Benefits lover รักกามะลอของฉัน

ตอนที่9 คงไม่ใช่อดคิดถึงเธอไม่ไหวสินะ



ตอนที่9 คงไม่ใช่อดคิดถึงเธอไม่ไหวสินะ

เธอเปิดไฟเดินเข้าไป มือถือผ้าไว้

เดินไปยังตู้หัวเตียง มองดูข้าวของเครื่องใช้ที่ไม่มีฝุ่น เกาะเลย ไม่รู้ว่าต้องเริ่มจากไหนดี

คนนี้ก็แปลกจริงๆ ห้องนอนก็สะอาดขนาดนี้เหมือน ไม่เคยมีคนมาพักเลย จะให้ทําความสะอาดอะไรล่ะ เธอค่อยๆเปิดตู้เสื้อผ้าออก ด้านในเป็นเสื้อเชิ้ตสีเข้มสี เดียวกันทั้งหมด กับกางเกงยาวสีดำ และชุดสูท

ผู้ชายคนนี้ท่าทางเย็นชา นิสัยสุดแปลก ขนาดเสื้อผ้า ยังดูแล้วรู้สึกเยือกเย็นเลย

แต่เธอก็จัดเก็บข้าวของให้เป็นระเบียบเรียบร้อย

พอเธอทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วเดินลงไปยังชั้น ล่าง ลุงบีมยิ้มแล้วเดินเข้ามา “เที่ยงนี้คุณนายสามอยาก ทานอะไรดีครับ เดี๋ยวผมให้ป้าเมย์ไปทำมาให้

นาราพยักหน้า “ฉันง่ายๆอะไรก็ได้ค่ะ คุณชายกิน อะไรฉันก็กินอันนั้น”

“คุณชายออกไปแล้วครับ อาจจะกลับมาดึกหน่อย ครับ” ลุงบีมยิ้มพูด

“ออกไปเหรอ ทำไมออกไปแล้วล่ะ แล้วใครตามไป ดูแลเขา ” อย่างน้อยก็ต้องมีคนตามไปด้วยสิ ลุงบีมอยู่นี่แล้วเขาออกไปคนเดียวได้ยังไงกัน

“ไม่เป็นไรครับ คุณยศญ์มารับคุณชายไปครับ” ลุ งบีมมองสายตาที่เป็นห่วงของนารา เธอพยักหน้าเบาๆ จริงๆคุณนายสามไม่ได้โหดร้ายตามคำร่ำลืออะไรกัน เลย ดูเธอเป็นห่วงคุณชายไม่น้อย ถ้าเธอไม่ใช้ผู้หญิง ของคุณชายรอง เธอกับคุณชายสามคงเป็นคู่ที่เหมาะ สมกันมากเลยทีเดียว

นาราได้ยินว่าเขาออกมากับเพื่อนก็พยักหน้า “ค่ะ ถ้า งั้นฉันกินอะไรง่ายๆก็พอค่ะ

ลุงบีมเดินเข้าไปสั่งในครัวทันที นารานั่งอยู่บนโซฟา นึกขึ้นได้ว่าเธอควรจะบอกไลลากับผิงผิงหน่อยมั้ย เธอ หายไปแบบนี้ พวกเขาคงพลิกแผ่นดินตามหาเธอแน่ๆ

เธอเดินขึ้นห้องเปิดมือถือ ก็มีข้อความเด้งขึ้นมาเป็น สิบกว่าข้อความ

เธอเปิดดู เป็นข้อความจากพวกผิงผิงหมดเลย ที่เยอะ สุดคือของเคนโด้

“นารา ทำไมไม่มาเรียน

“นารา เห็นแล้วตอบกลับด้วย ผมขออนุญาติกับพ่อกับ แม่แล้วนะเรื่องไปอเมริกา อีกปีเดียวผมก็จะไปจากที่นี่ แล้ว”

“นารา อย่าไม่สนใจผมสิ ผมหาคุณไม่เจอ”
ข้อความจากเคนโด้กองเป็นภูเขา

ผิงผิง :ยัยบ้า แกออกมาเดี๋ยวนี้นะ

ไลลา:นารา แกไปไหนแล้ว คนบางคนจะเป็นบ้าแล้ว

เนี่ย

ผิงผิง :ถ้ายังไม่ออกมาอีกฉันจะไปวัดมิเตอร์น้ำบ้าน

แก

นาราเห็นข้อความพวกนี้แล้ว น้ำตาก็ไหลไม่หยุด นี่ เป็นทางที่เธอเลือก เพื่อพ่อแล้วเธอยอมสละทิ้งทุกสิ่ง เธอแค่อยากตอบแทนที่พ่อได้ให้บ้านกับเธอเมื่อเธอ อายุห้าปี

สุดท้ายเห็นข้อความจากพ่อ :นารา ขอ ขอโทษ

น้ำตาของเธอยิ่งไหลลงอย่างบ้าคลั่ง เธอใช้มือ ปิดปากตัวเองไว้แน่น เพื่อไม่ให้มีเสียงร้องไห้ออกมา

แต่เธอก็ไม่สามารถปิดเสียงได้หมด ทำให้คนใช้ที่อยู่ ข้างนอกได้ยินเข้าก็รีบไปบอกลุงบีม ลุงบีมขมวดคิ้ว “ทำงานไป อย่ายุ่งเรื่องของนายให้มาก”

คนใช้รีบหันหลังเดินออกไป หญิงสาวบนห้องร้องไห้ เสร็จก็รีบเช็ดน้ำตาให้แห้ง แล้วตอบข้อความของไลลา กับผิงผิง :ตอนนี้ฉันไปทำธุระที่ๆไกลโพ้นที่หนึ่ง ไม่ ต้องตามหาฉัน ไม่ต้องถามถึงฉัน ฉันจะกลับไปแน่นอน รอฉันหนึ่งปี
แล้วเธอก็ตอบกลับข้อความของเคนโด้ : เคนโด้ การ ใช้ชีวิตโดดเดี่ยวบนโลก บางทีก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ ต้องทำเรื่องมากมาย ฉันเป็นคนล่องลอยที่โดดเดี่ยว ขอบคุณที่ดูแลตลอดครึ่งปีที่ผ่านมาก ลืมฉันเสียเถอะ แล้วไม่ต้องถามอะไร

ไปอเมริกาเถอะ เผื่อสักวันเราอาจจะได้เจอกัน แต่ ตอนนี้ให้ฉันได้หายไปอย่างเงียบๆ

พอตอบกลับข้อความหมดแล้วก็รีบปิดเครื่องลง

ประตูห้องนอนเปิดออก “คุณนายสามครับ ทานข้าว ได้แล้วครับ” ลุงบีมมองหน้าหญิงสาวที่เศร้าหมอง

นารายิ้มเบาๆ “ค่ะ จะไปเดี๋ยวนี้ค่ะ”

ลงไปทานข้าวเสร็จแล้วก็ขึ้นไปบนห้องเลย ขังตัวเอง อยู่แต่ในห้องนอน

ปู่ชิงคลับเป็นสวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดในเมืองธิตกล เด่น ภูมิเป็นกรรมการผู้จัดการดูแลทุกอย่างของนี่ที่ แต่สวน สนุกนี้ไม่ใช่เขาเป็นคนเปิด

เจ้าของยังเป็นความลับ มีคนบอกว่าเจ้าของเป็นมหา เศรษฐีในเมืองลิโอฝรั่งเศส

สองชายหนุ่มนั่งอยู่ในห้องวีไอพีบนชั้นสูงสุด จาก ไวน์แดงบนโต๊ะสาดแสงระยิบยั่วใจ ประตูถูกเปิดออก คณพศเดินเข้าไป
“ว้าว คณพศ คุณเดินเข้ามาอย่างนี้เลยเหรอ” ชาย หนุ่มบนโซฟาสะดุ้งลุกขึ้นทันที เขาสวมสูทสีดำ ใบหน้า คมเข้มอึ้งไปสักพัก

ผู้ชายที่ตามหลังมา เห็นผู้ชายสองคนทำท่าทาง เหมือนทำอะไรไม่ได้ คณพศนั่งลงบนโซฟา รินไวน์ที่อยู่บนโต๊ะแล้วดื่มจน

หมดแก้ว

ผู้ชายสามคนนี้คือเด่นภูมิ ตรัญ และยชญ์ พวกเขา เป็นเพื่อนตายของคณพศ ตรัญเป็นประธานบริษัทของ บริษัทลิโอ

เดินภูมิเป็นน้องชายของเขา เป็นกรรมการผู้จัดการ ของปู่ชิงคลับ และยังเป็นประธานบริษัทของบริษัท เอส.บี

ส่วนยชญ์เป็นผู้ก่อตั้งองค์กรบี.เค. ในยุโรป

แต่พวกเขาไม่มีใครรู้เลยว่า เจ้าของบริษัทที่พวกเขา ดูแลอยู่คือคณพศ

จากตอนอายุสิบแปด เขาก็สัญญาว่าเขาจะยืนขึ้น ให้ได้ อะไรที่เป็นของเขา เขาจะไม่ให้ใครมาเอาไปได้ ง่ายๆแน่ เขาทำได้แล้ว ในที่สุดเขาก็ยืนได้อีกครั้ง

มรดกหุ้น40%จากบริษัทตระกูลปัญญาพนต์ ไม่มีใคร รู้ตัวเลขอันมหาศาลนั้น รู้แต่ว่ามูลค่าทรัพย์สินที่คณพศมีในตอนนี้มากกว่าบริษัทตระกูลปัญญาพนต์หลายเท่า

“คณพศ ตอนนี้เป็นช่วงเวลาอันตราย แกอย่ารีบด่วน เปิดเผยล่ะ” ตรัญมองหน้าเขา “ตามที่ฉันรู้มาว่าวิษณุ ส์รวมตัวหุ้นส่วนทุกคนในเดือนมิถุนายนปีนี้ จะขึ้นเป็น ประธานบริษัทแทน ปู่แกควบคุมอะไรไม่ได้อีกแล้ว”

ยชญ์พูดต่อไปอีกว่า “ได้ข่าวว่าเขาซื้อมาเฟียเม็กซิโก ไว้หมดแล้ว กำลังร่วมกันเตรียมการอยู่

ริมฝีปากคณพศขนานเป็นเส้นเดียวกัน ท่าทางเย็นชา แสดงรอยยิ้มที่เย้ยหยัน “ให้เขาได้ใจไปก่อน รอให้ถึง วันนั้น ให้เขาร่วงลงจากจุดสูงสุด”

“แบบนั้นสะใจสุดๆไปเลยใช่มั้ย แต่ว่าคณพศ แกแย่ง ผู้หญิงเขามา มีอะไรน่าสนุกเนี่ย” เด่นภูมิหัวเราะเบาๆ

ทุกคนมองหน้าเข้มคมหล่อเหลาของคณพศ เด่นภูมิ หันมอง “นี่ๆ เล่าให้ฟังบ้างสิ แต่งงานใหม่เป็นยังไงบ้าง ผู้หญิงคนนั้นโวยวายมั้ย

เขาถามแบบนี้สายตาทั้งสามคู่ต่างมองไปที่คณพศ

“ยังดูไม่ออก แต่เหมือนแสร้งทำได้เหมือนมาก คณพศนึกถึงดวงตากลมโตที่ไร้เดียงสา รุ่มร้อนไปทั้ง ตัว

เด่นภูมิหัวเราะพู่ “คณพศ แกไม่เจอผู้หญิงมานาน ขนาดนี้ คงไม่ใช่ว่าอยากได้เธอล่ะสินะ ในเมื่อแต่งเข้ามาถูกต้องแล้ว นอนกับเธอก็ไม่เห็นเป็นอะไร แบบนี้ ยิ่งทําให้วิษณุ คลั่งมากขึ้นอีก” เด่นภูมิพูดจบก็ได้รับ สายตาอันเยือกเย็นจากเขา ทำให้เขาตกใจรีบหยุดพูด ต่อ

ยชญ์ปติจะมีใบหน้าที่นิ่งและเฉยชา ใครเห็นแล้วเป็น ต้องเกรงกลัว แต่พออยู่ด้วยกันสี่คนแล้วเขาเหมือนเด่น ภูมิที่ชอบพูดหยอกล้อคณพศ

เขาหัวเราฮ่าๆ “พวกแกเห็นแล้วใช่มั้ยว่า เขากำลังทำ หน้าไม่พอใจ แต่ว่าคณพศ แกกะจะใช้ชีวิตกับผู้หญิง คนนี้ตลอดชีวิตเลยเหรอ ตามที่ฉันรู้มานะว่าเธอเสียซิง ให้วิษณุส์ตั้งแต่อายุ 17 แล้ว ตั้งแต่เด็กไร้ที่ต่ำที่สูง นิสัย ก้าวร้าว อีกยังมั่วมากอีกต่างหาก”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ