คนรักที่บอบบางราวกับใยไหม

บทที่ 15 รักต้องคลุมเครือ



บทที่ 15 รักต้องคลุมเครือ

“เหยาเหยา……”

เหยียนเส้าคุนยืนอยู่หน้าประตูที่มีแสงไฟ สลัว, นัยต์ตาที่มองมาทางเธอแสดงออกถึงความ อ่อนแอและเสียใจ

สายตาแบบนั้น, ถังเหยาเคยเห็นบนตัวของซื่อ หรั่งตอนยังเป็นเด็กหนุ่ม

“อย่ามาหาฉัน. “ถังเหยารู้ว่าตัวเองกำลังฝัน

อยู่

เธอพยายามอยากที่จะทำให้ตัวเองตื่นขึ้น มา , แต่กลับเดินออกมาจากในฝันไม่ได้

“เหยาเหยา, กลับมา, ซื่อหรั่งคิดถึง คุณ…….เหยียนเส้าคุนพูดอย่างเจ็บปวด, แล้วเดิน มาทางถังเหยาอย่างช้าๆ

เธอเดินถอยหลัง, อย่างหวาดกลัว

“คุณไม่ใช่ซื่อหรั่ง, ซื่อหรั่งของฉันตายไป แล้ว, คุณถอยออกไป..….……ถึงเหยาน้ำตาคอก

เธอนึกว่าผ่านไปนานมากขนาดนี้, ตัวเองจะไม่รู้สึกอะไรแล้วเมื่อพูดถึงเรื่องราวในอดีต, แต่ ความเจ็บปวดที่อยู่ในใจกลับยังคงชัดเจนอยู่เหมือน เดิม.

ความรักที่ลึกซึ้งในตลอดเจ็ดปี, เมื่อต้อง แยกจากกัน, ที่แท้เธอก็ไม่สามารถปล่อยวางได้ ง่ายดายเหมือนอย่างที่คิดเอาไว้

ถังเหยาน้ำตาไหลอาบ, เธอร้องไห้เสียงเบา, แต่กลับมีเสียงตะโกนเรียกอย่างรีบร้อนของเฮ่อหาน ดังขึ้นอยู่ข้างหู

“เสี่ยวเหยา, เสี่ยวเหยา, ตื่นเถอะตื่น

เร็ว…………….”

ถังเหยาลืมตาขึ้น , ก็มองเห็นเฮ่อหานถือ เทียนนั่งอยู่ข้างเตียง, ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วย ความกังวน

“ฉันไม่เป็นไร, แค่ฝันร้าย…..…….ถังเหยารีบเช็ด น้ำตาบนใบหน้าออก, แต่กลับหลบตาไม่กล้ามอง หน้าเขา

“ซื่อหรั่งเป็นชื่อของคนนั้นงั้นเหรอ? “เฮ่อหานที่ไม่เคยจะถามเรื่องราวในอดีตของถังเหยา, ก็ ถามอย่างกะทันหัน

ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้ยินชื่อนี้ออกจากปากถัง เหยาแล้ว

ถังเหยาตัวแข็งทื่อทันที , แล้วส่ายหน้าไปมา เบาๆอย่างอ่อนเพลีย

“ที่บ้านก็เรียกผมว่าเหล่าซื่อ, ถ้าคุณไม่บอก ผมก็นึกว่าสักว่ากำลังเรียกผมอยู่ ทันใดนั้นน้ำ เสียงของเฮ่อหานก็นุ่มนวลขึ้น, สายตาก็อ่อนโยน ขึ้นเล็กน้อยภายใต้แสงเทียนที่ส่องสว่างไสว

“เฮ่อหาน, ฉันไม่อยากพูดถึงเขาจริงๆ นี้ เป็นครั้งแรกที่ถังเหยาเรียกชื่อเต็มของเขา แต่เมื่อ เฮ่อหานได้ยิน, กลับทำให้รู้สึกปวดใจอย่างบอกไม่ ถูก

ชื่อของเขาที่ออกจากปากของเธอ, มันไม่น่า จะมีความเศร้าใจปนออกมาด้วยเลย.

“คุณไม่อยากพูดถึงก็ชั่งมันเถอะ, ต่อไปถ้า เรียกชื่อชื่อหรั่งอีก ผมก็จะตอบคุณเอง เชื่อหานวางเทียนลงบนโต๊ะสี่เหลี่ยม, แล้วถอนหายใจ เชือกหนึ่งเบาๆ

ถังเหยาก็รู้สึกทันทีว่าตัวเองได้เสียมารยาท

ไป.

ผู้ชายคนนี้เป็นคนที่ช่วยชีวิตของตัวเองเอา ไว้, เขาไม่เพียงไม่รังเกีตจเธอ, ยังให้ที่พักพิงกับ เธออีกด้วย.

ทำไมเธอจะต้องปิดบังอะไรกับเขาด้วยล่ะ?

“เจ็ดปี, ถังเหยาอ้าปากพูดขึ้นเบาๆกับแผ่น หลังของเฮ่อหาน, “ฉันอยู่กับเขามาเจ็ดปี

ประโยคสั้นๆเพียงไม่กี่คำ, ก็ได้อธิบายถึง ความรักทั้งหมดของเธอ

เฮ่อหานหันหลังอยู่อย่างนิ่งเงียบ

ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยมีความรักที่ยาวนาน ขนาดนั้นกับใครมาก่อน, แต่เขาก็ไม่ได้โง่

เจ็ดปีคืออะไร?
คือช่วงชีวิตที่โรแมนติกสวยงามและบริสุทธิ์

ที่สุด.

สำหรับผู้หญิงที่เพิ่งออกมาจากสังคมในเมือง แบบบนั้นแล้ว, เจ็ดปีนั้นก็เท่ากับทั้งชีวิต

“ขอโทษนะ, เฮ่อหานพูดขึ้นเสียงเบา, สายตาที่หันมองมาทางถังเหยาแสดงออกถึงความ รู้สึกผิดเล็กน้อย.

ไม่ว่าจะอยู่ในอารมณ์แบบไหน, เขาก็ไม่ควร ทำให้ต้องเธอเล่าถึงความเจ็บปวดนั่น.

แต่ถังเหยากลับไม่ได้รู้สึกอะไรมากนัก, เธอ ยิ้มออกมาเล็กน้อย: “ไม่มีอะไรที่ต้องขอโทษ, คุณเป็นผู้มีพระคุณของฉัน, มีสิทธิ์ที่จะอยากรู้

เฮ่อหานไม่ได้ยินคำตอบนี้ของถังเหยายังจะดี สักกว่า, วินาทีนี้ที่ได้ยินคำพูดพวกนี้ของเธอ, กลับ รู้สึกห่างเหินเป็นอย่างมาก

“ผมหวังว่า…..คุณจะมองผมเป็นเหมือน เพื่อน, อยากเอาแต่พูดเรื่องบุญคุณที่เคยช่วย ชีวิต, การที่ผมรักษาโรคให้คุณก็คือหน้าที่ของคนเป็นหมอ, การที่ดูแลคุณก็เป็นสิ่งที่ผู้ชายคนหนึ่ง ควรจะทำ

ถังเหยากระพริบตาเบาๆ, ใช่ว่าเธอจะไม่ เข้าใจความหมายที่แฝงอยู่ในคำพูดประโยคสุดท้าย นั่นของเฮอหาน

ตอนที่ตัวเองนอนสงบอยู่บนเตียงถึงเจ็ดวันเจ็ด คืน, เฮ่อหานก็ค่อยดูแลตัวเองอยู่ไม่ห่าง

ถ้ามองจากอีกมุมหนึ่งแล้ว, เธอกับเฮ่อหาน ก็ได้มีความสัมพันธ์ที่มากกว่าเพื่อนไปนานแล้ว

ตามหลักความคิดแบบดั้งเดิม, ถ้าผู้ชายคน หนึ่งได้เคยจับต้องเรือนร่างของผู้หญิงคนไหน แล้ว, ก็ต้องรับผิดชอบต่อผู้หญิงคนนั้น

ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นหมอ, แต่เขาก็ได้ดูแลถัง เหยาดีเกินกว่าหน้าที่ของคนเป็นหมอ

“หมอเฮ่อ, ฉันหวังว่าในสายตาของคุณ, จะมองฉันเป็นเพียงแค่คนไข้, แต่ไม่ใช่ผู้หญิงคน หนึ่ง เธอไม่อยากจะให้รักที่คลุมเครือแบบนี้มา กั้นระหว่างพวกเขาทั้งสองคน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ