พระชายาเอก

บทที่ 14 ยามวิกาลทำลายชื่อเสียง



บทที่ 14 ยามวิกาลทำลายชื่อเสียง

ขณะที่โจวไป ออกจากจวน หน้าผากล้วนเป็นเหงื่อเย็นทั้งหมด

เขานับว่าได้เผชิญพบเห็นความหน้าด้านของซูเฉียวแล้ว

พูดวาจาแบบนั้นออกมาได้ยังไง?

เขารู้สึกหัวใจตับและปอดได้รับการกระตุ้นทั้งหมดแล้ว

ดังนั้น ต้องไปหาเซียว หันค้นหาการปลอบใจ

ตอนนี้เซียวยี่หันกับแพทย์พิษวิทยาและเฝิงใต้บังคับบัญชา ของเขากำลังวิเคราะห์ยาพิษขวดนั้นในจวน

“พี่น้อง!” โจวไปมู่เช็ดเหงื่อบนใบหน้าปราดหนึ่งทันทีแล้ว เห็น บินเข้าไปในจานอ๋องอย่างรวดเร็วเหมือนมีผีไล่ตามเขาปานนั้น ด้านจวนซูนั่น เจ้าเชิญยอดฝีมือคนอื่นเถิด!”

เพิ่งได้เห็นบนใบหน้าของโจวไปค่อนข้างกระอักกระอ่วน ปกติมักโบกพัดแสร้งทำท่ากะล่อนเจ้าสำราญ วันนี้พัดไม่ได้เปิด คลี่ ก็รู้สึกนอกเหนือความคาดหมายบ้าง “คุณชายเล็ก โจวจะ เปลี่ยนนิสัยแล้ว?”

ไม่สนใจเฝิง โจวไปได้เล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในจวนซู ตามเหตุการณ์ทั้งหมดออกมาแล้วอย่างรวดเร็ว ลักษณะดูได้รับความตกใจมากเกินไปแล้ว เซียวยี่หันกำลังถือขวดยา มองดูโจวไม่เหมือนอย่างมองดูคนโง่งมแล้วคราหนึ่งปานนั้น

สำหรับสายตาของเซียวยี่หันเช่นนี้ โจวไปรู้สึกคับข้องใจได้ ความเป็นธรรมอันไม่มีที่สิ้นสุด “เจ้าข้าพี่น้องรอบหนึ่ง เจ้ามิอาจ ให้ข้าตกอยู่ท่ามกลางน้ำไฟนะ

“เจ้าสืบพบอะไรแล้ว?” เซียวยี่หันดูราวกับไม่ได้ยินข้อกล่าว หาต่อว่าเหล่านั้นของเขาเมื่อครู่ ถามอย่างจริงจัง

ในช่วงเวลานี้ โจวไปสู่จึงคิดได้ถึงภารกิจของตนที่ไปยังจวน ส่ายหน้าอย่างหมดหนทางแล้ว “ไม่มี” แลกได้เซียวยี่หันหนึ่งค้อนประหลักประเหลือกแล้ว

ไม่คิดจะสนใจเขาอย่างสิ้นเชิง

“แต่ทว่า ฟังความหมายของนาง นางรู้ว่าใครสามารถรักษา เท้าของซูชิง ให้หายได้” โจวไปม่รู้ว่าตนเองทำผิดพลาด ไม่ สามารถสืบหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากตัวซูเฉียว

เขาถูกซูเฉียวทำให้ตกใจแล้วจริง ๆ

เซียวยี่หันกับฉู่เฝิงต่างฝ่ายสบตากันคราหนึ่ง ในก้นบึงดวงตา ทั้งหมดมีประกายสลัวปาดหนึ่งแวบผ่านไป

ที่ต้องการก็คือผลเช่นนี้

“ดูไปแล้ว เบื้องหลังนางต้องมียอดคน!” ฉู่เส็งหรี่ตาแล้ว “เมื่อ เป็นเช่นนี้ ทุกอย่างก็ล้วนสามารถอธิบายได้แล้ว”

“แจ้งวัดต้าหลี่ด้านนั้นปิดคดีของจวนซูแล้วเถิด!” เซียวหันกล่าวเสียงทุ้มต่ำ

“ท่านอ๋อง!” เฝิงหรี่ตาแล้ว “คุณหนูใหญ่ซูคนนี้…

“เฝ้าจ้องดูอีก!” วาจานี้เซียวหันกลับกล่าวกับโจวไป

เวลานี้โจวไปม่กลัวซูเฉียวแล้ว สั่นศีรษะอย่างแรง “สามารถ เปลี่ยนคนใดไหม?”

เซียวหันมองเขาคราหนึ่ง “ทำไม คิดจะสมรสกับนาง ดังนั้น เริ่มหลบเลี่ยงรังเกียจแล้ว?”

ความหมายในวาจา ถ้าไม่คิดสมรสก็อย่าหลบเลี่ยง ทำต่อไป

ยกเลิกการสมรสกับเขา สมรสกับโจวไป นี่จริง ๆ เป็นความ คิดที่ดีมากความคิดหนึ่ง

แต่พูดไปกลับขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน

เขารู้สึกว่าซูเฉียวกำลังรนหาที่ตายมากจริง ๆ ! คิดจะยกเลิกการสมรสก็ต้องให้เขามายกเลิก!

ลักษณะโจวไปมู่ที่มหลงใหลกับสิ่งใด ๆ ในชีวิตแบบนั้น กำลัง นั่งอยู่บนหลังคาของซูเฉียว ตอนนี้เขาไม่กล้าเดินเข้าไปในห้อง ของซูเฉียวแล้ว

เพียงแต่ในช่วงเวลาที่เขากำลังเหม่อลอย คนชุดสีดำสองคนก็ ถูกโยนออกมาแล้ว ทั้งสองต่างถูกแทงใส่จุดที่สำคัญแล้ว

ที่ตายก็ตายไม่ได้อีกแล้ว
ตามด้วยซูเจียวก็เดินออกมาด้วยแล้ว บนร่างคลุมเสื้อคลุม ข้างนอกชุดหนึ่ง ผมยาวสยายอยู่ข้างหลัง ดูเหมือนได้หลับไป แล้ว ถูกรบกวนการนอนหลับแล้ว ท่าที่ไม่ค่อยสุขสบาย

ยกเท้าเตะไปที่คนชุด ซึ่งได้สิ้นลมไปแล้วครั้งหนึ่ง กลอก ดวงตาไปมา หัวเราะเสียงเย็นชาแล้วทันที “เชี่ยเม่ย เจ้ายังไม่ได้ หยุดจริง ๆ ถึงเวลานี้ยังไม่รู้จักสำนึกกลับใจข้าให้ของขวัญที่ยิ่ง ใหญ่ชุดหนึ่งแก่เจ้าแล้ว!”

พลางเอาคนชุดด่าแบกไว้บนร่างแล้ว ออกไปจากเซียงซื้อ หยวนอย่างรวดเร็ว โจวไปมีอึ้งไปแล้วทันที รีบโคจรพลัง ลมปราณขึ้นตามไปแล้ว

ที่ซูเฉียวไป เป็นเรือนของนายหญิงซูซึ่งกำลังปิดประตู ใคร่ครวญความผิดพลาดพอดี

บนร่างนางแบกคนคนหนึ่งไว้ ก็กระโดดข้ามกำแพงสูงไปแล้ว อย่างง่ายดายเช่นนั้น เข้าไปในเรือนอย่างไรสุ่มเสียงแล้ว

และแล้วจัดท่าทางคนชุดดำที่สิ้นลมไปแล้วนั้นไว้ทาหนึ่ง แขวน ไว้ที่ด้านนอกหน้าต่างของนายหญิงแล้ว

ตามด้วยป้ายเลือดบนร่างของคนชุดสีดำไว้ในทุกที่ทุกแห่ง ปรบมืออย่างพอใจทั้งหมด “หวังว่าท่านแม่จะชอบ!

โจวไป๋มู่ที่มองดูทุกสิ่งนี้ ในใจเย็นวาบอีกครั้งแล้ว

ยั่วใครก็ได้ทั้งหมดมอาจยั่วผู้หญิง เขากลับรู้สึกว่ายั่วใครก็ได้ มิอาจยั่วซูเฉียวด้วย
เรื่องอะไรก็ทำออกมาได้

ซูเฉียวทำเสร็จทุกอย่างแล้ว ก็กลับไปที่เรือนของตนเองแล้ว ตลอดทางโจวไป ติดตามอยู่ด้านหลังอย่างใกล้ชิด

เพียงแต่เดินพลาง ๆ จู่ ๆ ซูเฉียวก็หันหลังกลับมาทันที ร่าง แฉลบก็ยืนอยู่ตรงหน้าของร่างโจวไปแล้ว ยกมือขึ้นก็คว้าแขน เสื้อไว้ข้างหนึ่งแล้ว “ทหาร มีมือสังหาร!

โจวไปที่ไม่ทันตอบโต้กลับคิดสลัดนางทิ้ง ไม่ทันแล้ว มีคนรับใช้ที่อยู่รายรอบเอาคบเพลิงล้อมเข้ามาแล้ว

เพราะเรื่องป้าจางถูกวางยาพิษถึงตาย สองวันนี้ซูชื่อฟังก็กลัว มากสุดขีด เพิ่มองครักษ์เฝ้าระวังเรือนในเรือนขึ้นมาก ผลักเวร ยามเฝ้ากันสิบสองชั่วยาม

ดังนั้นทันทีที่ด้านนี้มีการเคลื่อนไหว ทั้งหมดก็ล้อมเข้ามาแล้ว แม้แต่ซูซื่อชังก็คลุมเสื้อรีบมาที่นี่

“คุณชายเล็ก โจว!” ซูชื่อยังรู้สึกว่าศีรษะค่อนข้างโตบ้าง “ทําไมถึงเป็นเจ้า?”

โจวไป แทบอยากบีบคอซูเฉียวให้ตาย แต่กลับอดทนไว้ เท่านั้น ใช้แรงสะบัดมือของซูเฉียวแล้วทันที กลับไม่สามารถสลัด หลุดออก

ไม่คิดว่าเวลานี้ซูเฉียวกลับกล่าวเสียงสั่นว่า “มีมือสังหาร ยกนิ้วชี้ไปทางเรือนของตนพลาง
กล่าวอย่างประจบสอพลออีกว่า “ขอบคุณคุณชายเล็ก โจวที ช่วยเหลือ…ซูเฉียว ขอบคุณมากอย่างซาบซึ้ง!

ตอนนี้ทุกคนจึงเข้าใจ ที่แท้โจวไป ไม่ใช่มือสังหาร แต่เป็นผู้ที่ ยื่นมือออกช่วยคน

โจวไปมู่พ่นลมหายใจขุ่นออกมาคำหนึ่ง เขารู้สึกว่าตนเอง ต้องตาย ในมือของซูเฉียวไม่ช้าก็เร็ว มีการจัดการคนแบบนี้ ไหม?

“ที่แท้เป็นคุณชายเล็ก โจวช่วยชีวิตบุตรสาวแล้ว ข้าผู้เฒ่า ซาบซึ้งอย่างไม่สิ้นสุด!” ซูซื่อซังยังระบายหายใจออกมาคำหนึ่ง ถ้าโจวไป อยากสังหารคน ก็คือส่งไปที่จวนขุนนาง กลัวว่าพรุ่งนี้ ต้องปล่อยตัวออกมาแล้วด้วย

นั่นก็คือเป็นห่วงเป็นกังวลไม่มีที่สิ้นสุดแล้ว

สีหน้าของโจวไม่เปลี่ยนไปแล้วเปลี่ยนอีก ก้มศีรษะลงจ้องซู เฉียวแล้วอย่างดุดันคราหนึ่ง ที่แท้นางลากเขาลงในน้ำไปแล้ว ไม่สงสัยเลยว่าเพิ่งลงมืออย่างดุดันขนาดนั้น ที่แท้ได้วางแผนทุก อย่างไว้แล้วแต่เนิ่น ๆ

เขาไม่เคยรู้สึกว่ามีผู้หญิงคนไหนที่น่ากลัวขนาดนี้

ทำให้เขาคิดอยากห่างไปไกลจริง ๆ ยิ่งไกลยิ่งดี

“แต่นี่ดึกดื่นค่อนคืนแล้ว คุณชายเล็กโจวทำไมมาปรากฏตัว อยู่ที่นี่ได้?” แม้ว่า ซูซื่อซังเป็นวิถีแห่งซานกง วาจาต่อหน้าฮ่องเต้ มีน้ำหนักสามส่วน
กลับเคารพนอบน้อมต่อตระกูลโจวด้วย

เห็นได้ถึงตำแหน่งของตระกูลโจว

เวลานี้ เขากลับรู้สึกว่าซูเฉียวยืนเคียงข้างด้วยกันกับโจวไป ยังค่อนข้างง่ายดูสบายตาด้วย

บุตรสาวคนหนึ่งสมรสเข้าจวนรัชทายาท มีอำนาจ ถ้าเฉียว สามารถเข้าไปในจวนใจ ก็คือมีความมั่งคั่งแล้ว

ดังนั้น เวลานี้ ดวงตาทั้งคู่ของซูซื่อซังต่างเป็นประกายแล้ว เขาหวังจริง ๆ ว่า ซูเฉียวมีอะไรบ้างกับโจวไป…

แน่นอน เขาเพียงสามารถคิดอย่างนี้ แต่ไม่สามารถแสดงออก บนใบหน้าได้ ตอนนี้ ใบหน้ายิ่งดูเย็นชา “คุณชายเล็ก โจว นี่ พัวพันถึงชื่อเสียงของบุตรสาว!”

ได้มีผู้รับใช้หามผู้ที่อยู่ชุดสีดำตายสนิทเข้ามาแล้ว เตรียมส่ง ไปยังจวนขุนนาง

ส่วนโจวไปเวลานี้ยิ่งยากจะกล่าวโต้แย้งได้

มีทุกข์พูดไม่ออก

ได้แต่ยิ้มแล้ว คราหนึ่ง “ข้าน้อยเพียงผ่านมาที่นี้ พบว่ามี คนร้ายบุกเข้ามาในจวน ดังนั้น… ผ่านมาเห็นความไม่เป็นธรรม จึงยื่นดาบเข้าช่วย ก็เป็นเช่นนี้!”

โจวไปมู่มีเพียง ใช้เหตุผลนี้เท่านั้นมา โน้มน้าวตัวเองให้ยอม ความแล้ว
ตอนนี้เขาแค่คิดอยากให้เขียว หันปลอบใจจิตวิญญาณที่ได้ รับบาดเจ็บของตนเองสักคราเท่านั้น

เหมือนนั่งหนูปีศาจอย่างซูเฉียวแบบนี้ มีเพียงเดียวกันที่ สามารถทนได้เท่านั้น เขากลัวแล้วจริง ๆ

“อ้า…” เวลานี้เรือนด้านหลังกลับส่งเสียงกรีดร้องแหลมเสียง หนึ่งออกมา เสียงน่าสังเวช ยาวนาน พรึงกลัวสุดขีด… ดูเหมือนได้เห็นสิ่งที่น่าสะ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ