จอมนักรบทรงเกียรติยศ

บทที่ 10 เทพแห่งสงคราม เครื่องจักรสังหาร



บทที่ 10 เทพแห่งสงคราม เครื่องจักรสังหาร

ในช่วงเวลานี้ เหมือนเวลาได้หยุดเดินลง บรรยากาศรอบข้าง เงียบสงัด ไม่มีใครส่งเสียงพูด ต่างก็กลั้นลมหายใจของตัวเอง เพื่อรอพิธีกรประกาศ “ผู้โชคดี”

แน่นอนว่า สายตาทุกคนต่างก็จับจ้องไปยังผู้โชคดีคนนั้น

ห้าวินาที สิบวินาทีผ่านไป พิธีกรยังคงไม่ประกาศชื่อผู้โชคดี เสียที

พิธีกรยืนมองกระดาษด้วยความประหลาดใจ เป็นเรื่องที่น่า เหลือเชื่อจริงๆ

เขารู้อยู่ลึกๆว่าเป็นงานลงทุนของตระกูลเซียว แต่ก็ไม่รู้ว่า

ทำไมกระดาษแผ่นนั้นไม่ใช่ชื่อของตระกูลเซียว

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงไม่อ่านออกมาละ

“หรือไมโครโฟนจะใช้งานไม่ได้”

เริ่มมีคนส่วนหนึ่งที่ระงับอารมณ์ไม่ได้ เริ่มมีคำถามมากขึ้น เรื่อยๆ บรรยากาศในงานเริ่มมีเสียงดังขึ้นอีกครั้ง

เพื่อที่จะแก้ไขสถานการณ์อึดอัดนี้ พิธีกรเลยพูดด้วยความ มั่นใจว่า“วันนี้ คนที่ได้ร่วมงานกับท่านหวงก็คือผู้นำตระกูล อันดับหนึ่งของเมืองจินโจว เซียวเฉียนเจิ้น ตระกูลเซียว”

เขาไม่รู้ว่าเกิดความผิดพลาดมาจากส่วนไหน แต่ที่เขาต้องพูดแบบนี้ ไม่ผิดแน่นอน

เมื่อสิ้นสุดเสียงพูดของเขา ผู้คนภายในงานต่างพากันปรบมือ แสดงความยินดี

เซียวเฉียนเจิ้นได้ลุกขึ้นยืน แสดงสีหน้าที่ได้เป็นผู้โชคดี

“กลับกันเถอะ ฟางเหยียน” ถึงแม้ว่ารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่า ผลลัพธ์เป็นแบบนี้ แต่ตอนที่ยังไม่ได้ประกาศรายชื่อ เชิงหยู อดคิดไม่ได้ว่าจะเกิดปาฏิหาริย์ขึ้นกับตัวเอง

ตอนนี้ หล่อนสิ้นหวังไปทุกอย่าง

เรื่องราวดีๆแบบนี้ทำไมถึงไม่มาถึงเราบ้างนะ แค่ได้เข้ามาใน งานก็ถือเป็นปาฏิหาริย์แล้ว

ฟางเหยียนได้คว้าไหล่ของหล่อนไว้ พูดอย่างไม่กังวลว่า “ไม่

รีบ รอก่อน อาจจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นก็เป็นได้

เย่ชิงหยู่ขมวดคิ้ว แล้วพูดว่า “นายวางใจเถอะ ฉันจะค่อยๆพูด กับคุณตาเอง ถ้าเขายังไม่ยอมรับ พวกเราก็ค่อยออกไปเอง ฉัน เคยรับคำกับคุณพ่อไว้ ฉันจะไม่ทิ้งเธอแน่นอน”

ฟางเหยียนรู้สึกใจเต้นขึ้นมา นี้เป็นช่วงชีวิตของเขาที่ได้ยินคำ

พูดที่อบอุ่น

ก็เพราะคำพูดเหล่านี้ ฟางเหยียนจึงต้องยอมให้โลกทั้งใบแก่ หล่อน

ตอนนี้ เซียวเฉียนเจิ้นได้ทำความเคารพ และยืนขึ้นเตรียมจะกล่าวคําในงาน

“เดี๋ยวก่อน” จู่ๆก็มีเสียงเคร่งขรึมแทรกขึ้นมา เสียงนั้นคือหวง หยวนฉาวนั่นเอง เซียวเฉียนเจิ้นรีบพูดขึ้นว่า “ท่านหวง ขอบคุณสำหรับความไว้

วางใจ คุณวางใจเถอะ ตระกูลเซียวจะร่วมใจร่วมงานกับคุณให้ดี

ที่สุด ที่จินโจว แค่ท่านหวงต้องการอะไร ผมจะหามาให้ท่านให้

ได้”

แต่หวงหานเยวได้ประคองหวงหยวนฉาวขึ้นมา เขายังคงต้อง มองไปยังพิธีกรบนเวที และถามขึ้นว่า “นายทำอะไรผิดพลาด หรือเปล่า ฉันหวงหยวนฉาวคนนี้ตลอดชีวิต ให้ความสำคัญกับ ชื่อเสียงมาก ฉันทนเห็นการโกหกไม่ได้ ฉันให้โอกาสนายอีกครั้ง กระดาษแผ่นนั้นเขียนชื่อตระกูลเซียวจริงหรือเปล่า”

เมื่อหวงหยวนฉาวเอ่ยถามขึ้นมาแบบนี้ ทุกคนในงานต่างพา กันสงสัยและไม่เข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น หวงหยวนฉาวเขาต้องการ อะไร กระดาษแผ่นนั้นที่หยิบขึ้นมาเป็นตระกูลเดียว หรือว่าจะไม่ ได้ถูกกำหนดไว้ตั้งแต่แรก

เมื่อเห็นหวงหยวนฉาวถามด้วยความจริงจัง พิธีกรก็เหงื่อไหล จนอาบเสื้อ บนหน้าผากก็ซุ่มเหงื่ออยู่ไม่น้อยเลย

เขาอึ้งและตอบว่า “ท่านหวง ผม ไม่เข้าใจสิ่งที่ท่านพูด”

แน่ใจนะว่านายไม่เข้าใจ” หวงหยวนฉาวพูดด้วยอารมณ์ โกรธมากขึ้นเรื่อยๆ
พิธีกรไม่กล้าเถียงตระกูลเซียว และยิ่งไม่กล้าเถียงหวังหยวน ฉาวอีกด้วย

เขาจึงตอบว่า “ไม่ ไม่ ไม่ เมื่อกระผมอ่านผิด ที่หยิบมาไม่ใช่ ชื่อตระกูลเซียว”

“ไม่ใช่ตระกูลเซียว แล้วมันมาได้ยังไงเนี่ย”

“นั่นนะสิ ทำไมถึงไม่เป็นตระกูลเซียวละ

พิธีกรหน้าแดงและพูดว่า “ความจริงแล้วคนที่จะได้มาร่วมมือ กับหวงหยวนฉาวก็คือ คุณหนูแย่ของตงข่ายกรุ๊ป

เงียบสงัด บรรยากาศในงานเงียบสงัด ต่างก็สงสัยว่าตัวเอง ฟังผิดหรือเปล่า รวมถึงเย่ชิงหยู่ ก็สงสัยกับสิ่งที่ตัวเองได้ยิน มีแต่ฟางเหยียน

เท่านั้น ที่รู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น

หลังจากที่ความเงียบจบลง ก็ได้มีเสียงโหวกเหวกโวยวายขึ้น มา ผู้คนในงานอาจจะไม่รู้จักว่าเยชิงหยู่เป็นใคร

แต่ทุกคนต่างก็รู้จักตงข่ายกรุ๊ป นั้นก็คือเย่เทียนได้ให้ไว้กับ คนในครอบครัวของเขา ทรัพย์สินของบ้านเขา อย่าพูดเงินล้าน เลย คาดว่ามีเป็นสิบๆล้าน

“ฟางเหยียน นี่เป็นความจริงใช่ไหม”

ไม่ค่อยอยากจะเชื่อสักเท่าไหร่ หลังจากที่พ่อตัวเองจากไป หล่อนก็ไม่เคยได้รับการเซอร์ไพรส์อะไรแบบนี้เลย
นี่มันตื่นเต้นมากกว่าคนถูกลอตเตอรี่อีก

เมื่อเห็นรอยยิ้มหล่อน ฟางเหยียนก็ได้ยิ้มออกมา อย่างน้อย

สิ่งที่ตัวเองทำก็ไม่เสียเปล่า นอกจากจะให้เชิงหยูดีใจแล้ว เขายังต้องการให้ตระกูลเซียว

เห็นว่าสมบัติของตัวเอง ได้หลุดออกไปจากมือ

ฟางเหยียนมองเซียวเฉียนเจิ้นที่มีสีหน้าถอดสีอยู่บนเวที ทุก อย่างเป็นไปตามที่เขาวางแผนไว้

“ท่านหวง มีอะไรผิดพลาดหรือเปล่า” เซียวเฉียนเจิ้นถามหวง

หยวนฉาวด้วยสีหน้าที่สงสัย

หวงหยวนฉาวได้หันมาถามเซียวเฉียนเจิ้น “นายกำลังสงสัย ฉันหรอ”

เซียวเฉียนเจิ้นกัดฟันและพูดว่า “ท่านหวง ท่านจะร่วมงานกับ ใครก็ได้ที่มาร่วมงาน ผมคงไม่ทักท้วงอะไรหรอก แต่ทำไมท่าน ต้องการร่วมมือตาข่ายกรุ๊ป ธุรกิจเล็กๆของพวกเขาไม่ใช่จะล้ม ละลายหรอกหรือ แล้วอีกอย่าง พวกเขาไม่มีคุณสมบัติจะมาร่วม งานตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ทางหวง มีอะไรผิดพลาดหรือเปล่า”

“ผู้นำตระกูลเซียว ที่นายพูดหมายถึงอะไร ทำไมถึงคิดว่าฉัน พลาด” หวงหยวนฉาวพูดด้วยอารมณ์โกรธ

ถึงแม้ว่าเซียวเฉียนเจิ้นรู้สึกโกรธในใจ แต่ก็ไม่กล้าเหิมเกริม กับหวงหยวนฉาว เศรษฐีแห่งภาคตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ได้รวย แค่เงินหรอกนะ หลังจากที่ทั้งสองได้โต้เถียงกัน บรรยากาศในงานก็ได้เงียบอีกครั้ง

ถึงแม้ว่าทุกคนล้วนไม่เชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ก็ต้องยอมรับ ความจริงกับเรื่องนี้ ลำดับต่อไปจะเป็นคุณหนูเย่แห่งคงข่ายกรุ๊ปจะขึ้นมากล่าว

บนเวที” พิธีกรพูดพร้อมกับซับเหงื่อ

เย่ชิงหยู่ตื่นเต้นจนบอกไม่ถูก เซอร์ไพรส์ครั้งนี้ยิ่งใหญ่มาก รู้สึกซาบซึ้งมาก

ฟางเหยียนเอามือมาตบเบาๆที่หล่อน และพูดว่า “ขึ้นไปเถอะ

นางเอกของฉัน”

“อย่าลืม เธอเป็นลูกสาวของเยเทียนนะ”

คำพูดของฟางเหยียนในครั้งนี้เหมือนเป็นยากระตุ้นหัวใจให้ กับหล่อน ใช่ หล่อนเป็นลูกสาวของเยเทียน จะต้องกลัวอะไรอีก ละ

พอคิดถึงตอนนี้ เชิงหยู่ควบคุมสติ และเดินขึ้นไปบนเวที หลิวซื่อหลงหันไปสบตากับตู้เทียนหลง ก็มีพวกเขานี้แหละ ที่

รู้สึกกลัว

หลังจากที่เย่ชิงหยู่ได้พูดจบลง ก็ได้จับมือกับหวงหยวนฉาว ถ่ายรูปด้วยกัน เดิมทีหล่อนก็ต้องการจะถ่ายรูปกับฟางเหยียน ด้วย

แต่หล่อนไม่มีเวลามากพอที่จะไปตามฟางเหยียน เนื่องจากมีคนมาแสดงความยินดีกับหล่อนไม่น้อย

หลังจากการประชุมสิ้นสุดลง

เทียนขุยก็ได้บอกลาหวงหยวนฉาว

“ท่านหวง เรื่องในวันนี้ จอมพลโต้จวินให้ผมมาขอบคุณท่าน เทียนขุยกล่าวด้วยความจริงใจ

หวงหยวนฉาวโบกมือแล้วพูดว่า “ถ้าสามารถทำงานให้จอม พลโต้จวินได้ นั้นเป็นสิ่งที่ดีงามสำหรับผม เพียงแค่ ตอนนี้ไม่รู้ว่า ท่านจะมีอายุได้นานแค่ไหน ยังไม่มีโอกาสได้เข้าพบเข้าจอมพล โผังวิน”

“วางใจเถอะท่านหวง พลตรีเคยพูดไว้ว่าจะมาขอบคุณด้วยตัว ท่านเอง”

“งั้นก็คงจะต้องรอให้ท่านสะดวก

หลังจากที่ได้บอกลาเทียนขุย หวงหานเยวกับหวงหยวนฉาว ก็ได้ขึ้นรถกลับไป

ในขณะอยู่บนรถ หวงหยวนฉาวได้ถอนหายใจแล้วพูดว่า หรือจะไม่มีโอกาสได้พบกับจอมพลโต้จวิน

หวงหานเยวมีคำถามที่อยากถามตั้งแต่แรกแล้ว ที่คุณปู่มาร อบนี้ก็ตามที่ตกลงไว้ว่าจะร่วมมือกับตระกูลเซียว ก็มีแต่ตระกูล เชียวนั่นแหละที่มีคุณสมบัติพอจะร่วมมือกันได้ เพราะคนคนนั้นคนเดียว ที่สามารถทำให้คุณปู่เปลี่ยนใจได้ คนนั้นจะต้องไม่ ธรรมดาแน่นอน

“คุณปู่ จอมพลโต้จวินที่พูดถึงเขาเป็นใคร” หวงหานเยวถาม

หวงหยวนฉาวด้วยความสงสัย

เมื่อหวงหยวนฉาวได้ยินหลานสาวถามขึ้นมา สีหน้าก็ เคร่งขรึมทันที

เขาตอบเพียงสั้นๆแค่ว่า “เทพแห่งสงคราม เครื่องจักรสังหาร เป็นตำนานที่มีชีวิต

หวงหานเยวหันไปมองคุณด้วยความงงงวย พูดแบบนี้ไม่ใช่ คนยิ่งใหญ่หรือคะ

ถ้ามีคนแบบนี้จริงๆ หวงหานเยวจะต้องเจอให้ได้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ