บทที่ 6 ผู้ช่วยน้อยในการสู้กันในบ้านโดนตีจนตาย
“โอ๊ย…” ซูชิงร้องอย่างเจ็บปวด มองดูเลือดที่พื้น แล้วล้มลงตรง นั้นเลย “นางชั้นต่ำซูเฉียว กล้าดียังไงมาลอบทำร้ายข้า! รนหาที่ ตายหรือ! เร็ว ตามหมอเร็ว…..
น้ำเสียง โอหังไร้เหตุผล
แม่บ้านที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ตกใจเหมือนกัน เลยรีบคลานออกไป จากตำหนักของซูเฉียว
มีเพียงซูเฉียวที่ยืนอยู่ที่เดิมเงียบๆ ไม่ได้ขยับอะไร นางรู้แต่ แรกแล้วว่าคนที่มีแต่ความโกรธแต่ไร้สมองอย่างซูชิงต้องเดินไม่ ดูและเหยียบ โดยเศษแก้วแน่นอน
ส่วนคําด่าทอของซูชิง นางก็แค่เบ้ปาก ไม่สนใจใดๆ สักพัก หมอก็มาพร้อมกับแม่บ้าน แล้วยังพานายหญิงชิวมา
ด้วย
“นางเลวที่ต่ำช้า กล้าทำร้ายน้องสาวตนเองเช่นนี้ได้อย่างไร! นายหญิงชิวกัดฟันพูด แล้วยกมือขึ้นทำท่าจะตบ
ก่อนหน้านี้นางไม่กล้ารังแกซูซือ แต่ซูเฉียวนั้น นางอยากตบ ตบเลย ไม่เคยลังเลใดๆ
ถึงวันนี้ซูเฉียวทำให้นายหญิงซูต้องตกอยู่ในความลำบาก นางก็ยังคงคิดว่าซูเฉียวเป็นเพียงแค่ผู้หญิงตัวเปล่าที่ไม่มีใครหนุนหลัง สามารถรังแกได้ทุกเมื่อ
ถึงจะโดนบ่าวรังแก ก็ไม่กล้าเรียกร้องใดๆ
ซูเฉียวก้มหน้า แล้วขยับนิ้วเล็กน้อย มีก้อนหินออกมา แล้ว ขว้างไปตีโดนเข่าของนายหญิงซิวอย่างแม่นยำ
ทําให้นางล้มลงทันที
ไม่ค่อยรุนแรงมากเท่าไหร่ แต่ก็ล้มอย่างน่าเกลียดมากเช่น
กัน!
มือที่เตรียมจะตบนั้นจึงไม่ถูกตบลงไปที่ใบหน้าของซูเฉียว “โอ๊ย….” นายหญิงซิวร้องเสียงดัง แล้วรีบลุกขึ้น กุมที่ข้าว ของตนเอง “เจ้า..
ซูเฉียวพุ่งเข้ามาด้วยสีหน้าที่ไร้เดียงสา “นายหญิงชิว ท่านเป็น อย่างไรบ้าง? ไม่เป็นไรใช่ไหม เร็ว หมอ รีบมาดูอาการนายหญิง ชิวเร็ว!”
เวลานี้นายหญิงชิวฉวยโอกาสผลักซูเฉียวออกไป เพราะความ กลัวเล็กน้อย
นางรู้สึกเหมือนขาของตนเองจะหัก และวินาทีนี้ นางก็รู้สึกได้ว่ายัยตัวแสบนี้เริ่มผิดปกติ แม่บ้านพาหมอเดินเข้ามา พอเห็นสถานการณ์ ก็อึ้งเล็กน้อย
“นี่” หมอเองก็ไม่รู้ว่าควรรักษาใครก่อน
“เร็ว รีบไปดูเท้าของซิงเอ๋อก่อนว่าเป็นอย่างไรบ้าง!” นาย หญิงชิวลากขาที่เจ็บปวด ชี้ไปทางหมอแล้วพูด “หากซิงเอ๋อเป็น
อะไรไป ข้าไม่เก็บเจ้าไว้แน่ แล้วหันไปจ้องซูเฉียว “แล้วก็เจ้าด้วย เจ้าทำร้ายน้องสาวของ ตนเอง ข้าจะให้คุณท่านลงโทษเจ้าอย่างรุนแรง
“ท่านแม่เจ้าคะ นี่ไม่เกี่ยวกับข้าเลยนะเจ้าคะ!” ซูเฉียวทำ สีหน้ากลัว แล้วพูดเสียงต่ำ “นี่…เศษแก้วนี้คือแม่บ้านโยนแตก เพื่อทำร้ายข้าเมื่อครู่นี้ ข้ายังไม่ทันได้เก็บกวาด น้องเล็กก็เหยียบ โดนเสียก่อน!”
นายหญิงชิวเสียเปรียบ แต่กลับจับผิดซูเฉียวไม่ได้เลย นาง โมโหไม่น้อยเลยทีเดียว
จึงหันไปจ้องแม่บ้านข้างๆ “ไร้ประโยชน์จริง! ทำร้ายคุณหนูได้
อย่างไร!”
“นายหญิง….” แม่บ้านจางไม่รู้จะอธิบายอย่างไรแล้ว
แต่ว่านางคือผู้ช่วยตัวดีของนายหญิงชิว ถึงจะทำผิด แต่ก็คง ไม่โดนลงโทษหนักหรอก
เวลานี้แค่ยอมรับผิดก็พอแล้ว
“ท่านแม่คะ ท่านอย่าโทษพวกบ่าวเลยเจ้าค่ะ นางเองก็คิดไม่ ถึงว่าน้องเล็กจะหกล้ม แต่ว่าอาการของน้องเล็กอาจจะสาหัสบ้าง เลือดออกมากมายเช่นนี้ หากเส้นเอ็นที่เท้าขาด ก็อาจจะขาเป้ได้ นะเจ้าคะ นี่ทำไงดีล่ะ!” ซูเฉียวพูดเสียงต่ำ
ท่าทางของนาง ราวกับว่าหากพูดดังไป กลัวทำให้คนสะดุ้ง “ซูเฉียว!” แม่บ้านได้ยิน ในใจก็เริ่มกลัว นี่สามารถเอาชีวิต ของนางได้เลยนะ!
นายหญิงชิวเองก็กลัว หันไปจ้องแม่บ้าน “ใครก็ได้ ลากแม่ บ้านจางออกไป ขังไว้ในห้องเก็บของ หากชิงเอ๋อเป็นอะไรไป ก็ดี นางจนตายได้เลย!!
สิ่งเดียวที่เป็นความหวังของนางก็คือลูกสาว
หากซูชิงขาเป่จริง ทุกอย่างก็คงจะพัง
และยังโดนซูเฉียวทำลายชื่อเสียงไปแล้วด้วย
ยิ่งคิด นายหญิงซิวก็ยิ่งรู้สึกว่าผิดหวัง
ระบายความโมโหทั้งหมดไปที่แม่บ้านจาง
“นายหญิงไว้ชีวิตด้วย……ไว้ชีวิตด้วยเจ้าค่ะ….” หลังจากที่แม่ บ้านจางโดนลากออกไป ก็ตะโกนร้องไม่หยุด
เพียงแต่ว่า ตอนนี้ไม่มีใครมีเวลาไปสนใจความเป็นความตาย ของแม่บ้านแล้ว พวกเขาต่างก็จ้องเท้าของซูชิง สีหน้าของหมอก ไม่ค่อยดีนัก “นายหญิงชิวขอรับ เท้าของคุณหนูสาม เกรงว่า……
“ทำไมหรือ?” สีหน้าของนายหญิงชิวมืดมน กลัวว่าหมอจะพูด เหมือนที่ซูเฉียวพูด
เวลานี้ดวงตาของซูชิงเต็มไปด้วยน้ำตา ถึงปกตินางจะเจ้า อำนาจ แต่เคยเจอเรื่องคอขาดบาดตายเช่นนี้ที่ไหนกัน นางเองก็ตกใจไม่น้อย “ทำไงดี ทำไงดี ข้า ข้าจะขาเปีหรือ
จากนั้นก็ร้องไห้เสียงดัง
ร้องไห้อย่างเสียใจ
“หากเจ้าไม่สามารถรักษาคุณหนูสามได้ ก็ไม่ต้องอยู่ในจวน อีกต่อไป!” นายหญิงซิวเดินไปทางซูชิงด้วยขาเป๋ แล้วมอง รองเท้าสีแดงที่ถูกย้อมด้วยเลือด มือของนางสั่นไปหมดเลย
หมอกลับทำสีหน้าที่ทำไรไม่ได้ “นายหญิงซิวขอรับ แผลของ คุณหนูสามลึกมากขอรับ ข้าน้อยเองก็ไม่กล้ารับประกันว่าจะ รักษาได้ขอรับ!”
“แล้วมีเจ้าไว้ทำไม!” นายหญิงซิวกริ้วโกรธ แล้วกัดฟันพูด จากนั้นก็ยื่นมือไปทางซูชิง แต่ก็ไม่กล้าทำอะไรมาก
รนจนสีหน้าซีดขาวไปหมด
“เป็นเพราะว่าน้องสามไม่ระวัง แต่ก็โทษแม่บ้านจาง ขว้างเศษ แก้วไปเรื่อย และยังไม่เก็บอีก อีกทั้งยังไม่รู้จักเตือนน้องสาม ด้วย!” ซูเฉียวพูดผิดจังหวะอีกครั้ง
แต่นางกลับถอนตัวเองออกจากเรื่องนี้อย่างสิ้นเชิง
ซูชิงร้องไห้อย่างเดียว นางคือลูกสาวรอง ถึงจะได้รับความ โปรดปรานจากไท่ซื่อ แต่ชาติกำเนิดที่รอง แล้วยังขาเปอีก ชาติ นี้คงจะแย่แล้วสินะ
อย่าว่าแต่จะหาคู่ครองที่ดีได้เลย!
“ใครก็ได้ไปที่ห้องเก็บของ แล้วลากแม่บ้านจางออกไป จน ตาย!” นายหญิงชิวไม่มีที่ระบายความโกรธ เห็นท่าทางที่ซูชิง ร้องไห้เสียใจ ความโกรธของนางก็พุ่งขึ้นสมอง และความเกลียด ก็แทงใจไปหมด
ซูเฉียวยิ้มที่มุมปาก นึกถึงเรื่องในอดีตที่แม่บ้านจางเคยทำกับ เจ้าของร่างเดิม นางก็รู้สึกว่าสะใจมาก
บ่าวที่รังแกเจ้านายอย่างแม่บ้านจาง ควรจะถูกกำจัดตั้งแต่
แรกแล้ว
แต่เป็นเพราะได้ใจของนายหญิงชิว ถึงมีชีวิตที่ดีอยู่ในจานนี้
ในที่สุดวันนี้ก็ได้รับการลงโทษ
ไม่นานนัก ก็ได้ยินเสียงที่ร้องอย่างทุกข์ทรมานของแม่บ้าน จาง พร้อมกับคําด่า
ไม่ว่ายังไงนางก็คิดไม่ถึง เพียงแค่ไม่กี่ประโยคของซูเฉียว กลับทําให้ตนเองต้องเสียชีวิตเลย
แม่บ้านอีกสองสามคนมาพยุงนายหญิงชิวและชิงเอ๋อออกไป
ในที่สุดในตำหนักก็เงียบสงบสักที
วันนี้ รู้สึกเหมือนเล่นเกมส์ ตั้งหลายครั้งที่เกือบจะปกป้องชีวิต
ไว้ไม่ได้
แต่ก็ยังดี ที่ยังคงมีชีวิตอยู่
นางใช้ความทรงจำที่มีเข้าไปตามหาแผนที่สมบัติในห้องที่
ซือและเซียวจิ้นยวนบังคับเอาจากนาง ภายในความทรงจํา ท่านแม่ให้นางรักษาแผนที่นี้ให้ดี
ตอนนี้ที่ถือแผนที่อยู่นั้น นางเพียงแค่ลังเลเล็กน้อย จากนั้นก็
ฉีกออกเป็นสองแผ่น
แผนหนึ่งโยนเข้าไปในระบบ ในสมอง
ส่วนอีกแผ่น นางลังเลเล็กน้อย จากนั้นก็พับ แล้วเอาไปให้ผู้ เฒ่าชู
“นี่คือ?” ผู้เฒ่าซูหนวดและผมขาวไปหมด เป็นข้าราชการ แผ่นดิน มีอำนาจในราชสำนัก และผู้เฒ่าก็เป็นผู้ก่อตั้งจาน และซูไท่ซือในปัจจุบัน
ถือแผนที่ในมือ แววตาของผู้เฒ่าเป็นประกาย “แผนที่ทรัพย์ สมบัติของราชวงศ์ก่อน?”
“เฉียวเอ๋อไม่ทราบเจ้าค่ะ อันนี้ท่านแม่เหลือไว้ให้ ก่อนท่านจะ
จากไป ได้บอกว่าต้องมอบให้ท่านทวดเจ้าค่ะ เพียงแต่ว่า…..พี่ ใหญ่อยากมอบให้องค์รัชทายาท ขาบอกว่าต้องขอท่านทวดเสีย ก่อน แต่ขากลับโดนซ้อมตีอย่างหนักหน่วง ให้ข้าเก็บไว้เป็น ความลับเจ้าค่ะ!” ซูเฉียวพูดอย่างระมัดระวัง
นางเป็นคนที่อ่อนแอและใจไม่กล้ามาตลอดที่อยู่ในบ้านนี้
ก็ย่อมต้องปลอมตัวดีๆ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ