ยั่วสวาทท่านอ่องโฉมงาม

ตอนที่ 79 ข้ารับผิดชอบได้



ตอนที่ 79 ข้ารับผิดชอบได้

ในขณะนั้นก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น

ตอนที่หลินซีนเยียนยังไม่เรียกสติคืนมาก็เห็นเซียวฉาง เยว่พุ่งเข้ามาแล้วพาเธอกระโดดลงไปในน้ำพร้อมกัน เซียว ฉางเยว่ตะโกนร้องเสียงดัง “นังทาสชั้นต่ำ กล้าผลักท่านหญิง ลงนํ้าเลยหรือ!”

ในฤดูหนาว น้ำในแม่น้ำเย็นเฉียบจนเข้าไปในกระดูก

เมื่อหลินซีนเยียนตกลงไปในน้ำแบบไม่ทันตั้งตัวก็รู้สึก มึนงงไปชั่วขณะ ตอนที่รู้สึกมึนงงไปก็เห็นเซียวฉางเยวใช้ แรงผลักตนเองออกไป จากนั้นนางก็ตะโกนร้องอย่างสุดชีวิต “ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!

ตรงหน้าของเซียวฉางเยว่เป็นเรือแข่ง บนเรือแข่งมีคน ที่หลินซีนเยียนคุ้นเคยจนไม่สามารถคุ้นเคยไปได้อีก โม่ จื่อเฟิง

ในช่วงคับขัน สมองของเธอก็พุมีคำถามขึ้นมาในหัว มีผู้ หญิงที่ชอบถามแฟนหนุ่มของตัวเอง ถ้าแม่ของเขากับแฟน ตกน้ำพร้อมกัน จะเลือกช่วยแม่หรือช่วยแฟนก่อน คำถาม แบบนี้ เดิมไม่ต้องคิดให้มากความ แน่นอนว่าต้องช่วยแม่ก่อน อยู่แล้ว ชีวิตของคนเรามีแต่แม่ผู้บังเกิดเกล้าเท่านั้นที่มอบให้ ได้ ทำไมตอนนี้จะไม่ช่วยล่ะ?

เธอเพียงคิดไม่ถึงว่าเซียวฉางเยว่ก็ได้ตั้งคำถามที่ยาก กับโม่จื่อเฟิงแบบนี้เหมือนกัน แต่น่าเสียดาย เธอไม่ใช่แม่ของ โม่จื่อเฟิง และยิ่งไม่ได้เป็นอะไรกับเขาเลย เธอ เพียงเป็น เครื่องมือที่ช่วยปรนเปรอความใคร่ที่อยู่ข้างกายเขาเท่านั้น

โชคดีที่หลินซีนเยียนว่ายน้ำเป็น ในตอนนี้เธอไม่ สามารถขอให้ใครมาช่วยได้

หลังจากที่เธอเตรียมตัวได้แล้วก็จะว่ายน้ำเข้าฝั่ง เพียง ในช่วงขณะนั้นก็มีคนกระโดดลงไปในน้ำ พวกชาวบ้านก็ส่ง เสียงร้องตะโกนดังลั่นทันที

เมื่อหลินซีนเยียนหันหน้ากลับไป เห็นว่าเรือแข่งสองลำ ได้อยู่ระยะประชิดกับเธอแล้ว ในขณะเดียวกันโม่จื่อเฟิงและ อินฉีก็กระโดดลงมาในน้ำ ตอนที่พวกเขากระโดดลงน้ำ เหล่า ชายฉกรรจ์ที่อยู่บนเรือกับองครักษ์ที่ยืนริมฝั่งต่างก็แย่งกัน กระโดดลงตามกันไป ในช่วงนั้นราวกับเป็นภาพนำเกี๊ยวใส่ลง ไปลวกในน้ำยังไงยังงั้น

แน่นอนว่าเซียวฉางเยว่ว่ายน้ำไม่เป็น นอกจากส่งเสียง ร้องตะโกนแล้วก็ไม่มีเสียงดังขึ้นอะไรอีก โม่จื่อเฟิงกระโดด ลงไปน้ำ สายตามองไปยังหลินซีนเยียน แล้วก็มอง ที่เซียว ฉางเยว่ จากนั้นก็ว่ายเข้าไปหาเซียวฉางเยว่

ในชั่วขณะนั้น เมื่อหลินซีนเยียนไม่ทันจะได้เห็น มุม ปากก็กระตุกขึ้น

ที่แท้ เมื่อไม่ได้หวังก็จะไม่ต้องผิดหวัง แต่ไหนแต่ไรเธอ ก็ไม่เคยขอให้โม่จื่อเฟิงช่วยตัวเองอยู่แล้ว ดังนั้นเธอก็ไม่แคร์ ไม่แครจริงจริง

ภายในใจจู่ๆก็รู้สึกผิดหวัง นมาอย่างบอกไม่ถูก

“ซีนเยียน! เจ้าไม่เป็นไรนะ?”อินฉีว่ายเข้ามาหาเธออย่าง เป็นห่วง เมื่อเห็นริมฝีปากของเธอเริ่มม่วงแล้ว ก็รีบยื่นมือไป คว้าเอวของเธอแล้วใช้วิชาตัวเบากระโดดเหินไปยังบนฝั่ง

บนริมฝั่งมีลมพัดมาทำไมหลินซีนเยียนหนาวสั่นไปทั้ง ร่าง เมื่อเสื้อผ้าเปียกโชกไปทั้งตัวแล้วยังโดนลมพัดมาอีก เธอ รู้สึกราวกับว่าหากปล่อยเอาไว้เพียงแค่วินาทีเดียวร่างกาย ของเธอคงจะแข็งเป็นไอศกรีมแท่งแล้ว

“หากเป็นแบบนี้ต่อไปคงไม่ดีแน่”อินฉีเอ่ยขึ้นโดยไม่ สนใจสายตาของผู้คนที่อยู่รอบๆ เพียงอุ้มเธอขึ้นมาแล้วเร่ง ฝีเท้าเดินไปยังโรงเตี๊ยมที่อยู่ใกล้ที่สุด

คนที่กำลังยืนดูอยู่มีจำนวนมาก ในขณะที่อินฉีอุ้มเธอ ขึ้นมา พวกเขาต่างส่งเสียงโห่ร้องขึ้น เกรงว่าไม่ทันไรเรื่อง ท่านมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายอุ้มสตรีเดินกรีดกรายไปตามท้อง ถนนใหญ่ในเมืองเฟิงซีก็กลายเป็นหัวข้อสนทนาของพวกชาว บ้านทั้งหมด

หลินซีนเยียนหมดเรี่ยวแรงที่จะไปสนใจสายตาแปลกๆ ที่มองมาโดยรอบ เมื่อเธอหันหน้ากลับมาโดยไม่ตั้งใจกลับ เห็นฉากที่โม่จื่อเฟิงพาเซียวฉางเยว่ไปส่งให้กับคนติดตาม ของนางจากที่ไกลๆ เธอถอนหายใจออกมา ถึงอย่างไรเธอก็เป็นแค่สาวใช้ อุ่นเตียงเท่านั้น เพียงแค่ชื่อก็น่าไม่ฟังเท่าไรแล้ว ชาตินี้อยู่ใน สังคมศักดินาเกรงว่าจะออกเรือนไม่ได้อีกแล้ว ดังนั้นไม่ว่า ตอนนี้ถึงตัวจะแนบชิดกับอินฉีเท่าไร หลังจากเรื่องนี้ไปยังจะ เจออะไรเลวร้ายกว่านี้อีกเหรอ? อย่างมากก็แค่ชื่อเสียง ฉาวโฉ่มากกว่าเดิมเท่านั้น

ในโรงเตี๊ยม ซานป่ายที่มาถึงก่อนอินฉีได้สั่งในคน เตรียมห้องไว้ แล้วยังขอเสื้อผ้าของเถ้าแก่เนี้ยจากเถ้าแก่ โรงเตี้ยมด้วย 1 ชุด

เมื่ออินฉีอุ้มหลินซีนเยียนเข้ามาในห้องก็รีบวางเธอลง บนเตียง หลังจากที่รีบห่มผ้าให้เธอเสร็จแล้วก็เดินไปด้านหน้า ของซานป่าย

“เพี้ยะ!”ฝ่ามือที่ตบลงบนหน้าของซานป่ายเกิดเป็นเสียง ดังสนั่นไปทั่วห้อง ซานป่ายกลับไม่กล้าเอ่ยอันใดเพียงแต่ก้ม หน้าลง

“ไม่ใช่บอกให้เจ้าปกป้องนางให้ดีไม่ใช่หรือ?”อินฉีเอ่ย

ถามอย่างเคืองโกรธ

กลิ่นคาวเลือดได้โชยมาจากในลำคอของซานป่าย “ข้า น้อยสำนึกผิดแล้ว ตอนนั้นจู่ๆคุณหนูใหญ่เซียวก็พุ่งไปหาแม่ นางหลินแล้วพากระโดดลงไปในน้ำด้วยกัน ข้าน้อยอยากจะ เข้าไปห้ามแต่โดนคนติดตามของคุณหนูใหญ่เซียวมาขวาง เอาไว้ ข้าน้อยทำงานไม่ดีเอง สมควรได้รับโทษ ออกไป! “อินฉีรับเสื้อผ้ามาจากในมือของซานป่ายแล้ว เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา

ซานป่ายตอบรับแล้วหมุนตัวเดินออกประตูไปทันที

ภายในห้อง อินฉีเดินมาที่ข้างเตียง วางเสื้อผ้าไว้บน เตียงแล้วเอ่ยกับหลินซีนเยียนว่า “แม่นางหลิน เจ้ารีบเปลี่ยน เสื้อผ้าก่อนเถอะ ข้าจะยืนหันหลังให้

หลินซีนเยียนขมวดคิ้ว ถึงเขาจะเป็นสุภาพบุรุษยืนหัน หลังให้เธอ แต่ว่าในช่วงเวลาแบบนี้ ถ้าจะทำให้ดีกว่าควรออก ไปจากห้องไม่ใช่เหรอ? คำพูดนี้ของเขา ทำให้เธองุนงงอย่าง มาก

“พี่ใหญ่อิน พี่ก็เปียกโชกไปทั้งตัว เช่นนั้นแล้วพี่ไม่รีบไป เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน”หลินซีนเยียนพูดอ้อมค้อม

เมื่อหันมาสบตาเธอ ใบหน้าของอินฉีก็ปรากฏเป็นรอย ยิ้มบางๆ “รอเจ้าเปลี่ยนเสร็จก่อน แล้วข้าจะไปเปลี่ยน

แต่……หลินซีนเยียนถอนหายใจอีกครั้ง ทนไม่ได้ที่จะ พูดไปตรงๆ ออกไป แต่ชายหญิงที่ยังไม่ออกเรือน มาอยู่ใน ห้องเดียวกันเกรงว่าจะไม่ค่อยถูกกาลเทศะเท่าไร หากว่าท่าน

จะออกไปก่อน? ”

อินฉีซะงักไปครู่หนึ่ง แล้วตบที่หัวของตัวเองอย่างแรง “ดูข้าสิ พอร้อนรนขึ้นมาหน่อยก็ลืมแม้กระทั่งเรื่องแบบนี้ เช่น นั้นก็ดี ข้าจะออกไปก่อน รอให้เจ้าเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว ค่อยเรียกข้า”

เขายิ้มอย่างเก้อเขินแล้วเดินออกไปข้างนอก เพียงก้าว เท้าไป 2 ก้าวก็ชะงักหยุดทันที เขาไม่ได้หันหน้ากลับไป ดูไม่ ออกว่าเขากำลังอยู่ในอารมณ์ไหน เพียงได้ยินที่เขาเอ่ย “แม่ นางหลิน เมื่อครู่บนถนนใหญ่ แม้ว่าจะเป็นเรื่องเร่งด่วน ถึง อย่างไรก็ได้ทำลายชื่อเสียงของแม่นางไปแล้ว หากว่าแม่นาง กังวลในเรื่องนี้ล่ะก็ ข้า….จะรับผิดชอบเอง”

หลินซีนเยียนจ้องมองอย่างแปลกใจ แต่เห็นเพียงแต่ ด้านหลังของเขา ถึงไม่รู้อารมณ์ของเขาจะเป็นยังไง แต่คำ ประกาศิตได้ดังกึกก้องอยู่ในหูกลับทำให้เธอใจอ่อนลงไป กว่าครึ่งหนึ่ง

ผู้ชายอบอุ่นแบบนี้ ถ้าให้เปลี่ยนให้ช่วงเวลาปกติ เธอ เป็นหญิงสาวที่อายุเยอะแล้วคงไม่มัวมาเกรงใจอย่างนี้แน่ เมื่อ ได้พบผู้ชายดีๆก็จะรีบคว้ามาครองโดยทันที แต่ว่า……

“พี่ใหญ่อิน ไม่เป็นไร เพียงแค่ชื่อเสียงเท่านั้น ถึงอย่างไร ข้าก็ไม่มีญาติมิตรสหายที่นี่ ข้าไม่สนใจ”

หลังจากกล่าวจบ หลังของอินฉีก็แข็งขึ้นมาทันที ราวกับในช่วงขณะนั้น มันได้ผ่านไปนานแล้ว เพียงได้ยิน เสียงเอ่ยขานรับของเขาหนึ่งเสียง จากนั้นก็ก้าวเดินออกไป จากห้องทันที

ประตูห้องถูกปิดลงอีกครั้ง หลินซีนเยียนที่ห่มผ้าห่มอยู่ ทนไม่ไหวที่จะจามออกมา เธอรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ใช้ผ้าขาวที่อยู่ข้างๆมาเช็ดผมที่เปียกโชก

เมื่ออยากจะไปกล่าวขอบคุณอินฉี แล้วถามถึงอี้เซิงกับ เด็กคนอื่นๆว่าเป็นยังไงกันบ้าง พอได้ยินเสียงปะทะกันดังมา จากหน้าประตู เธอจะชะงักไปครู่หนึ่งแล้วรีบผลักประตูออก ไป

นอกประตู อินฉีและซานป่ายกำลังใช้มือขวางคนที่ ต้องการจะเดินเข้าไปในห้องพอดี

“ใต้เท้าอิน ข้ามารับผู้หญิงของข้ากลับ ทำไม เรื่องของ คนในบ้านท่านมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายต้องยื่นมือมาเข้ายุ่งด้วย หรือ?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ