ปากบอกรัก แต่หัวใจบอกไม่

บทที่ 14 จําไว้ เธอจะซวยก็เพราะปากเธอเอง



บทที่ 14 จําไว้ เธอจะซวยก็เพราะปากเธอเอง

“ไม่ว่าวันนี้นายจะพูดยังไง ฉันก็จะไป ! ไม่ว่าเหตุผล อะไร ! ยังไงฉันก็จะไป ! ”

ถ้าเป็นเมื่อก่อน ส้าวเหิงไม่รู้ก็ช่างมันปะไร แต่นี่เขา รู้ไปหมดทุกเรื่อง ในเมื่อหน้าต่างก็ถูกเปิดออกแล้ว เธอก็ ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องปิดบังอีกต่อไป ยังไงเธอก็ไม่ยอมให้ ใครมาควบคุมง่ายๆ ถึงฝ่ายตรงข้ามจะเป็นภรรยาของเขา จริงๆ เธอก็ไม่ยอม !

ความฉลาดของโล่เถียนซิน บางครั้งก็ทำให้ใครต่อ ใครเป็นกังวล มีเพียงคนที่จดทะเบียนสมรสเท่านั้น ถึงจะ เรียกได้ว่าเป็นการแต่งงานที่ถูกต้องตามกฎหมาย แค่งาน แต่งงาน มันพิสูจน์อะไรไม่ได้หรอก แต่ตัวเธอเองกลับติด อยู่ในทางต้น หาทางกลับออกมาไม่ได้ !

“นายรู้มาตั้งนานแล้ว ว่าคนที่ทำร้ายฉันคือ ใคร ……หรือนายรู้มาตั้งนานแล้ว ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวฉัน มันไม่ใช่เรื่องธรรมดา”โล่เถียนซินรู้สึกได้ถึงสองมือที่กำ แน่น หายใจอย่างติดๆขัดๆ เธอจ้องมองดวงตาคู่นั้นของเขา พร้อมถามด้วยเสียงหนักแน่น

มีเพียงวิธีนี้เท่านั้น ไม่อย่างนั้น ถึงเธอจะต้องลงแรง มากกว่านี้เป็นสิบๆเท่า ยังไงก็ต้องรู้ให้ได้ ว่ามันเกิดเรื่อง อะไรขึ้นกันแน่ คนที่วางแผนการชั่วร้ายคิดจะจัดการเธอ มัน เป็นใครกันแน่
“ยังไงฉันก็ไม่เชื่อคำพูดของเธอ โล่เถียนซิน เธอ จะซวยก็เพราะปากเธอเอง นับจากวันนี้ไป ฉันหวังว่าเธอ จะจำประโยคนี้ไว้ให้ดี ! “แต่ไหนแต่ไรสายตาของสาวเหิง ไม่เคยจริงจังและเตือนเธอแบบนี้มาก่อน การเตือนแบบนี้ หมายถึงสิ่งที่อันตรายถึงชีวิต คำพูดของเขาไม่ได้เตือนแค่ ตัวเธอเอง ทั้งยังเหมือนกับกำลังเตือนใครอีกคน……..

ตึง !!

โล่เถียนซินช็อค รีบกวาดตามองรอบตัว พยายามจะ หาตัวคนที่ซ่อนอยู่ในที่มืดคนนั้น สัญชาตญาณบอกเธอ ส้าวเหิงเองก็ดูเหมือนกำลังระวังตัวจากอะไรสักอย่าง

หรือว่า…….

ซวยเพราะปาก’.…………..

คำพูดนี้จริงๆแล้วเข้าใจไม่ยากสักนิดเดียว เมื่อกี้เธอ พูดอะไรออกไปเกี่ยวกับความซวยอย่างนั้นหรอ ถึงทำให้ สีหน้าของสาวเหิงเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน โล่เถียนซินกัด ริมฝีปากตัวเอง อยู่ๆก็มีความรู้สึกอยากกลับไปเรียนเรื่อง แรงกระตุ้นของวิชาวิทยาศาสตร์ขึ้นมา

“ผู้จัดการบ้าน ฉันต้องการรู้เรื่องที่เกี่ยวกับบริษัททุก เรื่อง รวมถึงเรื่องที่สาวเหิงยังเก็บซีหยูนเฉินไว้ ช่วยฉันหา เรื่องทั้งหมดออกมา

ถึงแม้ผู้จัดการบ้านจะไว้ใจไม่ได้ แต่ในบ้านหลังนี้ไม่มีใครรู้ว่าของวางอยู่ที่ไหนในบ้านได้ดีเท่าผู้จัดการบ้าน อีกแล้ว โล่เถียนซินรู้สึกได้ เรื่องราวอาจจะไม่ได้ธรรมดา อย่างที่เธอคิด เธอถึงต้องจับตาดูสถานการณ์ของบริษัทไว้

ในเมื่อสาวเหิงยอมเปิดปาก ซวยเพราะปาก หมายความว่า แค่ไม่พูดอะไรออกมา เธอก็ทำได้ใช่ไหม

“คุณผู้หญิง……ถ้าคุณผู้ชายกลับมาแล้วถามขึ้น

“ปิดปากให้สนิทสักหน่อย ฉันก็ไม่นำความลำบาก มาให้นายหรอก” โล่เถียนซินตอบเขากลับ ทั้งๆที่ไม่ได้เงย หน้ามอง พูดเข้าประเด็นอย่างไม่อ้อมค้อม

การโจมตีผู้จัดการบ้านไม่มีประโยชน์อะไร เธอตั้งใจ โยนความผิดให้ผู้จัดการก่อนหน้า ก็เพื่อที่จะเอาคืนเรื่องครั้ง ก่อน คอยดูว่าต่อไปเขายังจะรายงานเรื่องทุกอย่างให้สาว เหิงรู้อีกไหม

คิดว่าเกิดเป็นผู้หญิง แล้วจะถูกกลั่นแกล้งได้ง่ายๆ

หรอ ? !

หลายปีมานี้เธอก็ไม่ได้ปล่อยมันให้เปล่าประโยชน์ ตอนที่ทุกอย่างเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน เธอถูกโจมตีอย่าง ไม่ทันตั้งตัว ตอนนี้นึกย้อนกลับไป จริงๆแล้วทุกอย่างก็เป็น เพียงแค่เกมส์เด็กเล่นธรรมดาๆ

เป้าหมายที่แท้จริง หรือไม่ใช่เพียงแค่โจมตีเธอ……
ผู้ชายเมื่อเย็นวันนั้น……..

ถ้าไม่ได้เป็นเพราะอารมณ์ของส้าวเหิงที่หุนหันพลัน แล่น และความเกลียดแค้นที่ถูกเก็บเอาไว้ โล่เถียนซินอาจ จะสงสัยก็ได้ว่าผู้ชายเมื่อเย็นวันนั้น คือส้าวเหิง แต่ดูไม่ค่อย เป็นไปได้นัก

ซีหยูนเฉิน ส้าวเหิง บริษัท สามเรื่องนี้ มันจะต้องมี อะไรที่ผิดปกติ น่าขยะแขยง อยู่เบื้องหลังแน่นอน

เรื่องเย็นวันนั้น พวกเขาเป็นคนทำ หรือว่า……

“เพล้ง ! ”

ณ ออฟฟิศในอาคารกระจก เศษกระเบื้องเกลื่อน กลาดที่มาพร้อมกับเสียงดังลั่น เซรามิกในยุคราชวงศ์ถัง ที่เป็นของสะสมเก่าแก่ถูกโยนลงมาจากอากาศ แตกเป็น เสี่ยงๆ

“คุณถัง ใจเย็น คุณถัง ใจเย็น

“ใจเย็นกับผีสิ ไอ้หน้าไหนมันบอกฉัน ครั้งนี้แกอยาก มีเรื่องกับสาวเหิงให้ได้เลยใช่ไหม แกไม่มีตาหรือไง เห็น ไหมว่าตัวแทนจากบริษัทที่อเมริกามาที่นี่ เงินลงทุนก็เตรียม ไว้เรียบร้อยแล้ว ยังจะให้ฉันใจเย็นกับผี ที่นี่ยังจะมีที่ยืนให้ ฉันอยู่อีกหรือไง ?!”

“คุณถัง………….


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ