จอมใจราชันมังกร

บทที่ 2 ชายแปลกหน้า



บทที่ 2 ชายแปลกหน้า

แอมเบอร์หันซ้ายหันขวาด้วยความระแวงอีกครั้ง แต่เมื่อ ไม่เห็นอะไรผิดปกติหญิงสาวก็กระชับเป้แล้วออกเดินตัด ป่าไปตามเข็มทิศที่คอมพิวเตอร์ข้อมือชี้บอก

ยิ่งเดินลึกเข้ามาในป่า หญิงสาวยิ่งตื่นตาตื่นใจ นอกจาก ป่าแห่งนี้จะเต็มไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่หลายคนโอบแบบป่า โบราณอายุหลายพันปีแล้ว พื้นดินรอบๆ ต้นไม้เหล่านี้ก็ ยังปกคลุมไปด้วยพืชคล้ายมอสแต่เรืองแสงสีเขียวอมฟ้า สว่างไสวไปทั้งป่าทำให้หญิงสาวมองเห็นทางได้ค่อนข้าง ชัดเจน ต้นไม้บางชนิดก็มีดอกบานในตอนกลางคืน เกสร ดอกไม้ราตรีเหล่านั้นยามฟุ้งกระจายก็ยังเรืองแสงราวกับ ผงฟอสฟอรัส ให้บรรยากาศลึกลับชวนหลงใหล แอม เบอร์เดินไปบันทึกรูปภาพไปตลอดทาง ทั้งยังไม่ลืมอัด บันทึกเสียงบอกเล่าถึงสิ่งแปลกๆ ที่พบเจอเป็นระยะๆ ใส่ ลงไปในคอมพิวเตอร์ที่ข้อมือ

แม้จะเดินมาเป็นเวลากว่าชั่วโมงแล้วแต่ความรู้สึกราวกับ กำลังถูกจับจ้องก็ยังคงไม่หายไปไหน หญิงสาวเหลียว กลับไปดูด้านหลังบ่อยครั้งด้วยความไม่สบายใจปน หวาดระแวง แม้จะมองไม่เห็นอะไรผิดปกติแต่กลับรู้สึกว่า มีบางอย่างกำลังตามหล่อนมาตลอดทาง

แอมเบอร์ขมวดคิ้วครุ่นคิดครู่หนึ่ง กดปุ่มที่แว่นตาเพื่อ เปลี่ยนจากโหมดมองกลางคืนเป็นโหมดสแกนตรวจจับ คลื่นความร้อนเพื่อค้นหาสิ่งมีชีวิตที่ซ่อนตัวอยู่ ดวงตากลมโตกวาดมองไปรอบตัวช้าๆ

ในที่สุดหล่อนก็มองเห็นสิ่งที่กำลังสะกดรอยตามหลังน แล้ว สิ่งมีชีวิตตนหนึ่งรูปร่างเหมือนกับมนุษย์กำลังนั่งห้อย ขาอยู่บนยอดไม้ในเงามืดและแอบดูหลอนจากเบื้องบน แม้จะมีรูปร่างเหมือนมนุษย์เกือบทุกประการแต่เจ้านั้น กลับมีอุณหภูมิร่างกายต่ำกว่ามนุษย์ปกติและมีร่างกาย สูงใหญ่กว่ามนุษย์ทั่วไปมาก ดูๆ แล้วน่าจะสูงเกือบสอง เมตรเลยทีเดียว นอกจากจะตัวสูงแล้วแผงอกและแขนขา ยังเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้ออันทรงพลังดูราวกับนักรบกรีก โบราณ แต่ยามร่างสูงใหญ่นั้นเคลื่อนไหวกลับเงียบกริบ จนแอมเบอร์ไม่ได้ยินเสียงใดๆ ทั้งสิ้น

หญิงสาวค่อยๆ ชักปืนออกมาถือไว้ในมือ เล็งไปยังผู้ สะกดรอย แล้วตะโกนสั่งด้วยเสียงอันดังกังวาน

“คุณเป็นใคร สะกดรอยตามฉันมาทำไม ออกมาคุยกัน หน่อยซิ” หญิงสาวจ้องไปยังร่างในความมืดที่ตนยังมอง ไม่เห็นหน้าด้วยแววตาเอาเรื่อง

ร่างสูงใหญ่ยังคงนั่งนิ่งอยู่บนยอดไม้ ไม่ขยับตัว

“ถ้าไม่ออกมา ฉันจะยิงแล้วนะ” แอมเบอร์หรี่ตา

เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีทีท่าว่าจะออกมา หญิงสาวจึงยิงปืนขู่ไปหนึ่งนัด หล่อนเล็งให้ลูกกระสุนแค่ถากหัวไหล่ ของอีกฝ่ายเพื่อเตือนเท่านั้น

เสียงคำรามด้วยความโกรธดังลั่นอยู่บนยอดไม้เมื่อหัว ไหล่ข้างซ้ายถูกกระสุนปืนถากจนได้เลือด ร่างสูงใหญ่ กระโดดลงมายืนประจันหน้ากับหญิงสาวทันที

แอมเบอร์เบิกตากว้างเมื่อเห็นอีกฝ่ายชัดๆ เขาเป็นชาย หนุ่มร่างสูงใหญ่เต็มไปด้วยมัดกล้าม ใบหน้าคมเข้มดุดัน เย็นชา ดวงตาสีฟ้าใสเป็นขีดแบบตามังกร แถมบนหัวที่ ปกคลุมไปด้วยเส้นผมดกดำราวกับเส้นไหมยาวสลวยนั้น กลับมีเขางอกออกมาเหมือนกับเขาของมังกรตัวที่ไล่ตาม ยานมิติของหล่อนเมื่อตอนเย็นที่ผ่านมาไม่มีผิด

หญิงสาวกลืนน้ำลายดังเอี๊อก เมื่อร่างสูงใหญ่ของชาย หนุ่มย่างสามขุมเข้ามาหา มือที่เล็งปืนไปยังอกของชาย หนุ่มสั่นน้อยๆ ด้วยความกลัว

“อย่าเข้ามานะ ถ้าเข้ามาใกล้ฉันยิงจริงๆ ด้วย!” เสียงใสๆ ขู่พร้อมกับก้าวถอยหลัง

ชายหนุ่มไม่มีทีท่าว่าจะเข้าใจในสิ่งที่หล่อนพูดแม้แต่ น้อย ยังคงเดินเข้าหาหล่อนด้วยฝีเท้ามั่นคงช้าๆ

เมื่อเห็นอีกฝ่ายมีท่าทางคุกคามไม่เลิก หญิงสาวจึงหลับตาปี่แล้วยิงปืนเข้าใส่ขาของอีกฝ่าย เสียงพื้นดินและ รากไม้แตกกระจุยทันทีที่ถูกลูกกระสุน แต่กลับไม่ได้ยิน เสียงร้องของชายแปลกหน้า ทำให้แอมเบอร์รีบลืมตาดู ผลงานตนเองด้วยความสงสัย

“อ๊ะ!” หญิงสาวอุทานด้วยความตกใจเมื่อเห็นชายหนุ่ม ปรากฏอยู่เบื้องหลังของตนราวกับหายตัวได้ ไม่ทันที่ หล่อนจะได้หันไปยิงซ้ำ ปืนในมือก็ถูกปัดกระเด็นไป ไกล แขนทั้งสองข้างถูกจับรวบไปไว้ด้านหลังรวดเร็วจน หญิงสาวไม่อาจตั้งตัวได้ทัน ร่างแบบบางถูกจับพลิกให้ หันกลับมาเผชิญหน้ากับผู้คุกคาม แว่นตากูกชายหนุ่มดึง ออกมาขยำทิ้งดังกรอบแล้วโยนทิ้ง หญิงสาวหอบหายใจ ตัวโยน ดวงใจน้อยๆ เต้นกระหน่ำด้วยความกลัว

หล่อนตกอยู่ในอ้อมกอดของชายแปลกหน้าต่างมิติ กลางป่าห่างไกลผู้คน หน้าอกนุ่มนิ่มของหล่อนถูกบดอัด กับแผงอกหนาของชายหนุ่ม หญิงสาวรู้สึกเจ็บจนแทบจะ หายใจไม่ออก อาวุธก็ไม่อยู่ในมือแล้วด้วย ทีนี้จะทำยังไง ดี ดวงตาสีอำพันสุกสกาวเบิกโพลงด้วยความตื่นตระหนก

“กรี๊ด จะทำอะไรน่ะ ปล่อยนะ!” หญิงสาวร้องดังลั่นป่า เมื่อชายหนุ่มใช้มือข้างที่ว่างดึงผมที่ท้ายทอยของหล่อน จนใบหน้าหล่อนแหงนเงยขึ้นแล้วเขาก็ซุกหน้าลงมายัง ซอกคอขาวผ่องของหล่อน

แอบเบอร์ดิ้นรนด้วยความหวาดกลัว แต่วงแขนแข็งแรงกลับยิ่งรัดแน่นจนหล่อนไม่อาจขยับตัวได้แม้แต่น้อย และแล้วหญิงสาวก็ตัวแข็งทื่อขึ้นมาทันทีที่รู้สึกถึงลิ้นสาก และเปียกชื้นของอีกฝ่ายกำลังลากไล้ไปตามต้นคอของ ตนราวกับกำลังลิ้มชิมรสชาติอาหารจานโปรด อ๊าคคค อย่าบอกนะว่าอีตานี่เป็นผีดูดเลือด….. หญิงสาวหลั่งเหงื่อ เย็นเยียบภายในใจ

ชายหนุ่มพึมพำบางอย่างออกมาด้วยเสียงทุ้ม แหบ พร่า คล้ายกับพีงพอใจในรสชาติของหล่อนยิ่งนัก เขา ค่อยๆ ถอนใบหน้าออกมาสบตากับหล่อน ดวงตาสีฟ้า ใสดูล้ำลึกราวกับมีมนต์สะกดทำให้หญิงสาวเผลอสบตา ตอบด้วยความมึนงง จากนั้นแอมเบอร์ก็รู้สึกหน้ามืด ตาลายและหมดสติไป

เมื่อฟื้นขึ้นมาอีกทีแอมเบอร์ก็พบว่าตนเองนอนอยู่บน พื้นในป่าตามลำพัง หญิงสาวกะพริบตาปริบๆ ด้วยความ มึนงง มองดวงอาทิตย์ส่องแสงสว่างเจิดจ้าอยู่เกือบจะ กึ่งกลางท้องฟ้า นี่แสดงว่าเวลาผ่านมาหลายชั่วโมงแล้ว สินะ

หญิงสาวรีบดีดตัวลุกขึ้นนั่งแล้วสำรวจความเรียบร้อย ของเสื้อผ้าและเนื้อตัวของตัวเอง ปรากฏว่าทุกอย่างปกติ ดี หรือว่าเมื่อคืนหล่อนจะฝันไป หญิงสาวถอนหายใจ โล่งอก แต่แล้วพอหันไปเห็นแว่นตาที่มีสภาพยับเยินบน พื้นข้างตัวหล่อนก็ตัวแข็งทื่อขึ้นมาทันใด ไม่ใช่ความ ฝัน…สินะ…. กี๋ย…. แล้วเรารอดมาได้ยังไงกันเนี่ย ทำไม ไม่มีอะไรบุบสลายเลยล่ะ เอ๊ะ แปลกจริง
แอมเบอร์ก้มๆ เงยๆ สํารวจทั่วตัวจนมั่นใจว่าไม่มีอะไร ผิดปกติ จากนั้นก็ทำปากยื่น หรือว่าเราจะไม่สวยและ เซ็กซี่พอให้โดนข่มขืนกันหว่า เหอะ ถึงจะเสียความมั่นใจ ไปบ้างแต่ก็ยังดีนะที่ไม่เป็นอะไร ฮู้ย! โล่งอกไปที

หญิงสาวเก็บของที่กระจัดกระจายแล้วออกเดินทางต่อ ตั้งแต่ฟื้นขึ้นมาหล่อนก็ไม่รู้สึกว่าถูกจับจ้องอีกแล้ว อีตา มนุษย์ประหลาด นคงจะไปแล้วกระมัง คนอะไรตัวใหญ่ อย่างกับยักษ์ กอดทีเล่นเอาหล่อนกระดูกแทบหัก ไปซะ ได้ก็ดี

หญิงสาวเดินไปคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืนไป ยิ่งคิดก็ยิ่ง หน้าแดง พยายามห้ามไม่ให้ตัวเองคิดถึงใบหน้าคมดุและ ดวงตาสีฟ้าใสคู่นั้นแต่ก็ทำไม่ได้ ยิ่งไม่อยากคิดยิ่งคิด จนอดโมโหตัวเองไม่ได้ หล่อนไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน เลยนะ ความจริงอีตานั่นก็ไม่ได้หน้าตาหล่อลากดินชนิด ที่เห็นแล้วลืมไม่ลงสักกะหน่อย ก็แค่คิ้วหนาเข้มรับกับ เบ้าตาลึกที่มีดวงตาคมดุ จมูกโด่งเป็นสัน คางบึกบึนและ ริมฝีปากเรียวบางก็แค่นั้น แค่นั้นเองจริงๆ นะ ฮีย!

“เอ๊ะ หรือว่าหมอนั่นจะร่ายมนตร์ใส่เราหว่า” แอมเบอร์ พึมพำหัวเสีย

หญิงสาวเดินเตะก้อนหินเล่นด้วยความหงุดหงิดไป จนถึงลำธารน้ำสายหนึ่ง ตัวลำธารกว้างประมาณห้าเมตร เท่านั้นแต่น้ำในลำธารกลับเชี่ยวกรากและขุ่นคลักจนน่ากลัว ตรงริมตลิ่งมีวังน้ำตื้นๆ อยู่ช่วงหนึ่ง ในนั้น มีปลาตัวใหญ่ว่ายวนแอบกระแสน้ำอยู่สี่ห้าตัว หล่อน ตัดสินใจหยุดพักที่ข้างลำธารและเอาปืนไปยิงปลามา ย่างกิน

ขณะที่กำลังจะก่อกองไฟอยู่นั้นพุ่มไม้ข้างทางก็ไหว แสกสาก สัตว์เลื้อยคลานสีเขียวลายทางสลับสีส้มรูปร่าง คล้ายกิ้งก่าตัวยาวประมาณสองเมตรก็คลานออกมาจาก พุ่มไม้ มันแลบลิ้นสองแฉกยาวออกมาจากปาก อ้าปาก ยิงฟันขู่แอมเบอร์ด้วยท่าทางดุร้าย

หญิงสาวก้าวถอยหลังช้าๆ มือกำปืนแน่น กำลังคิดว่าจะ ยิงหัวมันหรือยิงตัวมันดี ไม่ทันที่หล่อนจะตัดสินใจได้ เจ้า กิ้งก่ายักษ์ก็หันไปกู่ร้องเรียกเพื่อนมันมาอีกฝูงใหญ่ แต่ละ ตัวที่ตามมายาวน้องๆ จระเข้เลยทีเดียว แอมเบอร์กลืน น้ำลายดังเอี๊อก หล่อนน่าจะรีบๆ ยิงเจ้าตัวแรกก่อนที่มัน จะมีโอกาสเรียกกำลังเสริมมานะ แล้วแบบนี้หล่อนจะยิง พวกมันทันหมดทุกตัวได้ยังไงกัน เล่นยกโขยงกันมาเกือบ ยี่สิบตัวแบบนี้

แอมเบอร์พะวักพะวน ก้าวถอยหลังไปเรื่อยๆ ด้านหลัง ถัดไปไม่กี่เมตรเป็นลำธารน้ำเชี่ยว ถ้าตกลงไปไม่รู้จะถูก น้ำพัดไปไกลขนาดไหน

แต่ถ้าอยู่สู้กับฝูงกิ้งก่าลายเสือพวกนี้เปอร์เซ็นต์รอดชีวิต ก็ดูจะน้อยเต็มที จะเอายังไงดีน้า…. อ๊ะ กิ่งไม้นั่น ลอยมา ได้จังหวะพอดีเชียว
เมื่อหางตาเหลือบไปเห็นกิ่งไม้ใหญ่ลอยมาตามน้ำ หญิง สาวก็ตัดสินใจกระโดดพุ่งลงไปในลำธารและว่ายไปเกาะ มันทันที เจ้าพวกกิ้งก่ายักษ์พากันวิ่งตึกตักอย่างรวดเร็ว มายืนมองหล่อนที่ริมตลิ่งด้วยความเสียดายที่เหยื่อหลุด รอดไปได้ ร่างแบบบางในชุดดำเกาะกิ่งไม้ไหลไปตามน้ำ ด้วยความเร็วสูง ใบหน้าสวยหวานยิ้มแย้มแถมยังโบกมือ ลาพวกมันด้วยท่าทางสนุกสนาน

“ไปก่อนน้า เจ้าพวกโง่ ไม่ได้แอ้มฉันหรอก ฮะ ๆ ๆ เอิ๊ก” เสียงสดใสลอยมาตามลมผสานกับเสียงน้ำกระทบหิน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ