พนันรักร้ายเจ้าชายปีศาจ

ตอนที่ 3



ตอนที่ 3

“ไหนมีอะไรเล่ามาซิ” ฉันพูดกับยัยเองทันที เมื่อเห็นมันเดิน สะลึมสะลือมาเปิดประตูห้องให้

“พี่พอสแม่งนอกใจว่ะ..ทำไมผู้ชายทุกคนก็คิดได้แค่นี้วะ รัก กันแบบใสๆไม่ได้ไง ไม่รู้จักพอ ต้องไปมีคนอื่น คอยดูนะ จากนี้ ฉันจะไม่มีความรักอีกแล้ว” หลัง

เอิงเอยพ่นออกมาเป็นชุด มันเป็นคนที่จัดว่าสวยมากเลยคน หนึ่ง แต่โชคร้ายเจอแต่ผู้ชายเจ้าชู้ อย่างแฟนรายล่าสุดก็เหมือน กัน ฉันและใครๆก็ดูออกว่ามันเจ้าชู้ แต่ไอเองก็บอกว่า เขาดีกับ มัน และก็ให้เกียรติมันด้วย ไม่ล่วงเกินตามที่มันขอ แต่สุดท้ายก็ แล้วไงล่ะ ลายออกแล้วสินะ

“ฉันก็บอกแล้ว ว่ามาโสดเป็นเพื่อนกันดีกว่า ฉันเห็นแกแล้ว ยิ่งคิดได้ว่าไม่มีแฟนนะดีละเลง”

“เออดี เรามาโสดด้วยกัน แกห้ามมีแฟนนะเว้ย โสดเป็น

เพื่อนฉัน!” อยู่ๆไอเองก็พูดขึ้น

มาด้วยความหึกเหิม ปราศจากอารมณ์เศร้าใดๆทั้งสิ้น

ผีอะไรเข้าสิงมันวะเนี่ย

“เออๆ ไม่มีอยู่ล่ะ อยู่คนเดียวก็สบายจะตาย อยากทำอะไรก็ทํา อยากไปไหนก็ไม่ต้องขอใคร ไม่ต้องพะว้าพะวงหลังว่าแฟน จะมีคนอื่นด้วย”

“โอเค งั้นเสาร์นี้เราไปช้อปปิ้งกันนะ ฉันอยากช้อปเพื่อลืม แล้วเริ่มต้นเป็นคนใหม่” ไอเอ็งพูดด้วยแววตาเป็นประกาย เป็นการบ่งบอกว่าเพื่อนฉันคนนี้ หายเศร้าไปแล้วจริงๆ

“ตรรกะไรของแกเนี่ย เกียจกลับหอแล้ว” เออๆ นอนได้ล่ะ ฉันขอนอนด้วยนะ

“เออ นอนด้วยกันนี่ล่ะ ฉันชอบนอนกอดแก ตัวนุ่มนิ่ม ฉัน ชอบบบ”

“ไอ้บ้า ขนลุกโว้ย” ว่าแล้วมันก็วิ่งไล่กอดฉันทั่วห้อง นี่ถ้ามัน ไม่ได้เป็นเพื่อนสนิทกับมัน แล้วรู้ว่ามันชอบผู้ชายนะ คงคิดว่ามัน เป็นเลสเบี้ยนไปล่ะ

เพราะมันอะ ทั้งขี้อ้อนแล้วก็ชอบเข้ามากอดฉัน อย่างตอนนี้ ก็ด้วย ที่นอนกอดฉันจนหลับไป..

ฉันพายัยเอิงมาเดินช้อปปิ้ง ตามที่มันบอกว่าอยากเปลี่ยน เป็นคนใหม่ โดยการปลดปล่อยเงินออกจากกระเป๋า มันเป็นคน ที่รวย เลยใช้วิธีนี้ระบายความเครียดได้สบายๆ ซึ่งแตกต่างจาก ฉัน ถ้าอยากได้ของแบรนด์แนมสักชิ้น ฉันคงต้องเก็บเงินเป็น เดือน เผลอๆอาจจะซื้อบางอย่างในร้านนี้ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

แต่ฉันก็ไม่สนใจหรอกนะ ซื้อของตามตลาดนัดก็ใช้ได้ เหมือนกัน ประหยัดด้วย แต่ฉันก็ไม่ว่าคนที่มีกำลังซื้อหรอกนะ ความสุข ใครความสุขมัน แค่ความสุขฉันไม่ใช่สิ่งของเหล่านี้เท่านั้นเอง

ขณะที่ฉันกำลังเดินดูกระเป๋ากับไอเอิง ฉันก็เจอกระเป๋าหนึ่ง

‘สวย แหะ’

แต่พอหยิบราคามาดูแล้วถึงกับต้องวางลง กระเป๋าบ้าอะไร ราคาตั้งแสนห้า เอามากินข้าวได้เป็นพันๆมื้อเลยนะนั่น

ระหว่างที่ฉันกำลังไว้อาลัยกับกระเป๋าใบนั้น ฉันก็เห็นผู้ชาย คนที่ทำให้ฉันโมโหเมื่อคืนก่อน จะใครซะอีกล่ะ ก็อีตาไนท์อะไร นั่นไง กำลังเดินมากับผู้หญิงที่หน้าตาน่ารักมากเหมือนตุ๊กตาเลย เธอเดินเกาะแขนนายนั่นเข้ามาด้วยความสนิทสนม

น่าสงสารเธอคนนั้นเป็นบ้า คงเป็นแฟนไม่ก็นึกหมอนั่นสินะ

แต่แล้วฉันก็นึกอะไรสนุกๆออก

กล้ามาขโมยจูบฉันเหรอ…ตาฉันเอาคืนบ้างแล้วล่ะ พอจังหวะที่ยัยเองไปลองเสื้อ ฉันก็จัดการก้าวขาเดินฉับๆไป หาหมอนั่นทันที

“ที่รักขาาาา” ฉันไม่พูดธรรมดา แต่เกาะแขนที่ว่างอีกฝั่ง ของนายนั่นไปด้วย จนผู้หญิงคนนั้นต้องปล่อยมือเขาออกไป

อยู่ๆก็รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นตัวร้ายเลยแหะ

การกระทำของฉัน เป็นผลให้ผู้ชายตัวโตข้างๆฉันตอนนี้หัน หน้ามามองแบบตกใจทันที
ช็อกล่ะสิ งานนี้โดนสาวเทแน่นอน!

ถึงแผนฉันจะชั่วที่อาจจะทำให้คู่รักเขาเลิกกัน แต่ผู้ชาย เฮงซวยแบบนี้ ฉันว่าฉันช่วยชีวิตผู้หญิงคนนี้มากกว่านะ

“บังเอิญจังเลยนะคะ เมื่อคืนแอมขอโทษน้า ถ้าแอมไม่ติด ธุระ คงได้ไปค้างด้วยกันตามที่ที่รักขอแล้ว” ทำไมอยู่ๆก็รู้สึก อยากตบตัวเองซะอย่างนั้น บางทีฉันอาจจะเหมาะกับการเป็น นักแสดงก็ได้นะเนี่ย

หลังจากฉันพูดจบ ผู้ชายตรงหน้าก็ยังหน้านิ่งมองมาที่ฉันไม่ วางตาเหมือนเดิม ส่วนผู้หญิงข้างๆ ก็เช่นกัน “แอมอยากได้กระเป๋าใบนั้นจังเลยค่ะ ซื้อให้แอมหน่อยสิ

ที่รัก” ฉันพูดสมทบไปอีกครั้ง ด้วยท่าทางและน้ำเสียงที่อ้อนที่สุด

เท่าที่ฉันเคยทำ และก็ไม่เคยทำแบบนี้กับผู้ชายคนไหนเลย

และหวังว่านี่ จะคือคำพูดสุดท้ายที่ทำให้คนตรงหน้า ต้อง ทะเลาะกัน แล้วตอนนั้นฉันจะยืนยิ้มอย่างภูมิใจในการแสดงของ ตัวเอง

แต่สิ่งที่อีกฝั่งตอบกลับมานั้น ทำให้ความฝันของฉันฟัง ทลายลงมาทันทีในพริบตา

“ได้ครับ สําหรับน้องแอม อยากได้กี่ใบ หยิบได้เลยครับ” เขาพูดพร้อมส่งยิ้มมุมปากมาให้อย่างเจ้าเล่ห์ พร้อมดึงตัวฉันไป โอบไหล่ด้วยความแนบแน่น

นี้ไม่เกรงใจผู้หญิงที่มาด้วยเลยเหรอ ต้องเลวขนาดไหนกันนะ ฉันเลยหันไปมองเธอคนนั้นซึ่งเธอมองมาที่ฉันแบบอึ้งๆเช่น

คงกำลังช็อกอยู่ล่ะสินะ

ฉันส่งยิ้มฝันไปให้ผู้ชายตรงหน้า ก่อนจะเบี่ยงตัว แล้วแกะ มือของผู้ชายคนนี้ออกไปจากการโอบไหล่ พร้อมหันไปมองหน้า ด้วยสายตาที่อยากจะโกรธแต่ก็ต้องเก็บอาการไว้แล้วแสดงต่อ ให้แนบเนียน

“เออนี่ เธออะ เป็นใครเหรอ พอดีพี่ไนท์เขามาจีบฉันอยู่ พี่ เขาคอยดูแลฉันดี กอย่างเลย อยากได้อะไรก็ซื้อให้ตลอดเลย

“จริงเหรอคะ” ผู้หญิงคนนั้นตอบกลับมาด้วยสีหน้าตกใจ เล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองผู้ชายข้างๆ

เริ่มได้ผลแล้วสิ…

“แล้วก็บอกว่า มีฉันคนเดียว ไม่มีใครเลยนอกจากฉันด้วย นะ” ใส่ไฟเข้าไปอีแอมๆ

“ว้าวว จริงอะเฮีย” แต่คราวนี้ เธอกลับพูดกลับมาด้วยสีหน้า แปลกใจ แต่เป็นแปลกใจที่ค่อนข้างไปทางดีใจซะมากกว่า ก่อน จะหันไปมองหน้าผู้ชายข้างๆอย่างล้อเลียนเล็กน้อย

เอาล่ะ จุดๆนี้ ฉันรู้แล้วว่า ฉันต้องรีบเก็บหน้าแตกๆของฉัน

ออกไปจากตรงนี้โดยด่วน

เพราะจากรอยยิ้มของผู้หญิงคนนี้ ทำให้ฉันรู้สึกว่า สองคนนี้

ไม่ได้เป็นคู่รักกันน่ะสิ!!!
ก็เล่นเดินกอดแขนกันกระหนุงกระหนิงขนาดนั้นตอนเข้าร้าน ใครก็ต้องคิดว่าเป็นคู่รักมั้ยล่ะ ว่าแต่ไม่เป็นคู่รักแล้วเขาเป็นอะไร กันหว่า?

“ใช่ครับ พี่มีแอมคนเดียว ไม่มีคนอื่นเลย

เอาล่ะ ชัดเจน…

ดูได้จากสายตาและน้ำเสียงล้อเลียนนั่น ที่ส่งมาให้ฉัน รวม ถึงสีหน้าที่เหมือนอยากจะทำออกมาซะเต็มที่ แต่ก็กลั้นหัวเราะ เอาไว้ ยิ่งเป็นการยืนยันอย่างชัดเจน ว่าฉันกำลังเข้าใจผิดจริงๆ

ระหว่างที่ฉันคิดว่าจะเอายังไงต่อกับสถานการณ์ตรงหน้า เสียงยัยเองก็ดังออกมาช่วยชีวิตฉันเอาไว้

“อ่าว เดย์!!”

เดย์งั้นเหรอ?

“อ่าว เอิง บังเอิญจังเลย” ผู้หญิงคนนั้นพูดขึ้นตอบกลับเอง เอย นั่นทำให้ฉันรู้โดยทันที ว่าคนนี้คือคนที่ชื่อเดย์ ที่เองทักไป เมื่อสักครู่สินะ

“แกรู้จักเดย์ กับพี่ไนท์ด้วยเหรอ”เอิงหันมาถามฉันเสียงดัง สดใส โดยที่ไม่รู้มาก่อนว่าฉันกำลังหน้าแตกหมอไม่รับเย็บแล้ว

“เขาเป็นอะไรกันวะแก” ฉันตัดสินใจ หันไปกระซิบกับไอเอิง แทน และหวังว่ามันจะกระซิบกลับมาเช่นกัน แต่เปล่าเลย “อ่าว แกไม่รู้เหรอ เขาเป็นพี่น้องกันไง” อื้อหือ เสียงดังขนาดนี้ ไมโครโฟนคงไม่จำเป็นต้องมีในโลกแล้วก็ได้มั้ง ไอเอิ

ฉันค่อยๆหันไปมองหน้าพี่น้องคู่ใหม่ที่ฉันเพิ่งรู้จัก ก่อนจะ พยายามปรับสีหน้านิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นไป ด้วยฟอร์มที่ ต้องรักษาเอาไว้ ถึงแม้ว่ามันจะหน้าแตกแล้วก็ตามที

“อ๋อ อื้มม”

“พี่ชายฉันไม่เคยตามจีบใคร คุณน่าจะเป็นคนแรกและคน เดียวนะคะ ไม่ต้องห่วง ไว้ใจเฮียได้เลยว่ามีคุณแค่คนเดียว” เดย์ พูดด้วยรอยยิ้มแบบเป็นมิตรสุดๆส่งมาให้ฉันทันที

แล้วไม่ต้องห่วงคืออะไร ไม่ห่วงเว้ย ไม่ได้อยากได้พี่ชายเธอ สักหน่อย งานนี้ซึ่งดีกว่า

“ลองเสื้อเสร็จแล้วใช่มั้ย ปะ ไปกันเถอะเอง ฉันหิวแล้ว” ฉัน ก็เดินไปลากยัยเองออกมาเลยทันที หนีสิงานนี้ รออะไร

“เดี๋ยวๆ ฉันยังไม่ได้จ่ายเงินเสื้อที่ถือในมือเลยเนี่ย รีบไป ไหน” เอิงมันตะโกนออกมาซะเสียงดัง ฉันหันไปสบตานายนั่นก็ เจอเขายิ้มแบบขำๆอยู่

โอ๊ยยหน้าแตกรอบสอง ฉันรีบคว้าของในมือยัยเอิง รีบเอา ไปแขวน แล้วก็รีบคว้ามือของยัยเองแล้วรีบเดินก้าวเท้าออกไป ให้เร็วที่สุด

เห้อ หวังว่าครั้งหน้าคงไม่เจอกันอีกนะ…แต่ฉันยังไม่ได้ เอาคืนนายนั่นเลยอะ….
“สรุปว่าแกรู้จักพี่ไนท์ปะเนี่ย ฉันงง” เองมันพูดขึ้นมาขณะที่ ตักอาหารในหม้อชาบูกินไปด้วยความเอร็ดอร่อย

“นี่แกรู้จักเขาด้วยเหรอ”

“ใครๆก็รู้จักเขามั้ย กลุ่มเขาออกจะเป็นกลุ่มดังในมหาลัย

“เขาดังด้วยเหรอ สงสัยคงดังเพราะเป็นโรคจิตสินะ”

“โรคจิตอะไรจะหล่อขนาดนั้นกันล่ะ” แล้วยัยเองก็ร่าย สรรพคุณเยินยอกลุ่มของนายนั้นยาวเลย สรุปได้ใจความว่ากลุ่ม เขาชื่อ Devil Prince

มีสมาชิก 4 คนมีพี่ไนท์ พี่ซัน พี่เคน พี่เค เป็นกลุ่มที่อันตราย แต่ก็หล่อ รวยมาก เป็นที่หมายปองของสาวๆ พวกเขาเป็นเพื่อน กันตั้งแต่ประถมและรักกันมาก เรียกว่าเป็นเพื่อนตายกันได้เลย แต่อันที่จริงๆแล้วเมื่อก่อนกลุ่มนี้มีกัน 5 คน แต่ก็ไม่รู้ว่ามีเรื่อง อะไรที่ทำให้ตอนนี้เหลือกันแค่นี้

“แต่ละคนนี่เขารวยมากขนาดนั้นเลยเหรอ”

“รวยมากกกก เรียกว่าเศรษฐีถึงจะถูก แล้วที่พี่ๆเขารวยกัน เพราะพี่ๆเขาเองทั้งนั้นนะไม่ได้พึ่งเงินของพ่อแม่ กลุ่มนั้นเขา อัจฉริยะ จริงๆเรียนจบกันหมดแล้ว ในคณะอื่นๆ ที่เรียนอยู่ก็มา เรียนเล่นๆล่ะมั้ง แต่ละคนเขาก็มีกิจการของตัวเองแล้วทั้งนั้น แหละ อย่างพี่ไนท์ ก็ทำธุรกิจหลายอย่าง อย่างห้างที่เรามาเดินก็ ของพี่เขานะ”
“ฮะ! โหห เชื่อแล้วว่ารวยจริง ยังงี้ยิ่งต้องห่างๆไว้

“ทำไมวะ”

“ก็เขามันคนละระดับกับฉัน แล้วนี่หล่อรวยแบบนี้ เจ้าชู้ชัวร์”

“เท่าที่รู้ เหมือนจะมีพี่ซันคนเดียวนะเจ้าชู้ ถ้าจะระวัง ระวัง คนนี้คนเดียวก็พอ นอกนั้น ก็มีประปรายมั้ง แต่ถ้าไม่เจ้าชู้เลย ต้องพีเค รายนั้นหญิงไม่ยุ่งจ้า อ่อ พี่แกเป็นเจ้าของมหาลัยที่เรา อยู่นี่ล่ะ”

“โหห ยังงี้ยิ่งต้องห่างกลุ่มนี้ไว้ ฉันไม่อยากวุ่นวาย อยู่ สงบๆแบบทุกวันนี้แหละดีแล้ว”

“แล้วแกไปสนิทกับพี่ไนท์ได้ไง ไหนๆเล่ามาเลย

“สนิทบ้าอะไรไม่ได้สนิทเว้ย”

แล้วฉันก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานรวมถึงวีรกรรมที่อยากจะ เอาคืนแต่หน้าแตกวันนี้ให้ยัยเอิงฟังด้วย

อ่อ แต่ไม่ได้เล่าเรื่องที่ขโมยจูบฉันหรอกนะ ฉันบอกแค่ว่าไม่ พอใจที่เขาเอามือถือฉันไปเฉยๆ

“ฮ่าๆๆ หน้าแตกมั้ยล่ะแก ถ้าฉันอยู่ตรงนั้นตั้งแต่แรก ฉัน บอกไปล่ะว่านั่นนะ น้องเขา

“เห้อออ ก็นึกว่าเขาพาสาวมาช้อปปิ้ง ช่างเถอะหลังจากนี้คง ไม่เจอกันอีกแล้ว”

“ไม่แน่นะเว้ยย พี่ไนท์เหมือนจะสนใจแกนะ ไม่งั้นเมื่อวานจะมาส่งแกทำไม นี่ก็อยู่มหาลัยเดียวกับเราอยากเจอแกไม่ใช่เรื่อง ยากสําหรับเขาหรอก”

“เห้อ ช่างมันเถอะ กินอาหารกันดีกว่า เย็นหมดล่ะ

หลังจากนั้นฉันและเอิงเอยก็พูดคุยกันเรื่องวิชาของอาจารย์ สมรสุดเนี้ยบแทน รวมไปถึงฟังยัยเองมันเล่าเรื่องกระเป๋าใบที่ ฉันอยากได้มา ว่ามันอยู่ในคอลเลคชั่นสะสมอะไรสักอย่างไม่รู้ มันอะแฟนพันธ์แท้กระเป๋าแบรนด์แนมตัวยงเลยล่ะ ส่วนฉันก็ใช้ กระเป๋าผ้าวนไปจ่ะ..


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ