บ่วงวิวาห์จํายอม (The Unwilling Wedding)

7



7

“ทำไม? ที่ท่านประธานฯฉันยังเข้าไปคุยกับเธอในห้องได้เลย แล้วทำไมฉันจะเข้าไปไม่ได้ หรือฉันมันไม่มีศักดิ์ศรีพอที่จะเข้า ห้องเธอ ต้องเป็นเจ้าของบ้านอย่างท่านประธานฯงั้นสิเธอถึงจะ ยอมให้เข้าไป

หญิงสาวมัวแต่อ้าปากค้าง ด้วยสุดปัญญาจะหาคำอธิบายดีๆ มาตอบโต้เขา ทำให้เขาถือวิสาสะแทรกตัวเข้ามาในห้องเธอจน สุดที่เธอจะห้ามปรามได้อีกต่อไป จึงต้องปล่อยเลยตามเลย เธอ เดินกลับมาหาเขาซึ่งยืนอยู่กลางห้องของเธอก่อนแล้ว โดยที่ หญิงสาวไม่ยอมจะปิดประตูเพื่อความปลอดภัยต่อทั้งตัวเธอและ ชื่อเสียงของเธอเอง

“ปิดประตูซะ”

น้ำเสียงเขาติดจะห้วนๆ จนคนฟังรู้สึกฉัน “อย่าดีกว่าค่ะ คุณปรานต์มีอะไรก็รีบๆ พูดดีกว่า ฉันง่วงแล้ว อยากพักผ่อน

ชายหนุ่มมีท่าทีไม่พอใจอยู่ชั่วครู่ เมื่อรู้ว่าหญิงสาวไม่ยอมทำ ตามคำสั่งของเขา และรู้ว่าถึงแม้เขาจะบอกเธออีกครั้งว่าให้ไป ปิดประตูแต่ก็รู้ว่าเธอคงไม่ยอมทำตามอีกเช่นเดิม จึงต้องเดิน ตรงไปยังประตูและกระชากปิดอย่างแรงด้วยความโมโห หญิง สาวมีอาการสะดุ้งด้วยความตกใจ ก่อนวิ่งตรงไปยังประตูเพื่อที่ จะออกไปจากห้อง หากแต่ช้ากว่าเขาที่รีบคว้าข้อมือเธอแล้วดึงกลับมาเผชิญหน้ากับเขาซึ่งยืนขวางประตูไว้

“ปล่อยนะ”

เธอดิ้นรนและพยายามบิดข้อมือให้หลุดจากการเกาะกุมอย่าง รุนแรงของเขา แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าเขาจะยอมปล่อยง่ายๆ

“ฉันก็ไม่อยากจะจับเธอนักหรอกนะ แต่เราต้องคุยกันในเรื่อง ก่อน”

“มีอะไรก็รี พูดมาสิคะ ฉันอยากพักผ่อนแล้ว”

“เธอคุยอะไรกับท่านประธาน

“ท่านประธาน?” เธอออกจะแปลกใจกับคนที่ปารวีกล่าวถึง “อ๋อ! คุณลุงน่ะเหรอ? ก็ไม่มีอะไรนี่คะ คุยกันเรื่องทั่วไป

“โกหก! คิดว่าฉันจะเชื่อเหรอ?”

“นั่นก็แล้วแต่คุณ”

“ฉันขอเตือนไว้ก่อนนะว่าถ้าเธอคิดจะจับท่านประธานแทนแม่ ของเธอล่ะก็ อย่าหวังว่าเธอจะทำสำเร็จ เพราะฉันจะไม่มีวันยอม ให้ผู้หญิงหิวเงินอย่างเธอมาเป็นแม่เลี้ยงของฉันเด็ดขาด”

นัยน์ตาคมวาวโรจน์ด้วยความโกรธนั้น แทบเผาฝ่ายตรงข้าม ให้เป็นจุณ หากมันเปลี่ยนเป็นเปลวไฟได้จริงๆ แต่เธอก็ยามยาม เชิดหน้าท้าทาย ด้วยไม่อยากแสดงความกลัวให้เขาเห็น

“นี่คุณ! มันจะมากไปแล้วนะ ถึงแม้ว่าคุณจะเกลียดฉัน จนมี อคติกับฉัน ฉันก็ไม่ว่า แต่นี่คุณกำลังดูถูกพ่อคุณอยู่นะ ถึงแม้คุณกับท่านไม่สนิทกันเหมือนพ่อทั่วไป แต่เกียรติท่าน ไม่

อย่าสะเออะสอน! เธอเองมันไม่ได้กว่าฉันสักเท่า ไหร่หรอก อย่าคิดนะว่าฉันจะรู้ทันเธอ ว่าเธอมามาบ้านนี้ต่างหาก แต่เมื่อครู่เธอกับพ่อคงยังไม่อะไรกันหรอ กมั้ง เพราะของพ่อฉัน แต่อย่างว่าล่ะนะ เธอคงมืออาชีพใจของท่านประธาน แกล้งเห็นว่าค่า สุดท้ายค่อยกายท่านประธานจะรัก เธอจนโงหัวไม่ขึ้นสิ”

หญิงสาวแทบอยากจะหัวเราะกับได้อยู่ชุดเสื้อกล้ามเธอเพิ่งถอดเสื้อคลุมออกหลังจากปัณณวัฒน์กลับออก แล้ว

คุณไม่น่าเป็นธุรกิจเลยน่าไปเป็นนักเขียนมากกว่า ปั้นคิดอื่นเขาความคิดสกปรกอย่างคุณ กรุณาอย่า ใช้ตัวเองเป็นบรรทัดฐานในการตัดสินคนอื่น

หรือตำหนิเขาเช่นนี้มาก่อน แล้วยายผู้หญิงคนเป็นใครถึงกล้า พูดกับเขาถึงเพียงนี้
“แล้วเธอมันดีกว่าฉันตรงไหนกัน เธอเองก็ไม่ต่างกับโสเภณี ข้างถนนทั่วนักหรอก”

ญาตาวีเบิกตากว้างด้วยความตกใจระคนกรุ่น โกรธ ไม่อยาก จะเชื่อเลยว่าคนมีการศึกษาเป็นถึงลูกเจ้าของ บริษัทฯ ยักษ์ ใหญ่จะมีความคิดช้าเช่นนี้ และไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะมีอคติ กับเธอมากมายขนาดนี้ ทั้งๆ ที่เพิ่งเจอหน้ากันไม่ถึง 3 วัน สุดที่ จะหักห้ามความโกรธเคืองได้อีกต่อไป

เสียงเนื้อที่กระทบกันระหว่างมือเรียวสวยของเธอกับใบหน้า หล่อคมคายของเขาดังสนั่นทั่วห้อง ใบหน้าหล่อเหลาหันไปตาม แรงตบทุกเจ้าของฝ่ามือปล่อยออกมาสุดแรงเกิด หญิงสาวมอง ฝ่ามือตนเองอย่างตกใจ ไม่คิดว่าตนจะขาดสติจนทำเช่นนั้นลง ไป ก่อนเงยหน้าสบตาชายหนุ่มที่สูงกว่าเธอ 20 กว่าเซนติเมตร นัยน์ตาดำสนิทของอีกฝ่ายวาวโรจน์ด้วยความโกรธที่ถูกโหม กระพือขึ้น เหมือนกับเอาน้ำมันราดใส่กองไฟ

ปารวีคว้าข้อมือเล็กๆ ของหญิงสาวตรงหน้าบีบแน่นสุดแรง ก่อนกระชากร่างบางเข้ามาเกือบชิดกับร่างแกร่งจุพลังของเขา ญาตาวีเบิกตากว้างด้วยความตกใจ

“นี่คงเป็นอีกวิธีในการเรียกร้องความสนใจสินะ!? บังเอิญว่า ฉันไม่ใช่ท่านประธานที่จะยอมให้เธอแผลงฤทธิ์ใส่ โดยไม่เอา เรื่องเธอ ในเมื่อเธอต้องการความสนใจมากนัก ฉันก็จะ สงเคราะห์ให้!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ