พระชายาเอก

บทที่ 13 แน่นอนต้องยกเลิกการสมรส คุณชายเล็ก โจวชื่น ชอบช้า



บทที่ 13 แน่นอนต้องยกเลิกการสมรส คุณชายเล็ก โจวชื่น ชอบช้า

โจวไปมู่มองดูจากระยะไกล ปรบมือด้วยแล้ว “เยี่ยมมากจริง ๆ นังหนูน้อยนี้ ฝีมือใช้ได้นะ มองไม่ออก!”

พลางสั่นศีรษะแล้ว

ในที่สุดเขาก็รู้ว่าทำไมเขียวหันถึงปล่อยให้ตัวเองจ้องแล้ว

ตามที่คาดน่ากลัวจริง ๆ

ชิวหลันเซียงโกรธไม่เบา แต่ไม่กล้ากระโตกกระตากด้วย นาง รู้ ตอนนี้ตนเองสู้ไม่ชนะซูเฉียว

ดังนั้น ในวันถัดไปเอาอาหารเสริมและผ้าพับที่ล้ำค่ากอง เบ้อเร่อมาดูซูเฉียวแล้ว

นางต้องรักษาเท้าของซูชิงให้หายดี

แต่คนรับใช้ของเซียงซือหยวนต่างเคยปรนนิบัติซูซือมาก่อน ทั้งหมด ยิ่งล้วนเหยียบซูเฉียวมาตลอด แม้ว่าหลายวันนี้จวน เทียนเกิดเรื่องหลายอย่างแล้ว แต่คนรับใช้เหล่านี้ไม่ได้รู้ทิศทาง ทั้งสิ้นแต่อย่างใด

ดังนั้น เวลานี้ท่าทีต่อซูเฉียวเลวร้ายมาก ซูเฉียวยังเหมือนเมื่อก่อนดังเดิม ลักษณะขวัญอ่อนกลัวเกิด เรื่อง “อาหารเย็นเกินไปแล้ว”
“มีกินก็ไม่เลวแล้ว ยังเลือกแล้วเลือกอีก ไม่ดู ๆ ตัวเองมีฐานะ อะไร!”

“ก็ใช่ อย่าคิดว่าเข้าพักอาศัยในเชียงซือหยวนก็คือพระชายา

แล้ว รอจนนายหญิงออกมา เจ้าก็ต้องใสกลับไปที่เรือนของตน

วาจากล่าวถึงตรงนี้ สาวใช้ใหญ่สองคน ยังผลักกับจานผักลง บนพื้นจานหนึ่ง “ไม่คิดกินก็อย่ากินแล้ว

“เพียะ!” เสียงใสชัดเสียงหนึ่ง จานตกแตกละเอียด ผัก กระจัดกระจายไปทั่วพื้นแล้ว

ซูเฉียวตกใจจนต้องก้าวถอยหลังไปแล้วก้าวหนึ่ง ใบหน้าซีด ขาว กล้าโกรธไม่กล้าพูดจา

เสียงนี้ ยังทำให้ผิวหลันเชียงที่เดินเข้ามาแล้วตกใจไปด้วย

ตอนนี้นายหญิงซูถูกคุมขัง บน ๆ ต่าง ๆ ในจวนย่อมต้องให้ วหลนเซียงเป็นผู้ดูแลแทนชั่วคราวแล้ว

นางเข้านอกออกในที่ไหน ย่อมไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

“เรื่องอะไรกัน?” ทันทีที่ชิวหลันเซียงเข้ามาถึง ได้เห็นเศษชิ้น ส่วนบนพื้นดิน ก็นึกถึงฉากนั้นที่ซูซื้อถูกกรีดเท้าเมื่อคืนก่อน ดวงตาแดงไปหมดแล้ว

เสียงยิ่งเย็นยะเยือกผิดปกติ

“นายหญิงชิว” ซูเฉียว รับคำแล้วเสียงหนึ่ง ก้มศีรษะลง ท่าที ได้รับการระบายโทสะ
เมื่อสาวใช้ใหญ่สองคนเห็นคนที่มาเป็นนายหญิงชิว ไม่ได้มี ความยินดีมากเท่าไรในการแสดงความเคารพยามพบกัน กลับ เชิดศีรษะ “นายหญิงมาแล้ว คุณหนูรองกล่าวว่านางไม่คิดกิน อาหารจานนี้!”

ไม่ปิดบังอะไรทั้งนั้น

นายหญิงชิวส่งเสียงมอย่างเย็นชาคราหนึ่ง “ไม่อยากกินก็ ขว้างทิ้งเถิด!”

“ใช่ บ่าวก็รู้สึกแบบเดียวกัน !” สาวรับใช้ใหญ่คนหนึ่ง รีบ ตอบเสียงหนึ่งเข้ามาด้วย

“ทหารเอาสองคนนี้ที่ไม่เข้าใจกฎระเบียบ บ่าวซึ่งดูถูกเจ้านาย ออกไปโบยสามสิบกระดาน นำออกไปขายแล้ว!” นายหญิงชิว มองไปที่ซูเฉียวที่ก้มศีรษะท่าที่เอียงอายอยู่ด้านข้าง ในใจก็เกิด ความหวาดกลัว นั่งหนูน้อยคนนี้กลายเป็นน่ากลัวแบบนี้ตั้งแต่ เมื่อไร

ทุกอย่างล้วนได้คำนวณอย่างเหมาะเหม็งขนาดนั้น ดูเหมือน รู้มาก่อนนานแล้วว่าตัวเองจะปรากฏขึ้นในเวลานี้ปานนั้น

มีประสบการณ์ของเมื่อวานแล้ว วันนี้นายหญิงชิวไม่กล้ายั่ว เฉียว

แต่ยังยิ่งต้องประจบนางให้ดี ให้นางบอกตนเองว่าใคร สามารถรักษาเท้าของซูชิงให้หายได้ ดังนั้นนางต้องมาทำเป็นคนชั่วคนนี้
สาวใช้ใหญ่สองคนไม่ได้คิดว่านายหญิงซิวจะพูดแบบนี้ ต่าง ตกใจแล้ว

หนึ่งในนั้นอาศัยที่เคยปรนนิบัติซูซือมาก่อน เชิดศีรษะแล้ว กล่าวว่า “เจ้าเป็นนายหญิงคนเดียว อาศัยอะไรมาขายเรา?”

“เพียะ!” เสียงหนึ่ง ชิวหลันเซียงรังเกียจที่สุดกับการที่คนอื่น พูดแบบนี้กับนาง นางยกมือก็ตบปากให้สาวรับใช้ตัวใหญ่คน นั้นแล้ว ใช้แรงทั้งหมด “นังสาวเลว! ยังคิดว่าเซี่ยเม่ยปกป้อง พวกเจ้าน่ะ จำไว้แล้ว จวนซูตอนนี้ ข้าเป็นผู้ดูแลบ้านเรือน!

ชิวหลันเซียงกล่าวอย่างรุนแรง โกรธไม่เบา หอบหายใจ ตลอด

หญิงรับใช้คนที่ถูกตบ หน้าเอียงไปข้างหนึ่ง มุมปากล้วนเต็ม

ไปด้วยเลือด

ก็ถูกลักษณะของชิวหลันเชียงทำให้ตกใจแล้ว

ตัวสั่นงันงกไม่กล้าพูดจา

“ลากลงไป!” ชิวหลันเชียงรู้ว่าตนเองสูญเสียสถานะแล้ว รีบ ปรับอารมณ์ให้เหมาะสมโดยเร็ว

“ให้ห้องครัวส่งอาหารเช้ามาใหม่อีกครั้ง” ตามด้วยชิวหลันเซี ยงสั่งผู้รับใช้ข้างกายอีก

ฝูงชนวางของขวัญพวกอาหารเสริมและผ้าพับลง จึงถอยลงไปแล้ว
ซูเฉียวนั่งกลับลงไปที่โต๊ะอีกครั้งแล้ว “ขอบใจนายหญิงแล้ว

“คุณหนูรอง อาศัยอยู่ที่นี่ยังเคยชินไหม ถ้าไม่คุ้นเคย ข้าให้ คนของเรือนฟางหัวเก็บกวาดออกมา!” นายหญิงซิวกล่าวด้วย ใบหน้าที่ประจบประแจง

ตอนนี้นางยั่วใครก็ได้ แต่ไม่กล้ายุ่งกับซูเฉียว

“ไม่ต้องแล้ว ที่นี่ยังดี” ซูเฉียวทั่วหน้าไม่สนใจ

นางไยไม่รู้ว่าสาวใช้สองคนนั้นเป็นชิวหลันเซียงจงใจทิ้งไว้ เพิ่มภาระให้นาง

ความคิดอ่านของผู้หญิงคนนี้ นางเข้าใจดีเกินไปแล้ว ทำให้ในใจชิวหลันเซียงไม่มีหลัก หรี่ ๆ ตามองดูซูเฉียว

“ถ้าเช่นนั้นคุณหนูรอง เท้าของคุณหนูสาม…” ชิวหลันเชียงยัง คิดจะเอ่ยปากถามประโยคหนึ่ง แต่กลับถูกซูเฉียวขัดจังหวะแล้ว “นายหญิงข้านี่แต่เช้าก็ถูกคนรับใช้รังแกแล้ว อารมณ์ไม่ค่อยดี มี เรื่องอะไร ภายหน้าค่อยพูดกันอีกเถิด!”

กล้าขวางนาง นางย่อมไม่ปล่อยให้ผิวหลันเชียงผ่านชีวิตดี ๆ นางคนนี้ไม่มีจุดเด่นอะไร ก็คือชอบจดจำความแค้น!

“คุณหนูรอง…” ชิวหลันเซียงอดทนความโกรธไว้ เรียกอีกครั้ง แล้ว “ข้าต้องเลือกคนรับใช้ที่เป็นงานดี ๆสองคนส่งมา!”

“เป็นงาน?” ซูเฉียวเลิกคิ้ว “พวกเขาต่อหน้าพี่ใหญ่ยังค่อนข้าง เป็นงานน่ะ!”
พลันชิวหลันเซียงไม่รู้จะรับมืออย่างไรแล้ว

ผ้าเช็ดหน้า ในมือถูกนางอย่างรุนแรง โกรธจนแทบเป็นบ้า แล้ว

ยิ่งคิดว่ารอจนเท้าของซูชิงได้รับการรักษาดีแล้ว ค่อยจัดกา รนังหนูสารเลวคนนี้ดี ๆ

ตอนนี้อยู่ในจวนซูนี้ ใครบ้างที่ไม่ประจบนาง? ซูเฉียวกันให้ ชักสีหน้าให้นางอีกครั้งแล้วครั้งเล่า

“หรือเป็นเช่นนี้ อีกสักพักให้แม่บ้านส่งคนรับใช้หลายคนมา ให้เจ้าเลือก ดู ๆ ที่เจ้าต้องตา!” เพื่อรักษาบุตรสาวของตนเองให้ ดีขึ้น ชิวหลนเซียงได้แต่เพียงกลืนความโกรธไว้ชั่วคราวแล้ว เท่านั้น

ซูเฉียวนี่จึงพยักหน้าแล้ว “ก็ตกลงเช่นนี้แล้วเถิด”

เวลานี้อาหารถูกส่งมาจากห้องครัว ซูเฉียวก็สั่งให้ขับไล่แขก แล้ว

มองดูเงาหลังของชิวหลันเซียงที่โกรธขึ้งจากไป ซูเฉียวส่ง เสียงอิ่มอย่างเย็นชาแล้วคราหนึ่ง “นังสารเลวที่สายตาสั้นนัก!”

ถ้านางคิดให้เชี่ยเม่ยกลับคืนอิสรภาพ เพียงแค่เรื่องขยับนิ้ว มือเท่านั้น

ยังรอให้นายหญิงคนหนึ่งมาอาละวาดอยู่ที่นี่อีกเหรอ? “ช่างเป็นการแสดงละครที่ดีเรื่องหนึ่ง!โจวไปได้รับคำสั่งของเซียวหันให้มาจ้องดูซูเฉียวอยู่ที่นี่ เวลานี้สืบเท้าก้าวใหญ่ เดินเข้ามา ตบมือพลาง หัวเราะพลาง

จริง ๆ แล้วเขาก็รู้ด้วยว่าซูเฉียวได้พบเห็นเขามานานแล้ว

“คุณชายเล็กโจวมีเวลาว่างมากจริง ๆ หรือ? เจ้าเข้ามาใน

ห้องนอนข้าบ่อย ๆ แบบนี้ เป็นชื่นชมข้า? เจ้าว่า…ถ้าข้าตะโกน

เสียงดังทันที วันข้างหน้าข้าจะได้รับชื่อแซ่ของเจ้าสวมเป็นมงกุฎ

ไว้ไหม? หลังจากทั้งหมด เมื่อเทียบกับอ๋องหัน คุณชายเล็กโจ

วสามารถเข้าถึงผู้คนได้ง่ายกว่ามากแล้ว” ซูเฉียวมองดูอาหารที่

อยู่เต็มโต๊ะ กลับหิวอยากอาหารมาก ตอนนี้ ยิ่งแกล้งทำเป็นมอง

ดูโจวไปอย่างหลงใหล

นางไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องอาหารมีพิษ เพราะในระบบสมอง ใหญ่จะเตือนนางเป็นครั้งแรก

ดังนั้น กินอย่างมีรสชาติเอร็ดอร่อย

ใบหน้าของโจวไป ก็กลายเป็นสีขาวแล้วทันที ถูกคำพูดของ

ซูเฉียวข่มขู่จนกลัวซีดไปแล้ว “เจ้าเป็นสาวเป็นแส้คนหนึ่ง ไม่รู้ว่า อับอายสองตัวอักษรเขียนอย่างไรหรือ?”

“ข้าคิดว่าคนที่ไม่รู้วิธีการเขียนสองคำนี้ ควรเป็นคุณชายเล็ก โจวจึงถูก” ซูเฉียวส่งเสียงฮมเย็นชา ล้วนเป็นสุกรที่อวดดีกันเอง ฝูงหนึ่ง

“ข้า… โจวไปไม่มีอะไรจะพูดตอบโต้

สีหน้าก็เปลี่ยนไปแล้วเปลี่ยนไปอีก
เขารู้สึกว่าปัญหานี้ยอดเยี่ยมจนตนเองมิอาจรั่วได้ ยังคงส่งมอบคืนให้เซียวหันจัดการเองเกิด สะบัดพัดทันที หันหลังก็เดินจากไป

“อย่าลืมกลับไปบอกเซียวหัน เรื่องการสมรส ข้าจัดการได้ เอง!” ซูเฉียวรู้สึกว่าการสมรสไม่ได้เป็นเรื่องเด็กหยอกเล่น ไม่ว่า ก่อนหน้านี้ซูเฉียวรักเซียวหันมากเท่าไร นางไม่ชอบก็ไม่เอาเด็ด ขาด

เขารังเกียจนาง? นางยังไม่เห็นอยากจะได้เขาน่ะ

“หมายความว่าอะไร?” โจวไปมู่หยุดฝีเท้า หันหลัง จ้องมอง เฉียวอย่างไม่น่าเชื่อ

เรื่องนี้ เขาเป็นกังวลมากด้วย

ถ้ารู้สึกว่าซูเฉียวสมรสเข้าจวนอ๋องหัน จะไม่เป็นผลดีต่อเชียว หันมากเกินไปแล้ว

ซูเฉียวค้อนให้แล้วคราหนึ่ง มองดูคนโง่งมปานนั้น “เจ้าหู หนวกแล้วหรือ!”

“เจ้า เจ้า จะยกเลิกการสมรสเหรอ?” โจวไปมู่คิดว่าตนเอง สุขภาพแข็งแรง สมองคล่องแคล่วว่องไว ดังนั้น เขาจึงคิดว่า ตนเองแว่วยินเสียงหลอนไปแล้ว

“แน่นอน ต้องยกเลิกการสมรส!” ซูเฉียวกล่าวอย่างสมเหตุสม ผล “ทำไม ได้ยินว่าข้าต้องการที่จะเป็นอิสระ คุณชายเล็ก โจวตื่นเต้นจนพูดจาไม่ออกแล้ว? ยังพูดไม่ใช่ชื่นชมข้าว”

ไม่ว่าใบหน้าที่ดูเหมือนจะถูกพิษของโจวไปนั้นจะเป็นสีเขียว คล้ำเจือม่วงปานนั้น ซูเฉียวกล่าวอย่างช้า ๆ อีกประโยคแล้ว “แต่ คุณชายเล็ก โจว ตอนนี้ ขายังมีนัดหมายการสมรสไว้กับ อ๋องหัน เจ้าคิดจะขุดมุมกำแพงของอ๋องหันแบบนี้ ใช่มิใช่ไม่ค่อย เหมาะสมนะ?”

แน่นอน “เป็นความผิดในตอนแรกเริ่มเยาววัยมิรู้ความ ยัง ตาบอด!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ