่รถด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม โดยมีคุณวิล สันและภรรยายืนส่งแขกอยู่หน้าบ้านหลังงาม
บารนีเดินเข้าห้องนอนของตนด้วยความดีใจและภาคภูมิใจที่ ผลงานการออกแบบลายผ้าและออกแบบชุดผ้าไหมได้รับการ ยอมรับจากนักธุรกิจสิ่งทอหลายๆ คน ทั้งที่เธอเป็นนักออกแบบ หน้าใหม่ ในตอนแรกบารนี้คิดว่าที่พวกเขาซื้อเพราะเธอเป็น แลนด์และเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนของดีแลนด์ชิลด์ แต่เมื่อผลงาน ของเธอออกสู่ตลาดและได้รับความสนใจ แบบเสื้อผ้าของเธอก็ ยังเป็นที่นิยมทำให้บารมั่นใจในตัวเองมากขึ้นว่าเธอเองก็มีดี พอที่จะกล้าทําอะไรบางอย่าง…
หญิงสาวเปิดประตูห้องนอนที่เชื่อมติดกันมายังห้องของน้อง บูมซึ่งกำลังฝึกนอนคนเดียวแต่ไม่ค่อยจะสำเร็จเพราะเด็กชายมัก จะตื่นกลางดึกและเข้ามานอนกับเธอเสมอ บารนี้เดินมาหยุดที่ เตียงกว้างมองใบหน้าที่หลับพริ้มของน้องบูมด้วยความรักก่อน จะหอมแก้มยุ้ยนั้นเบาๆ
“แม่รักลูกนะครับ และอีกไม่นานเราก็จะมีกันและกัน มีแค่เรา สองคน… มือบางลูบเรือนผมดกหยักศกของลูกรักก่อนจะเดิน กลับห้องและแง้มประตูไว้เพื่อให้น้องบูมเดินกลับมาหาตนที่ห้อง
“ฉันจะต้องเลือกแล้วสินะ พี่บูรณ์ อย่าโกรธนะคะ ไม่ อยากทรมานอยู่แบบนี้อีกต่อไปแล้ว” หญิงสาวพูดกับตัวเองแล้ว นึกถึงพี่ชายซึ่งตอนนี้อยู่ที่เชียงใหม่ ดูแลกิจการรีสอร์ตและไร่ชา กับภัทราอย่างมีความสุข แล้วเธอล่ะ…
คุณดารามองหน้าสวยหวานแต่แสนเศร้าของสะใภ้ที่รักอย่าง พยายามเก็บกักความเจ็บปวดไว้ในอกไม่แพ้กัน คงถึงเวลาแล้ว สินะที่นางจะต้องปล่อยให้บารนี้เป็นอิสระ แม้จะรักและเอ็นดู บารนี้ตั้งแต่แรกเห็น สาวน้อยที่เอาแต่ร้องไห้จนตาบวมและไม่ พูดไม่จากับใครในคืนอันเลวร้ายที่บุตรชายของนางเป็นผู้สร้าง มลทินให้กับชีวิตอันบริสุทธิ์ของเธอ
ตั้งแต่แรกพบหน้าบารนี นางก็รู้สึกถูกชะตาและคิดหมายมั่น ว่าสักวันอัคนี้คงมองเห็นสิ่งที่นางเห็น ความน่ารักอ่อนโยนและ เจียมเนื้อเจียมตัวของบารที่ทำให้นางยิ่งรักสะใภ้ในนามคนนี้ และความสามารถและฉลาดเฉลียวในหน้าที่การงานก็ยิ่งทำให้ นางไม่อยากให้บารพ้นไปจากบ้านดีแลนด์ แต่เมื่อถึงตอนนี้ นางควรเลิกเห็นแก่ตัวใช่ไหม…
“บีคิดว่ามันถึงเวลาแล้วค่ะ เพราะคงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะ ต้องทนอยู่ในฐานะภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายที่กอดทะเบียน สมรสอยู่อย่างนี้ อีกอย่างน้องบูมก็โตขึ้นทุกวัน ทุกครั้งที่น้องบูม ถามว่าเมื่อไหร่คุณพ่อจะกลับมาอยู่กับเรา บีก็เจ็บปวดทุกครั้ง บี ก็ไม่อยากจะโกหกลูกอีกแล้วค่ะ”
“แม่เข้าใจจ้ะ เอาเป็นว่าแม่จะติดต่อตาเดียวอีกทีว่าให้มา จัดการเรื่องหย่าให้เรียบร้อย
“ขอบพระคุณนะคะ คุณแม่มีเมตตากับบีและลูกเสมอ จน ละอายใจ”
“ไม่เอาน่าน้องอย่าร้องไห้สิจ๊ะ น้องก็รู้ว่าแม่รักหนูเหมือน ลูกแท้ๆ และรักน้องบูมมากกว่าใคร ไม่ต้องห่วงนะเรื่องหย่าแม่ จะจัดการให้” คุณดาราลูบศีรษะของบารมีอย่างอารมือเหี่ยว ย่นเช็ดน้ำตาบนแก้มนวลให้อย่างอ่อนโยน ยิ่งทำให้บารมีน้ำตา ไหลเป็นทางด้วยความตื้นตันใจ…
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ