2 เฝ้ามอง /2
และในวันสุดท้ายของการนอนโรงพยาบาล บุคคลที่อยู่ใน ความทรงจําของสาวน้อยก็ปรากฏตัวขึ้น ร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตสี ฟ้าอ่อน และกางเกงสแลคสีเทาดำ เขาส่งยิ้มมาให้ศศิวิมลก่อน แล้วจึงยกมือทําความเคารพบิดาและมารดาของเด็กสาว ท่านทั้ง สองยกมือขึ้นรับไหว้ และส่งยิ้มยินดีให้ชายหนุ่ม
“พ่อชลาทิศ ไปยังไงมายังไงกันล่ะจ๊ะ ถึงได้มาที่นี่ได้ มารดาของศศิวิมลทักทายชายหนุ่มอย่างสนิทสนม
“ผมผ่านมาแถวนี้นะครับ ก็เลยแวะเข้ามาเยี่ยม รอยยิ้ม อ่อนโยนของชลาทิศทำให้สาวน้อยที่อยู่บนเตียงคนไข้ตาลาย
“เหรอจ๊ะ แหมดีจริง น้ายังไม่ได้ขอบใจพ่อชาร์ลเลยตั้งแต่ วันนั้น ได้แต่โทรไปคุยกับแม่เรา ถึงวีรกรรมของลูกชายที่น่า ยกย่อง”
“แหม คุณน้าครับ ไม่ใช่วีรกงวีรกรรมอะไรหรอกครับ ถ้า เป็นคนอื่นเขาก็คงต้องทำอย่างผม แต่บังเอิญคนที่ผมช่วยไว้ เป็นลูกสาวของคุณน้าศศิมณี และคุณอาศุภกฤษเท่านั้นเอง”
ชายหนุ่มปรายตาคมหวานมายังสาวน้อยที่อยู่บนเตียง คนไข้นิดนึง
“นั่นแหละที่เป็นความโชคดีของยัยหนู และของครอบครัว เราที่คนๆ นั้นคือพ่อชาร์ล แต่เอาเป็นว่าวันนี้ชาร์ลว่างรึเปล่าล่ะลูก น้าอยากเชิญไปทานมื้อเย็นกันที่บ้าน ถือว่าเป็นการเลี้ยง ปลอบขวัญยัยหนูด้วย”
“เอ่อ… ผมต้องขอโทษคุณน้าและคุณอาด้วยนะครับ วันนี้ ผมคงไม่สะดวกเพราะผมต้องกลับไปเคลียร์งานเอาไว้ เพื่อจะ ต้องเดินทางไปควบคุมงานที่อิตาลี 4 ปีนะครับ
“อ้าว… เหรอ นี่เราเพิ่งจะได้เจอกันแท้ๆ เชียวนะ น่าเสียดาย จริงๆ”
“เอาไว้ผมกลับมาเมื่อไหร่ จะรีบไปเยี่ยมคุณอากับคุณน้า
เลยนะครับ”
พูดจบ ชลาทิศก็หันหน้าไปมองคนป่วย ที่นั่งมองคนโน้นคน นี้คุยกันอย่างเงียบๆ
“อ้าว… ลืมซะสนิทเลย ว่าพ่อชาร์ลมาเยี่ยมน้อง เชิญจะเชิญ ตามสบายเลยนะ เดี๋ยวน้ากับอาศุภกฤษจะไปเคลียร์เรื่องค่าใช้ จ่าย ก่อนออกจากโรงพยาบาลซะหน่อย
“ครับ”
ชลาทิศก้าวเข้าไปใกล้เตียงคนป่วย เขาส่งยิ้มให้เด็กสาว หน้าใส และได้ทันเห็นแก้มเนียนซับสีชมพูระเรื่อขึ้นได้อย่างน่ารัก
“เป็นยังไงบ้างจ๊ะ หึม… คนเก่ง วันนี้ก็จะได้ออกจากโรง พยาบาลแล้วสินะ” เสียงทุ้มถามอ่อนโยน
“เสียดายจัง ที่พี่ชาร์ลคงไม่มีโอกาสได้คุยกับหนูจันทร์อีก นานเลยล่ะ นี่คุณแม่บอกพี่นะว่าหนูจันทร์จะออกจากโรงพยาบาลวันนี้ งั้น คงไม่พบหนูจันทร์อีกนาน
ศศิวิมลได้แต่ฟังหวาน ทุกอย่างประกอบเป็นชายหนุ่ม สาวน้อยเก็บบันทึก ไว้ในหัวใจดวงน้อยหมดแล้ว ที่เธอพูด ก็เพราะใจเต้น ระทึก เกรงเขาได้ยิน หัวใจของศศิวิมลเต็มหวานๆ นั่น ไม่จําเป็นต้องขยับปากเพื่อบอกให้รับรู้เลย
ชลาทิศแกร่งปัดปอยผมออกไปพ้นดวงหน้าหวานนั้น กิริยาทุก อย่างเขาทํา
“ไม่เจ็บแล้วใช่ไหมคนพี่ชาร์ลเป็นห่วงหนูแต่จันทร์ไม่เป็นอะไรไปแล้วจ๊ะ
โดยไม่ทันได้ตั้งริมฝีปากจัดของชลทิศ แนบลงไป
“ชาร์ล
แล้วชลาทิศก็ออกจากห้องไป ทิ้งให้สาวน้อยจมอยู่กับสัมผัส เขาหรือไม่ว่าเขาเข้ามาอยู่ในหัวใจดวงน้อยเต็มทั้ง ห้องแล้ว จากจนวันปีกว่าแล้ว ศศิอีกเลย
ว่ายังไงจ๊ะภา เรียกหนูจันทร์ทำไมเหรอ”
ศศิวิมลถามเพื่อนรักเสียงหวาน
“แหม แค่นี้หนูจันทร์ก็ลืมแล้วเหรอ ก็เมื่อเช้าหนูจันทร์บอก
กับภาว่าวันนี้จะไปหาซื้อเสื้อผ้าด้วยกันไง ที่ไหนได้หนูจันทร์ดัน กลับซะก่อน” “อ้าว…ตายแล้วหนูจันทร์ขอโทษนะ หนูจันทร์ลืมซะสนิท
เลยว่านัดมาเอาไว้”
“ก็ใช่นะสิ เธอนี่ลืมเพื่อนได้ลงจริงๆ
“โอ๋ โอ๋ แต่ช้าแต่น่า ภาจ๋า…. ถึงหนูจันทร์จะลืม แต่หนูจันทร์ ก็ไม่ได้บอกว่าไม่ไปนี่นา”
“เย้ งั้นแสดงว่าหนูจันทร์จะไปกับภาใช่ไหม”
“ชัวร์อยู่แล้ว”
และสองสาวเพื่อนซี้ก็เดินควงแขนหัวเราะกันไปอย่าง สนุกสนาน ไม่รับรู้ว่าบัดนี้มีรถยนต์สปอร์ตคันหรูจอดอยู่ใกล้ๆ กับที่สองสาวยืนอยู่เมื่อครู่ ดวงตาหวานของคนในรถมองตาม ร่างอวบอิ่มของศศิวิมลไปจนลับตา
ชลาทิศเฝ้ามองหนูจันทร์ที่มหาวิทยาลัยทุกอาทิตย์ ตั้งแต่ที่ เขากลับจากอิตาลี มารดาบอกว่าหนูจันทร์ยังไม่มีใคร นั่นทำให้ หัวใจของเขาพองโตกว่าตอนที่อยู่ในอิตาลี ซึ่งเขาคิดว่าคนสวย น่ารักอย่างหนูจันทร์คงมีใครจับจองเป็นเจ้าของแล้ว แต่คำบอก เล่าของมารดาก็สร้างความยินดีอย่างยิ่งให้กับชายหนุ่ม เขายัง ไม่เปิดเผยตัวกับหนูจันทร์ตอนนี้ เพราะเกรงว่าเมื่อได้เห็นหน้าและอยู่ใกล้ๆ จะอดใจไม่ได้ จนเผลอทําอะไรเหมือนตอนที่หนู จันทร์อยู่โรงพยาบาล เขาอยากให้หนูจันทร์เรียนจบก่อน จึงได้ แต่แอบเฝ้ามองอยู่ไกลๆ แบบนี้ แต่อีกไม่นานหรอก วันของเขาก็ คงมาถึง
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ