พนันรักร้ายเจ้าชายปีศาจ

ตอนที่ 2



ตอนที่ 2

ตอนนี้ผมยืนมองสถานการณ์ของคู่แข่งของผมตรงหน้าด้วย สายตาเรียบเฉย พร้อมวิเคราะห์คนในเกม

เพราะสิ่งที่ผมเห็น ก็คือ ผมเห็นไอซันพูดอยู่คนเดียว ส่วนผู้ หญิงดูไม่มีทีท่าสนใจมันสักนิด ทั้งหยิบมือถือออกมาเล่น ทั้ง หยิบเงินออกมาจากกระเป๋า และสุดท้ายก็วางเงินไว้ แล้วเดิน ออกไปทันที

สงสัยจะยากจริงๆ น่าสนใจ…

ไม่นาน ประตูห้องที่ผมยืนอยู่ก็เปิดขึ้น โดยมีไอซันเดินเข้า มาด้วยสีหน้าเซ็งเล็กน้อย

“ไหน ใครบอกว่าไม่ถึงอาทิตย์จะปิดจ๊อบวะ กูเห็นน้องเขาไม่ พูดกับมึงสักคำ ฮ่าๆ” ไอเคนมันพูดขึ้นพร้อมกับหัวเราะแบบ สะใจ ตามที่มันได้ตะโกนบอกก่อนไอ้ซันออกไปไม่มีผิด

“เออ ยากจริง แล้วเมื่อกี้น้องทำไงรู้มั้ย ตอนเรียกเช็กบิล บอกว่าแถวนี้แมลงวันมันเยอะ กูนี่เอ๋อแตกเลยครับ”

“แล้วยังไม่ยอมให้จ่ายเงินให้อีก ดูนี่ แปดสิบห้าบาท! แม่ง ค่า VAT ก็ไม่จ่าย!
ไอ้ซันบนกระปอดกระแปดออกมา พร้อมกับโยนเงิน 85 บาทที่มันว่าโยนลงมาบนโต๊ะ ส่วนไอ้ค่า VAT ที่มันบ่น มันก็พูด ขากลบเกลื่อนไปเท่านั้นเอง ซึ่งนั่นก็เป็นผลทำให้พวกผมหัวเราะ มันออกมา ยกเว้นไอเค ที่ยิ้มมุมปากเล็กน้อยเท่านั้น

แสบซะด้วย น่าจะไม่ธรรมดาซะแล้วสิ ผู้หญิงคนนี้

“สงสัยกูต้องเปลี่ยนแผนล่ะ” ไอซันพูดขึ้นมา หลังจากหยิบ เหล้าขึ้นมากระดกเข้าปาก แล้วก็กลับเปลี่ยนเป็นสีหน้าที่เครียด ขึ้นมาแทน

“มึงจะทำไง” ผมพูดเพื่อหลอกถามมัน แต่ไอ้นี่มันก็รู้ตัว

“กูไม่บอกความลับให้คู่แข่งรู้หรอก สัส”

“พวกมึงไม่เล่นกับความรู้สึกของคนอื่น มากเกินไปรึไง” เค ที่นั่งเงียบมานานอยู่ๆก็พูดขึ้น

“ขำๆหน่า มึงซีเรียสไปได้” ไอ้ซันพูดใส่ พร้อมกับเปลี่ยน เป็นใบหน้าที่ยิ้มขึ้นมาแทนใบหน้าเครียดก่อนหน้าทันที

“แล้วมึงจะเสียใจที่ทำแบบนี้” ผมรู้ว่าไอเคมันอยากเตือน พวกผม

แต่ผมไม่มีทางเสียใจหรอก
“เออ กูเริ่มรู้สึกผิดเลย งั้นกูไปหาน้องหมิวก่อนละกัน เห็นนั่ง อยู่ตรงนั้นพอดี”

“สัส สาบานได้ นั่นคือมันรู้สึกผิดจริงๆ” ไอเคนพูดออกมา ใส่ไอซันที่ทำท่าจะลุกขึ้นเดินออกจากห้องนี้ไปอีกรอบ

“ไอเหี้ยเอ๊ย เอดส์จะแดกเข้าสักวัน” ผมพูดสมทบขึ้นมาทันที

ถึงผมจะมีหญิงบ้าง แต่ผมก็ไม่หนักเหมือนไอซันนะ มันคิ้วผู้ หญิงแทบจะทุกวัน

“ถุงยางโว้ย กูไม่เคยสด ฝากร้านด้วยนะพวกมึงไป ล่ะ” ว่าเสร็จมันก็เดินไปหาน้องหมิวของมันทันที

นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเล่นอะไรแบบนี้ เพราะช่วงนี้งานของผม กำลังไปด้วยดี จนผมเบื่อ ผมก็เลยอยากหาอะไรสนุกๆ เท่านั้น เอง ระหว่างกำลังคิดว่าจะทำยังไง เพราะผมไม่เคยจีบใครซะ ด้วยสิ แต่แล้วสายตาผมก็หันไปเห็นวัตถุสีดำตั้งอยู่แถวโซฟาที่ เธอนั่งเมื่อกี้ ผมจึงตัดสินใจ ออกจากห้องนี้ เพื่อเดินเข้าไปดู ใกล้ๆ

“พวกมึง เดี๋ยวกูมา”

Ampare’s Talk

ขณะที่ฉันกำลังเดินออกมาเพื่อจะเรียกแท็กซี่ฉันก็ดันนึกขึ้นได้ว่า ฉันลืมมือถือไว้ที่โต๊ะเมื่อกี้ !

เห้อ! ทำไมขี้ลืมยังงี้นะ ยัยแอมแปร์

ฉันเลยเดินวกกลับไปที่โต๊ะอีกครั้ง แต่เมื่อถึงที่ที่ฉันคิดว่าลืม มือถือไว้ ฉันกลับเห็นผู้ชายหล่อ น่าตาดี สูงพอๆกับผู้ชายที่เข้า มาหาฉันเมื่อกี้เลย แต่คนนี้ออกจะดูร้ายๆกว่า แต่นั่นไม่ใช่ ประเด็น เพราะประเด็นคือสิ่งที่เขาถือในมือต่างหาก

นั่นมันมือถือของฉัน..

ใช่! นั่นมันมือถือฉันแน่นอน ฉันจำได้เพราะเคสมือถือเป็น เคส DIY ที่ฉันทำขึ้นมาเอง เนื่องจากมือถือฉันมันรุ่นเก่า หาซื้อ เคสยากมาก และฉันก็เปลืองเงินที่จะซื้อเคสด้วย

เห้อ!! โล่งไปที ถ้าหายล่ะซวยเลย ในนั้นมีรายชื่อคนที่จ้าง ถ่ายแบบ เด็กนักเรียน และผู้ปกครองที่ฉันต้องสอนหนังสือ ที่ สำคัญฉันก็ไม่อยากซื้อใหม่ด้วย

มันเปลืองตังค์!!

“เออ.. คุณคะ นั่นมันมือถือฉัน ฉันลืมเอาไว้ ขอคืนด้วยค่ะ” ฉันเข้าไปพูดกับผู้ชายหน้านิ่งคนนี้ด้วยน้ำเสียงที่สุภาพ เพราะ เขาน่าจะเก็บไว้ให้ รอเจ้าของมาเอา

“ผมจะเชื่อได้ยังไง ว่ามือถือคุณจริง” ผู้ชายคนนี้หันมาพูด หน้านิ่งๆกับฉัน

เขาคงกลัวว่า จะมีคนมาหลอกว่าเป็นเจ้าของมือถือสินะ

“เมื่อกี้ฉันก็นั่งตรงนี้ ไปถามพนักงานก็ได้ค่ะ”

รหัส”

“หื้ม?”

“เอารหัสปลดล็อกหน้าจอมา

“เอามาเดี๋ยวฉันกดเอง” เรื่องอะไรจะบอกล่ะ มันควรเป็น ความลับปะ?

“รหัส” เขาพูดและมองมาที่ฉันนิ่งๆ อีกครั้ง ให้ตายเถอะอะไร ของเขากันนะ ตอนนี้ฉันเริ่มไม่โอเคแล้ว

“ถ้าฉันบอกแล้วมันผ่าน คุณจะคืนฉันใช่มั้ย” ฉันพูดเสียง แข็งออกไป พร้อมทั้งข่มอารมณ์ไม่พอใจเล็กน้อย แต่อีกฝ่ายก็ไม่ พูดอะไร พร้อมมองมาที่หน้าฉันนิ่งๆ แต่ทว่าแอบดูกวนเล็กน้อย

“123456” ฉันอยากให้มันจบๆ สุดท้ายก็เลยพูดออกไป ด้วยน้ำเสียงเหวี่ยงเล็กน้อย
“ตั้งง่ายดีน” ผู้ชายตรงหน้าพูดจบ ก็ก้มหน้าไปกดๆบนหน้า จอของฉัน

“ปลดล็อกได้แล้วใช่มั้ย นั่นก็แสดงว่าฉันคือเจ้าของเครื่องนี้ เพราะฉะนั้น ก็เอามือถือฉันคืนมาได้แล้ว”

“เธอกลับยังไง” ชายคนนั้นไม่ได้ส่งมือถือคืนมา แต่กลับเอ่ย ประโยคค่าถามฉันกลับมาแทน นั่นทำให้ฉันแสดงสีหน้ามึนงง ทันที

what คืออะไร??

“ไม่บอกก็ไม่ต้องเอามือถือคืน” เขาพูดจบก็เปลี่ยนท่าเป็น ยืนกอดอกมองฉัน โดยมือถือของฉันก็ยังอยู่ในอุ้งมือของเขาอยู่ อย่างนั้น

เฮ้ย อะไรวะ นี่ฉันกำลังคุยกับคนบ้าหรือคนสติไม่ดีหรือ เปล่า?

“แท็กซี่!! เอามือถือคืนมาได้ยัง” ตอนนี้ฉันเริ่มไม่ใจเย็นแล้ว เพราะเริ่มรู้สึกได้ว่าคนตรงหน้ากำลังกวนประสาท ทำให้ฉันเริ่ม ตอบไปด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างไม่พอใจ

แต่แทนที่ฉันตอบไปแล้ว เขาจะคืนมือถือเหมือนที่เขาบอก ก่อนหน้า เขากลับก้าวเท้ายาว เดินออกไปจากตรงนี้ทันที
เฮ้ย! ไปไหน

แว๊บแรกที่เข้ามาในสมอง

ขโมย!!

นี่จะขโมยมือถือฉันเหรอ มือถือง่อยๆแบบนั่นอะนะ แต่งตัว ก็ดี ที่แท้ก็เป็นโจรนี่เอง

ฉันเลยวิ่งตามหมอนั่นออกไปทันที

“หยุดเดี๋ยวนี้นะ ไอ้โจร!!” คนบ้าอะไร เดินเร็วชะมัด

ฉันวิ่งตามเขาออกมา จนถึงลานจอดรถ ในขณะที่เขาทำ เพียงแค่เดินธรรมดาเท่านั้นเอง

โลกไม่ยุติธรรมเลย ฉันว่าฉันสูงขายาวแล้วนะ แต่นายขา

โคตรยาววว

“แฮ่กๆ ไอ้โจร เอามือถือฉันคืนมานะ” ฉันได้แต่ยืนหายใจ หอบ พร้อมกับเงยหน้าไปมองหน้าเขาด้วยความเหนื่อยล้า

“โจรเหรอ .. หึหึ”

นายนั่น กลับมายืนกอดอกเหมือนเดิม ก่อนจะเดินไปยังรถ สปอร์ตหรูที่จอดตรงหน้าเอาไว้ พร้อมกับกดรีโมทเปิดรถ

ตื้ดๆ !
รถของหมอนี่เหรอ ? หรูขนาดนี้ เขาก็ต้องรวยน่ะสิ แล้วจะ มาขโมยมือถือฉันทำไม เอ๊ะ หรือนี่เขาก็ไปขโมยกุญแจรถ ใคร

ในผับมา

“หยุดนะ ถ้านายคืนมือถือฉันมา ฉันจะไม่แจ้งตำรวจเรื่องที่ นายขโมยรถคนอื่นมา” ฉันพูดออกไป พร้อมใจที่เริ่มกลัวคน ตรงหน้า เพราะยังไงหมอนี่ก็คือโจร มันไม่ปลอดภัยสำหรับสาว สวยอย่างฉันอยู่ดี

แต่อีกฝั่งกลับไม่เกรงกลัวคำใดๆของฉันเลย นอกจากยืน ยิ้มมุมปากพร้อมมองหน้าฉันเชิงขำขันอยู่อย่างนั้น ก่อนจะพูด เสียงเรียบออกมา

“นี่เธอไม่รู้จักฉันงั้นเหรอ”

“ยิ่งใหญ่มาจากไหน ทำไมฉันต้องรู้จัก” ฉันตอบด้วยสีหน้า ไม่พอใจไป แต่อีกฝั่งกลับไม่ได้โกรธแม้แต่น้อย นอกจากเปลี่ยน เป็นยืนอมยิ้มเช่นเดิม

“ขึ้นรถ เดี่ยวไปส่ง”

ฮะ!! ฉันแสดงสีหน้าตกใจทันที ไม่คิดว่าอยู่ๆเขาจะพูดคำนี้ ออกมา

“รถนี่ของฉัน ไม่ได้ขโมย ใครมา ขึ้นรถ” อ่าว รถของนาย เหรอ ถ้ารวยขนาดนี้ แล้วจะมาเอามือถือฉันไปทำไมกัน
แล้วเรื่องที่ให้ขึ้นรถนั่น

ใครมันอยากจะไปขึ้นรถคนแปลกหน้ากัน

“ไม่ขึ้น! เอามือถือฉันคืนมานะ!” ฉันตะโกนออกไปสุดเสียง พร้อมกับกระโดดคว้ามือถือในมือคนตรงหน้าแทน ฉันคิดว่าฉัน ไวแล้ว แต่หมอนั่นก็ไวกว่า ทำให้ตอนนี้ฉันได้แต่กระโดดเหยงๆ ไปมา ในขณะที่เขาแค่ยกมือที่ถือมือถือฉันไว้เท่านั้น

ฉันพยายามจะเกียกตะกายเพื่อที่จะคว้ามือถือของฉันคืนมา ให้ได้ แต่ความสูงของฉันก็ไม่อำนวยให้ฉันสามารถทำสิ่งนี้ได้ สําเร็จสักที

อี๊ยย เจ็บใจ อย่าให้ตัวสูงบ้างนะ!

“นี่ เธอรู้มั้ยทำแบบนี้หน้าอกเธอมันโดนฉันนะ” เสียงเรียบ นิ่งๆที่พูดออกมาเหมือนไม่มีอะไรสำหรับเขา แต่สำหรับฉันแล้ว มันคือคำพูดที่รุนแรงกับความรู้สึกของฉันมาก

ฉันรีบผละตัวออกห่างจากเขาทันที พร้อมเอาแขนมาไขว้ปิด ตรงหน้าอกของฉันทันที!!

ไอ้บ้า พูดออกมาได้ไง น่าเกลียดชะมัด

ขณะฉันกำลังยืนโมโหอยู่นั้น อยู่ๆ นายนั่นก็ลดกระจกแล้ว

พูดขึ้นมา

“ไม่ขึ้นมา ก็ไม่ได้มือถือคืนนะ” เอ้ หมอนั้นข็นรถไปตอนไหนอะ แต่ช่างมันเถอะ ฉันควรโฟกัสเรื่องมือถือฉัน

ดีกว่า

จะเอาไงดีเนี่ย

เขาก็ดูรวย คงไม่ทำอะไรฉันหรอกมั้ง เอาวะ เพื่อข้อมูลใน

มือถือเครื่องนั่น

เพื่อความประหยัดที่ไม่ต้องซื้อมือถือเครื่องใหม่

ไปก็ได้วะ!

“ปัง!!” ฉันปิดประตูเสียงดัง เพื่อบ่งบอกความไม่พอใจ แต่ เมื่อฉันหันไปมองหน้าเขา กลับพบว่าเขาถือกล้องถ่ายรูปรออยู่

แชะ

“นี่นายเป็นบ้าอะไรมาถ่ายฉันทำไม แล้วก็เอามือถือคืน ม.. ว้ายย” ฉันพูดไม่ทันจบหมอนั่นก็ออกรถซะเหมือนกับว่าชาติ นี้จะไม่ได้ขับรถอีกแล้ว จะออกรถแรงอะไรเบอร์บ้านนนพ่อ คืนนน

“ส่งไหน” นายนั่นพูดนิ่งๆขึ้นมา โดยไม่ได้พูดถึงมือถือฉัน

เลยสักนิดเดียว

“คอนโด A” ขึ้นรถเขามาแล้ว อย่าเล่นตัวเยอะ เดี๋ยว อันตราย บอกคอนโดยัยเอิงเอยไปจะได้จบๆ
“อยู่ที่นั่น?”

“ถ้าไม่ตอบ ไม่คืนมือถือ

โอ๊ยยย เอาแต่ใจชะมัด

“ของเพื่อน” ฉันตอบห้วนๆ พร้อมทำหน้าแบบเหวี่ยงๆไป

“เธอชื่ออะไร”

“ถ้าไม่ตอบ ไม่คืนมือถือ”

“แอมแปร์!!”

“ถามฉันกลับด้วย ว่าฉันชื่ออะไร” ฉันหันไปมองเขาแบ บอึ้งๆ คนบ้าอะไรเอาแต่ใจ บ้าอำนาจ

“ชื่ออะไร” ฉันถามไปห้วนๆ ทำๆไปก่อนเถอะ ท่องไว้ๆ มือ ถือ มือถือ

“ไนท์” อะไรคือตอบชื่อแล้วหันมายิ้มเล็กๆ ที่มุมปากให้ฉัน

ไม่ได้ตั้งใจถามมั้ยล่ะ บังคับให้ฉันถามเองนะ
ALE

“เล่าเรื่องราว เกี่ยวกับเธอให้ฉันฟังหน่อย ถ้าพอใจจะคืนมือ

“ไอๆๆๆ โว้ยยย” อยากด่ามาก แต่ต้องท่องไว้ๆ มือถือ มือ

“”

“นี่ นายจะมาอยากรู้เรื่องฉันทำไม”

“เล่ามา”

“ชื่อแอมแปร์ เรียนปี1 อักษร มหาลัย SIANTA “ ฉันพูดสั้นๆ ” ห้วนๆ กระแทกเสียงออกมาด้วยความไม่พอใจ แต่อีกฝั่งก็มีหน้า เรียบเฉย พร้อมมองทางข้างหน้า และก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ

แต่แล้ว ฉันก็คิดอะไรได้

หรือว่าต้องสวมบทดราม่า ให้ดูน่าสงสาร? เขาจะได้ไม่กวน ประสาทฉันแล้วคืนมือถือมาให้

“ฉันเป็นเด็กกำพร้า ไม่ได้รวย ที่เรียนที่นี่เพราะเป็นเด็กทุน ”

“มือถือนั้นสำคัญกับฉันมาก มันมีรายชื่อของคนที่จะให้งาน ฉัน และฉันก็ไม่อยากซื้อมือถือถือ”ใหม่

“เพราะฉะนั้น…ขอมันคืนเถอะนะ” หวังว่าคงได้ผลนะ แต่ ฉันไม่ได้ดราม่าขนาดนั้นหรอก เพราะฉันแกร่งกว่าที่คิด

“งานอะไร”

“ก็… มีถ่ายแบบ สอนพิเศษเด็กมัธยม 4

“” เขาหันมามองฉัน เพราะตอนนี้มันไฟแดงพอดี และฉันก็ อ่านสายตาที่เขามองมาไม่ออก

“เออ..สรุปนาย..จะคืนมือถือให้ฉันมั้ย ชีวิตฉันไม่มีอะไร หวือหวาหรอกนะ ฉันก็แค่ผู้หญิงธรรมดาๆคนนึงเท่านั้นเอง” ฉันจะได้มือถือคืนมั้ยนะ

“อืมมม…ขอคิดดูก่อนนะ” เฮ้ย อุตส่าห์เล่าเรื่องที่ปกติฉัน ไม่เล่าให้ใครฟัง แต่หมอนี่กลับพูดแบบนี้เนี่ยนะ!!

“นี่ว่างมากนักรึไง ถึงเที่ยวมาป่วนคนอื่นเขาแบบนี้เนี่ย ฮะ!!” ตอนนี้ความอดทนของฉันใกล้จะแตกแล้ว ถ้ามีอีกครั้งฉัน จะระเบิดลงแน่
หัวเราะอะไร ทีที อะไร!!

ฉันหงุดหงิดตัวเองที่ทำอะไรเขาไม่ได้เลย เลยได้แต่นั่ง กอดอก แล้วหันหน้าไปฝั่งกระจกข้างตลอดทาง จนถึงคอนโดย เอิง โดยที่ไม่พูดอะไรออกมาสักคำ

“ขอมือถือฉันคืนด้วย” ทันทีที่เขาจอดรถหน้าคอนโดยังเอิง ฉันก็แบมือทวงของฉันคืนทันที

“พูดเพราะๆ แล้วจะคืนมือถือให้” เขาพูดด้วยสีหน้าที่กวน เช่นเดิม ยิ่งรวมกับคำพูดที่เขาพูดออกมา มันทำให้ฉันรู้สึกอยาก จะซัดเข้าที่ใบหน้าไปซักครั้ง

ซึ่งสิ้นเสียงของเขา นั่นทำให้ความอดทนที่มีมาตลอดตั้งแต่ ในผับจนถึงตอนนี้ขาดลงทันที!!

มันเสียศักดิ์ศรีกับคนอย่างฉันเกินไป ที่จะต้องพูดจาเพราะๆ

กับคนที่กวนฉันมาตลอดทางอย่างเขา

“มันจะเกินไปล่ะนะ! ไม่เอาแล้วมือลงมือถือ อยากได้นัก ก็ เอาไปเลย!!” ฉันพูดพร้อมกระชากเปิดประตูรถทันที

แกร๊กๆ

เวรล่ะ ไอ้รถแพงบ้าบออะไรเนี่ย มันเปิดประตูยังไงวะ

ตอนนี้ฉันพยายามมองหาว่าตัวปลดล็อกมันอยู่ตรงไหนนะ รถบ้าอะไรปุ่มเริ่มเยอะไปหมด ที่รถแพง แพงเพราะปุ่มเยอะใช่ มั้ย!! ฉันกดนูนนี่ กระชากมั่วซั่วไปหมด โดยที่ไม่หันไปมองอีก หนึ่งชีวิต ในรถแม้แต่น้อย

ส่วนหนึ่งเพราะโกรธเขา และอีกส่วนหนึ่งหลักๆคือ อาย!!

เห้อ อีแอม แทนที่จะได้เดินลงจากรถเชิดๆสวยๆ นี่อะไรหน้า แตก เปิดประตูก็ไม่เป็น

“เอาไป” เสียงทุ้มใหญ่ดังมาข้างหลังฉัน ทำให้ฉันเลิกและ ประตูแล้วหันไปหาเขาแทน ก่อนจะเห็นว่าเขากำลังยื่นมือถือคืน มาให้ฉัน

ฉันเลยรีบคว้าไว้ทันที ก่อนจะเก็บมันใส่กระเป๋า ไม่ให้มัน ออกมา โดนขโมยได้อีกเป็นรอบที่สอง

แต่ระหว่างเก็บมือถืออยู่นั่น ผู้ชายตัวโตข้างๆ ก็เอื้อมตัวมา ใกล้ๆฉัน พร้อมกับใบหน้าที่เข้ามาใกล้ฉันจนเฉียดฉันไปนิด เดียว

แกร๊ก

แล้วฉันก็ได้ยินเสียงเหมือนปลดล็อกอะไรบางอย่างพร้อมกับประตูรถที่เปิดแง้มขึ้น ซึ่งฉันก็เข้าใจทันทีว่ามัน คือเสียงปลดล็อกประตูฝั่งฉันนั่นเอง

“มันปลดล็อกแบบนี้ หึหึ” ฉันรู้สึกหน้าแตกเบาๆ นี่เขาเยาะ เย้ยที่ฉันปลดล็อกรถไม่เป็นสินะ

แต่ฉันก็ไม่ได้พูดอะไร นอกจากทำท่าผลักประตูรถเปิดออก ไป แต่จังหวะนั้นเอง อยู่ๆก็มีแรงกระชากฉัน จนหน้าฉันเซไปทาง เขา แล้วปากของเขาก็แนบลงมาที่ปากของฉันทันที

นี่ฉันเสียจูบแรกแล้วเหรอ ช็อก!!

แถมยังเสียให้กับคนแปลกหน้าอีก!!

ความรู้สึกฉันตอนนี้เหมือนฉันเสียตัวแล้ว ฉันไม่เคยให้ ผู้ชายคนไหนแตะเนื้อต้องตัวฉันเลย มีนายนี่เป็นคนแรก

“ไอชั่ว!!” ฉันผลักนายนั้นออกเต็มแรง และมองหน้าด้วย ความไม่พอใจขั้นสุด แต่อีกฝ่ายกลับไม่สะทกสะท้านอะไรเลย แถมยังยิ้มเยาะฉันกลับมาอีกด้วยแววตาชั่วร้าย

ฉันยกมือขึ้นมาเพื่อจะฟาดไปยังหน้ากวนๆของเขา แต่เขาก็ จับมือฉันเอาไว้ได้ทัน ก่อนจะกระชากฉันไปใกล้เขา และลงประกบปากจูบฉันอีกครั้ง!

แต่ครั้งนี้มันไม่ได้เหมือนครั้งแรก เขาจูบอย่างรุกล้ำและเนิ่น นาน มือข้างหนึ่งเขารวบมือของฉันเอาไว้ ส่วนอีกข้างเขาก็บีบ แก้มฉันออกมาจนปากห่อกันด้วยความเจ็บ จากนั้นเขาก็ค่อยๆ สอดลิ้นเข้ามาภายในปากฉันทันที

ป้กๆ

ฉันพยายามดิ้นและทุบอกคนตรงหน้า แต่ทว่าดูไม่มีผลอะไร

กับเขาเลย

เขาจูบอยู่อย่างนั้น จนพอใจ จนในที่สุดเขาก็ปล่อยฉันเป็น

“ไอ้เลว!” ฉันทำท่าจะยกมือขึ้นไปฟาดเขาอีกครั้ง แต่เขาก็

พูดแทรกมาก่อนทำให้ฉันต้องค้างมือเอาไว้กลางอากาศ

“ครั้งนี้ไม่ใช่แค่จูบแน่ หึหึ” เขามองฉันพร้อมยกคิ้วขึ้นด้วย ความกวนประสาท จนฉันต้องเอามือชักกลับมาไว้กับตัวเอง

“มันไม่จบแค่นี้แน่!” ฉันตะโกนเสียงดังออกมา ก่อนจะวิ่งลง จากรถไปทันที!

หน่อยยย อย่าให้เจอครั้งหน้านะ ฉันจะเอาคืนนายให้สาสม กับที่ทำกับฉันให้ได้เลยคอยดูเซ่!!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ