ตอนที่ 2 ศิลปะของคนมือบอน
เช้าตรู่ –
ตุงคินลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เขากวาดสายตามองไปรอบ ๆ ห้อง และพบว่าเขายังอยู่ในโรงแรมเมื่อวานนี้แน่นอน
ทั้งห้องว่างเปล่ามีเพียงเขา เมื่อวานยัยผู้หญิงสมควรตาย นั่นทำอะไรกันแน่
เขาหยิบกระเป๋าสตางค์ขึ้นมาตรวจสอบ พบว่าไม่เพียงแต่ เงินยังอยู่ครบทั้งหมด แถมยังมีจำนวนเพิ่มขึ้นอีกสองร้อย ห้าสิบบาท
ถ้าไม่ใช่เพื่อเงิน แล้วเพื่ออะไรกัน
เขาขมวดคิ้วและเดินไปที่ห้องน้ำ
“ระยำ”
แผ่นหลังของเขากระแทกเข้าประตูห้องน้ำอย่างแรง ตรง ข้ามประตูมีกระจกติดอยู่ ชายในกระจกแต่งหน้าด้วยริม ฝีปากสีแดงสด อายแชโดว์สีเขียวและวาดรูปเต่าติดอยู่ที่ ใบหน้าด้านซ้าย
“ยัยบ้า อย่าให้จับได้นะ” ตุงคินโกรธมาก เขาไม่เคยถูก หลอกอย่างนี้มาก่อน
เขาใช้เวลาครึ่งชั่วโมงในการเขาล้างร่องรอยบนใบหน้า ของเขาออก ใบหน้าของเขาตอนนี้ดำก่ำอย่างน่ากลัว ในขณะที่เขาเปลี่ยนเสื้อผ้า เมื่อเขาก้มศีรษะลงหางตาก็ เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างตกอยู่ที่มุมโซฟา จึงล้มลงไป เก็บขึ้นมา
มันคือบัตรประชาชน รูปบนบัตรคือผู้หญิงคนเมื่อวาน แน่นอน เธอชื่อ แก้วใจ
ตุงคินลูบมือบนรูปเบาๆ พร้อมกับยิ้มด้วยรอยยิ้มเยือกเย็น “แก้วใจ ถือว่าเธอคิดผิดแล้วล่ะที่คิดจะมามีเรื่องกับฉัน”
แต่ –
นามสกุลของผู้หญิงคนนี้คือทองพิทักษ์
สมองพลันปรากฎภาพบางอย่างขึ้น แต่เพียงครู่เดียวก็ หายไป บนโลกนี้มีนามสกุลตั้งมากมาย ทำไมบังเอิญขนาด นี้นะ
ทันใดนั้นโทรศัพท์ดังขึ้น หน้าจอปรากฏเบอร์แปลก
“คุณอัยการ ตอนนี้คุณน่าจะตื่นแล้วใช่มั้ย”
“เธอนี่เอง” เขายกยิ้ม แต่มือกลับกำแน่นแทบระเบิด นี่เธอ ยังกล้าโทรหาเขาอีกหรือ
“ใช่ฉันเอง คุณไม่สงสัยหรอว่าเมื่อวานฉันทำอะไรกับคุณในมือฉันมีอะไรบางอย่างเกี่ยวกับคุณด้วยหละ”
“คุณจะแบล็คเมล์ผมหรอ”
“ไม่ได้แบล็กเมล์ เพียงแต่ต้องการให้คุณช่วยอะไรบาง อย่างแค่นั้นเอง”
“ช่วยอะไร”
“เจอกันค่อนคุยดีกว่า”
ตุงคินวางสาย กัดฟันด้วยความโมโห ดีมากผู้หญิงคน นั้นยังกล้าที่จะขอพบเขา แต่เขาก็ยังสงสัยว่าอะไรคือจุด ประสงค์ของเธอถึงได้พยายามเข้าหาเขาอยู่ซ้ำๆ
ภายในร้านกาแฟ แก้วใจมัดผมรวบสูง สวมเสื้อเชิ้ตและ กางเกงยีนส์ธรรมดา ดวงตากลมโตกวาดมองไปทั่วๆร้าน ราวกับว่ากำลังรอใครซักคนอยู่
ตุงคินยังคงอยู่ในชุดสูทชุดเดิม ผมของเขาจัดทรงอย่างดี เสื้อผ้าของเขาไม่มีแม้แต่รอยยับ
“ไฮ ท่านอัยการ ฉันดีใจมากที่ได้พบคุณวันนี้” เธอทักทาย ด้วยรอยยิ้ม แต่รอยยิ้มกลับแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์เหมือน สุนัขจิ้งจอกตัวเล็ก ๆ ที่ชั่วร้าย
“งั้นหรอ” เขายกคิ้วขึ้นและนั่งลงตรงข้ามเธอ ดวงตาของ เขาดูคาดเดายาก
แก้วใจหยิบเอาซองจดหมายออกมา แล้วส่งไปให้เขา ด้วยรอยยิ้ม “ท่านอัยการเป็นคนฉลาด คุณคงจะรู้ดีว่าเมื่อ ภาพถ่ายเหล่านี้ถูกเปิดเผยออกไปแล้ว อาชีพและภาพ ลักษณ์ส่วนตัวของคุณจะได้รับผลกระทบอย่างมาก
เขาพลิกรูปทีละภาพด้วยท่าทางไม่ทุกข์ร้อน มุมปากของ เขาเผยรอยยิ้มขึ้น โดยที่ไม่เห็นถึงความโกรธใด ๆ
“คุณต้องการอะไร
“ฉันอยากให้คุณทำคดีหนึ่งให้ฉัน มันเกี่ยวกับ
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น แก้วใจมองไปที่หมายเลขนั้น คิ้วของ เธอก็ขมวดขึ้นทันที หลังจากนั้นเธอจึงกดรับสาย “น้องบ้า แกโทรมาอีกทำไม”
“พี่ รีบมา พวกมันจะตัดนิ้วผมแล้ว รีบมา”
“นี่แกไปเล่นพนันอีกแล้วหรอ” สีใบหน้าของแก้วใจเปลี่ยน ไปทันที เธอสบถด้วยความโกรธ “สมควรที่แกจะโดนตัดนิ้ว ทิ้ง”
“ไม่นะ พี่เป็นญาติเพียงคนเดียวของผมแล้ว พี่จะทนเห็น ผมตายไปโดยไม่ช่วยอะไรไม่ได้นะ”
คำพูดของทัตติทําให้เธอรู้สึกตัวขึ้นมา ใช่ในตอนนี้พวก เขาเป็นญาติเพียงคนเดียวที่สามารถพึ่งพาซึ่งกันและกันได้ ถ้าเธอไม่สนใจแล้วน้องชายของเธอจะทําอย่างไรได้
“แกอยู่ไหน”
เธอวางหูโทรศัพท์ด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง ก่อนที่เธอจะเงย หน้าขึ้นแสร้งทำเป็นปกติ “คุณอัยการ ขอโทษด้วยฉันต้อง ไปทำธุระ แล้วฉันจะติดต่อกลับไป
หลังพูดจบเธอก็คว้ากระเป๋าแล้ววิ่งออกไป
คิ้วของตุงคินยกขึ้นเล็กน้อย ดวงตาของเขาหลุบมองลง บนภาพถ่ายพร้อมกับหยิบโทรศัพท์มือถือของเขาขึ้นมา “ไป เช็คข้อมูลของครอบครัวถวิต”
คาสิโนใต้ดินที่ใหญ่ที่สุดในเมือง S ไม่ใช่ครั้งแรกแก้ว ใจมาที่นี่ ครั้งที่แล้วก็เป็นเพราะมาใช้หนี้ให้ทัตติ และเป็น เดียวกับที่พ่อของเธอประสบอุบัติเหตุอีกด้วย
ติ้ง –
ลิฟท์เปิดขึ้นแก้วใจก้าวเดินออกไปอย่างรวดเร็ว บรรยากาศของคาสิโนเงียบมาก ทุกคนต่างก็หมกมุ่นกับการ เล่นอย่างเต็มที่จนไม่มีเสียงใดๆดังออกมา
“ติ๊งง”
ประตูเปิดออก แก้วใจรีบดึงกระเป๋าของเธอแน่นและก้าว เข้ามาอย่างรวดเร็ว และภาพที่ปรากฏตรงหน้าคือทัตติที่ถูก เหยียบลงบนพื้น
เขาถูกซ้อมอย่างหนัก จนร้องครวญครางด้วยความเจ็บ ปวดไม่หยุด
“ทำไมพวกคุณถึงต้องทำร้ายคนอื่นด้วย ยืมเงินไปเราคืนก็
จบแล้ว จะทําร้ายร่างกายกันทําไม” แก้วใจผลักผู้ชายตัวโต
ที่กำลังเหยียบทัตติอยู่และถามด้วยความโกรธ
“พี่ พี่มาแล้ว” ทัตติดึงมือของเธอขึ้นมาจับและสูดดม
“ในเมื่อคุณมาแล้ว ก็รีบคืนเงินซะสิ” เจ้าของคาสิโนที่นั่ง สูบซิการ์อยู่ที่โต๊ะทำงานของเขา ค่อยๆพูดออกมาอย่าง ใจเย็น “ห้าล้านพร้อมบวกดอกเบี้ยอีกหนึ่งล้าน”
“อะไรนะห้าล้าน
แก้วใจรู้สึกตกใจอย่างมากและเธอไม่คิดว่าเขาจะติดเงิน จํานวนมหาศาลขนาดนี้
“ไม่ใช่ ยังมีดอกเบี้ยอีกหนึ่งล้านนะน้องสาว
“ฉันไม่สามารถหาเงินมาจ่ายได้ คุณตัดมือของเขาเถอะ” เธอก้มหน้าลงพร้อมพูดอย่างหดหู่
ทัตติหน้าซีดทันทีที่ได้ยิน เขารีบจับมือของแก้วใจ “พี่ ไม่ นะ”
ป้ง –
เธอกัดปากด้วยความวิตก ดวงตาของเธอเป็นสีแดงก่ำ รีบ ดึงมือของเธออกมาจากการเกาะกุมของทัตติ “อย่ามาเรียก ฉันว่าพี่ ฉันไม่มีเงินคืนให้แก
“มันจะเป็นไปได้ยังไง เงินสองล้านที่พ่อให้ล่ะ ทำไมพี่ เห็นแก่ตัวอย่างนี้ ถึงกับยอมให้เขาตัดนิ้วผม มากกว่าเอา เงินมาคืน”
เมื่อเจอกับคำถามของทัตติ แก้วใจก็รู้สึกกดดันขึ้นมา เธอ จะกล้าแตะเงินสองล้านนี้ได้อย่างไร งานของพ่อยังไม่เสร็จ เธอจะกล้าแตะต้องได้อย่างไร
“ฉันไม่มีเงิน”
“งั้นก็ลงมือเถอะ” เจ้าของคาสิโนยิ้มเยาะ และนำมีดออก
มา
ใบหน้าของเธอซีดเผือด มือของเธอกำแน่นจากนั้นใจของ เธอก็เริ่มลังเลขึ้นมา เงินเป็นของไม่มีชีวิต แต่คนยังต้องมี ชีวิตต่อไป เพราะเงินเธอถึงกับไม่ช่วยน้องชายเธอเลยจริง เหรอ แต่เงินนั้นมันใช้ได้ง่ายๆอย่างนั้นเลยหรือ
ก่อนที่พวกเขากำลังจะเริ่ม ชายคนหนึ่งก็เดินเข้ามาจาก ประตูแล้วกระซิบกับเจ้าของคาสิโน
เจ้าของคาสิโนมองมาที่แก้วใจด้วยสายตาซับซ้อน “คุณ แก้วใจมีคนจ่ายหนี้ให้น้องชายคุณแล้ว ตอนนี้เขาอยู่ห้อง ข้างๆ
แก้วใจตะลึงในทันที พูดตามจริงเธอนึกไม่ออกจริงๆว่าใคร จะมาช่วยเธอ
เธอไม่เก็บความสงสัยไว้ รีบเดินไปที่ห้องข้างๆทันทีโดย ไม่ลังเล
ห้องข้างๆก็เป็นห้องทำงานห้องหนึ่ง แต่ภายในห้องกลับมี
คนเพียงคนเดียวนั่งหันหลังให้เธออยู่
“คุณคือคนที่ช่วยฉันหรอ คุณช่วยฉันทำไม
เก้าอี้หันกลับมาช้าๆ เผยเสี้ยวหน้าหล่อเหลาค่อยๆกระตุก ยิ้มขึ้นน้อยๆ “คุณแก้วใจ ยินดีได้พบคุณอีกครั้ง”
เขาคือตุงคิน
และรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาตอนนี้ ไม่ใช่รอยยิ้มแบบ เดียวกับที่เธอเพิ่งแสดงให้กับเขาเมื่อก่อนหน้านี้หรอกหรือ
“ที่แท้ก็เป็นคุณ”
แก้วใจกำมือของเธอแน่น เธอไม่มีทางเชื่อแน่ว่าผู้ชายคน นี้จะใจดีขนาดนี้ และไม่มีเหตุผลที่เขาจะช่วยเธอใช้หนี้
“คาดไม่ถึงขนาดนั้นเลยหรอ”
“ฉันจะส่งหลักฐานพวกนั้นคืนให้คุณ” แก้วใจเม้มริมฝีปาก ไปมาก่อนจะเอ่ยพูด “ถือว่าเราหายกัน”
“หายกัน” หัวเราะเยาะเบาๆ “มันง่ายขนาดนั้นเชียว”
เมื่อวานตอนที่เธอเขียนบนหน้าของเขา เธอได้เคยคิดถึง สถานการ์นี้บ้างไหม เธอบอกว่าหายกันก็คือหายกันงั้นหรอ
“คุณต้องการอะไรอีก”
“สองเงื่อนไข”
เงื่อนไข นี่คือสิ่งที่เธอพูดและเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ถูกเขาใช้ มันคืน
แก้วใจมองไปที่เขา รอเงื่อนไขที่จะออกมาจากปากของ เขา ฝ่ามือของเธอค่อยๆมีเหงื่อซึมออกมา และเธอรู้สึกได้ว่า ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนที่จะจัดการได้ง่ายๆ
“ผมขาดเจ้าสาว”
เธอเบิกตากว้างและมองเขาด้วยความไม่เชื่อ จริงๆแล้ว เธอคิดไม่ถึงว่าเขาจะขอเธอเรื่องนี้
“ทำไม เมื่อวานคุณไม่ได้บอกว่าชอบผมหรอ แต่ที่ แสดงออกตอนนี้มันเหมือนจะดูลำบากใจนะ
ใครบอกว่าแค่ลำบากใจล่ะ โครตลำบากใจมากๆเลยต่าง หาก เขาขาดเจ้าสาวแล้วเกี่ยวอะไรกับเธอ แถมเธอยังไม่ เคยคิดถึงเรื่องแต่งงานมาก่อนในชีวิต
เธอไม่อยากแต่งงาน ไม่อยากแต่งงานกับคนที่เจ้าเลห์ และมีพิษสงอย่างตุงคิน
“ฉันปฏิเสธได้ไหม”
“งั้นก็ตัดมือของเขาซะ ไหนๆคุณก็ยอมให้ตัดนิ้วแล้วนี่นา คุณจะได้ไม่ต้องกังวลว่าเขาจะมาเล่นพนันอีกในภายหลัง” ดุงคินยกริมฝีปากขึ้นเล็กน้อยและยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ
มันเป็นเรื่องที่พูดได้ง่ายแต่ทำได้ลำบากเหลือเกิน เธอ เป็นพี่สาวของเขา พี่สาวแท้ๆ
“ก็แค่แต่งงานเองนี่นา ฉันตกลง เงื่อนไขที่สองคืออะไร
เมื่อได้ยินแก้วใจตอบตกลง สายตาของเขาก็ไม่ได้มีความ แปลกใจใดๆ ราวกับว่าเขาจะเดาได้ตั้งแต่ต้นแล้วว่าเธอจะ ตกลง
เขาเหลือบตาลงเล็กน้อยและใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบาๆ “เงื่อนไขที่สองผมจะบอกคุณในวันแต่งงาน
แก้วใจรู้สึกกังวลใจอยากมาก เธอรู้สึกว่าหาเรื่องผู้ชายคน นี้ไม่เป็นผลดีกับเธอเลย
เธอเลิกคิ้วขึ้นอย่างแน่วแน่ “ได้ ฉันตกลง แต่งเมื่อไหร่ก็ บอกฉันล่วงหน้าด้วยแล้วกัน”
เมื่อเธอหันกลับ เตรียมจะเดินจากไปเสียงของเขาก็ตอบกลับมาว่า “แก้วใจ ผมจะรอวันที่คุณจะได้เป็นเจ้าสาวของ ผม”
ร่างกายของเธอสั่นเทิ้มและลึกๆในใจมีความวิตกกังวล อย่างหนัก เธอไม่เชื่อว่าผู้ชายคนนั้นจะลืมคืนนั้น เธอไม่ เพียงแต่แทงเขาด้วยเข็ม ยังวาดรูปเต่าลงบนใบหน้าของ เขาอีก
“หึๆ” เขาหัวเราะเสียงเย็นแล้วเดินออกมา
ทัตติในสภาพบอบช้ำยืนอยู่หน้าประตู เขามองเธอด้วย สายตาเย็นชา ในใจเต็มไปด้วยความขมขื่นและเดินจากไป
“ท่าทางแบบนี้หมายความว่าไง
“ไม่หมายความว่าไง”
“แกเล่นการพนันมันสมควรโดนมั้ย” แก้วใจคว้าเขาไว้ เพราะเขาเธอถึงถูกบังคับและข่มขู่ แล้วนี่ทัตติยังจะเมินเธอ อีกหรือ ช่างเป็นการช่วยที่เสียงแรงเปล่าจริงๆ
หัวใจของเธอเหมือนถูกทับด้วยก้อนหินขนาดใหญ่ และ ไม่สามารถยกออกจากอกได้
“พี่จะไปรู้อะไร” ทัตติอดไม่ได้ที่จะดึงมือเธอออก และหยิบ บุหรี่จากกระเป๋ากางเกงขึ้นมาสูบ “พี่ไปเถอะ ผมยังมีเรื่องที่ ต้องทำ”
“เด็กบ้า กลับบ้านกับฉันเดี๋ยวนี้”
“เราไม่มีบ้านแล้ว”ทัตติพูดออกมาอย่างทนไม่ไหว สายตา เขาเต็มไปด้วยความเสียใจ “ผมไม่ชอบอาศัยเขาอยู่”
แก้วใจชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพยายามปลอบใจเขา “อา รองดูแลเราได้ไม่เลวเลย
“มีแต่พี่เท่านั้นที่คิดอย่างนั้น”
พลันเกิดความเงียบขึ้นระหว่างทั้งสองคน เธอรู้สึกเหนื่อย ใจ ไม่รู้ว่าทำไมจากน้องที่เชื่อฟังของเธอถึงเปลี่ยนเป็นคน ช่างเถียงแบบนี้
“งั้นก็ตามใจ คราวหน้าถึงแม้ว่าจะตายอยู่ข้างนอกก็อย่า โทรหาฉันอีก ฉันไม่ใช่พี่สาวแกอีกต่อไป” ดวงตาของเธอ แดงก่ำ เธอกัดริมฝีปากแน่นและเดินเข้าลิฟต์ไปทันที
ทัตติจ้องมองเธออย่างหมดหนทาง น้ำเสียงมีความกังวล เล็กน้อย “อาสะใภ้ให้ผมบอกพี่ว่าตอนเย็นให้ไปงานเลี้ยง อาหารค่ำเป็นเพื่อน พี่ต้องระวังตัวนะ”
ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาอาสะใภ้มักจะพาเธอไปงานเลี้ยง อาหารค่ำ ดังนั้นเธอจึงชินกับมันแม้ว่าเธอจะรู้สึกไม่ชอบ แต่ เธอทำอะไรไม่ได้เพราะมาอาศัยเขาอยู่
“โอเคพี่รับรู้แล้ว สัญญากับพี่ก่อนว่าแกจะไม่เล่นการพนัน อีก ถ้าเล่นอีกละก็พี่คงทำได้แค่ไปขายเลือดหาเงินมาให้ เธอบอกอย่างติดตลก
ทัตติชะงักและก้มหน้าลงเหมือนเด็กที่ทำความผิด ก่อนจะ ตอบกลับมาว่า “เข้าใจแล้วครับ”
ลิฟต์ปิดตัวลงอย่างช้า ๆ และรอยยิ้มบนใบหน้าของแก้ว ใจก็ค่อยๆจางหายไป
เพิ่งเดินออกจากคาสิโนมาไม่กี่ก้าว เธอก็ถูกชายคนหนึ่งที่ สวมแว่นสีดำ ท่าทางสุภาพยืนขวางเธอไว้ “คุณแก้วใจ คุณ ตุงคินให้คุณรอเขาที่นี่
คุณตุงคิน ตุงคินไหน นายบ้าตุงคนนั่นอีกแล้วหรอ
การต่อสู้เมื่อสักครู่เขาก็เพิ่งชนะไป ยังจะกันเธอไว้ไม่ ให้ไปเพื่ออะไรกัน เขาจะทำลายเธอเละให้เป็นผงเลย หรือไง ถึงแม้ว่าเธอจะไม่อยากยอมรับว่าตอนนี้เธอเหมือน หมา แต่ณ.ขณะนี้เธอก็อยู่ในสถานะหมาจริงๆ เธอแพ้อย่าง ราบคาบ
“บอกเขาว่าภรรยาไม่มีเวลามาต่อล้อต่อเถียงกับเขา”
“ไม่เจอกันแค่ไม่กี่นาที ก็เพิ่มขึ้นตำแหน่งขึ้นเองซะแล้ว”
เสียงยียวนดังขึ้นมาจากด้านหลัง แก้วใจตัวแข็งทื่อฝืนยิ้ม แล้วหันกลับไปมองผู้ชายที่ยืนอยู่ด้านหลังทันที
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ