The Rich

บทที่11



บทที่11

เด็กใหม่

เรื่องราวในแต่ละวันนั้นผ่านไปด้วยความลำบาก

ตั้งแต่เขาจนมากจนถึงรวยมาก

ก็ยังใช้ชีวิตด้วยความลำบากมากมาย

ตอนจนก็ต้องดิ้นรนหาเงินเพื่อให้มีชีวิตอยู่ และหลีกเลี่ยงที่จะโดนแกล้ง

พอรวยขึ้นมาก็กลับ

ใช้ชีวิตไม่ได้อย่างใจหวัง ต้องดูแลธุรกิจที่มีเงินเข้ามาใน

บัญชีเป็นจำนวนมาก
“เห้อ เหนื่อยจัง”

หลงเอ่ยขึ้นเมื่อเรียนเสร็จแล้ว

“นั่นสิ ฉันละเกลียดชัยที่ปรึกษาซะจริงเลย”

ฟานเอ๋อเสริมต่อจากหลงอื่

“ใช่ ทำไมได้มาเป็นอาจารย์ได้กันน่ะอยากรู้จริงๆ

“เหอะ ซึ่งมันเถอะ เราคิดไปก็ทำให้หนักสมอง ซะเปล่าๆ”

หลี่โถวพูดด้วยใบหน้ารำคาญ

“ซึ่งเขาเถอะน่า เขาทำยังไงก็ได้อย่างนั้น นั้นแหละ”

เขาพูดขึ้นบาง

“แล้วนายจะไปไหนต่อเหรอพี่หยาง”

หลง ถาม

“ไม่รู้วันนี้ง่วงยังไงไม่รู้

“เลยว่าจะกลับไปนอนน่ะ”

เขาตอบ

“นี่หยางหยางอย่าคิดมากละไม่ว่านายจะจนมากหรือรวยมาก แค่ไหนพวกเราก็คบที่นายเป็นนายนะ”

ฟานเอ่ยพูดด้วยใบหน้าจริงจัง
“ขอบใจพวกนายมากน่ะ ที่คบกับคนอย่างฉัน”

เขาพูดขึ้นแล้วยิ้มให้

“งั้นพวกเราก็ไปกินข้าวกันเถอะ”

หลี่โถวพูดขึ้น

“บ๊ายบาย หยางหยาง

ฟานเอ๋อทําท่าทาง โบกไม้โบกมือให้เขา

สําหรับเขาแล้วพวกนี้เป็นเสมือนคนในครอบครัว

ถ้าเขาสามารถช่วยอะไรได้ก็จะช่วยอย่างเต็มที่แน่นอน

เขากลับไปที่ห้องแล้ว

วางกระเป๋าลง โต๊ะในห้องนอน

จากนั้นก็ได้หยิบชุดนอนออกมาไว้ที่มือข้างซ้าย แล้วค่อยๆ เดินไปที่ประตูห้องน้ำ

มือที่ขาวเนียนก็ได้ค่อยๆบิดกลอนประตู

แล้วเก้าเท้าเขาไปในห้องน้ำ

จากนั้นก็ได้ทําการถอดเสื้อผ้าทีละชิ้นออกอย่างช้าๆ

ถ้าใคร เขาตอนนี้คงคิดว่าเขากำลังถ่ายแบบภาพโป๊อยู่แน่ๆ

เขาได้ขยับมือไปที่ก๊อกฝักบัวและเปิดฝักบัว ให้ไม่ไหลแรงมาก

ภาพที่สะท้อนจากกระจกนั้น
ทำให้ดูเซ็กซี่เป็นอย่างมาที่เดียว

น้ำค่อยๆไหลลงสู่ผมมาที่หน้าและเปียกไปทั้งตัว

มือของเขาไปบีบฟองสบู่ออกมาเป็นจำนวนมากทำให้ฟองสบู่

นั้นเยอะ

และจากนั้นเขาก็ได้ล้างฟองออกจากตัว ทำให้ผิดที่ขาวดั่งหิมะ

มีกลิ่นหอมอ่อนออกมา

มือค่อยเคลื่อนที่ไปจับที่ผ้าขนหนูแล้วมาเช็ดตัว

จากนั้นเขาก็ได้สวมเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยจึงเดินออกมาจาก ห้องน้ำ แล้วรีบเข้าห้องไปนอน

-เช้าวันต่อมา

เพื่อนๆของเขานั้นได้ไปเข้าเรียนก่อนแล้วเพราะเขานั้นนอนตื่น

สาย

จึงให้เพื่อนไปก่อน

ระหว่างทางเดินก็มีเสียงที่คุยกันอย่างเมามัน

“นี่นี่ ได้ยินมาว่า จะมีเด็กใหม่มาเข้าคณะบริหารเหรอ

ก็ใช่น่ะสิ”

‘ถ้าแมร่งเป็นผู้หญิงฉันจะล่อแมร่งเลย

“แล้วถ้าเป็นผู้ชายล่ะ’

ถ้าเป็นผู้ชายแล้วรวย ก็ดึงมาเข้าพวกเลยไง
ความคิด

เมื่อได้ยินแบบนั้นแล้ว

เขาก็คิดว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายเขาก็ไม่สนใจอยู่แล้ว

แล้วทำไมเขาต้องหยุดฟังด้วยนะ

เมื่อเดินมาถึงที่ห้อง

เขาก็เปิดประตูเข้ามาแล้วเดินไปที่โต๊ะ

ทุกคนต่างทําท่าทางผิดหวัง

“ไอ้เวรเอ๊ย ฉันก็คิดว่าเด็กใหม่ที่ไหนได้ไอ้คนจนนี่เอง”

“แมร่งเอ้ยยย”

หวังลู่พูดขึ้น

ทักคนก็หัวเราะเยาะเขาทันที

หวังคนนี้ค่อยกลั่นแกล้งเขาตลอดเวลาที่เรียนมา

บ้านของหวัง ทำธุรกิจร้านอาหารในย่านการค้าเทียนทาง

ถ้าหวังรู้ว่าที่ที่บ้านตัวเองทำธุรกิจอยู่นั้นเป็นที่ดินของเขา

จะทําหน้ายังไงนะ

เขาริดเมื่อกำลังจะนั่งอยู่เก้าอี้

และยิ้มออกมาอย่างสะใจเมื่อคิดภาพตามที่ตัวเองจินตนาการ

“เอ้าาาา ทุกคนเงียบ
อาจารย์ที่ปรึกษา ง

ทุกคนเงียบลงทันที

จู่ๆก็มีคนพูดอทรกขึ้นมา

“จารย์ นักเรียนใหม่ค่ะ จะมาอยู่ที่ห้องของเราใช่มั้ย

หวังลู่นั้นเองที่พูดแทรกขึ้นมา

“ใช่จ้ะนักเรียนห้องของเราจะมีนักเรียนเข้ามาเรียนด้วยหนึ่ง

คนจ้ะ”

เมื่ออาจารย์พูดจบ

เสียงนักเรียนก็เริ่มดังขึ้นทันที

“เงียบบบหน่อย”

อาจารย์พูดขึ้นอีกครั้ง

“เข้ามาได้แล้วจะเด็กใหม่”

พออาจารย์พูดจบ เสียงประตูก็ดังขึ้นทันที

ครื้ดดดดดดด

เมื่อเด็กใหม่เดินเข้าก็ได้เดินตรงไปที่ข้างๆอาจารย์ทันที

เมื่อทุกคนเห็นเด็กใหม่ก็ได้ตาลุกวาวทันที

เด็กใหม่เป็นผู้หญิงผมยาวสีน้ำตาลอ่อนประกายทอง ผิว

พรรณผุดผ่องขาวสะอาด
หน้าตาสะสวย

เขาเห็นก็อึ้งเช่นกัน

แต่พอมองดีๆผู้หญิงคนนี้ถึงจะไม่ใช่ของที่ดูหรูหราเหมือนกับ ผู้หญิงคนอื่นในห้องก็ตามแต่ว่า ของที่เธอใช่เป็นของแบรนด์

แน่นอน

เขาจึงนอนหมอบลงที่โต๊ะ

เพราะเห็นว่าผู้หญิงคนนี้ก็คงดูถูกคนอื่นเหมือนกัน

“เชิญแนะนำตัวจ้ะ”

อาจารย์พูดด้วยคำพูดเพราะๆ แต่แฝงไปด้วยความอิจฉา

มากมาย

เพราะผู้หญิงคนนี้ถึงแม้ไม่ได้ใส่เครื่องประดับมากมายก็ยังดูดี

มีสกุล

สวัสดีค่ะ ฉันชื่อ ป้ายเซียน ค่ะ มาจากต่างประเทศ ”

เมื่อเธอพูดจบก็ได้ทำนิ้วชี้ไปที่โต๊ะข้างๆเขา ซึ่งเขานั้นนั่งข้าง หน้าต่าง เธอจึงโต๊ะถัดจากเขา

“ฉันต้องการที่นั่งตรงนั้นตะ

เธอพูด

ซึ่งที่ตรงนั้นไม่มีใครนั่งอยู่แล้ว ถ้าไม่เพื่อนทั้งสามคนของเขา ไม่นั่งก็ไม่มีใครอยากนั่งใกล้เขาอยู่แล้ว
ซึ่งเรื่องนี้ทําให้ทุกคนตกใจเป็นอย่างมาก

“เซียนเซียนจ้า อย่าไปนั่งตรงนั้นเลยนะจ๊ะ

หวังลู่พูดขึ้น

ทุกคนในห้องยกเว้นเพื่อนของเขาก็ต่างพยักหน้า

“เดียวจะติดเชื่อความจนมาได้นะ”

เมื่อหวังลู่พูดจบ

พวกนั้นต่างหัวเราะกันอีกครั้ง

“ฉันไล่กลัวหรอก

“ถึงจะติดเชื่อความจนได้ก็ไม่ทำให้ฉันจนขึ้นมาหรอก” เธอไม่สนใจแม้แต่หวังจึงทำให้หวังหน้าแตกทันที เธอได้หยิบกระเป๋าขึ้นมาจากพื้นแล้วเดินดิ่งไปนั่งทันที เธอกล่าวทักทายเพื่อนทั้งสามของเขาอย่างเป็นมิตร แต่เธอไม่กล้าแม้แต่จะกล้ามองเขาด้วยซ้ำ ซึ่งเราก็ไม่ได้สนใจอะไรอยู่แล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ