ค้ายมนตราแห่งรัก

1 จุดเริ่มต้น /1



1 จุดเริ่มต้น /1

1 จุดเริ่มต้น

ร่างบอบบาง ในชุดนักศึกษาของมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่ง

หนึ่ง ยืนตัดสินใจเป็นครั้งสุดท้ายอยู่ด้านหน้าตึกสูง 25 ชั้น ของ

บริษัท อัครเดชไพศาล กรุ๊ป) จำกัด (มหาชน) นางสาวดลลดา

ฤทธาภิวัฒน์ สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ อยู่ 3 ครั้ง ก่อนจะก้าว

ขาเรียวสวย ภายใต้กระโปรงสีดำ จีบรอบตัว ยาวแค่เข่า เข้าไป

ด้านใน สาวน้อยตรงไปจุดที่มีป้ายบอกว่าเป็นประชาสัมพันธ์

ทันที

“ขอโทษนะคะ ดิฉันมาจากมหาวิทยาลัย… ขอเข้าพบฝ่าย บุคคลค่ะ

ดลลดา แจ้งให้พนักงานสาวสวยให้ทราบว่าเธอมาจากไหน และต้องการพบใคร

“ไม่ทราบว่าต้องการพบด้วยเรื่องอะไรคะ”

ประชาสัมพันธ์สาวสวยถาม

“คือว่า ดิฉันถูกส่งตัวมาจากมหาวิทยาลัย เรื่องที่บริษัท อัคร เดชไพศาล(กรุ๊ป) จำกัด ได้ตอบรับการรับนักศึกษาเข้าฝึกงานค่ะ และดิฉันก็เป็นนักศึกษาคนนั้นค่ะ”

“อ๋อ รอสักครู่นะคะ”
ดลลดา รออยู่สักพัก พนักงานสาวก็บอกทางให้เดินไปห้อง ฝ่ายบุคคล

“ขอบคุณค่ะ”

สาวน้อยกล่าวขอบคุณพนักงานสาวเบาๆ

ดลลดา เดินไปตามทางที่พนักงานสาวบอก ตลอดทางเดิน สาวน้อยมองสํารวจไปทั่ว ตึกอัครเดชไพศาลกว้างใหญ่นัก ภายในปูพรมมีลวดลายสวยงาม เน้นสีน้ำตาลปนด่าตลอดทาง เดิน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าฐานะทางการเงินของเจ้าของนั้นมั่นคง ขนาดไหน ความสะอาดก็เป็นเลิศแม่บ้านคงเช็ดถูทั้งวันแน่ เงา วับจนแทบจะส่องกระจกได้อยู่แล้ว เดินสำรวจโน่นนี่จนเพลิน พอ หันหน้ามาอีกทีก็พบห้องหนึ่ง ที่มีป้ายบอกว่าเป็นห้องฝ่ายบุคคล สาวน้อยยกมือเคาะประตูอยู่ 3 ครั้ง และก็ผลักเข้าไปพบหญิง อายุประมาณ 40 ปี ใส่แว่นตาหนาเตอะ มองมาที่หล่อน และมี พนักงานหญิงนั่งทำงานอีก 4 คน

“นั่งสิ”

หญิงวัย 40 บอก

“ชื่ออะไร”

พอดลลดานั่งลงปุ๊บ น้ำเสียงเข้มงวดก็เอ่ยถาม

“ดลลดา ฤทธาภิวัฒน์ ค่ะ”

“อืม… ต้องการฝึกงานด้านเลขานุการ
“คะ”

เมื่อสาวน้อยตอบไปแล้ว สายตาภายใต้แว่นตาอันหนาเตอะ ก็มองจ้องมาที่ใบหน้าหวานนิ่งอยู่พักนึง

“ถ้าจะถามว่าเธอสามารถทนต่อสภาวะความกดดันได้ดีแค่ ไหน เธอคงตอบไม่ได้เพราะยังไม่เคยผ่านงาน เอาเป็นว่าตลอด เวลา 3 เดือน ที่เธอต้องทำงานที่นี่ ฉันขอให้เธอพยายามอดทน ต่อความกดดันที่เกิดขึ้น งานเลขานุการขึ้นตรงกับเจ้านายใหญ่ โดยตรง และคนที่แบกภาระอันหนักอึ้ง มีความรับผิดชอบสูง และเป็นเจ้านาย ก็ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์บ่อย ฉัน หวังว่าเธอคงทนให้ได้จนครบ 3 เดือน แล้วกันนะ”

“ค่ะ” ถึงแม้ ดลลดาจะไม่ค่อยเข้าใจกับคำเตือนนั้น แต่สาว น้อยก็รับค่า

“ฉัน พิจิตรา ยินดีต้อนรับเธอร่วมงานกับเรา เดี๋ยวเธอขึ้นไป ชั้น 25 พบกับคุณ อรอนงค์ เขาเป็นเลขาฯ ของคุณชวนนท์ เธอ จะต้องเรียนรู้งานจากคุณอรอนงค์ ขอให้โชคดี”

ดลลดาเพิ่งจะรู้ว่าบุคคลที่นั่งคุยและเตือนเธอนั้นชื่อ พิจิตรา แล้วสาวน้อยก็ขึ้นไปชั้น 25 ตามที่คุณพิจิตราบอก

ชั้นที่ 25 นี้ มีเพียงโต๊ะทำงานซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นของ เลขานุการเพียงตัวเดียว และมีห้องซึ่งน่าจะเป็นห้องผู้บริหารอีก

3 ห้อง เท่านั้น

“น้องที่มาฝึกงานกับพี่ใช่ไหมคะ ดีใจจังเลยค่ะที่นี่จะมีเพื่อน แล้ว ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ก็เถอะ
อรอนงค์ ส่งยิ้มต้อนรับอย่างยินดีมาให้สาวน้อย ดลลดายิ้ม ตอบ เริ่มรู้สึกคลายกังวลไปมาก เมื่อได้คุยกับอรอนงค์

“เดี๋ยวน้องรอสักครู่นะคะ พอดีว่าพี่ป่วยเลยหยุดงานไป 2 วัน โต๊ะของน้องก็เลยยังไม่มีใครยกมาให้ เดี๋ยวพี่จะให้ยามยก ขึ้นมาให้นะคะ”

อรอนงค์บอก และเมื่อพนักงานรักษาความปลอดภัย 2 คน ยกโต๊ะขึ้นมาให้พร้อมเก้าอี้เรียบร้อย อรอนงค์ก็ให้ ดลลดานั่ง ทำงานที่โต๊ะตัวนั้น ทั้งบอกอีกว่า วันนี้คงไม่ค่อยมีงานอะไรมาก เพราะเจ้านายไม่อยู่ ทั้งสองเลยได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น

ดลลดาพอใจในอัธยาศัยไมตรีของอรอนงค์ ที่เป็นคนร่าเริง และคุยสนุก พอได้เวลาเที่ยงอรอนงค์ก็พาดลลดาลงไปทาน อาหารในโรงอาหารที่จัดไว้ให้สำหรับพนักงาน และทราบอีกว่า อาหารกลางวันมีไว้บริการแก่พนักงานทุกคนฟรี ถือเป็น สวัสดิการแก่พนักงาน

“ดีจังเลยนะคะ อิ่มจังตังค์อยู่ครบ” ดลลดาบอก ส่งยิ้มหวาน ให้อรอนงค์

“พวกเราโชคดีที่ได้ทำงานที่นี่จะ เงินเดือนที่ได้รับก็มากพอ สมควร แถมได้กินข้าวฟรีอีกด้วย เอาไว้ถ้าดรีมจบการศึกษาแล้ว ก็เข้ามาทำงานที่นี่ได้นะ เพราะครีมได้เข้ามาฝึกงานที่นี่แล้ว”

“ดีเลยค่ะ เอ… แต่ว่าไม่รู้ว่าครีมจะผ่านการทดลองงาน เปล่าน่ะสิคะ”

“อย่าเพิ่งกังวลเลย เพิ่งเข้ามาวันแรก แต่พรุ่งนี้เจ้านายกลับมา ดรีมกับพี่คงหัวฟูไม่ได้มีโอกาสมานั่งคุยกันสนุกแบบนี้ หรอก”

“ค่ะ ดรีมจะตั้งใจทำงาน ช่วยพอรให้ดีที่สุดค่ะ

เช้าวันที่สองของการทำงาน วันนี้ดลลดามาถึงที่ทำงานสาย เพราะรถติดซึ่งเป็นปัญหาโลกแตกของกรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมร เท้าบางๆ ในรองเท้าหุ้มส้น วิ่งเข้าบริษัท ตรงไปที่ลิฟต์ซึ่งประตู กําลังจะปิดพอดี

“เดี๋ยวค่ะ รอด้วยค่ะ ขอไปด้วยคน

เสียงใสๆ บอกผู้ที่อยู่ในลิฟต์ พร้อมกับมือบางที่ยื่นเข้าไป ในลิฟต์ เมื่อเห็นว่าประตูจะปิดแล้ว และคนที่อยู่ในลิฟต์ก่อนแล้ว คงจะไม่ได้ยินเสียงเธอ ทำให้ข้อมือบาง โดนประตูหนีบก่อนที่ ประตูจะดีดตัวออกจากกันเมื่อเจอสิ่งกีดขวาง

“โอ๊ย!” ดลลดาอุทาน เมื่อรู้สึกเจ็บที่ข้อมือ

ยังไม่ทันได้ตั้งตัว ข้อมือข้างเดิมก็ถูกมือใหญ่กระชากเข้าไป ในลิฟต์ ด้วยความตกใจ ทำให้สาวน้อยเงยหน้าขึ้นมองคนที่ฉุด ข้อมือตน ด้วยความฉุนกึก

แต่แล้วคำพูดที่กำลังจะถูกส่งผ่านออกมาจากริมฝีปากอิ่ม นั้น ก็ต้องถูกกลืนลงไปในลำคอทันที เมื่อเห็นใบหน้าของคนที่ ท่าอุกอาจกับตน ดวงตากลมโตสีดำสนิทส่งประกายสดใสราว นิลน้ำดีเบิกกว้างขึ้น ริมฝีปากอิ่มเผยอออกอัตโนมัติ ไม่ใช่ว่าสาวน้อยกำลังเห็นภูตผีปีศาจหรอกนะ แต่เป็น…


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ