ยั่วสวาทท่านอ่องโฉมงาม

ตอนที่ 78 บังเอิญเจอกับคู่แข่งทางหัวใจ



ตอนที่ 78 บังเอิญเจอกับคู่แข่งทางหัวใจ

ซานป่ายเตรียมสิ่งของที่หลินซีนเยียนต้องการมาให้ อย่างรวดเร็ว เมื่อหลินซีนเยียนรับมาแล้วถกแขนเสื้อขึ้นเพื่อ เตรียมจะขึ้นเรือไป แต่ในช่วงจังหวะที่เรือมันโคลงเคลงไปมา กระโปรงที่เธอสวมมันยาวเกินไปจนไม่สามารถยืนได้นิ่ง โชค ดีที่อินฉีเดินตามมาแล้วประคองที่เอวของเธอไว้ให้

หลังจากที่หลินซีนเยียนยืนนิ่งแล้ว อินฉีก็รีบปล่อยมือ ออกจากเอวของเธอทันที ทุกอย่างมันรวดเร็วมากจนมองไม่ เห็นว่าได้ล่วงเกินอยู่

เพียงแต่ สายตาของคนที่จ้องมองอยู่ห่างออกไปกลับ

แสยะยิ้มขึ้น

เดิมโม่จื่อเฟิงกำลังเดินมาทางนี้อยู่แต่กลับเห็นฉากเมื่อ ครู่นี้ เขาจึงชะงักหยุดเดินทันที ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วย รอยยิ้มอย่างเย็นชา แม้กระทั่งคิ้วก็ยังไม่ขมวดขึ้นติดกัน ราวกับว่าฉากเมื่อครู่นี้ไม่ส่งผลกระทบใดๆ กับตัวของเขาเลย

แต่ว่า ได้ก้าวถอยหลังไป 1 ก้าวตามสัญชาตญาณ

“สั่งการไป วันนี้…ข้าจะลงแข่งเรือด้วยตนเอง!” น้ำ เสียงของโม่จื่อเฟิงเคร่งขรึมลงหลังจากเอ่ยประโยคนี้ จาก นั้นก็หันหลังแล้วเดินจากไป

จินมู่ยังคงยืนงุนงงอยู่ที่เดิม เมื่อได้สติคืนมาก็รีบวิ่งตาม ไป ท่านอ๋อง ฐานะของท่านสูงส่ง ทำไมต้องลงเรือด้วย ตนเองหรือ?”

” จินปู ตั้งแต่เมื่อไรที่ข้าตัดสินใจจะทำ ต้องคอยให้เจ้ามา สงสัยด้วย?” คำพูดของเขาบ่งบอกถึงความไม่พอใจ

จินมู่ทราบดี ตอนนี้ไม่ควรไปขัดขวางเจ้านาย ดังนั้นจึง กัดฟัน แล้วเก็บคำพูดเหล่านั้นกลืนลงท้องไป

ในขณะนั้น หลินซีนเยียนได้หยิบเครื่องมือแล้วไปตีๆ เคาะๆเรือแข่งของจวนมหาเสนาบดีฝ่ายซ้าย หลังจากผ่านไป ไม่นาน เธอก็ปาดเหงื่อแล้วกระโดดลงมาจากเรือ

ในฉากนั้น ทุกคนที่มองมาต่างก็คิดไปเป็นตุเป็นตะกัน ว่า ที่แท้ สตรีที่อยู่ข้างกายใต้เท้าอินเป็นช่างนี่เอง มาเพื่อต่อ เติมเรือแข่งให้ใต้เท้าอิน ไม่ใช่คนที่สตรีที่รู้ใจอะไรนั่นสัก หน่อย เมื่อก่อนก็ไม่เคยจะได้ยินว่าใต้เท้าอินมีสตรีในดวงใจ มาก่อน

มีผู้อาวุโสตีระฆังแล้วประกาศตรงริมถนนว่าการแข่ง เรือใกล้จะเริ่มขึ้นแล้ว ทำให้ผู้เข้าแข่งขันได้เตรียมตัวกัน ใน เวลาเดียวกันจะทำให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องเดินออกไปจากสนาม แข่ง

ตอนที่อินฉีจะพาพวกหลินซีนเยียนเดินกลับไป เมื่อมอง มาริมฝั่งพอดีก็เห็นกลุ่มคนที่ได้เดิมพันในโรงน้ำก่อนหน้านี้ อินฉีเห็นแล้วหยิบตั๋วเงินออกมา 1 ใบแล้วไปเดิมพันข้างจวน มหาเสนาบดีฝ่ายซ้าย จากนั้นเขาหันหน้ามาแล้วเอ่ยขึ้น “แม่ นางหลิน ครั้งนี้อยากจะเสี่ยงดวงหรือไม่?” หลินซีนเยียนยิ้ม “งั้นก็ย่อมได้” เมื่อพูด เธอก็หยิบเงิน ร้อยตำลึงแล้วเดินพ้นข้างจวนมหาเสนาบดีฝ่ายซ้าย

พวกเขาเก็บสัญญาทีเดิมพันไป แล้วเตรียมจะเดินกลับ ไปที่โรงน้ำชาชั้นสองเพื่อชมการแข่งขัน ทันใดนั้นกลับได้ยิน เสียงของพวกชาวบ้านที่รุมดูตรงริมฝั่ง ตะโกนออกมาเสียง ดังสนั่นหวั่นไหว

ผู้คนที่ไม่เข้าใจต่างก็มองไปดูในทิศทางนั้น เพียงแต่มี คนมากเกินไป แล้วเสียงพูดก็ดังจนฟังไม่ออกมามันเกิดเรื่อง อะไรขึ้น

ซานป่ายที่ไปสอบถามข่าวนั้นก็กลับมารายงานอย่าง รวดเร็ว บอกว่าอ๋องอู่เสวียนจะลงแข่งด้วยตนเอง

อ๋องอู่เสวียนจะลงแข่งเรือด้วยตนเอง มิน่าล่ะพวกชาว บ้านถึงได้ตะโกนโหวกเหวกกัน สำหรับคนที่ได้เห็นตำนาน แบบนี้มันเพียงพอที่ทำให้นำไปคุยโวโอ้อวดได้ตลอดทั้งชีวิต

“ หากอ๋องอู่เสวียนลงแข่งด้วยตนเอง ชัยชนะของพวกเรา ต้องไม่มีหวังอย่างแน่ ” อินฉีขมวดคิ้ว มองไปยังหลินซีนเยียน ด้วยใบหน้าเป็นกังวล “ หากว่า แม่นางจะเดิมพันข้างอ๋องอู่ เสวียนอีกดีหรือไม่?

“ไม่ล่ะ เมฆลมบนท้องฟ้าไม่อาจคาดเดาได้ จะแพ้ก็ แพ้”ใบหน้าของหลินซีนเยียนเรียบนิ่ง เพียงแต่ตรงกลาง ระหว่างคิ้วได้เผยความยับยั้งชั่งใจอยู่ภายในส่วนลึก ตั้งแต่ ได้เข้ามาพัวพันกับบุรุษผู้นั้นแล้ว ชีวิตของเธอก็ไม่ได้เป็นไป หลินซีนเยียนยิ้ม “งั้นก็ย่อมได้” เมื่อพูด เธอก็หยิบเงิน ร้อยตำลึงแล้วเดินพ้นข้างจวนมหาเสนาบดีฝ่ายซ้าย

พวกเขาเก็บสัญญาทีเดิมพันไป แล้วเตรียมจะเดินกลับ ไปที่โรงน้ำชาชั้นสองเพื่อชมการแข่งขัน ทันใดนั้นกลับได้ยิน เสียงของพวกชาวบ้านที่รุมดูตรงริมฝั่ง ตะโกนออกมาเสียง ดังสนั่นหวั่นไหว

ผู้คนที่ไม่เข้าใจต่างก็มองไปดูในทิศทางนั้น เพียงแต่มี คนมากเกินไป แล้วเสียงพูดก็ดังจนฟังไม่ออกมามันเกิดเรื่อง อะไรขึ้น

ซานป่ายที่ไปสอบถามข่าวนั้นก็กลับมารายงานอย่าง รวดเร็ว บอกว่าอ๋องอู่เสวียนจะลงแข่งด้วยตนเอง

อ๋องอู่เสวียนจะลงแข่งเรือด้วยตนเอง มิน่าล่ะพวกชาว บ้านถึงได้ตะโกนโหวกเหวกกัน สำหรับคนที่ได้เห็นตำนาน แบบนี้มันเพียงพอที่ทำให้นำไปคุยโวโอ้อวดได้ตลอดทั้งชีวิต

“ หากอ๋องอู่เสวียนลงแข่งด้วยตนเอง ชัยชนะของพวกเรา ต้องไม่มีหวังอย่างแน่ ” อินฉีขมวดคิ้ว มองไปยังหลินซีนเยียน ด้วยใบหน้าเป็นกังวล “ หากว่า แม่นางจะเดิมพันข้างอ๋องอู่ เสวียนอีกดีหรือไม่?

“ไม่ล่ะ เมฆลมบนท้องฟ้าไม่อาจคาดเดาได้ จะแพ้ก็ แพ้”ใบหน้าของหลินซีนเยียนเรียบนิ่ง เพียงแต่ตรงกลาง ระหว่างคิ้วได้เผยความยับยั้งชั่งใจอยู่ภายในส่วนลึก ตั้งแต่ ได้เข้ามาพัวพันกับบุรุษผู้นั้นแล้ว ชีวิตของเธอก็ไม่ได้เป็นไป สายตาของหลินซีนเยียนจับจ้องไปที่อินฉีแล้วเอ่ยตอบ “ไม่ล่ะ อยู่ริมฝั่งตรงนี้เห็นได้ชัดกว่า พวกเราชมอยู่ตรงนี้ แหละ”

“ได้ขอรับ แต่แม่นางหลินต้องอยู่ใกล้ๆข้าน่ะขอรับ ริมฝั่ง ตรงนี้มันอันตราย หากตกลงไปในน้ำที่เย็นเฉียบเช่นนี้คงจะ ไม่น่าสนุกเท่าไร “ซานป่ายได้ออกคำสั่งแล้วให้คนใต้บังคับ บัญชา นอยู่ตรงริมฝั่ง แล้วยังให้ยืนกั้นฝูงคนตรงบริเวณนั้น ด้วย

เสียงระฆังและกลองดังขึ้น ในชั่วพริบตา การแข่งก็เริ่ม ได้อย่างเป็นทางการ เรือแข่งทั้งหมดพุ่งตัวออกไปอย่าง รวดเร็วตามด้วยเสียงร้องไห้กำลังใจของพวกชาวบ้าน

เป็นไปอย่างที่ผู้คนคาดการณ์ไว้ไม่มีผิด เรือที่นำหน้า อยู่ตอนนี้มีเพียงเรือแข่งจวนแม่ทัพใหญ่เว่ย จวนมหาเสนาบดี ฝ่ายซ้าย และจวนอ๋องอู่เสวียนตามลำดับ แต่เนื่องจากอ๋องอู่ เสวียนและอินฉีมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายได้ลงแข่งด้วยตนเอง เสียงตะโกนร้องไห้กำลังใจของทั้งสองจวนนี้กลับดังสนั่นหวั่น ไหวมากกว่าเรือแข่งของจวนอื่น

“โอ้ ช่างบังเอิญเสียจริง แม่นางหลิน”

ท่ามกลางเสียงร้องตะโกนอยู่นั่น มีเสียงใสแจ๋วของ สตรีนางหนึ่งดังมาจากด้านหลังของหลินซีนเยียน เมื่อหลิน ซีนเยียนหันไปก็เห็นคนที่ไม่อยากจะเจอด้วยที่สุด เซียวฉาง เยว่ เขียวฉางเยวพาคนติดตามอยู่หลายคนเดินมาที่ริมฝั่ง โดยคนติดตามเหล่านั้นได้เปิดทางให้นางเดินเข้าไปยืนข้าง กายหลินซีนเยียนอย่างง่ายดาย

บังเอิญซะจริง”ตอนที่หลินซีนเยียนพูดก็มองไปยังคนที่ ยืนอยู่ข้างกายอย่างไม่รู้ตัว เห็นซานป่ายยังยืนข้างๆอยู่ก็ พลอยโล่งใจหนึ่งเปราะ เธอไม่รู้สึกกลัวอะไรคุณหนูใหญ่ เซียวเลย “ริมฝั่งตรงนี้เป็นสถานที่ให้ชาวบ้านทั่วไปมาชมการ แข่งเรือ คุณหนูใหญ่เซียวเป็นดั่งกิ่งทองใบหยก ทำไมถึงมาที่ นี่ได้

“ไม่ใช่ข้าพบแม่นางหลินที่นี่ ดังนั้นข้าก็เลยเดินมาที่ นี่”ตรงหน้าผู้คน เซียวฉางเยวมักจะมีกิริยาท่าทางสง่างาม

หลินซีนเยียนกลับไม่คิดอยากจะพูดคุยกับนางจึงหัน หน้าไปมองการแข่งเรือต่อ ในช่วงขณะที่การแข่งมาถึงครั้ง ทาง เรือแข่งจวนอ๋องอู่เสวียนและจวนมหาเสนาบดีฝ่ายซ้าย ก็ได้แซงเรือแข่งจวนแม่ทัพใหญ่เว่ยแล้ว หากไม่เกิด เหตุการณ์ไม่คาดฝัน

ที่หนึ่งต้องเป็นเรือแข่งของทั้งสองจวนนี้อย่างแน่นอน

ริมฝั่งที่หลินซีนเยียนได้ยืนอยู่ตรงกับตำแหน่งตรง กลางการแข่งขันพอดิบพอดี ตอนที่เรือของทั้งสองลำได้ เคลื่อนที่เข้ามาใกล้ระยะที่พวกเธออยู่นั้น

เสียงร้องตะโกนให้กำลังใจอินฉีของเอ้อร์ยาและหูเอ๋อร์ ได้ดังขึ้น อินฉีราวกับได้ยินเสียงนั้นก็เจียดเวลามองมายังทาง นี้สักหน่อย

ส่วนอ๋องอู่เสวียนที่อยู่บนเรืออีกลำก็ได้มองมายังทางนี้ อย่างเหนือความคาดหมาย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ