จอมนักรบทรงเกียรติยศ

บทที่ 4 อยู่ดี ๆ ก็มีลูกบุญธรรม



บทที่ 4 อยู่ดี ๆ ก็มีลูกบุญธรรม

ทันทีที่เขาพูดจบลง เสียงในห้องก็เงียบสงัดลงทันที

ทุกคนหมองหน้ากันไปมา ล้วนไม่รู้ว่านั่นคือตำแหน่งอะไร สุดท้าย ทุกสายตาจับจ้องไปที่ตู้หมิงล่าง เขาเป็นทหาร เขาคง

รู้ว่าคือตำแหน่งอะไรกันแน่

“ฮ่าฮ่า!” เสิ่นจื่อเจี้ยอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ

เขาหัวเราะเสียงดังพลางกล่าว “โต้จวิน งั้นฉันออกอู๋จิ้น นาย คิดว่านายกำลังเล่น ROVอยู่หรือไง? ออกโผจวินด้วย

“คุณชาย ท่านว่าฟางเหยียนมันตลกไหมล่ะ” เงินจื่อเจียหัน ไปพูดกับตู้หมิงล่าง

ตู้หมิงล่างยักไหล่พลางกล่าวว่า “เฮ้อ! สมัยนี้คนแบบไหนก็มี ฉันเป็นทหารมาห้าปี แต่ไม่เคยได้ยินว่ามีสำนักเจ็ดพิฆาตอะไร นั้นเลย ยิ่งไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ในสำนักเจ็ดพิฆาตยังมีตำแหน่งที่เรียก ว่าโต้จวินอีก ฟางเหยียน นายไม่เข้าใจฉันจะบอกนายเอง ตำแหน่งนี้แบ่งออกเป็นพลตรีกับพันเอก นอกจากนี้ประเทศหวา ของเราแบ่งออกเป็นห้าภูมิภาค”

ตู้หมิงล่างริมฝีปากขมุบขมิบอธิบายกับฟางเหยียนเกี่ยวกับ แต่ละตำแหน่งในแต่ละภูมิภาค

“ฉันว่านายคงเป็นแค่พลทหารล่ะสิ! ครั้งหน้าไม่รู้ก็อย่าแสดงตู้หมิงล่างพูดอย่างดูถูก

เมื่อเผชิญกับความสงสัยของทุกคน ฟางเหยียนกล่าวอย่างไม่ เร่งรีบ: “นั่นหมายความว่านายยังไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะรับ รู้ถึงขั้นนั้น”

“เหอะๆ งั้นก็หมายความว่า นายเป็นคนของภูมิภาคลึกลับ ของประเทศหวาล่ะ?”

เมื่อได้ยินคำพูดของตู้หมิงล่าง คนกลุ่มนั้นก็หัวเราะจนตัวบิด ฟางเหยียนคนนี้ช่างตลกจริงๆ

มีเพียงเยชิงหยู่ที่ใบหน้าร้อนผ่าว เธออยากจะหมุดดินหนีออก ไปจริง ๆ

ฟางเหยียนคนนี้ ขี้โม้มากเลยจริง ๆ เดี๋ยวก็บอกว่าตัวเอง สามารถสานสัมพันธ์กับหวงหยวนฉาวเศรษฐีอันดับหนึ่งของภาค ตะวันออกเฉียงใต้ เดี๋ยวก็บอกว่าตัวเองเป็นกองกำลังลึกลับของ ประเทศหวา เธอบิดที่ต้นขาของฟางเหยียนอย่างแรง เธอกลอก ตาให้เขา พลางกล่าว “ฟางเหยียน คุณเลิกพูดได้หรือยัง ฉัน บอกคุณแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าไม่ให้คุณพูดจาขี้โม้โอ้อวด

ฟางเหยียนเม้มริมฝีปาก กำลังจะอธิบายว่าตัวไม่ได้โม้

แต่ทว่าเย่ชิงหยู่กลับพูดต่อไปอีก: “ฉันรู้ว่านายอยากให้ฉัน มีหน้ามีตา แต่ก็ไม่สมควรพูดอะไรที่มันไม่น่าเชื่อถือแบบนี้ ถ้า หากคุณยังพูดแบบนี้อีก พวกเราก็คงต้องกลับตอนนี้แล้ว

ฟางเหยียนทำอะไรไม่ถูก เขายังไหล่แล้วไม่พูดอะไรอีกเลย
ในเวลานี้ หลัวเทียนเยว่เถ้าแก่ของโรงแรมนานาชาติเทียน เยว่เดินผ่านมาพอดี เข้าเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยนั้นในทันทีทันใด

เป็นเขา เป็นเขาคนนั้น

วันนี้ หลัวเทียนเยว่ได้กลับมาจากเจียง ที่สนามบินเขาได้เห็น กิริยาท่าทางของคนตระกูลฟางที่ปฏิบัติต่อชายคนนี้ พวกเขาให้ ความเคารพชายคนนี้เป็นอย่างยิ่ง สามารถทำให้ตระกูลฟาง แห่งเจียงปฏิบัติด้วยเช่นนี้ได้ จะต้องไม่ใช่คนธรรมดาอย่าง แน่นอน

“เสี่ยวเฟย มานี่ซิ นายรีบไปเอาของที่อยู่ใต้กล่องนั่นมาให้พ่อ หน่อย เอามาหนึ่งขวด ไม่ สองขวด ส่งไปที่ห้องหมายเลข 888”

“พ่อครับ คุณพ่อหมายถึงเหล้าเหมาถายที่คุณทิ้งไว้น่ะเหรอ?

“ใช่ รีบไปเอามา อ้อ หลังจากที่นายเอามาแล้ว เดี๋ยวพ่อเอา ไปให้ด้วยตัวเองเอง”

“พ่อครับ นั่นเป็นมรดกตกทอดของตระกูลเราเลยนะ ไม่ต้อง พูดถึงราคาเท่าไหร่ มีเงินยังซื้อไม่ได้เลย ทุกวันเทศกาลพ่อก็แค่ ดมเอง ไม่เคยกล้าที่จะดื่มเลย นี่จะให้ฟรีทั้งสองขวด มันจะไม่สิ้น เปลืองไปหน่อยเหรอครับ?”

“ให้ไปเอามาก็ไปเอามาเถอะน่า เหล่านี้ถ้าหากมอบให้ออกไป ได้ มันจะมีประโยชน์กว่าวางไว้เฉย ๆ ทั้งหลายเท่า

ทันทีที่เขาเห็นฟางเหยียน สองเท้าของเขาก็สั่นเทา นั่นคือคนที่ สามารถเคลื่อนย้ายกองทัพทหารได้เชียวนะ
เขาตื่นเต้นและกำลังจะเอ่ยปากพูดกับฟางเหยีคู่หมั้น แต่ทว่า ฟางเหยียนได้ส่งสายตาให้กับเขาก่อน เถ้าแก่เป็นคนฉลาด แค่ แวบเดียวก็เข้าใจความหมายของฟางเหยียน พลันเอ่ยขึ้นอย่าง รู้ทัน

“ทุกท่าน นี้เป็นน้ำใจเล็กน้อย ๆ จากทางร้าน หวังว่าทุกท่าน จะรับไว้

หลังจากที่พูดจบหลัวเทียนเยวได้เดินกลับไปที่ประตูพลาง กล่าว: “ทุกท่านค่อย ๆ รับประทาน

“โย่ว เถ้าแก่โรงแรมนานาชาติเทียนเยวนี้ไม่เลวจริง ๆ ยังให้ เหล้าฟรีพวกเราดื่ม วันนี้เป็นวันอะไรกันแน่นะ?” เหลียงเช่าชง พูดจาหยอกล่อ

เสิ่นจื่อเจียรีบเสริมขึ้นมาว่า “ยังต้องพูดอีกเหรอ ต้องเป็น เพราะเห็นคุณชายของเราอยู่ที่นี่ เลยตั้งใจเอามาให้

“ติดตามคุณชายนี่ ช่างมีหน้ามีตาจริงๆ นี่เป็นเหมาถ่ายที่ เก็บไว้นานหลายปีเชียวนะ”

ตู้หมิงล่างกล่าวอย่าไม่ถ่อมตัว “หรือไม่ก็อาจจะเพราะเห็นแก่ หน้าพ่อของฉัน! มามามา พวกเราดื่ม”

แท้จริงแล้วโรงแรมนานาชาติเทียนเยว่ก็นับว่าเป็นธุรกิจขนาด ใหญ่ที่รุ่งเรืองของเมืองจิงโจว งานเลี้ยง ใหญ่ ๆ ส่วนมากก็มักจะ มาจัดที่นี่ ทรัพย์ของเถ้าแก่หลัวเทียนเยวมีมูลค่ากว่าหลายร้อย ล้าน ถึงแม้จะเทียบกับตระกูลใหญ่ ๆ ไม่ได้ แต่ก็ดีกว่าธุรกิจ ธรรมเหล่านั้นหลายเท่า
“ใช่แล้ว คุณชายตู้ ผมได้ยินมาว่าเซียวฮัวคุณชายใหญ่ของ ตระกูลเซียวถูกตัดขาทั้งสองข้าง ท่านรู้เรื่องนี้ใช่ไหม?” เสิ่นจื่อ เจี้ยเอ่ยถาม

ตู้หมิงล่างจงใจแสดงรอยยิ้มลึกลับออกมา ถามกลับ: “พวก นายได้ยินข่าวเรื่องที่มีบุคคลสำคัญมาที่จินโจวหรือยัง?

เงินจื่อเจียเบิกตากว้างพลางกล่าวว่า “ได้ยินแล้ว หรือว่าจะ เป็น หรือว่าจะเป็นฝีมือของบุคคลสำคัญคนนั้น?”

ตู้หมิงล่างแสร้งทำลีลาลึกลับพลางกล่าว: “นี่ยังต้องถามอีกเห รอ? ตัดขาสองข้างของเซียวฮั่ว ก็เหมือนกับเป็นการตักเตือน ตระกูลเซียว ตระกูลเซียวยังไม่กล้าทำอะไรเลย เห็นได้ว่า อิทธิพลนั้น ไม่ใช่แค่เรื่องหลอกลวง

“ท่านรู้จักเขาไหม?”

ตู้หมิงล่างกล่าวภาคภูมิใจ “แน่นอน ที่ฉันเดินมาจนถึงทุกวัน นี้ได้ ล้วนเป็นเพราะได้คำแนะนำจากเขา พวกนายรู้ไหมว่าครั้งนี้ เขามาที่จินโจวทําไม?”

ทุกคนล้วนส่ายหัวไม่รู้

ตู้หมิงล่างพูดอย่างลึกลับ: “ที่จริงที่เขามาจินโจวในครั้ง ก็ เพราะเพื่อรับฉันเป็นลูกบุญธรรม”

“พัฟ! ” เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฟางเหยียนกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ เม็ด ข้าพุ่งออกมาจากปากของเขา

อาหารพุ่งลงบนโต๊ะ ตู้หมิงล่างและพวกอดไม่ได้ที่จะด่าทอขึ้นมา: “ฟางเหยียน นายหมายความว่ายังไง

ฟางเหยียนกล่าวอย่างรีบร้อนว่า “ขอโทษที กลั้นไว้ไม่อยู่

เขากลั้นไว้ไม่อยู่จริง ๆ ตู้หมิงล่างบอกว่าตัวเองเป็นลูก บุญธรรมของเขา ทนไม่ได้ กลั้นไว้ไม่อยู่จริง ๆ

“คุณชาย งานประชุมการลงทุนของท่านหวง ได้เชิญท่านไป ไหม?”

“เชิญแล้ว! ต้องเชิญแน่นอนอยู่แล้ว”

“ขอเพียงแค่ทรัพย์สินในตระกูลมีถึงร้อยล้านขึ้น ก็มีสิทธิ์ไป

ได้”

ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา สายตาของทุกคนก็จับจ้องไปที่เ

ชิงหยู่

“อ้อ งั้นก็หมายความว่า นอกจากคุณหนูเย่และคู่หมั้นของเขา แล้ว ทุกคนล้วนสามารถไปได้สิ” เสิ่นจื่อเจียจงใจราดน้ำเย็นใส่ เยชิงหยู่

“ใครบอกว่าพวกเราไปไม่ได้ พวกเราก็จะไป” ฟางเหยียน ตอบกลับอย่างไม่ร้อนไม่หนาว

“ฟางเหยียน!” เย่ชิงหยอดที่จะรั้งฟางเหยียนไว้ไม่ได้ ใบหน้า ของเธอแดงขึ้นมา

คำพูดแบบนี้ พูดอยู่ที่บ้านไม่เป็นไร ไม่มีใครถือสา แต่อยู่ที่นี่เข้ายังจะโม้แบบนั้นอีก ต้องรอจนเธอขายหน้าจนไม่กล้ามองใคร เขาถึงจะพอใจหรือไง ฟางเหยียนคนนี้ ไม่ได้เรื่องก็ยังพอว่า นี่ เขายังพูดจาขี้โม้โอ้อวด ที่สำคัญคือ ทุกครั้งที่เขาพูดจาโอ้อวด มันทำให้เธอยิ่งรู้สึกต่ำต้อยไปอีก ตอนนี้เธอรู้สึกคิดผิดจริง ๆ ที่ พาฟางเหยียนมาด้วย

“ฟางเหยียน พวกเรากลับกันเถอะ!” เชิงหลากฟางเหยียน นมา

“ขออภัยด้วย ทุกท่าน พวกเราขอตัวกลับก่อน” เชิงหยู่ไม่ อยากจะอยู่ขายหน้าอีกต่อไป

“โถ จะรีบไปไหน ทุกคนอยู่ด้วยกัน พวกเธอสองคนกินอิ่มแล้ว คิดจะหนีเหรอ งานเลี้ยงคืนนี้ต้องหารกันนะ” ตู้หมิงล่างลุกขึ้นมา ขวางทางทั้งสองคน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ