ประกาศิตรักอสูรร้าย by แพรเพรง

3.ลงโทษเด็กปากจัด



3.ลงโทษเด็กปากจัด

*** ทักทายคร้า ***

เลย์ตันหัวเราะในลำคอ ดวงหน้าเรียวสวยที่แต่งแต้มเครื่องสำ อางบางๆ เงยขึ้นมองเขาหน้าตึง ขณะที่ดวงตาคมกวาดมองดวง หน้าเรียวสวย ก่อนจะมาหยุดสบตากับดวงตากลมโตสีดำขลับ

“เป็นเด็กเป็นเล็กปากจัดจริง แล้วหนูรู้ได้ยังไงว่าฉันเป็น มาเฟีย”

แสงอุษาหน้างองด้วยความขัดใจที่ถูกเขาเรียกว่าหนูราวกับ เป็นเด็กมัธยม ความโมโหทำให้เธอเผยอปากเตรียมบริภาษ แต่ หารู้ไม่ว่านั่นคือการยั่วยวนกวนเลือดหนุ่มให้ฉีดพล่าน ทำให้เขา อยากลิ้มรสกลีบปากสีระเรื่อขึ้นมาทันที

เลย์ตันกระชับวงแขนแน่น ก่อนจะกระแทกริมฝีปากกับกลีบ ปากนุ่ม บดจูบลงไปอย่างหนักหน่วง แสงอุษาชาวาบราวกับถูก ไฟฟ้านับพันโวลต์วิ่งผ่านร่าง ฝ่ามือร้อนของเขาลูบไล้ทั่วแผ่น หลังบาง ก่อนจะรั้งส่วนกลางตัวเธอเข้าหาตัวเขา จนสองร่าง สัมผัสกันแนบสนิททุกอณู

เลย์ต้นฉกฉวยโอกาสที่เธอไม่เป็นตัวของตัวเองและเล็มกลีบ ปากนุ่มหวาน ลิ้นสากแทรกผ่านริมฝีปากนุ่มไปดื่มรวงน้ำผึ้ง หวาน อารมณ์ปรารถนารุ่มร้อนสุมอยู่ข้างใน เขาตักตวงความ หวานของริมฝีปากนุ่มและรวงผึ้งหวานด้านใน พร้อมกับ จุมพิตเร่าร้อนด้วยลีลาพลิ้วไหว จนเธอไร้เรี่ยวแรงจะยืนด้วยตัวเอง

“อื้อ…” แสงอุษาหายใจติดขัดและกำลังจะขาดอากาศหายใจ เขาจึงถ่ายลมหายใจอุ่นร้อนให้ จนเธอหอบหายใจพร้อมกับที่ ร่างกายรุ่มร้อนไม่ต่างจากคนจับไข้

อา…เธอเพิ่งรู้ว่ารสจูบนั้นให้ความรู้สึกวาบหวิวซาบซ่านขนาด นี้ เห็นแต่พระนาง ในละครหลังข่าวจูบกัน วันนี้เธอกลับเป็น นางเอกเสียเอง แต่พระเอกนี่สิ ไม่เหมือนในละคร แต่เป็นมาเฟีย หน้าโหด หนำซ้ำรสจูบของเขาก็สุดวาบหวามจนสมงสมองเธอ กลวง แทบคิดอะไรไม่ออก

ขณะที่ความวาบหวามกำลังดำเนินไปโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ลิฟต์กลับหยุดกึกแค่ชั้นสี่ ไฟในลิฟต์ดับพบ สัญญาณไฟสีแดง สว่างวาบขึ้น แสงอุษาได้สติผลักเขาออกเต็มแรง เลย์ตันไม่ทัน ระวังตัว เซไปด้านหลังและเด้งกลับเข้ามาหา แสงอุษาตกใจ ตวัด ฝ่ามือลงบนใบหน้าหล่อเหลาจนสะบัด โดยอัตโนมัติ

เพียะ…

ใบหน้าคมหันขวับกลับมาแววตาลุกวาว แสงอุษาผงะ รีบถอย ห่าง ตามองรอยนิ้วมือบนแก้มสาก

เลย์ตันกัดกรามแน่นด้วยความโมโห ตั้งใจจะเอาคืนให้สาสม แต่เสียงกุกกักด้านนอกดังขึ้นเสียก่อน

“มีใครอยู่ข้างในหรือเปล่าครับ” เสียงเจ้าหน้าที่ต้องถามและ พยายามงัดประตูให้เปิดออก แสงอุษาใจชื้นขึ้นมาบ้างที่ไม่ได้อยู่ กับชายแปลกหน้าจอมตื่นตามลำพัง
“มีค่ะมีร้าย!” เธอรีบตะโกนบอก แต่สุดท้ายต้องร้องอุทาน เสียงหลง เมื่อต้นแขนถูกกระชากไปปะทะร่างแกร่ง

“ไม่มีใครกล้าตบฉันแบบนี้” เลย์ต้นกดเสียงต่ำ มืออีกข้างจับ ปลายคางมนเชยขึ้น ดวงตาสีเขียวมรกตที่มีเพียงหนึ่งถึงสอง เปอร์เซ็นต์ในโลกมองเธออย่างเอาเรื่อง

“คุณรังแกฉันก่อน แค่นี้ยังน้อยไป” หนูตัวเล็กสำแดงเดชกับ ราชสีห์อย่างไม่เกรงกลัวอีกต่อไป อสูรร้ายที่ใครๆ ต่างยำเกรง ถึงกับอึ้ง ไม่คิดว่าจะถูกผู้หญิงตัวเล็กขู่ แถมกล้าฝากรอยนิ้วมือ ไว้บนหน้าอีกต่างหาก แต่ก่อนที่เลย์ตันจะขย้ำคอเธอให้หายแค้น ประตูลิฟต์ก็เปิดออก หญิงสาวดิ้นสุดแรงจนหลุดจากพันธนาการ ของเขา

“ปลอดภัยนะครับ” เจ้าหน้าที่ถามพลางมองสองหนุ่มสาวสลับ ไปมา

คริสสบตาเจ้านายหนุ่มยิ้มๆ ปรายตามองร่างบอบบางที่ยืน หน้าตั้งอยู่ใกล้ๆ

“ค่ะ ขอบคุณ” เธอวิ่งฝ่าคริสและการ์ดไปขึ้นบันไดหนีไฟโดยมี สายตาคมมองตาม จากนั้นเลย์ต้นก็เดินออกจากลิฟต์ไปขึ้นลิฟต์ อีกตัวด้วยความหงุดหงิด

“จะให้สืบเรื่องเธอไหมครับคุณเลย์” คริสถามขณะเดินตาม เข้าไปในลิฟต์

“เร็วที่สุด ฉันมีบัญชีแค้นที่ต้องชำระกับเธอ” เลย์ตันบอก นัยน์ตาดุดัน ก่อนจะก้าวออกจากลิฟต์
คริสหยิบโทรศัพท์ออกมาสั่งการให้การ์ดไปเอารูปเธอจาก กล้องวงจรปิดของโรงพยาบาล ส่งให้คนของแม็ตคลินทันที

“คุณหมอคีย์แมนขอคุยกับเจ้านายเรื่องอาการของคุณท่าน ครับ” คริสรายงาน

ร่างสูงชะงัก ใบหน้าเคร่งเครียดขึ้นเพราะความเป็นห่วงบิดา

“อาการทั่วไปไม่มีอะไรน่าห่วงครับ แต่คุณหมออยากคุยเรื่อง การผ่าตัดครั้งแรกของคุณท่านครับ” คริสรายงานต่อเพื่อให้เจ้า นายคลายกังวล เลย์ตันจึงเลี้ยวซ้ายไปที่ห้องทำงานของแพทย์ ประจําตัวบิดา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ