ทูนหัวท่านประธาน

บทที่ 6



บทที่ 6

กล่องเพลงนั่งสะอื้นฮักอยู่เงียบ ๆ โดยไม่ทันได้ยินเสียง ฝีเท้าที่มาหยุดด้านหลัง หญิงสาวถูกสายตาคมมองอยู่ นาน แต่ก็ไม่มีทีท่าจะรู้ตัว จนกระทั่งเสียงทุ้มเข้มถาม ทําลายความเงียบ

“มาทำอะไรตรงนี้”

กล่องเพลงใช้หลังมือเช็ดน้ำตาก่อนหันมอง พอรู้ว่าเป็น ใคร ความเสียใจเปลี่ยนเป็นอารมณ์เคือง ถึงทั้งหมดจะ เป็นอุบัติเหตุ แต่เขาเป็นคนที่ต้องรับผิดชอบ หญิงสาวลุก ขึ้นยืนประจันหน้า

“ฉันถามทำไมไม่ตอบ หูหนวกเรอะ” ฟิลลิปแกล้งทำ เสียงเข้มทั้งที่รู้ว่าเจ้าหล่อนแอบมาร้องไห้ ในมือถือกล่อง อาหารที่ยังไม่ได้แกะ คงมากินข้าวแต่เผลอร้องไห้จนไม่ ได้กินอะไร

กล่องเพลงยื่นกล่องข้าวในมือให้อีกฝ่ายดูพร้อมเอ่ย วาจาแดกดันทั้งที่ตัวเองยังตกใจกับกิริยาเช่นนั้น

“กินข้าวค่ะ พอดีโดนกลั่นแกล้งจนเข้าหาใครไม่ได้ก็ เลยมานั่งกินคนเดียว และตอนนี้ก็อิ่มแล้ว ถ้าดิฉันขวางหู ขวางตาท่านประธานก็ขอโทษด้วยค่ะ ขอตัวค่ะ”

“เดี่ยว! คำพูดเมื่อกี้คือคุณว่าผมเหรอ?” กายหนาขยับขวางหน้า ไม่ยอมให้หญิงสาวได้หลบหนี สายตาผมทั้งศึก ฝ่ายอย่างเอาเรื่อง เพราะทุกคนที่แวดล้อมเขาต่างหอม ระวังก้วไม่ทำอะไรให้ขัดอารมณ์เขา ต้องยอมทุกอย่าง ไม่ใช่แบบที่กล่องเพลงกำลังแสดงออกมา

“ดิฉันไม่บังอาจต่อว่าท่านประธานหรอกค่ะ แต่ถ้าอยาก รับเองก็ไม่ใช่เรื่องของดิฉันแล้วค่ะ” คำพูดประชดประชัน พร้อมสายตาค้อนส่งให้อีกฝ่ายแล้วสะบัดหน้าหนึ่

“เก่งดี คนร้องไห้ขี้มูกโป่งเมื่อครู่หายไปไหนแล้วล่ะ

“คงหนีไปแล้วมั้งคะ

“ปากเก่งแบบนี้ผมชักชอบ” ฟิลลิปคำรามผ่านไรฟัน มองหญิงสาวอย่างเอาเรื่องขณะก้าวเข้าหาเจ้าหล่อน แต่ ความไวกว่าและตัวเล็กกว่าทำให้รอดพ้นจากกรงเล็บไป ได้

“แต่ดิฉันไม่ชอบค่ะ” กล่องเพลงกระแทกเสียงแล้ววิ่งหนี จากตรงนั้น ทิ้งให้อีกฝ่ายยืนมองตามหลัง

ริมฝีปากได้รูปกระตุกยิ้มเมื่อเจอคนที่ทำให้อยาก เอาชนะ สายตาคมมองตามหลัง นัยน์ตาฉายแววอยาก เอาชนะ ท่าทางวิ่งหนีไปนั้นยิ่งกระตุ้นสัญชาตญาณสัตว์ ร้ายในตัวให้ตามไปตะครุบเหยื่อ หากแต่ตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลา ยังอยากเล่นกับเธอก่อนแล้วค่อยจัดการ

หลัง

ร่างหนาเดินเข้ามาด้านใน เห็นลูกน้องทั้งสองยืนหน้า สลอนมองยิ้ม ๆ ให้ ไม่ต้องถามพวกมันคงเห็นทุกอย่าง

“เจ้านายมีอะไรจะสั่งหรือเปล่าครับ

“ฉันไม่ชอบให้บริษัทมีเรื่องซุบซิบหรือกลั่นแกล้ง พนักงานกัน” ฟิลลิปบอกพร้อมหยิบแฟ้มเอกสารเปิดอ่าน

“ผมจะรีบจัดการให้ครับ”

“แล้วก็…หัดรู้ใจฉันน้อยลงหน่อย”

“เรื่องนั้นคงไม่ได้ครับ นอกจากผมแล้วยังมีอีกสองคน ถึงโอเมนจะเพิ่งเดินทางกลับอิตาลี…

“ให้ตายสิวะ ไอ้พวกนี้” ฟิลลิปสบถ ส่งสายตามองหน้า ลูกน้องพร้อมแฟ้มในมือกระแทกลงกับโต๊ะแรง ๆ แล้วเดิน ออกจากห้อง ถึงด่าไปพวกนั้นก็คงไม่รู้สึกรู้สาอะไร

ในตอนนี้เขากำลังคิดเรื่องสำคัญกว่านั้น คือการได้เห็น กล่องเพลงร้องครางบนเตียง
เช้าวันใหม่ สายฝนยังตกต่อเนื่อง แม้ไม่เยอะเหมือนเมื่อ คืน แต่สําหรับคนมัธยัสถ์ใช้จ่ายเมื่อจําเป็นกำลังยืนมอง กระโปรงทำงานที่ยังขึ้นอยู่ คิ้วเรียวเรียงตัวสวยขมวดยุ่ง

“แห้งไม่ทันจริงด้วย ฝนก็ตก ยายกล่องเพลง เธอน่ะขี้งก

เกินไป

เจ้าหล่อนเดินกลับขึ้นบนห้องนอน ค้นกระโปรงตัวเก่า ที่ใส่สมัยเรียน แต่มันใส่ไม่ได้ จู่ ๆ เหมือนเธอจะนึกอะไร ขึ้นได้ จึงหยิบมือถือขึ้นต่อสายหาเพื่อนทันที

“แก้ม ตอนนี้เธออยู่ไหน”

“เพิ่งถึงบ้านนอก มีอะไรเหรอ”

“เปล่า ๆ พอดีกระโปรงฉันไม่แห้ง ฝนก็ตกอีก ว่าจะ ๆ ขอยืมเธอ แต่ไม่เป็นไร ยังมีกระโปรงตอนเรียนอยู่อีกตัว” กล่องเพลงเหลือบเห็นกระโปรงอีกตัวที่ซ่อนจากสายตา จึงหยิบขึ้นมา จำได้ว่าเป็นตัวที่กาญมณีซื้อให้เป็นของ ขวัญ เพราะเห็นกระโปรงตัวยาวแล้วขัดใจอยากให้ใส่สั้น ดูบ้าง

“ถ้าอยู่กรุงเทพฯ ฉันจะพาเธอไปซื้อ แต่ตอนนี้ไม่ได้”

“ไม่เป็นไร ขอบใจมากนะ”
กล่องเพลงวางสาย เดินไปหน้ากระจกเทียบกระโปรง ทรงเอตัวเก่งยาวเหนือเข่าแล้วถอนหายใจ ตอนนี้เลือก อะไรมากไม่ได้ จำเป็นต้องใส่แก้ขัด หญิงสาววาง กระโปรงและเสื้อทำงานบนเตียง ก่อนจะหายเข้าไปอาบ น้ำเตรียมตัวไปทำงาน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ