1.เพียงแรกเห็น
เมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน
บนสนามทดสอบสมรรถนะรถฟอร์มูล่าวันมอเตอร์เซอร์กิต ของบริษัท คาร์ออดิโอเทค จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นหนึ่งในอีก หลายบริษัทในเครือของอาร์คาดิโอกรุ๊ป บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ชื่อ ดังของสเปน กำลังวิ่งทดสอบความเร็วอยู่ในสนาม ด้วยเครื่อง และตัวรถที่ถูกออกแบบโดยวิศวกรระดับหัวกะทิของบริษัท ทำให้รถแข่งของคาร์ออดิโอเทคมีชัยชนะเหนือคู่แข่งเกือบทุก สนาม
อัลฟาโล่ อาร์คาดิโอ ประธานบริหารกลุ่มบริษัทอาร์คาดิโอ กรุ๊ป วัยสามสิบสามปี สัญชาติสเปน รูปร่างสูงใหญ่ บึกบึน ผิวสี แทน ผมรองทรงและเนี้ยบทุกกระเบียดนิ้ว กำลังยกกล้องส่อง ทางไกลดูวิถีการเข้าโค้งของรถด้วยความตื่นเต้น ริมฝีปากขึ้น ขอบคลี่ยิ้มเมื่อรถผ่านโค้งได้อย่างสง่า
“เยี่ยม…” ชายหนุ่มเปรยขณะเคลื่อนกล้องตามรถไปจนถึงเส้น ชัย เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกรูกันเข้าไปทำหน้าที่ของตัวเองอย่าง รวดเร็ว
“ทําเวลาได้ยอดเยี่ยมกว่ารอบที่แล้วครับพี่” อัลวาเรซ อาร์ คาดิโอ น้องชายวัยสามสิบเอ็ดปี รองประธานฝ่ายงานวิจัยและ การตลาด ส่งนาฬิกาจับเวลา ในมือให้พี่ชายดู ซึ่งอัลฟาโล่ก็เลี้ยว ตัวไปมอง
“ดีมาก แชมป์สแปนิชกรังปรีซ์ฤดูกาลนี้คงเป็นของเราเหมือน เคย” อัลฟาโล่เอ่ยพลางส่งกล้องคืนให้ครูซ
สาวสวยที่ถูกคัดเลือกมาต้อนรับเจ้านายหนุ่ม เดินถือเครื่อง ดื่มชั้นยอดมาเสิร์ฟ พร้อมกับโปรยรอยยิ้มและสายตาเชิญชวน ส่งผ่านไปให้ แต่เจ้าพ่อวงการกีฬาของสเปนเพียงยิ้มทักทายและ รับเครื่องดื่มมาจิบ ทำเอาสาวสวยสองนางหน้าเลื่อนไปเล็กน้อย ครูซ พาโบล บอดี้การ์ดคู่ใจยกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจที่เห็น ท่าที่เป็นสาวของเจ้านายหนุ่ม
สนามแข่งแห่งใหม่สร้างไปถึงไหนแล้วเรซ” อัลฟาโล่ถาม น้องชายขณะวางแก้วลงบนโต๊ะ
“ตอนนี้ดำเนินการไปเกือบสี่สิบเปอร์เซ็นต์แล้วครับ ยังไงก็ เสร็จทันตามกำหนดแน่นอน” อัลวาเรซยืนยันเสียงหนักแน่น ทำ ให้อัลฟาโล่ยิ้มออกมาอย่างพอใจ
“ฉันจะไปมอสโกประมาณสองอาทิตย์ งานที่นี่ฝากนายดูแล ด้วย” อัลฟาโล่บอกเสร็จก็ลุกขึ้น อัลวาเรซเสมองสบตาครูซที่ยืน เงียบอยู่ด้านหลังเจ้านาย
“มอสโกอันตรายรอบด้าน นายอย่าประมาทนะครูซ” อัลวา เรซกับคนสนิทของพี่ชาย แม้จะรู้ว่าฝีมือการต่อสู้ของพี่ชาย ไม่มีใครเทียบได้ แต่การขยายธุรกิจไปในถิ่นของมาเฟียหลาย กลุ่มก็ทำให้อัลวาเรซอดห่วงไม่ได้
“ครับคุณเรซ” ครูวรับปากด้วยแววตาจริงจัง อัลฟาโล่วางมือบนบ่าน้องชายแล้วตบเบาๆ “วันนี้อย่าลืมกลับไปให้พอเห็นหน้าด้วยล่ะ เห็นบ่นหาสองสามวันแล้ว”
“ตั้งใจจะกลับเหมือนกันครับ ไปมอสโก ระวังตัวด้วยนะครับ บางคนรู้หน้าไม่รู้ใจ
“ขอบใจ แล้วจะเอาพี่สะใภ้มาฝาก” อัลฟาโล่ตบบ่ากว้างอีก ครั้งอย่างสัพยอก ก่อนจะเดินออกจากห้องไปที่ลิฟต์ โดยมีครูซ เดินตามไปด้วย
“อย่าลืมบอกลาสาวๆ ล่วงหน้าด้วยนะครับ พวกเธอจะได้เผื่อ ใจ” อัลวาเรซแซวตามหลังอย่างขี้เล่น คนเป็นพี่เพียงยกมือให้ แต่ไม่ยอมหันกลับมามอง
ไม่ถึงอึดใจ ร่างสูงสง่าก็เดินไปขึ้นรถยนต์คันหรูที่จอดรออยู่ หน้าตึก บอดี้การ์ดสวมสูทสีดำหกคนยืนรอรับอยู่ข้างรถ อัลฟา โล่ก้าวขึ้นไปนั่งเบาะหลัง รถเคลื่อนออกจากสนามแข่งช้าๆ โดย มีรถบอดี้การ์ดอีกสองคันวิ่งตามไปอารักขา
“ผลการแข่งขันฟุตบอลสโมสรเป็นไงบ้างครูซ” อัลฟาโล่ถาม ขึ้นหลังรถวิ่งออกจากสนามได้ไม่นาน ครูซเอี้ยวตัวไปรายงาน ทันที
“สโมสรเรานำอยู่สามประตูครับบอส
“ดี ถ้ารักษาแชมป์ไว้ได้ นายอัดฉีดให้ทีมงานด้วยก็แล้วกัน” อัลฟาโล่ส่งเสียงเรียบ หากสายตาคมยังคงจ้องมองจอแท็บเล็ต ในมือ ดวงตาคมกริบมองตัวเลขผลประกอบการที่แสดงอยู่ใน หน้าจอด้วยความพอใจ
ตระกูลอาคาดิโอ ท่าธุรกิจการกีฬามาตั้งแต่รุ่นปู่ จนกระทั่ง ทุกอย่างอยู่ภายใต้การบริหารของอัลฟาโล่ ทั้งธุรกิจผลิตรถยนต์ สนามแข่งรถยนต์ทันสมัยที่ใช้แข่งขันรายการสำคัญๆ ศูนย์กีฬา ยานยนต์ครบวงจร รวมไปถึงสปอร์ตคอมเพล็กซ์ที่มีไว้บริการ มหาเศรษฐีจากทั่วสารทิศ ทุกอย่างที่ชายหนุ่มบริหารประสบ ความสําเร็จอย่างก้าวกระโดด จนเขาได้รับฉายา เจ้าพ่อแห่ง วงการกีฬาของสเปน
เมื่อธุรกิจเติบโตและสร้างผลกำไรอย่างต่อเนื่อง อัลฟาโล่ก็ได้ รับการทาบทามจากบริษัทผลิตรถยนต์ในมอสโกให้เข้าร่วม บริหาร และนั่นเป็นสาเหตุให้เขาต้องเดินทางไปที่บริษัทนั้นในอีก สองวันข้างหน้า
รถของอัลฟาโล่วิ่งผ่านประตูอัลลอยด์ลวดลายสวยงามไปตาม ทางที่ทอดขนานกับสนามหญ้าเขียวขจี เบื้องหน้าคือคฤหาสน์ หลังใหญ่สีขาว ตั้งตระหง่านอยู่บนเนื้อที่กว่าพันไร่ รอบๆ บริเวณ มีบอดี้การ์ดเดินสํารวจตรวจตราอยู่ตลอดเวลา
อัลโตนิโอ อาร์คาดิโอ วัยหกสิบห้าปี อดีตแชมป์โลกฟอร์มูล่า วันผู้เป็นเจ้าของคฤหาสน์ กำลังนั่งดูการแข่งขันฟุตบอลสโมสร อยู่ในห้องนั่งเล่น เมื่ออัลฟาโล่ก้าวลงจากรถก็เดินเข้าไปข้างใน
“ผลเป็นไงบ้างครับพ่อ” อัลฟาโล่ถามขณะเดินพับแขนเสื้อเชิ้ต เข้าไปในห้องนั่งเล่น อัลโตนิโอละสายตาจากหน้าจอโทรทัศน์ไป มองลูกชายสุดที่รัก
“สาม-ศูนย์” บอกเสร็จคนเป็นพ่อก็หันไปชมการแข่งขันต่ออัลฟาข้างเพื่อลุ้นเกมการแข่งขันไปด้วยกัน จังหวะ นั้นกองหลังลากลูกบอลเข้าในโทษของฝ่ายตรงข้าม ทั้ง สองต่างตัวอย่างลุ้นระทึก
ยิงสิ้นเสียงอัลฟาโล่ กองหลังสโมสรอาร์คาดิโอทำให้ผิดหวัง เตะลูกฟุตบอลเข้าไปตุงตาข่ายอย่างสวยงาม
เย้…อัลฟาโล่ กหวีดเวลาการ แข่งขัน อัลฟาโล่หันไปชนกำปั้นกับบิดา
เยี่ยมมากลูกชายอัลโตนิโอมองใบหน้าคมสันก๊อบปี้ ดีเอ็นเอจากเขา
“มองแบบจะหาแม่ให้หรือครับอัลฟาโล่เอ่ยแซว เพราะดีบิดาเนื้อหอมพอเขา หลังมารดาชีวิต เกือบสิบปี พ่อของเขาจะแต่งงานใหม่เพราะยังรักไม่เสื่อมคลาย ในขณะและน้องชายพยายามแต่เข้า
“อยู่แข่งลูกตาย นายว่าไหม
อัลฟาส่ายหน้ายิ้มฝ่ายครูซเมื่อได้เห็นความสุขของคน เป็นนายก็พลอยสุขใจไปด้วย
“อีกสองวันพ่อคงหล่อคนเดียวแล้วล่ะครับ เพราะผม ต้องไปงานที่มอสโกปรึกษาอาวุโสดูแลแทนด้วยนะครับ” อัลฟาโล่บอกด้วยประกายคน
รายละเอียดบริษัทที่เข้าไปเจรจา พ่อให้เลโก้มาได้ เท่า” อัลฟายื่นไปรับของบิดา
แล้วเจ้าเรซมันกลับบ้านไหม
“มาสิครับ คิดถึงพ่อจะแย่เสียงเจ้าของดังมาหน้า
ประตู
ไปมองลูกต่างกันตรงนิสัย รอบคอบ แต่ดุดัน และโหดศัตรู ขณะที่น้องและอัลโตนิโอภูมิใจที่สุดคือ ความฉลาดเฉลียวและไวพริบใน เกมธุรกิจของลูกชายทั้งสองคน ทำให้คนเป็นพ่อเบาใจและ วางมือได้
“มาทันเวลาชนิดเส้นยาแดงผ่าแปดเลยเรซ
เรซบอกขณะพับแขนเสื้อเชิ้ตขึ้นถึงศอก แล้ว
ฉันว่าชาตินี้ไม่ได้เห็นหน้าลูกชายคนเล็กเสียแล้วคน เป็นพ่อเปรยออกมาเหมือนน้อยใจ ด้วยความสุข
“พ่อก็พูดเกินไป อยู่ฝ่ายวิจัยต้องการสมาธิครับ” อัลวา เรซแก้ต่างพร้อมทอดลำแขนไปตามความยาวของพนักพิง
“แสดงว่าปีนี้เราต้องรักษาแชมป์รถสูตรหนึ่งไว้ได้ ใช่ไหม… อัลโตนิโอถามพลางดึงแว่นสายตาออกจากสันจมูก
“พ่อเตรียมเปิดแชมเปญฉลองได้เลยครับ ผมไปดูรถที่ทีมงาน นายเรซออกแบบมาแล้ว” อัลฟาโลตอบแทนน้องชาย ทําเอาคน เป็นพ่อหัวเราะเบาๆ
“ถ้าเป็นอย่างนั้นพ่อจะหาแฟนให้ แกจะได้เลิกไปอยู่ห้องสี่เหลี่ ยมแคบๆ นั่นสักที” อัลโตนิโอหมายถึงคอนโดมิเนียมหรู ใจกลางกรุงมาดริดของลูกชายคนเล็ก เมื่อได้ยินห่วงที่บิดาโยน มาให้ อัลวาเรซก็เตรียมจะลุกออกจากห้อง แต่คนเป็นพ่อยกมือ ห้ามไว้
“นั่งลงเลยเจ้าเรซ”
“บังเอิญผมนึกได้ว่ามีธุระครับ พ่อหาให้พี่ใหญ่ก็แล้วกันนะ ครับ”
“ไม่ต้องโยนเผือกร้อนให้ฉัน นายรับปากพ่อเองไม่ใช่เหรอว่า จะแต่งงานกับลูกสาวเพื่อนของพ่อ” อัลฟาโล่บอกปัด เพราะคำ ว่า ‘เมีย’ และ ‘ครอบครัว” ยังอยู่ไกลจากความคิดเขา ที่สำคัญ กว่านั้น ทั้งเขาและน้องชายยังไม่อยากมีห่วงนั่นเอง
“ก็ตอนนั้นมันเมานี่นาพี่ใหญ่” อัลวาเรซบอกเสียงเครียด ก็พ่อ เขาเล่นถามความสมัครใจของลูกๆ ตอนเมา เขานึกสนุกเลย รับปากส่งเดชไปอย่างนั้น ไม่คิดว่าบิดาจะจริงจังแบบนี้
“จะตอนไหนพ่อไม่รู้ แต่ที่รู้คือ… เย็นวันเสาร์นี้ ลูกชายคนใด คนหนึ่งจะต้องไปดินเนอร์ที่บ้านของเพื่อนพ่อ เพราะหนูแอนนาจะกลับมาจากมอสโก” อัลโตนิโอบอกพลางมองหน้าลูกๆ สลับกัน จริงๆ เขาไม่อยากใช้วิธีคลุมถุงชน แต่เพราะคำสั่งเสียของ ภรรยาสุดที่รักที่อยากให้ทั้งสองครอบครัวเป็นทองแผ่นเดียวกัน เขาจึงต้องสานต่อให้บรรลุ
“งั้นผมรอดเพราะอยู่มอสโก โชคดีนะน้องรัก” อัลฟาโล่บอก พลางเดินผิวปากออกจากห้อง อัลวาเรซจะตามออกไปแต่เกรง สายตาคนเป็นพ่อจึงจำต้องนั่งลงที่เดิม ถ้าไม่รับปากเขาคงไม่ได้ ออกจากห้องแน่ ตาย! ตาย! ไอ้เรซเอ๊ย! จะมีเมีย โดยไม่ได้ตั้งใจ ก็คราวนี้แหละ…
“ว่าไงเรซ ถ้าปฏิเสธ พ่อจะได้เลื่อนงานแต่งเข้ามาอีก แต่ถ้า แกตกลง พ่อจะให้เวลาศึกษาหนูแอนนาไปก่อน” น้ำเสียงและ สีหน้าจริงจังของบิดา ทำให้อัลวาเรซกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอ
“ผมตกลงก็ได้ครับ แต่ผมขอศึกษาแม่แอนนาของพ่อจนกว่าพี่ ใหญ่จะแต่งงานนะครับ” อัลวาเรซบอกอย่างเจ้าเล่ห์ เพราะรู้ดีว่า คนเป็นพี่ไม่คิดจะหาห่วงมัดตัวเอง แต่หากอัลวาเรซรู้อนาคตล่วง หน้าคงต้องเปลี่ยนทำพูด เพราะการเดินทางไปมอสโกของพี่ชาย ในครั้งนี้ กามเทพจะแผลงศรให้อัลฟาโล่เจอคนที่ใช่ จนต้องรีบ คว้าเธอไว้เลยทีเดียว
“ถ้าเห็นหน้าหนูแอนนาอย่าเร่งพ่อให้เลื่อนงานแต่งเข้ามาก็ แล้วกัน”
“ถ้าหนูแอนนาสวยอย่างที่บอก ทำไมป๊ะป่าไม่แต่งเองซะเลย ล่ะครับ ผู้หญิงสมัยนี้ชอบคนมีอายุจะตายไป
“พ่อมีคนของพ่ออยู่แล้ว” อัลโตนิโอขยิบตาให้บุตรชายคน เล็กที่ขยับนั่งตัวตรงและจ้องมาอย่าง ใครรู้
“ว้าว ป๊ะป๋าซุกกิ๊กเป็นกับเขาด้วย
“ไม่ได้ซุก แค่ไม่อยากเปิดตัวเพราะเธอขอไว้” พูดจบอัลโต นิโอก็ลุกขึ้น “อย่าลืมนะ วันเสาร์เรามีนัดกันไปทานมื้อค่ำกับ ครอบครัวหนูแอนนา”
“คร้าบ… อัลวาเรซลากเสียงยาว ทำให้คนเป็นพ่อเดินยิ้ม ออกไปจากห้อง ทิ้งให้คนกำลังจะมีห่วงนั่งหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ เพียงลำพัง
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ