บทที่ 1211 ยั่วยุปลุกปั่น (2)
สิ่งที่เธอพูดไม่ใช่แบบนั้น ทว่าท่าทีของเธอน การแสดงออก กลับทำให้ทุกคนต่างก็คิดว่าความจริงของเรื่องเป็นเช่นนี้ คุณย่า เย่ก็แค่ช่วยเย่ซือเฉินปิดบัง
แน่นอนว่า สิ่งที่คุณย่าเย่ต้องการแสดงออกก็คือสภาพแบบนี้ เธอไม่สามารถเป็นคนชั่ว ไม่สามารถพูดเรื่องแย่ๆของเชื่อเงินอ อกมาตรงๆได้
ทว่าในบางเรื่องเธอจําเป็นต้องให้ทุกคนเข้าใจ เพราะว่ามี เพียงแต่เช่นนี้ เรื่องนี้จึงจะบานปลาย พอถึงเวลาเยซือเฉินจึงจะ ต้องการความช่วยเหลือจากพวกเขา ขอแค่เชื่อเฉินต้องการ ความช่วยเหลือจากพวกเขา พอถึงเวลาเยซื้อเฉินก็จะต้องกลับ บ้านเย่แน่นอน
ต้องบอกเลยว่าคุณย่าเย่วางแผนไว้ดีมาก
“ดูเหมือนว่า คุณปู่เย่เป็นลมเพราะเรื่องของคุณชายสามเย่ จริงๆด้วย”
“ตอนนั้นคุณชายสามเก๋ไม่รับสายของคุณปู่เย่ คุณปู่เย่หมด หนทางจึงโทรหานักข่าวหลู่ คุณปู่เย่ขอร้องให้คุณชายสามเ กลับไปขนาดนั้น คุณชายสามแย่กลับไม่สนใจใยดีเลย ดังนั้นคุณ ปู่เย่จึงโมโหจนสลบไปแล้ว”
“นี่ก็เกินไปแล้ว นี่เกลียดแค้นอะไรขนาดนี้ จำเป็นต้องทำถึงเช่นนี้เลยเหรอ?”
“ก็แค่กําหนดงานแต่งให้เขาไม่ใช่เหรอ? ถึงแม้ว่าคุณชาย สามแย่จะไม่ยอม ก็ไม่ควรทำให้คุณปู่เย่โมโหแบบนี้ อีกอย่าง คุณปู่เย่ป่วยขนาดนี้ จนถึงตอนนี้แล้วคุณชายสามเกลับไม่ออก มาเลย ยังมีจิตใต้สำนึกอยู่หรือเปล่าเนี่ย?”
“เมื่อกี้คุณย่าเย็บอกว่าไม่ได้บอกคุณชายสามเย่ คุณชายสาม เย่ยังไม่รู้เรื่องนี้ สายโทรศัพท์ก่อนหน้านี้ก็โทรไม่ติดไม่ใช่เห รอ?” สุดท้ายก็มีคนทนไม่ไหวพูดเข้าข้างเยซื้อเฉินไปประโยค หนึ่ง
“ตอนนี้เรื่องราวใหญ่โตขนาดนี้ คุณชายสามเยจะไม่เห็นเห รอ? คุณชายสามเพึ่งเปิดงานแถลงข่าวเองนะ เขาจะไม่เห็นข่าว เหรอ? ตอนนี้ผู้คนส่วนใหญ่ในเมืองต่างก็รู้แล้วว่าคุณปู่เย่เป็นลม เข้าโรงพยาบาล มีแต่คุณชายสามเยู่คนเดียวที่ไม่รู้?
“จะไม่รู้ได้ยังไง ตั้งใจไม่มาแน่นอน เขาทำได้แม้กระทั่งตัด ความสัมพันธ์กับครอบครัว ไม่มาเยี่ยมคุณปู่เย่ก็ถือเป็นเรื่อง ปกติ”
“เฮ้อ วัยรุ่นสมัยนี้ ไม่รู้จักความกตัญญูเลยจริงๆ
“ไม่ใช่แค่ไม่รู้จักความกตัญญูนะ นี่ก็เกินไปแล้ว ไม่มีความ เป็นคน ไม่มีจิตใต้สำนึกเลย”
หลังจากการแสดงเมื่อครู่นี้ของคุณย่าเย่ การกล่าวโทษที่ทุก คนมีต่อเย่ซื้อเฉินก็เพิ่มมากขึ้นแล้ว
คุณย่าเล่ฟังคำวิจารณ์ของผู้คน เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า พอใจมาก แน่นอนว่า เธอเองก็รู้ดีว่าทำอะไรต้องมีขอบเขตและ ความเหมาะสม ดังนั้นจึงไม่ได้พูดอะไรต่อแล้ว
บ้านถังในขณะนี้ ท่านย่าถังโมโหจนหน้าแดงกระหน่ำ “นี่ นี่ เธอเป็นอย่างนี้ได้ยังไง? นี่เธอตั้งใจชัดๆ เธอทำแบบนี้จะใส่ร้าย ซือเงินเหรอ?”
“อย่าโมโห อย่าตื่นตัว” ท่านถังเห็นเธอเป็นแบบนี้แล้ว ก็เป็น ห่วงมาก ไม่ว่ายังไงแล้วท่ายาถึงก็อายุมากแล้ว
“ฉันจะไม่โมโหได้ยังไง? นายลองดูเรื่องพวกนี้ที่พวกเขาทำ หากไม่ใช่เพราะหลายปีมานี้พวกเขาทำเกินไป หากไม่ใช่เพราะ พวกเขาบีบบังคับจนซื้อเฉินหมดหนทาง ซื้อเฉินจะตัดความ สัมพันธ์กับตระกูลเย่เหรอ ใครจะไปตัดความสัมพันธ์กับ ครอบครัวตัวเองอย่างไร้เหตุผล?” ท่านย่าถังเป็นคนอารมณ์ร้อน ขณะนี้โมโหนักมาก ควบคุมไม่อยู่แล้วจริงๆ
“ฉันว่าครั้งนี้พวกเขาแกล้งป่วยแน่นอน ก็เหมือนกับครั้งที่แล้ว ที่ทำกับฉิงฉิง พวกนายดูสิเมื่อคุณย่าเย่ไม่มีความกังวลอะไร เลย ยังมีอารมณ์มาตอบคำถามของนักข่าวอีก ไม่ ไม่ถูก หาก คุณปู่เย่แกล้งป่วย งั้นเมื่อคุณย่าเยก็แสดงละครกับนักข่าว แน่นอน เป็นแบบนี้แน่นอน ต้องเป็นแบบนี้แน่นอน” ต้องบอกเลย ว่าท่านย่าถังมองความจริงออกแล้ว
ท่านถังไม่ได้ออกความเห็นอะไร ทว่าหันกลับไปมอง เงินถั่วงที่นั่งเงียบอยู่ข้างๆ “ฉิงฉิง หนูคิดว่ายังไงล่ะ?”
“คุณปู่เย่แกล้งป่วยจริงๆค่ะ” เป็นลั่วจึงสูดหายใจลึก จากนั้นก็ หันไปทางท่านถัง “คุณปู่เยสีหน้าซีดขาว ริมฝีปากม่วง ทว่า ตรงลําคอกลับปกติ แดงก่ำแบบร่างกายแข็งแรง ใบหูก็แดงก่ำ ถึงแม้ว่าคุณปู่เย่จะหลับตาตลอด เสแสร้งได้เหมือนจริงมาก แต่ ว่าก็ยังสามารถมองข้อบกพร่องบางอย่างทางร่างกายออกค่ะ”
เงินลั่วจึงเป็นคนละเอียดรอบคอบมาโดยตลอด ถึงแม้ว่าจะ เป็นรายละเอียดที่เล็กน้อยก็ไม่สามารถรอดพ้นจากสายตาของ เธอไปได้
“ข้อบกพร่องอะไรเหรอ?” เมื่อท่านย่าถังเอาแต่โมโห เธอ รู้สึกว่าตัวเอง โมโหจะตายอยู่แล้ว จึงไม่ได้นึกถึงเรื่องอื่น
เงินถั่วนิ่งหยิบโทรศัพท์ออกมา หารูปถ่ายไม่กี่รูป จากนั้นก็ยื่น โทรศัพท์ไปยังตรงหน้าของท่านถังและท่านย่าถัง “คุณปู่คุณย่า ลองดูรูปถ่ายนี้ นี่คือรูปถ่ายก่อนหน้านี้ที่นักข่าวไปถ่ายที่บ้านเ ค่ะ”
เงินลั่วนิ่งเปิดรูปถ่ายอีกรูป “นี่คือภาพที่นักข่าวถ่ายตอนอยู่ หน้าประตูโรงพยาบาลค่ะ”
“มีปัญหาอะไรเหรอ? ทั้งสองภาพนี้คุณปู่เย่ก็หลับตาตลอดเลย กำลังแกล้งสลบอยู่ มองไม่ออกเลยว่ามีอะไรที่แตกต่างนิว คุณย่าถังตั้งใจมองไปหลายรอยมาก แต่ก็ไม่เห็นอะไรที่ผิดปกติ
“คุณปู่เย่เสแสร้งเหมือนจริงมากค่ะ อีกอย่างเห็นได้อย่าง ชัดเจนเลยว่าคุณปู่เย่ก็ระมัดระวังมาก ไม่ให้ตัวเองเผยสิ่งผิด ปกติออกมา แต่ว่า รูปถ่ายสองรูปนี้มีตำแหน่งที่บกพร่องอย่างชัดเจน ก็คือนี่นิ้วของเงินลิงชี้ไปยังตรงของคุณปูเป อยู่ในภาพถ่าย
“จริงด้วย เธอแล้วพึ่งมองภาพคุณปู่เยถ่ายตอน อยู่บ้านเย่ กับภาพถ่ายตรงหน้าประตู โรงพยาบาลนั้นมือเหมือนหากคุณเยสลบจริงงั้นต้องสติแน่นอน ไม่มีการตอบสนองแน่นอน ว่าภาพก่อนหน้านี้ถ่าย ตรงบ้านของคุณเยกอยู่ แต่ถ่ายตรงหน้าประตู โรงพยาบาลแน่นอนท่านถังเห็นรายละเอียดนี้แล้วก็เข้าใจทันที
“อีกอย่างย่าเย่ไม่นั่งรถพยาบาล แน่นอนว่าคุณทำให้เขาแน่นอน คุณหมอก็มีทางแบมือของคุณปู่เย่ ระหว่างทางแน่นอน ดังนั้นเพียงแค่คุณเย่คนเดียวที่แบมือ ตัวเองออกค่ะ” เป็นลั่วนิ่งพูดไปสักพัก จากนั้นพูดเสริมอีก ว่า “แย่ร่างกายของเขาจะต้องแข็งทื่อแน่นอนค่ะ มือต้องแข็งที่อ แน่นอน นั้นคุณไม่ได้
“งั้นพวกไปเปิดโปงพวกเขากัน คุณปู่เย่แกล้งสลบ คนนอก ไม่เรื่องต่างคิดว่าซื้อเฉินทำให้คุณปู่เย่โมโหป่วย กำลังด่าเฉิน แบบพวกเขาทำร้ายซือเฉินพวกเราไป เปิดโปงเขาเลย ให้ทุกคนเห็นความจริงของเรื่องท่านถังได้ยินการวิเคราะห์เงินถั่วนิ่งแล้ว ขึ้นทันที ท่านย่าเป็นคนที่ใจร้อนจริงๆ
“ในสถานการณ์แบบนี้ดีที่สุดอย่าให้มีปัญหา ใหม่สอดแทรก เข้ามาค่ะ ไม่ว่าใครจะออกหน้ามาเกี่ยวโยงกับเรื่องนี้ ต่างก็จะ ทําให้เรื่องยิ่งบานปลายค่ะ อีกอย่างเป้าหมายของคุณปู่เย่และ คุณย่าเยก็คืออยากทำให้เรื่องใหญ่โต อยากให้เยซื้อเฉินจัดการ ไม่ได้ค่ะ” บนใบหน้าของเงินถั่วจึงมีความหนักแน่นเพิ่มขึ้น เธอก็ อยากให้เรื่องนี้โจ่งแจ้ง ทว่าในเมื่อคุณปู่เย่กับคุณย่าเยทำเรื่อง แบบนี้ออกมาแล้ว หากไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดไม่มีทางแก้ไขเรื่องนี้ อย่างเด็ดขาดได้แน่นอน
“สิ่งที่พวกเราเห็นพวกนี้ไม่สามารถพูดโน้มน้าวผู้คนได้แน่นอน ค่ะ พอถึงเวลาไม่แน่อาจจะถูกคุณย่าเยสวนกลับก็ได้ค่ะ ไม่ว่ายัง ไงแล้วตอนนี้คุณปู่เย่ สลบ อยู่ นี่ต่างหากที่เป็นความจริง ที่ ทุกคนเห็นค่ะ” ถึงแม้ว่าเป็นลั่วถึงจะไม่ค่อยได้เจอกับคุณปู่เย่และ คุณย่าเย่ ทว่าเธอเองก็รู้ดีว่าคุณย่าเย่และคุณปู่เย่เป็นคนยังไง สองท่านนี้ในตระกูลเย่นั้นเพื่อผลประโยชน์แล้วสามารถทำออก มาได้ทุกอย่าง
“งั้นตอนนี้พวกเราไม่ต้องทำอะไรสักอย่าง ปล่อยให้พวกเขา ใส่ร้ายซือเฉินแบบนี้เหรอ? หากเป็นแบบนี้ต่อไป ยังไม่รู้เลยว่า ซื้อเฉินจะถูกด่าถึงสภาพแบบไหน” ท่านย่าถังโมโหอยู่แล้วแต่ แรก ขณะนี้ได้ยินคำพูดของเงินถั่วนิ่งแล้วก็ยิ่งโมโหไปใหญ่ “งั้น สิ่งที่เรามองออกในตอนนี้ ก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย”
“ไม่มีประโยชน์ได้ไงคะ อย่างน้อยในใจของเราก็รู้ดีว่าคุณ เย่แกล้งสลบ อย่างน้อยซื้อเฉินก็ไม่ต้องลำบากใจ ไม่ต้องโทษตัว เองค่ะ” เงินลั่วนิ่งเห็นสีหน้าของท่านย่าถังแล้วก็หเลย เป็นลั่วนิ่งดูแล้ว จุดนี้สำคัญยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด
เป็นลั่วนิ่งรู้ว่า ปกติแล้วเยซื้อเฉินจะดูเย็นชา ทว่าจริงๆแล้วเขา เป็นคนที่เห็นความสำคัญในด้านความสัมพันธ์มากๆ ครั้งนี้ที่ เขือเฉินเปิดงานแถลงข่าวว่าตัดความสัมพันธ์กับตระกูลเข่แล้ว ถึงแม้ว่าจะรู้สึกผิดหวัง และตายใจกับคุณปู่เย่และคุณย่าเย่ ทว่า หากคุณปู่เย่เกิดอะไรขึ้นเพราะเขาจริงๆ เยซือเฉินจะไม่สบายใจ แน่นอน ไม่ว่ายังไง นั่นก็เป็นญาติที่มีสายเลือดเดียวกับเขา คุณปู่ เย่และคุณย่าเยไม่นึกถึงความเป็นญาติ ทว่าตลอดหลายปีมานี้ เชื่อเงินก็ยังนึกคิดถึงความเป็นญาติมาโดยตลอด
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ