พิศวาสร้ายเมียในนาม

บทที่ 1 ข้อผูกมัดที่ไร้ความผูกพันกับความฝันที่หลอก หลอน



บทที่ 1 ข้อผูกมัดที่ไร้ความผูกพันกับความฝันที่หลอก หลอน

สี่ปีผ่านไป…

“น้องบูมครับมาทานผลไม้เร็วครับคุณแม่ปอกมาให้แล้ว ครับ” บารนีในวัยยี่สิบสองปีร้องเรียก น้องบูม หรือ เด็กชาย อัศวิน ดีแลนด์ บุตรชายผู้เป็นแก้วตาดวงใจเสียงใส ไม่นานเด็ก ชายตัวอ้วนกลมผิวสีน้ำตาลทองแก้มยุ้ยก็วิ่งตึกๆ มาหาผู้เป็น มารดาด้วยรอยยิ้มกว้างขวาง แก้มยุ้ยๆ นั้นแดงปลั่งเพราะวิ่ง เล่นจนเหนื่อยเหงื่อท่วมตัว

“คุงแม่ค้าบ น้องบูมอยากว่ายน้ำ” เด็กชายอ้อนมารดามือ ป้อมๆ นั้นหยิบแอ๊ปเปิ้ลของโปรดเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆเมื่อมารดา จับมือน้อยไปล้างที่ก๊อกน้ำไม่ไกลกันนั้น

“คุณแม่บอกว่าเวลากินอย่าพูดไงครับ มันไม่สุภาพและจะ ทำให้อาหารที่เราทานติดคอรู้ไหมคะ”

“ค้าบคุงแม่บี”

“แล้วก็ต้องพูดว่า คุณแม่ ไม่ใช่คุงแม่ปีนะครับลูกรัก” หญิง สาวบอกลูกรักเพื่อให้เขาพูดได้ถูกต้องอย่างที่ส่วนใหญ่ผู้ที่เลี้ยง เด็กๆ ในวัยนี้เช่นคนที่เป็นปู่ย่าตายายมักจะหัวเราะชอบใจเมื่อ หลานๆ พูดไม่ชัดมองว่าเป็นเรื่องตลกขบขันและไม่คิดว่ามันจะ ส่งผลให้กับเด็กเมื่อโตพอจะเข้าโรงเรียน และเรื่องแบบนี้เธอเคยเห็นมาก่อนสมัยเด็กๆ เพราะเพื่อนวัยเดียวกันกว่าจะพูดชัดก็ เกือบจะจบชั้นประถมหก

“ค้าบ คุณ แม่ บี” เด็กชายพูดอย่างตั้งใจพร้อมกับยิ้มให้ มารดาจนตาหยี บารมองลูกชายตัวน้อยด้วยความรักและ พอใจที่น้องบูมเป็นเด็กฉลาดและว่านอนสอนง่ายคุณปู่และ คุณย่าซึ่งเดินมาดูหลานรักเล่นปั่นจักรยานอยู่ในสวนมองสองแม่ ลูกที่คุยกันด้วยเหตุผลอย่างแสนรัก บารมีกับน้องบูมคือแก้วตา ดวงใจของบ้านนี้นั่นคือสิ่งผู้สูงวัยทั้งสองเห็นอยู่ในสายตามา เสมอ…

“มาทานข้าวเที่ยงกันได้แล้วจ้ะน้องบูม ลูกบี

คุณดารา ร้องเรียกลูกสะใภ้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเอ็นดูสองแม่ ลูก คุณดาราในวัยห้าสิบหกนั้นดูงดงามเปล่งปลั่งด้วยการดูแล ตัวเองอย่างดีทำให้นางดูอ่อนกว่าวัยและมองแล้วสดชื่นสบาย ด้วยการแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีสดใสทันสมัยซึ่งทุกชุดที่นางสวม ล้วนแล้วแต่เป็นการออกแบบจากลูกสะใภ้สุดที่รักของนางนั่นเอง และฝีมือการออกแบบและตัดเย็บของบารนี้ยังเป็นผลงานที่สร้าง ชื่อให้กับ ดีแลนด์ซิลด์ หนึ่งในธุรกิจสร้างรายได้มหาศาลให้กับ ตระกูลดังอย่างตระกูลดีแลนด์ และคุณอีริคดีแลนด์ประมุขใหญ่ ของครอบครัวก็เป็นนักธุรกิจอาวุโสที่มีคนนับหน้าถือตาและถือ เป็นแบบอย่างในการดำเนินธุรกิจอีกด้วย แต่นอกจากครอบครัว ดีแลนด์จะทำธุรกิจสิ่งทอแล้วยังมีอีกหลายกิจการที่สร้างรายได้ ให้กับคนตระกูลนี้มานานแสนนานนั่นคือธุรกิจสายการบินและ การโรงแรม…
คุณอีริคกับคุณดารานั้นมีบุตรชายด้วยกันสามคน คนโตคือ คุณเด่น หรืออัตรา วัยสามสิบสี่ดูแลกิจการด้านสิ่งทอของ ครอบครัวรวมไปถึงการเป็นเจ้าของไร่อัครา ซึ่งมีพื้นที่เป็นพันไร่ แยกปลูกไร่มันสำปะหลังและเลี้ยงไหมอีรี่ป้อนโรงงานทอผ้าของ ตนอีกด้วย (ไหมอีรี่เป็นแมลงที่สร้างรังซึ่งเป็นเส้นใยธรรมชาติที่ นำมาใช้ประโยชน์ทำเครื่องนุ่งห่มและสิ่งทอต่างๆ และพัฒนา เป็นผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่าได้เหมือนไหมหม่อนแต่เส้นใยไหมอีรี่มี คุณสมบัติเฉพาะ คือ มีความหนานุ่มคล้ายผ้าขนสัตว์แต่ก็ดูดซับ เหงื่อและระบายอากาศได้ดี ทำให้ใส่แล้วรู้สึกอบอุ่นในฤดูหนาว และเย็นสบายในฤดูร้อน ไม่สากระคายมือ มีคุณภาพทนทานดี กว่าไหมหม่อน ซักได้ด้วยวิธีธรรมดา ไม่ต้องซักแห้ง เส้นไหมที่ ผลิตได้จะมีลักษณะเป็นปุ่มปม มีความเงามันเล็กน้อยซึ่งสวยงาม แปลกตาเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวและยังเป็นแมลงที่มีคุณค่าทาง เศรษฐกิจสูง ไหมอีรี่กินใบมันสำปะหลังและใบละหุ่งเป็นอาหาร)

คนกลางคือ คุณเดียวหรือ อัคนี วัยสามสิบสองปีซึ่งดูแล กิจการด้านการโรงแรมของครอบครัวและตอนนี้เขาก็ประจำอยู่ ที่เยอรมันและเดินเดินทางไปดูงานโรงแรมของครอบครัวทั่วโลก ยกเว้นเมืองไทย… ส่วนคนสุดท้ายคือ คุณโดม หรือ อัครวัฒน์ วัยยี่สิบเก้าดูแลกิจการด้านสายการบิน นั่นก็คือ ดีแลนด์อินเต อร์เนชั่นแนลแอร์ไลน์ และหนึ่งในสามคนนั้นคือสามีของเธอ หญิงสาวคิดแล้วก็รู้สึกเศร้าในใจ…

“บี…” เสียงคุณอีริคเรียกเธอเบาๆ ด้วยความอาทร

“คะคุณพ่อ”
“คืนพรุ่งนี้ไปงานเลี้ยงวันเกิดของคุณวิลสันกับพ่อนะ ทางนั้น เขาอยากเจอ และสนใจลายผ้าของเรา อีกอย่างพ่ออยากให้หนู เปิดหูเปิดตาด้วย ตอนนี้หนูเล็กกลับจากอเมริกาแล้วนะ” ผู้สูงวัย กล่าวกับลูกสะใภ้ด้วยรอยยิ้มซึ่งเต็มไปด้วยความรักความ เมตตา และเอ่ยถึง หนูเล็ก หรือ ชลิตา เพื่อนที่เข้าอกเข้าใจเธอ ที่สุดและเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวที่บารที่มีอยู่ในตอนนี้

“ค่ะ ไม่มีปัญหาค่ะอยากเจอหนูเล็กอยู่พอดี”

“จ้ะ งั้นเราไปทานข้าวกันเถอะ”

บารมียิ้มให้พ่อสามีของตนบางๆ แล้วเดินตามร่างสูงใหญ่ ภูมิฐานของคุณอีริคที่เดินไปสมทบกับภรรยาซึ่งกำลังหอมแก้ม ซ้ายขวาของน้องบูมอย่างมันเขี้ยว หญิงสาวมองผู้สูงวัยทั้งสองที่ อุ้มน้องบูมเข้าบ้านไปด้วยความชื่นมื่นเสียงหัวเราะสดใสของ น้องบูมทำให้บ้านหลังงามมีสีสันความฉลาดและรู้เกินวัยทำให้ น้องบูมเป็นแก้วตาดวงใจของทุกคนคุณอีริคกับคุณดาราเอ็นดู กับลูกเป็นอย่างมากจนเธอรู้สึกละอายใจเพราะถึงแม้เธอจะ แต่งงานกับอัคนี้มาถึงสี่ปีแล้วแต่การใช้ชีวิตครอบครัวของเขา และเธอมันไม่ได้เป็นปกติเหมือนคู่สามีภรรยาคนอื่นๆ อัคนีทิ้งให้ เธออยู่กับบิดามารดาของเขาแล้วตัวเขาเองก็หนีหน้าไปบริหาร งานโรงแรมของ ดีแลนด์แกรนด์โฮเทล อยู่ที่เยอรมันและทั่วโลก ซึ่งแน่นอน โรงแรมในเครือของดีแลนด์แกรนด์โอเทล นั้นย่อม เป็นโรงแรมระดับห้าดาวและเป็นโรงแรมที่หรูหราทันสมัยอันดับ หนึ่งของโลกหลังจากคืนเข้าหอแล้วอัคนีก็เดินทางไปเยอรมัน ทันทีโดยไม่สนใจเจ้าสาวที่นอนร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดจากการกระทำของเขา ทั้งร่างกายจิตใจของเธอบอบช้ำจนแทบไม่ อยากจะอยู่ที่บ้านหลังงามโอ่อ่านี้…

อัคนีไปและก็ไม่เคยติดต่อกลับมา ไม่เคยส่งข่าวคราวมาให้ เธอได้รับรู้ว่าเขาเป็นอยู่อย่างไร แต่เธอก็ได้รับข่าวคาวๆ ของเขา ทางหนังสือพิมพ์บันเทิงต่างประเทศบ้างเพราะเขาขยันเป็นข่าว กับเหล่าดารานางแบบแถวหน้าของวงการบันเทิงทั้งในเยอรมัน และฮอลลีวูด สร้างความน้อยเนื้อต่ำใจให้เธอพอสมควร

แม้ว่าเธอกับเขาจะแต่งงานกันเพราะความจำเป็นไม่ได้มีความ รักเข้ามาเกี่ยวข้องก็ตาม แต่เธอยังอยู่ในฐานะภรรยาของเขาเขา ก็ควรให้เกียรติเธอบ้างสิ หญิงสาวคิดในใจแต่แล้วอีกเสียงหนึ่ง ก็มักแย้งขึ้นมาเสมอว่า

ก็เขาไม่ได้เต็มใจ ไม่ได้รักเธอยังถูกมัดมือชกแบบนั้น เขา จะมาสนใจเธอเพื่ออะไร…

“บี น้องบี…”

“คะ…” หญิงสาวตื่นจากภวังค์หันมามองใบหน้างามของคุณ ดารา ผู้สูงวัยมองใบหน้าสวยหวานของลูกสะใภ้ด้วยความรู้สึก เจ็บปวดลึกๆ นางมองคนที่นั่งเขียข้าวในจานไปมาและดู เลื่อนลอยมาสักครู่แล้วและก็รู้ว่าบารที่กำลังคิดอะไรอยู่นางจึง เรียกเธอให้กลับมาสู่โลกความเป็นจริงแต่เธอไม่ได้ยินนางจึง เรียกเธออีกครั้งแล้วเขย่าแขนเรียวเบาๆ คุณดารามองใบหน้า สวยหวานจับใจด้วยความสงสาร…

นางทําร้ายชีวิตอันสดใสของบารนีด้วยทะเบียนสมรสจากบุตรชายที่ไม่เคยเห็นค่าของบารนี้หรือเปล่า คุณดาราถามตัวเอง

“ปละเปล่านี่คะ แค่รู้สึกเหนื่อยๆ เมื่อคืนนี้ออกแบบลายผ้า ตึกไปหน่อยค่ะ”

“ขอให้จริงเถอะไม่ใช่ว่าคิดเรื่องตาเดียวจนนอนไม่หลับล่ะ” คุณดาราพูดเหมือนมานั่งอยู่ในใจของเธอ บารหน้าแดงด้วย ความละอายเสหลบตาผู้สูงวัยด้วยการเดินไปนั่งข้างๆ ลูกชายตัว น้อยเช็ดปากซึ่งเปรอะเปื้อนคราบอาหารที่ติดมุมปากของน้องบูม อย่างอ่อนโยน

คุณดาราถอนใจพลางมองหน้าสามีอย่างขอความเห็น คุณ ริคส่ายหน้าช้าๆ เป็นการบอกรายๆ ว่าอย่าเพิ่งทำหรือพูดอะไร ตอนนี้ นางจึงได้แต่รู้สึกหนักอึ้งในใจ…


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ