ฐานะในวังหลวง
“ของที่ทำประณีตอีกทั้งยังดูน่าสนใจเช่นนี้อาจจะเป็นของ ราชวงศ์หรือสนมนางใดก็ได้”
“สิบสาม ชื่อนี้หากไม่ใช่ชื่อเจ้ากระต่ายตัวที่สิบสามก็ต้องเป็น ชื่อของคนในราชวงศ์ เจ้าดูว่ามีผู้ใดที่น่าจะเป็นเจ้าของทุกคน ย่อมรู้ว่าฝ่าบาทไม่ชอบให้มีสัตว์เลี้ยงในวังเพียงใด หากรู้ว่ามี คนแอบขัดคำสั่งคงได้โดนลงโทษเป็นแน่”
“เช่นนั้นท่านแม่ทัพจะสนใจทำไมขอรับ เรื่องหยุมหยิมภายใน วัง” องครักษ์ผ่านมองว่าผิดวิสัยของหยางเอ้อหลางนัก
“จู่ๆ ก็อยากรู้ขึ้นมาว่าเจ้าของกระต่ายแรงเยอะผู้นั้นมีใบหน้า อย่างไรเจ้าส่งข่าวไปยังเจ้าของว่าข้ามีกระพรวนอยู่ในมือแต่ ต้องการส่งมอบให้เจ้าของตัวจริงเท่านั้น ผู้อื่นขาไม่พบหากของ สิ่งที่สำคัญจริงเขาย่อมมาพบข้าด้วยตัวเอง”
ใบหน้าหล่อเหลาคมคายของหยางเอ้อหลางเคร่งขรึมลง กระพรวนที่ถืออยู่ในมือยิ่งมองดูยิ่งคุ้นตาคล้ายกับเขาเคยเห็นสิ่ง นี้มาก่อน เพียงแต่เขาจำไม่ได้ว่าเคยเห็นจากที่ใดสัญชาตญาณ ของเขาทําให้เขาไม่อาจปล่อยวางเรื่องนี้ได้
“องค์หญิงข่าวดีเพคะพบแล้วเพคะกระพรวนผู้พิทักษ์”
อาชิงวิ่งกระหืดกระหอบมาพร้อมกับใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม องค์ หญิงสิบสามเงยหน้ามองครั้นเห็นว่าเป็นอ๋องฉางอันที่ก้าวเท้าตามอาชิงมาอย่างสง่างามใบหน้าพลันแย้มยิ้ม
“พี่ใหญ่พบแล้วหรือเจ้าคะ”
“ใช่ไม่คิดว่าแผนของเจ้าจะได้ผลเร็วเช่นนี้ ฉลาดเสียจริงสิบ สามของพี่” ท่านอ๋องฉางอันระบายลมหายใจออกมาด้วยความ โล่งอก
“แปลว่าข้าจะได้กระพรวนคืนจริงๆ แล้วใช่หรือไม่”
“เพคะ มีคนผู้หนึ่งติดต่อคนของเรามาว่าพบของแล้วและ
ต้องการคืนให้ท่านด้วยตนเองอีกสองวันคือวันนัดพบเพคะ” อา ชิงรีบตอบด้วยความตื่นเต้น “เอ๋ให้ข้าไปพบเขาด้วยตนเองหรือ” องค์หญิงชี้นิ้วมาที่ตนเอง
รู้สึกแปลกประหลาดนัก
“เพคะ”
“เหตุใดคนผู้นี้จึงเรื่องมากเช่นนี้ แล้วจะแน่ใจได้อย่างไรว่า เป็นกระพรวนของข้าจริงๆ
องค์หญิงสิบสามขมวดคิ้วหมุน คนผู้นั้นไยจึงไม่รับเงินแล้วส่ง
มอบกระพรวนเสีย
“ไม่ต้องห่วง พี่ใหญ่จะเป็นผู้ออกหน้าไปรับกระพรวนให้เจ้า เอง ส่วนเป็นของจริงหรือไม่นั้นคนของเราตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นของจริง”
องค์หญิงสิบสามกระตุกแขนเสื้อของอ๋องฉางอันแล้วเอ่ยขึ้น
“พี่ใหญ่เป็นพี่ชายที่แสนดีของข้าจริงๆแต่ว่าข้าก็อยากพบคน
ผู้นั้นขาติดตามไปด้วยได้หรือไม่” นางทําท่าทางออดอ้อนอย่างน่ารัก ฉางอ๋องเพียงแต่ต้นหน้า ผากของนางที่กำลังซบประจบลงบนลำแขนของเขาออกห่าง
ตนเองแล้วเอ่ยขึ้น
“ไม่ได้เจ้ารออยู่ที่นี่จะปลอดภัยกว่าอย่าสร้างเรื่องเลยให้ใหญ่ โตจนผู้คนผิดสังเกตเลย”
องค์หญิงสิบสามเม้มปาก นางแค่จะไปดูห่างๆ อีกทั้งพี่ใหญ่ที่มี องครักษ์อยู่มากมายองค์หญิงสิบสามจึงคิดว่าคงไม่เกิดเรื่องอัน ใดขึ้น
“พี่ใหญ่เช่นนั้นข้าออกนอกวังกับท่านแล้วรออยู่ที่ไกลๆ จะได้ หรือไม่ ถือโอกาสออกไปเที่ยวเล่นท่านช่วยทูลขอฮองเฮาให้ข้า หน่อยอยู่ในนี้อึดอัดมานานแล้ว สวนหน้าตำหนักข้าก็ดูจนเบื่อ แล้วด้วย”
“ตอนเจ้ากลายร่างยังเที่ยวเล่นไม่พออีกหรือ
“ตอนนั้นข้าถูกหินจันทราครอบงำไม่เป็นตัวของตัวเองเท่าใด ควบคุมตนเองยังลำบากท่านจะเหมารวมว่าข้าออกไปเที่ยวเล่น ไม่ได้ นะเพคะพี่ใหญ่ข้าสัญญาว่าจะไม่ก่อเรื่องอยู่อย่าง สงบเสงี่ยมที่สุด”
นางออดอ้อนเขาอีกครั้ง ดวงตาใสแจ๋วจ้องมองอ๋องฉางอัน อย่างใสซื่อ แม้ใจในจะเป็นกังวลแต่ในที่สุดอ๋องฉางอันก็ยอม พ่ายแพ้แก่นาง
“ก็ได้เช่นนั้นเจ้ารออยู่ที่เหล่าน้ำชาข้าจะไปพบคนผู้นั้นค่อย กลับมารับเจ้าดีหรือไม่” “เพคะดียิ่งขอให้ได้ออกจากวังหลวงเถิด ให้รอที่ไหนก็ย่อม
องค์หญิงสิบสามตื่นเต้นนักที่จะได้ไปเที่ยวเล่นนอกวังที่เปรียบ เหมือนกรงขังแห่งนี้ การเป็นองค์หญิงนั้นมีกฎข้อห้ามมากมาย ถึงนางจะเป็นองค์หญิงที่ไม่มีใครใส่ใจด้วยมารดาเป็นเพียงธิดา เทพธรรมดาผู้หนึ่ง
หากเปรียบเทียบกับบรรดาสนมอื่นในวังที่มีผู้หนุนหลังจาก ตระกูลใหญ่แล้ว องค์หญิงสิบสามนับว่าเป็นองค์หญิงที่ต่ำต้อย ที่สุดก็ว่าได้
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ