ท่านอ๋องอย่าคิดหนี(มีEbook)

บทที่ 3 อย่าคิดจะหยามข้า



บทที่ 3 อย่าคิดจะหยามข้า

ชวน ฮูหยินชราตระกูลฟานยิ้มกว้างเมื่อเห็นหลานสาวคนโต ให้ดูอาหารที่วางเรียงรายเต็มโต๊ะ

“ท่านย่า ทุกจานล้วนเป็นฝีมือของข้า

“พ่อไม่เคยคิดมาก่อนว่า เจ้าจะทำอาหารได้น่าอร่อยเยี่ยง นี้” เสนาบดีฝ่ายซ้ายกวาดตามองอาหารแต่ละจาน

“ท่านย่ากับท่านพ่อลองชิมหน่อยสิเจ้าคะ”

สองผู้อาวุโสสบตากันเสนาบดีฟานคีบอาหารใส่ถ้วยข้าวให้ มารดา “ท่านแม่ ท่านต้องชิมฝีมือหลานสาวท่านให้มาก

เมื่อคนอื่นๆ เห็นว่า ทั้งสองท่านเริ่มลงมือแล้ว จึงได้เริ่ม ลงมือ ฟานซิวอิงหันไปเอาใจมารดา “ท่านแม่ ข้าอยากให้ท่าน

ชิมจานนี้”

ฮูหยินใหญ่ยิ้มรับ “มิเสียแรงที่พ่อบ้านเหลยนำพี่สาวมาจาก เหลาเลื่องชื่อ เจ้าจึงพลอยได้ฝีมือทำอาหารไปด้วย” หลายปีแล้ว ที่บุตรสาวของนางเพิ่งจะมีโอกาสกลับมายังจวนในเมืองหลวง ร่างกายที่อ่อนแอของคุณหนูใหญ่ทำให้สองสามีภรรยาจำใจ ต้องส่งนางไปรักษาตัวยังหัวเมือง แต่ละปีเดินทางไปเยี่ยมบุตร สาวได้เพียงหนสองหน

หลังรับประทานอาหารท่านย่าก็เรียกฟานซิวอิงเข้าไปหาที่ห้องส่วนตัว
“เจ้าคงได้ยินเรื่องที่จวนอ๋องปฏิเสธการหมั้นกับเจ้าแล้ว

“เจ้าค่ะ”

ฮูหยินชราแห่งตระกูลฟ่านต้องตรงมายังหลานสาวคนโต แม้นางจะมีบุตรชายถึงสามคน มีหลานชายห้าคน หลานสาวสอง คน แต่ฟานซิวอิงเป็นเพียงคนเดียวที่นางแทบไม่มีโอกาสได้ใกล้ ชิด เป็นเพราะหลานสาวคนนี้ร่างกายอ่อนแอ พอเริ่มเดินได้ก็ถูก ส่งไปอยู่หัวเมืองที่หมอหลวงแนะนำว่า เหมาะแก่การเจริญ เติบโตของนาง เดชะบุญที่ ฮองไทเฮาซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของ หยินผู้เฒ่าสั่งให้หมอหลวงมาช่วยรักษา มิฉะนั้นยังไม่รู้หลานสาว คนนี้จะยังมีชีวิตเติบโตมาจนถึงวันนี้หรือไม่

“ย่าเองไม่รู้จะช่วยให้พระประสงค์ของฮองไทเฮาสำเร็จได้ ยังไง ในเมื่อท่านอ๋องปฏิเสธแข็งขันถึงเพียงนั้น ท่านพ่อของเจ้า พยายามไปเจรจาหลายคราว จนอ๋องก็เอาแต่หลบเลี่ยง

น้ำเสียงหนักอกหนักใจของท่านย่า ทำให้นางสลดใจลงหลาย ส่วน แต่ก็ไม่อยากจะเอาชีวิตตนเองไปเสี่ยงกับบุรุษที่ไม่เคยรู้จัก นิสัยใจคอ อย่าว่าแต่ความรักความชอบเลย “ทำไมท่านพ่อต้อง ทำถึงเพียงนั้นด้วย”

“อิงเอ๋อร์ เจ้าไม่รู้หรือว่า ตระกูลฟานของเราเป็นหนี้พระคุณฮ องไทเฮามากเพียงไหน? หากไม่ได้พระองค์ส่งเสริมคิดหรือว่า ท่านพ่อกับท่านพี่ของเจ้าจะมีโอกาสก้าวหน้า

คุณหนูใหญ่ตระกูลฟานส่ายหน้า นางเติบโตที่หัวเมืองจึงไม่ เคยรู้เรื่องราวในจวนเสนาบดี ท่านพ่อและท่านแม่เดินทางไปเยี่ยมนางปีละหนสองหน ส่วนใหญ่นางอยู่ในความดูแลของท่าน ยายและท่านป้า

“หากเจ้าได้เป็นพระชายาเอกของจวนอ๋อง นอกจากจะทำให้ องไทเฮาทรงเบาพระทัยเรื่องฮองเฮา ท่านพ่อกับท่านพี่ของเจ้า จะไม่ถูกบีบคั้นจากเสนาบดีฝ่ายขวาด้วย

“เกิดเรื่องอันใดขึ้นกับท่านพ่อเจ้าคะ?”

ฮูหยินผู้เฒ่าพิจาณาหลานสาวที่อายุล่วงเข้าสิบแปดปี เห็นว่า พอจะเข้าใจเหตุการณ์ได้ จึงเล่าความขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่าง เสนาบดีฝ่ายขวาที่มีฮองเฮาเป็นผู้สนับสนุน กับเสนาบดีฝ่ายซ้าย ที่เป็นฝ่ายของฮองไทเฮา ในเมื่อฮองไทเฮานั้นมิใช่มารดาที่แท้ จริงของฮ่องเต้ พระนางจึงต้องระมัดระวังพระองค์เมื่อเห็นพระ ญาติฝ่ายฮองเฮาเริ่มเรืองอำนาจ หากคุณหนูฟ่านซึ่งนับเป็นญาติ ฝ่ายพระองค์สมรสกับจวนอ๋อง หมิงจิ้นเหอผู้คุมกองกำลังภาค เหนืออันเกรียงไกร ย่อมทำให้คลายพระทัย โอกาสที่ตระกูลเถีย นของฮองเฮาจะก่อการกบฏก็ย่อมจะน้อยลง เพราะความยำเกรง ในปีศาจภูเขาตนนั้น

เรื่องของฮองไทเฮาฟานซิวอิงย่อมไม่เอามาใส่ใจ แต่เรื่องที่ ท่านพ่อกับท่านพี่ที่ถูกบีบคั้นจนต้องลดตัวลงไปคอยตามซื้อจ นอ๋องเพื่อให้เปลี่ยนพระทัย เป็นเรื่องที่นางขัดเคืองใจ

“หากครั้งนี้ การสมรสไม่เกิดขึ้น หรือหากจนอ๋องเลือกคุณหนู จากตระกูลที่อยู่ฝั่งฮองเฮา ตระกูลของเราอาจจะมีภัยใหญ่ หลวง” น้ำเสียงของท่านย่าเลือไว้ด้วยความหวาดหวั่น
ฟานซิวอิงเงยหน้ามองท่านย่าของนางด้วยอาการตะลึง นาง ไม่เคยเห็นฮูหยินผู้เฒ่าที่กร้าวแกร่งและเชิดหน้าอยู่เสมอ มี ใบหน้าเศร้าโศกถึงเพียงนี้

“ครั้งนี้ หากจะต้องให้ท่านพ่อกับท่านพี่ของเจ้าไปคุกเข่า อ้อนวอนฝ่ายนั้นก็คงต้องทำ แต่ว่า ท่านอ๋องจะเดินทางกลับเมือง พยัคฆ์เหินพรุ่งนี้แล้ว สิ่งที่ครอบครัวเราทำได้ คงเพียงแต่สวด มนต์อ้อนวอนขอสวรรค์เมตตาให้จวิ้นอ๋องอย่าเลือกพระชายา เอกอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับเรา

“ท่านอ๋องผู้ยิ่งใหญ่เพียงนั้นเชียวหรือท่านย่า

“นับตั้งแต่จวิ้นอ๋องบอกปัดเรื่องหมั้น ท่านพ่อกับท่านพี่ของเจ้า ไปไหนก็ไม่มีหน้าจะสู้ผู้คน ชาวเมืองยังโจษจันกันด้วยซ้ำว่า เจ้า เป็นหญิงอัปลักษณ์ ไร้การศึกษาและมารยาทผู้ดี ไม่คู่ควรกับจ นอ๋องผู้สูงศักดิ์และงามสง่า ซ้ำร้ายยังกล่าวหาว่า ตระกูลฟาน ต้องพยายามอ้อนวอนเพื่อให้ท่านอ๋องยอมรับเจ้าเป็นพระชายา เอกเพื่อความอยู่รอด

ฟานซิ่วอิงกัดริมฝีปากจนห้อเลือด นางเคยภาคภูมิใจในวงศ์ ตระกูลมาโดยตลอด บัดนี้กลับพบว่า ตระกูลของนางต้อง อ้อนวอนคนผู้หนึ่งเพื่อให้รับนางเป็นภรรยาแลกกับความ ปลอดภัย แต่ฝ่ายนั้นยังไม่แลเหลียว

“ท่านย่าโปรดวางใจ เรื่องนี้ข้าจะจัดการเอง

ฮูหยินผู้เฒ่าเงยหน้าที่แสร้งซับน้ำตา มองหลานสาวคนโต อย่างมีความหวัง
“เจ้าจะทำเช่นไรได้ ในเมื่อท่านอ๋องประกาศให้คนทั้งเมือง หลวงรู้ชัดเจนแล้วว่า เขาไม่มีวันจะแต่งกับเจ้า

สีหน้าของฟานซิวอิ่งเริ่มมีสีแดงเรือด้วยความโกรธ เมื่อนึกถึง

เรื่องที่เขาประกาศในหอนางโลมคืนนั้น และยังหัวข้อที่คน

สนทนากันสนุกปากที่ตลาดเมื่อเช้า “ท่านย่าโปรดวางใจ ภายในหกเดือนนี้ ข้าจะทำให้คนอ๋อง

ต้องรับข้าเป็นพระชายาเอกให้จงได้

ฮูหยินผู้เฒ่าลุกจากเก้าอี้ปราดเข้ามาจับมือทั้งสองข้างของ หลานสาว

“เจ้าพูดจริงนะ”

คุณหนูฟ่านดวงตาลุกโรจน์ด้วยความแค้น จนอ๋อง ท่านกล้า หยามท่านพ่อและตระกูลฟาน ข้าจะทำให้ท่านต้องมาเยือนที่จวน แห่งนี้เพื่อคารวะท่านย่ากับท่านพ่อของข้า ให้ได้” นางจ้องนัยน์ตา ท่านย่าอย่างแน่วแน่

“ข้า ฟานซิวอิง คำไหนคำนั้น ท่านย่าโปรดอนุญาตด้วย”

หญิงชรายิ้มทั้งน้ำตาที่ตื้นแทบหยาดหยด นางรู้ดีว่า หลานสาว ของนางฉลาดรอบรู้และเจ้าแผนการเพียงใด ทุกย่างก้าวของการ เติบโตที่หัวเมืองถูกรายงานให้นางรับรู้มาตลอด นางให้บุตร ชายส่งอาจารย์ที่เก่งกาจหลายคนไปสอนหนังสือให้หลานสาว ไม่มีสิ่งใดขาดตกบกพร่องหรืออาจจะเรียกได้ว่า ฟานซิวอิงได้ ร่ำเรียนมากกว่าพี่น้อง คนอื่นด้วยซ้ำ อีกทั้งเพราะร่างกายนาง อ่อนแอนางจึงเก็บตัวอยู่ในจวนหัวเมืองอ่านหนังสือเพื่อเป็นเพื่อนในทุกวันที่เงียบเหงา ความเฉลียวฉลาดของนางนั้นเป็นที่ พึงพอใจของเหล่าอาจารย์ทุกท่าน

“ได้ หากเจ้าทำสําเร็จ ย่ายินดีให้ทุกอย่างที่เจ้าปรารถนา”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ