บทที่7จูนเซียนเซียนกลายเป็นคนให้
“บัดซบ”จูนเหลยเทียนฟาดโต๊ะอย่างสุดโกรธ”จูนจิ๋วนั้นแอบ ปกปิดตัวเองเมื่อก่อนพวกเราโดนนางหลอกนางไม่ใช่คนขี้ขลาด ตาขาว”
“นายท่านตอนนี้จะทำยังไงกันดี?” พ่อบ้านกระสับกระส่ายอยู่ ด้านข้าง คำสั่งของหมู่พวกเราจะไม่ทำตามไม่ได้หากบ้านหลัก รู้เรื่องน่ากลัวว่าจะลงโทษพวกเรา”
“จะให้ทำยังไง?นักจิตชั้นหนึ่งสองคนล้วน โดนฆ่าตายแล้วหรือ ต้องให้ข้าเสี่ยงชีวิตไปจัดการด้วยตัวเองหรือ?”
“นายท่านใจเย็นๆพวกเรายังมีคุณหนูหวั่นไม่ใช่หรือ? คุณหนู
หวั่นเป็นถึงนักจิตชั้นสองฆ่าจนจิ๋วนั้นง่ายเหมือนเด็ดผัดฆ่าปลา
เท่านั้น พ่อบ้านพูดขึ้น
เมื่อได้ฟังดังนั้นแววตาจูนเหลยเทียนเป็นประกายดีรีบเขียน จดหมายให้นกพิราบส่งข่างไปให้หวั่นเอ๋อร์ให้นางรีบกลับมาไม่ ต้องไปจุดธูปอะไรให้แม่ของนางแล้วฆ่าจูนจิ๋วก่อน
“รับทราบครับ”
เมื่อสั่งเสร็จจูนเหลยเทียนค่อยไปดูจูนเซียนเซียน
เขาหาหมอที่ดีที่สุดในเมืองเฟิงหลัวมาช่วยต่อคางให้จูนเซียน เซียนแววตาจูนเซียนเชียนเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและเจ็บ ปวดจ้องมองจูนเหลยเทียนอย่างทันที
“เขียนเรียน ใจเย็นๆปากของเจ้าเพิ่งต่อเสร็จยังพูดไม่ได้รอ ผ่านไปหลายวันก็ดีขึ้นเจ้าวางใจเถอะพ่อจะฆ่าจูนจิ๋วเพื่อแก้แค้น ให้เจ้า
ตอนนี้พวกเขายังไม่รู้ว่าต่อไปจูนเซียนเซียนจะไม่สามารถพูด ได้อีกจูนเซียนเขียนจับชายเสื้อจูนเหลยเทียนไว้อย่างแน่นนาง เจ็บเจ็บเหมือนตายทั้งเป็นเหมือนร่างกายโดนไฟแผดเผา
เห็นจูนเซียนเซียนเจ็บปวดขนาดนี้จนเหลยเทียนพูดขึ้น ว่า “หมอทำไหมลูกสาวข้าทรมานแบบนี้ยังมีตรงไหนที่เจ้ายังไม่ ได้รักษาหรือเปล่า”
“เรียนนายท่านจูนระบบภายในคุณหนูรองได้รับบาดเจ็บข้าจะ เขียนสูตรยาแก้ปวดให้พักผ่อนเดียวก็หาย
ไม่ไม่ใช่อันนี้
แม้แต่หมอที่ดีที่สุดในเมืองเฟิงหลัวยังตรวจไปพบจูนเซียนเชีย นจำต้องทนทุกข์เองคนเดียวไม่มีใครที่สามารถพูดได้ อนาคตของนางเต็มล้นไปด้วยความสิ้นหวัง
อีกด้าน
จูนจิ๋วเข้าพักในเรือนตงหูวิวทิวทัศน์งดงามตกแต่งประณีตมี ระดับบ่งบอกถึงความหรูหราที่นี่จูนเหลยเทียนเอาไว้ใช้ต้อนรับ รับรองพวกแขกจากบ้านหลักตอนนี้ต้องยกให้จูนจิ๋วพักอาศัย อย่างไม่พอใจ โกรธจนต้องกระทืบเท้า
รู้ว่าจูนเหลยเทียนไม่มีความสุขจูนจิ๋วโคตรมีความสุข แต่จูนจิ๋วขมวดคิ้วจ้องมองไม่เยว่เจ้าจะอยู่ที่นี่?”
“เรือนตงหูมีห้องตั้งมากมายไม่ได้หรือ?” โม่เขาพิงอยู่ที่ขอบ ประตูแสงแดดสาดส่องผมสีทองของเขาระยิบระยับงดงามดั่ง แสงจันทร์
ดวงตาสีทองมองดูนางดังจะดูดกลืนกินจูนจิ๋วอย่างไม่สามารถ คัดค้าน
เหมือนดั่งตอนนี้ที่โม่อู๋เยวตามติดนางเหมือนพลาสเตอร์หนัง สุนัขสู้ก็ไม่ไหวสลัดทิ้งก็ไม่ได้จูนจิ๋วจำต้องยอม
นางหายใจเข้าลึกๆมองไปยังโม่เยวแล้วพูดขึ้นว่า “ตอนนี้ข้า อยากพักผ่อนเจ้าไปได้แล้วมั้ง?”
“ได้”ครั้งนี้โม่อู๋เยวขากไปอย่างว่าง่าย
จูนจิ๋วปิดประตูหงายหน้าล้มนอนบนเตียงดูแล้วเหมือนอารมณ์
ไม่ดี
กําไลมือค่อยๆปลอบใจเจ้านายตัวเองอย่างระมัดระวัง “เจ้า นายเจ้าดูเขาหล่อเหลาขนาดนั้นเก็บไว้ดูแทนวิวทิวทัศน์ก็ไม่เลว นะ”
“เป็นเจ้าที่อยากดูมากกว่าไหม?”
“เปล่าในสายตาเสี่ยวอู่เจ้านายเป็นคนที่น่ามองที่สุดในโลก” กำไลข้อมือมีชื่อเรียกหนึ่งชื่อว่าเสี่ยวจูนจิ๋วเป็นคนตั้งให้
นี่เป็นตอนที่นางยังเด็กได้ไปเที่ยวเล่นที่ตลาดขายของเก่าเถา เป่าแล้วซื้อกลับมานึกไม่ถึงว่าเปิดกำไลข้อมือออกรับมายังแถม พื้นที่ว่างมาด้วยจูนจิ๋วรู้สึกมาตลอดว่าหากกำไลของนางมีรูป ลักษณ์อย่างอื่นจะต้องเป็นอะไรที่น่ารักชอบเรียกร้องความสนใจ อะไรแบบนั้น
นางยังไม่รู้ว่าไม่ช้านางก็จะได้เห็นรูปร่างหน้าตาที่แท้จริงของ กําไลข้อมือของนางแล้ว
จูนจิ๋วพูดขึ้นว่า “ข้าไม่ได้เครียดเรื่องเขาแต่ข้าอยากถามเจ้ามา ตลอดตอนอยู่ที่ใต้หน้าผาข้าไม่มีเวลาถามเกี่ยวข้าข้ามภพมา เกี่ยวข้องกับเจ้าใช่ไหม?
“อืม”เสี่ยวอู่ตอบอย่างหวาดผวา จูนจิ๋วกระพริบตายกมือจ้องมองกำไลข้อมือ เพราะอะไร?”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ