การถูกหลงลืมที่สลักไว้ในใจ

บทที่ 06 บังคับอย่างโหดร้าย



บทที่ 06 บังคับอย่างโหดร้าย

นี้ก็สามวันแล้ว

ธีรวัฒน์ต้องรู้เรื่องที่ตัวเองหายไปแล้วแน่ๆ เขาจะ เป็นเป็นห่วงไหม จะอยู่ไม่เป็นสุขรึเปล่า

ศิริวรรณหยุดไม่ได้ที่จะคิดแบบนั้น เธอคิดว่าธีรวัฒน์ ก็เห็นค่าในตัวเองอยู่ ถ้าเขาจะอยู่ไม่เป็นเพราะการหายไป ของตัวเอง แล้วตามหาอย่างสุดชีวิต

ถ้า…..ถ้าหากว่ามั่นใจแล้วว่าตัวเองก็ที่ตำแหน่งใน ใจของเขาอยู่ เธอก็จะไม่มีทางปล่อยความรักนี้ไป

ศิริวรรณคิดอย่างต่ำต้อย แต่กลับไม่รู้เลยว่าตัวเองที่ คิดแบบนี้มันน่าเวทนาแค่ไหน

เพราะกลัวว่าจะถูกตามหาเจอ ศิริวรรณไม่กล้าหาแม่ บ้านเลย อยู่ในบ้านหลังนี้ตัวคนเดียว จะมีพนักงานที่จัดส่ง สินค้าจากซูเปอร์มาร์เกตใกล้ๆ มาส่งผักสดๆ ถึงที่บ้าน

สิ่งที่เธอทำมากที่สุดในทุกวันคือการนั่งอยู่บนเก้าอี้ เจ้าสนมแล้วเอานิทานเด็กมาอ่านให้ลูกในท้องฟัน

และวันนี้ จู่ๆ เธอก็อยากดูทีวี

เพราะนานๆ ทีจะอารมณ์ดี เธอยังชงนมให้ตัวเองอีก แก้วหนึ่ง
เปิดทีวี ทันทีที่เห็นภาพจากจอทีวี ร่างกายของเธอ แข็งกระด้างเลย

“ทราบมาว่า ที่ตระกูลวรรณศา ประสบอยู่ตอนนี้จะ เป็นวิกฤตกาลที่ร้ายแรงที่สุด และยังมีผู้เชี่ยวชาญด้านการ เงินออกมาพูดอย่างเด็ดขาดด้วยว่า ตระกูลวรรณศาที่อยู่ มาร้อยปีจะจบไปกับวิกฤตครั้งนี้”

ปิ้ง

แก้วตรงมือได้ตกลงไปที่พื้นแตกแล้วนมก็กระจายไป

หมด

ศิริวรรณหน้าซีด พูดเองเออเอง “เป็นไปได้ยังไง ทำไมถึงเป็นอย่างนี้?

นั้นมันตระกูลวรรณศานะ เป็นเลือดเนื้อที่พ่อพยายาม รักษา มันก็พัฒนาไปได้ดีๆ จนสามารถต่อกรกับตระกูล เฟื่องลดาได้แล้ว แล้วทำไมอยู่ๆ ก็เจอวิกฤตที่ร้ายแรง อย่างนี้ละ?

“ไม่จริง…… ใช่แล้ว…… ต้องเป็นข่าวปลอมแน่ๆ

ศิริวรรณมองไปรอบๆ อย่างวิตกกังกล เห็นโทรศัพท์ บนโต๊ะอาหาร ก็รีบวิ่งเข้าไปอย่างเซไปเซมา จนแทบล้มลง

เธอเอาโทรศัพท์แล้วกดเบอร์ของชาญด้วยมือที่สั่น ไม่รอให้เขาพูดก่อนก็ถามอย่างกังวล “ชาญ ที่ในทีวีพูด ไม่ใช่เรื่องจริงใช่ไหม เป็นของปลอมใช่ไหม ทำไมตระกูล วรรณศาถึงได้……

“วาน เธอใจเย็นลงก่อนนะ”

ความลุลี้ลุกลนของเธอถูกชาญขัด ตอนนี้ทั้งตัวและ ใจของเธอได้วางไว้กับวิกฤตครั้งนี้ของตระกูลวรรณศา จน ไม่ได้สังเกตว่าเสียงของชาญทั้งแหบและล้ามาก

“ชาญ นายบอกฉันสิ ว่านี้ไม่ใช่เรื่องจริง

“ไม่ใช่เรื่องอยู่แล้ว เธอต้องเชื่อฉันนะ”

ชาญไม่สนใจสายตาที่กระสับกระส่ายของผู้ช่วย ก็ยัง ใช้เสียงที่อ่อนโยนปลอบศิริวรรณ จนเธอสงบจิตสงบใจได้ แล้ว และเชื่อในคำพูดที่ตัวเองพูดแล้ววางสายไป

“ท่านประธาน คนของสำนักอุตสาหกรรมและการ พาณิชย์มาที่บริษัทแล้วบอกว่าผลิตภัณฑ์ของพวกเราเป็น สินค้าปลอม และยังมีคนจากสำนักภาษี แจ้งข้อหาว่าเรา หนีการเสียภาษี จะมาเชิญท่านไปเพื่อทำการสอบสวนและยังมีพวกนักข่าวที่ไม่รู้ว่าได้รับข่าวสารมาจากไหนมา ล้อมอยู่หน้าประตูทางเข้าจนคนเข้าออกไม่ได้แล้วค่ะ ถ้า ยังเป็นอย่างนี้ต่อไป……….

“ฉันรู้แล้ว”

ชาญพูดด้วยสีหน้าที่อ่อนเพลีย ในตาของเขาเต็มไป ด้วยความเกลียดแค้น

เพราะเขารู้ว่า ต้นเหตุของเรื่องพวกนี้ทั้งหมดเป็น เพราะธีรวัฒน์ ผู้ชายสารเลวคนนั้น ทำร้ายวานแล้วยังทำ เรื่องแบบนั้นกับตระกูลวรรณศาอีก เขามันเป็นคนบ้าไป แล้ว คนบ้าที่ทั้งเย็นชาและไร้ความปรานี

“หาทางจัดการกับพวกหน้าข่าวให้หมด ฉันจะไปเจอ คนของสำนักภาษี”

ผู้ช่วยกำลังจะพูดว่าพวกนักข่าวพวกนั้นตัวเองไม่ สามารถจัดการได้ แต่ชาญก็ไปลุกแล้วออกไปก่อน

สุดท้ายศิริวรรณก็รู้เรื่องที่ตระกูลพฤกษาเกิดเรื่อง

แล้ว

บนอินเทอร์เน็ตเต็มไปด้วยข้อความที่ไม่ดีต่อตระกูล พฤกษา จนผู้บริโภคก็ได้เริ่มก่อกลุ่มต่อต้านตระกูลพฤกษา
เพียงเวลาใน 3 วัน ตระกูลวรรณศาและตระกูล พฤกษาก็ได้เกิดเรื่องตามๆ กัน ไม่ว่าศิริวรรณจะชื่อแค่ ไหนก็คงรู้แล้วว่าใครเป็นคนทำ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ