Tales Of New World จบแล้ว!!

กลุ่มเด็กที่โดดเด่น



กลุ่มเด็กที่โดดเด่น

“เป็นไปได้ยังไง ทำไมบอดี้การ์ดไม่ห้าม!?” มีคนเริ่มสงสัยชายคนที่

พูดคุยกับลงเวย

ตัดมาทางเทพ [เทพคุยเป็นภาษาจีนนะครับ)

“สวัสดีครับ” เทพกล่าวทักหญิงสาวที่กำลังเดินมาทางตน “สวัสดี…คุณ?” ถึงเวยกล่าวต้องการคำตอบ

“ผมเป็นพนักงานของบริษัทครับให้มาพาไปที่ห้องประชุม เทพกล่าว จบก็ตามด้วยแรงกดดันของบอดี้การ์ต

“อื้ม…ไปสิ ลงเวยกล่าวจบเทพก็เดินไปที่ห้องประชุมของบริษัท

‘เธอมีอัธยาศัยดี เทพเริ่มวิเคราะห์กับคนที่ตนจะต้องร่วมงานด้วยใน ลิฟต์ที่กำลังขึ้นไปชั้นที่ทางบริษัทนัดประชุม

“คุณต้องการลายเซ็นไหม” ถึงเวยกล่าวถามเทพด้วยความสุภาพ

“ผมต้องการอย่างอื่นมากกว่า” เทพหันไปกล่าวกับถังเวยตามด้วย

บริการ์ดที่หันมามองเทพดังขวับ

“อะไรเหรอคะ?” ถึงเวยถามด้วยความสงสัย

‘สายตาแบบนั้น’ เทพมองดูสายตาที่ลงเวยมองตน

“เดี๋ยวผมค่อยบอกละกัน” เทพกล่าวจบประตูลิฟต์ก็เปิด”ไปกันครับ” เทพกล่าวพร้อมกับเดินนำไป

เมื่อเทพเดินผ่านพนักงานหลายคนก้มหัวเคารพท่าให้ถึงเวยตกใจเล็ก น้อยหรือจะเคารพตนเพราะเทพเป็นแค่หนักงานถ้าเป็นอย่างนั้นแสดงว่า บริษัทให้ความสำคัญกับตนมากทำให้ลงเวยรู้สึกดี

“ในห้องนั้นครับ” เทพแบมือไปทางห้องประชุม

ขอบคุณมาก” ถึงเวยยิ้มให้เทพแล้วเดินเข้าห้องประชุมไป

“ว่าแต่คุณต้องการอะไร? ถึงเวยกล่าวถามเทพที่กำลังจะเดินจากไป

“เดี๋ยวค่อยบอกหลังคุณออกมาแล้วกันครับ เทพหันมายิ้มให้ ถึงเวยแล้วเดินจากไป

เขาเป็นแค่พนักงานจริงๆหรอ…พูดจีนได้คล่องขนาดนั้น แถมยัง หน้าตาดีด้วย’ ถึงเวยเริ่มสงสัยในตัวเทพแต่แล้วเธอก็ต้องส่ายหน้าเดินเข้า ห้องประชุมไปเธอมาเรื่องงานเรื่องรองไว้ก่อน

กลับมาภาษาไทยจ้า

“อ่า…คุณถึงเวยมาล่ะว่าแต่ไหนล่ามเราละเนี่ย” ผู้ถือหุ้นยืนต้อ

นรับลงเวย

แล้วพูดพร้อมกัน “หนีห่าว

“หนีห่าว” ถึงเวยยิ้มแล้วตอบกลับแล้ว “เมื่อไหร่ท่านประธานจะมาละเนี่ย”
“เห็นว่าเรียกลูกชายของตนไปคุยน่ะ”

“ไม่รู้คุยเรื่องอะไรแต่นี่มันเวลาประชุมนะ” ผู้ถือหุ้นเริ่มไม่พอใจกับท่าน

ประธานของตน

“ขอโทษที่มาช้า และแล้วคนที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง “สวัสดีครับท่านประธาน” ทุกคนลุกขึ้นทำความเคารพ

‘n'(คุณ)” เมื่อถึงเวยเห็นคนที่เดินตามหลังคนที่ทุกคนเคารพก็เกิด ความสงสัยทันที

“หม” ท่านประธานหันไปมองถึงเวยแล้วมองคนที่ลงเวยมองก็คือ ลูกชายของตนนั่นเอง

“มันไปทำอะไรไว้อีกหละ พ่อของเทพมองเทพด้วยความสงสัย

ถึงเวยมองเทพเหมือนรู้ความจริงอะไรบางอย่างแต่เทพก็มองกลับด้วย

สายตาที่รู้ความจริงบางอย่างเช่นกัน “ล่ามหละ” อาเดชเมื่อเทพปิดประตูก็กล่าวถามทันที

“มีลูกฉันแล้วไม่ต้องใช้ลามแล้วแหละ” พ่อของเทพกล่าวด้วยความ

ภูมิใจ

จากคำกล่าวของพ่อของเทพทำให้ถุงเลยหันไปมองเทพด้วยสายตาที่รับ รู้ความจริงส่วนเทพก็หันมามองถึงเวยด้วยสายตาเดียวกันทำให้ถึงเวย รู้สึกสงสัยเขารู้อะไร

หรือว่า’ ถึงเวยอ้าปากตะลึงเล็กน้อยหรือตนจะแสดงออกมากเกินไป

อีกอย่าง ไม่ต้องใช้ล่ามเราก็สื่อสารกันได้จริงไหมครับคุณถึงเวย เทพกล่าวจบก็เดินไปนั่งที่ของตนแล้วมองถึงเวยพร้อมกับรอยยิ้มที่ปรากฏ ขึ้นที่มุมปาก
“ฮา” ถงเลยตกใจเล็กน้อยก่อนจะกลับมาทำหน้าตาสงสัย “เขาจะไปฟังเรารู้เรื่องได้ยังไง?” อาเดชหันไปถามเทพ

“จะให้ผมพิสูจน์ไหม?” เทพกล่าวจบก็เริ่มคิดบางอย่างก่อนจะกล่าว

ออกมา

“ไอดอลหน้าใหม่ไม่เห็นจะเก่งเลยใช้มุมกล้องช่วยทั้งนั้น แถมยังแส คงติดขัดหลายฉากจนต้องแก้หลายรอบด้วยเหอะ” เทพกล่าวจบลงเวย ออกอาการโมโหทันที

“!!” ถึงเวยลุกขึ้นอย่างโมโห

“อ้าว…โมโหอะไรกันครับ” เทพถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

“อ๊ะ! ถึงเวยเหมือนจะรู้สึกตัวว่าโดนเทพทดสอบ

“ผมบอกแล้วว่าเราสามารถสื่อสารกันได้โดยไม่ต้องใช้ล่าม เทพกล่าว จบหลายคนก็เกิดความสงสัยขึ้นทันที

“ได้ยังไง??” หลายคนงงหรือว่าเทพมีพลังพิเศษ?

“เธอฟังภาษาไทยออกและน่าจะพูดไทยได้ด้วย” เทพกล่าวพร้อมกับ

มองหน้าถงเวย

“ชิ” ถึงเวยส่งเสีย ออกมาตามด้วยเทพ “ขอโทษที่ว่าเธอ

เธอเป็นคนฉลาด…แต่ฉันฉลาดกว่า?! เทพยิ้มด้วยความภูมิใจที่ตน

เหนือกว่า

“แล้วหลานรู้ได้ยังไงว่าเธอฟังภาษาไทยออก อาเดชหันไปถามเทพ ด้วยความสงสัย

“เพราะตั้งแต่เธอมาผมเห็นแค่บอดี้การ์ดยังไม่เห็นผู้รับผิดชอบงานทาง บริษัทนั้นและล่ามของเธอเลย” เทพพักหายใจก่อนจะกล่าวต่อ

และด้วยท่าทางเมื่อครูที่เธอแสดงออกเมื่อผมเข้ามาในห้อง ประชุม…ซึ่งผมเดาว่าพวกคุณน่าจะคุยกันว่าผมที่เป็นลูกชายของประธาน บริษัทและท่านประธานบริษัทที่เป็นพ่อของผมเรียกผมไปคุยอะไรบาง อย่าง เทพพักหายใจรอบที่สองแล้วกล่าวต่อ

แต่เมื่อผมเข้ามาเธอแสดงท่าทางเหมือนกับว่าทำไมเป็นนาย?…อะไร ประมาณนี้ครับ เทพกล่าวจบทุกคนในห้องก็มองเทพด้วยสีหน้าตกใจและ

“ลูกเก่งมาก” พ่อของเทพกล่าวชมลูกชายของตน “ขอบคุณครับ” เทพหันไปพยักหน้าให้กับพ่อของตน

“ผมอยากฟังคุณพูดไทย” เทพหันไปกล่าวกับถังเวย

“จะเริ่มได้ยัง” เสียงพูดติดขัดและไม่ค่อยชัดออกมาจากปากของ “ฮะ” เมื่อถึงเวยพูดจบเทพก็ยิ้มออกมาเพื่อความสะใจส่วนทางถึงเวย

ถงเวย

เมื่อเห็นรอยยิ้มของเทพก็หันหน้าหนีด้วยความไม่พอใจ

“แล้วผู้รับผิดชอบงานหละ” เทพกล่าวจบลงเวยก็หันกลับมามองเทพ

“คุณเรียกเขามาได้แล้วผมเชื่อว่าเขาน่าจะอยู่แถวนี้” เทพกล่าวแล้ว

มองไปที่นอกห้องประชุมซึ่งสามารถมองได้เพราะผนังห้องเป็นกระจกใส

“ใคร?” ถึงเวยถามด้วยสีหน้าสงสัย
“ถ้าคุณยังแสดงต่อผมจะให้คะแนนการแสดงคุณตอบละนะ” เทพ กล่าวด้วยความมั่นใจ

“อ่า…คุณรู้ได้ยังไง” ลงเลยยอมแพ้

“ถึงเธอจะฉลาดมากก็จริง แต่คงไม่ให้เธอที่เป็นไอดอลมาทำงานคน เดียวหรอกจริงไหม” เทพบิดขี้เกียจเล็กน้อย

คงเป็นแผนของใครสักคนในบริษัท New World สึนะ คงจะเพื่อ ทดสอบพวกเราหรือทดสอบใครสักคนในห้องนี้ละมั้ง?” เทพกล่าวจบก็เอา

มือลูบคางตนเองเล็กน้อย

คนคนนี้น่ากลัวเกินไปแล้ว ถึงเวยกลืนน้ำลายดังอีก

“ฮ่าๆ…มากันแล้วสินะ” เมื่อเทพเห็นกลุ่มคนใส่สูทเดินมาทางห้อง ประชุมก็หัวเราะเล็กน้อย

“นอกจากเธอแล้ว…คนพวกนี้คงจะฟังภาษาไทยรู้เรื่องด้วยสินะ” เทพ กล่าวจบกลุ่มคนใส่ชุดสูทก็เดินเข้ามาก้มขอโทษแล้วมานั่งที่ของตน

“เริ่มคุยกันเลยดีกว่าครับ” เทพตัดเรื่องที่โดนทดสอบกับเรื่องอื่นๆไป

ก่อนตอนนี้คือเวลาประชุมต้องแยกแยะ

“ผมขอคุยเป็นภาษาจีนนะครับ…จบแล้วจะอธิบายให้ฟังจะได้รวดเร็ว เทพกล่าวกับพนักงานและคนอื่นๆ ในบริษัทของตน

[เทพคุยเป็นภาษาจีน

“ผมขอเสนอให้แจกเครื่องเล่น 5 เครื่องครับ” เทพกล่าวความตั้งใจ ของตนออกมาทําเอาสีหน้าฝั่งบริษัทจีนเริ่มหนักใจ

”เราเกรงว่ามันเยอะไป” นักเจรจาจีนพยายามเปลี่ยนความคิดเทพ

“ผมคิดว่ากำลังดีครับ…..เพราะคนส่วนใหญ่ไม่ได้มีตังค์ซื้อเครื่องถึงจะ อยากเล่นมากก็เถอะและผมยังเชื่อว่าคนเหล่านั้นอาจจะมีฝีมือเล่นเกมที่เก่ง มากและอาจจะทำเงินให้พวกคุณในอนาคตได้เยอะกว่าที่เสียไปตอนนี้ เทพอธิบายความคิดที่ตนคิด

ชาวจีนนิ่งเหมือนรออะไรบางอย่างอยู่แต่ทางนักเจรจาเหมือนจะอยาก พูดแต่ก็ไม่พูด แปลกๆ เทพรู้สึกแปลกๆเหมือนเคยเจอบรรยากาศแบบนี้ ที่ไหน

“เหวินสินะ ปล่อยไปก่อนละกัน เทพกำลังจดคดีที่ตนโดนทั้งทดสอบ ทั้งตัวช่วย

“ตกลงครับสวนเรืองกิจกรรมผมขอเสนอกิจกรรมแสดงความสามารถ ทางเกมส์ฝึกสมองครับ นอกจากนักเจรจาฝั่งจีนจะตกลงแล้วเหมือนจะให้ ข้อเสนอมาเพิ่มด้วย

“ครับ….แล้วก็กิจกรรมสุ่มจับรางวัลดีไหมครับ?” เทพเริ่มเสนอความคิด ของตนไปบ้าง

“ครับส่วนกิจกรรมอื่น

ทั้งสองบริษัทก็คุยเรื่องงานกันไปจนเวลาผ่านไป 2 ชั่วโมง

“ทุกคนเชิญไปรับประทานอาหารเที่ยงกันก่อนครับทางบริษัทเราเลี้ยง เทพลุกขึ้นกล่าวเชิญ

“ครับ” ชาวจีนพูดไทยพร้อมกับเดินออกไปนอกห้องประชุม

“ไปกันก่อนเลยครับ” เทพหันไปกล่าวกับฝั่งบริษัทของตนก่อนจะนั่งลงเดิม
ณ ตอนนี้เหลือกันแค่ลงเวยและเทพอยู่ในห้องประชุมกันแค่สองคน

“นายจะบอกได้ยังว่าต้องการอะไร ถึงเวยพูดไทยกับเทพ

“ผม…แค่ต้องการเป็นเพื่อนกับคุณ เทพกล่าวจบก็นึกถึงอดีต

“เพื่อน” ถึงเวย

“ใช่…แฟนของเหวินก็เหมือนเพื่อนของผม” เทพกล่าวจบลงเวยลุกขึ้น

ด้วยความตกใจ

“คุณรู้ได้ยังไง!?’ ถึงเวยตกใจสุดขีดเรื่องนี้ขนาดเพื่อนตัวเองยังไม่รู้ เลยหรือว่าเหงินบอก

ไม่…เหวินไม่บอกแน่ ถึงเวยคิดหนัก

“อ่า….มาแล้ว” เทพยิ้มดีใจที่ตนได้เห็นเพื่อนของตนอีกครั้ง

“คุณเหวิน” เทพพยักหน้าให้กับคนที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามา

“คุณรู้ได้ยังไง” เหวินเมื่อเข้ามาในห้องประชุมก็กล่าวถามด้วยความ สงสัยทันที

“คุณไม่ต้องห่วง…ถ้าเราคือเพื่อนกัน” เทพยิ้มอย่างเป็นมิตร

“คุณมาที่นี่เพื่อมาทดสอบผมไม่ใช่เหรอ ตอนนี้ให้คะแนนผมเท่าไหร่

ละ” เทพยิ้มมุมปาก

“อะ…ฮ่าๆ” เหวินหัวเราะเล็กน้อย
“ถึงคุณจะฉลาดก็จริงแต่ผมก็ไม่เข้าใจว่าทําไมคุณถึงรู้เรื่องนี้ได้” เหวิน กลับมาจริงจังอีกครั้ง

“ความลับ” เทพกล่าวจบก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปหาเหวินทันที

“ไม่ต้องห่วงผมไม่บอกใคร เทพกล่าวด้วยความจริงใจ

ในอดีตก่อนที่เทพจะย้อนเวลามาทั้งคู่แอบคบกันนานมากและไม่มีใคร รู้เรื่องนี้เลยสักคนรวมทั้งพ่อแม่ของทั้งคู่แต่เทพนั้นหลังจากที่ได้เป็นเพื่อน กับเหวิน เวลาผ่านไปทั้งคู่สนิทกันมากจนเหวินได้บอกกับเทพว่าตนคบกับ ถึงเวยดาราดังและเริ่มเล่าเรื่องให้เทพเพื่อหาทางช่วยจะได้ไม่ต้องปกปิด ต่อไปอีกจนเทพสามารถหาทางช่วยได้แต่ยังไม่ทันทำสำเร็จก็ถูกฆ่าตาย

เสียก่อน ฉันจะทําให้พวกนายคบกันโดยไม่ต้องปิดบังเอง…รอหน่อยเถอะ เทพ เริ่มคิดแผนใหม่ที่จะช่วยสองคนนี้ให้เร็วกว่าแผนที่แล้ว

“ดี…ฉันชอบคนฉลาดแบบนายขอเบอร์ไว้ติดต่อหน่อยเผื่อเกมส์เปิดจะ ได้เล่นด้วยกัน” เหวินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมายื่นให้เทพกดเบอร์

“ฮ่าๆ…แน่นอนฉันอยากจะเล่นเกมกับพวกนายดูแล้วพวกนายน่าจะมี

ฝีมือนะ” เทพกล่าวเชิงคลายเครียด

“แน่นอน…ฉันไปเกมไหนก็ติดอันดับทั้งนั้น” เหวินตอบกลับมาพร้อม กับยักคิ้วข้างเดียวโชว์

“เหรอ…แสดงว่านายยังไม่เจอฉัน” เทพยักคิ้วข้างเดียวสลับกันสองข้าง
“สิริ” ตามด้วยเสียงหัวเราะของถึงเวยทีแฟนของตนโดนตัดความ

“เธออยู่ข้างใครเนี่ย” เหวินหันไปหาแฟนของตน

“อยู่ข้างเธอไง” ถึงเวยเดินไปกอดแขนเหวิน

“อ่า…ที่นี่ห้องกระจกนะ” เทพที่รู้ว่าถึงเวยจะทำอะไรก็เดินไปบังแล้วทำ ทีเป็นผื่นของให้ทั้งคู่

“ลืม!!” ถงเวยรีบปล่อยมือ

เอาเป็นว่าตอนนี้ไปกินมื้อเที่ยงกันก่อนละกัน” เทพกล่าวจบก็เดินน่า

ออกไปจากห้องประชุม “อืม.. ถึงแม้จะพูดกันไม่ค่อยรู้เรื่องแต่ก็ให้เกียรติกันมาก เทพมองดู

พนักงานบริษัทตนกับของจีนนั่งกินนั่งพยายามสื่อสารกัน

“พวกเรายังไม่ถึงยี่สิบไปนั่งโต๊ะแยกกันดีกว่า เทพเดินไปที่โต๊ะ เล็กๆแล้วนั่งลงพร้อมกับถุงเวยและเหวิน

“ดูโต๊ะนั่นสิ”

“กลุ่มนี้มัน” พนักงานฝั่งจีนรู้สึกตกใจกับการรวมตัวของวัยรุ่นแต่ละ ฝ่ายเพราะแต่ละคนนี้ทั้งฉลาดทั้งเก่งและคาดเดายากมากตัวอย่างเช่นเห วันที่อายุยังน้อยแต่ก็ประสบความสำเร็จมีหลายบริษัทแย่งตัวเขาไปทำงาน และบางทีเขายังมีความสามารถมากกว่านักเจรจารุ่นใหญ่บางคนอีกด้วย ส่วนถึงเวยเธอก็เป็นไอดอลและดาราที่ประสบความสำเร็จด้วยอายุเพียง แค่ 19 ปี แถมยังมีความสามารถเรื่องงานบริษัทและสามารถพูดภาษาไ ถึง 3 ภาษาอีกด้วย ต่อมาคนสุดท้ายก็คือเทพนั่นเองทางพนักงานบริษัทจีน ได้ฟังการพูดคุยและการวิเคราะห์ของเทพแล้วถึงกับต้องยอมออกมารับผิดและยังได้รับการ ยอมรับจาก เหวินอีกด้วยทั้งยังเป็นคนที่เหวินได้ให้ความสนใจถึงขั้นบิน ตามมาดูด้วยตนเองอีก

“ฮะฮะ…กลายเป็นที่สนใจเฉยย เทพลากเสียงกวนๆ

“ฉันไม่เกี่ยว…” เหวินวางมาดเย็นชาแล้วหันหน้าหนีไปทางอื่น

ยังเป็นคนไม่ชอบเข้าสังคมเหมือนเดิมเลยนะ เทพมองเพื่อนของตน แล้วส่ายหัวเล็กน้อย

“ว่าแต่นายจะเล่นเกมนี้จริงๆ ใช่ไหม?” เสียงใสถามเพื่อความแน่ใจ

“ใช่” เทพพยักหน้า

“ฉันว่าเรามาสร้างกิลด์กันเถอะ” ถึงเวยกล่าวจบเหงินก็หันมาตอบกลับ

ทันที

“ไม่…ฉันอยากให้มีแค่พวกเรา” เหวินแย้ง

“ฉันเห็นด้วย เทพยกนิ้วโป้งขึ้นให้ความหมายว่าเป็นความคิดที่ดี

“ก็แล้วแต่นาย” ถึงเวยกล่าวจบก็ตักเนื้อปลานึ่งซีอิ้วเข้าปาก

“ขอบคุณ” เหวินหันหน้าหนีแล้วอมยิ้มเล็กน้อย

“พวกคุณกลับวันไหน?” เทพเริ่มกล่าวถาม

”หลังจากกิจกรรมจบเราว่าจะอยู่เที่ยวกันวันสองวันแล้วกลับ” ถึงเวยเป็นคนตอบ
“ถ้าอย่างนั้นเราจะติดต่อกันทางไหน?” เทพถามพร้อมกับหยิบ โทรศัพท์ขึ้นมา

“ทาง T-Chat ละกัน…นายได้โหลดไว้ไหม?” ถึงเวยหยิบโทรศัพท์ของ คนขึ้นมา

โหลดไว้แล้วล่ะ…เธอสร้างกลุ่มเลยแล้วดึงฉันกับเหงินเข้า เทพกล่าว ทางลัดเพราะหลังจากที่ลงเวยเพิ่มเทพเป็นเพื่อนแล้วถึงเวยก็จะสามารถ สร้างกลุ่มและดึงทั้งเทพและเหวินเข้ามาได้หลังจากนั้นค่อยให้เทพและเห วินเพิ่มเพื่อนกันมันจะง่ายกว่า

‘T-Chat เป็นเอปไว้สําหรับคุยกันเราสามารถคุยกันทั้งในเกมและนอก เกมได้และคนที่อยู่นอกเกมจะสามารถคุยกับคนในเกมได้แต่ถ้าบุคคลใน เกมเข้าสู่ที่แข่งขัน กิจกรรม หรือ PVP จะไม่สามารถติดต่อได้ เทพกล่าว ในใจแล้วพยักหน้าเพื่อเรียกความทรงจํ

“ว่าแต่คุณยังไม่บอกไอดีฉันฉันจะดึงคุณเข้าได้ยังไง? ถึงเวยกล่าวอ อกมาแล้วยื่นมือไปขอโทรศัพท์ของเทพ

“แสกนคิวอาร์โค๊ดละกัน ถึงเวยกล่าวพร้อมกับเทพที่ยืนโทรศัพท์ให้

ถึงเวยจัดการเพิ่มเพื่อน

“ขอไวน์ 3 ที่ครับ” เทพหันไปกล่าวกับพนักงาน

สักพักขวดไวน์ก็มาตั้งที่โต๊ะของกลุ่มวัยรุ่นและก็มีพนักงานมาริน ให้ 3 แก้ว

“แด่มิตรภาพของพวกเรา เทพซูแก้วไวน์ขึ้น

“เพื่อน” ทั้งสามกล่าวพร้อมกันแล้วก็มีเสียงดัง “กริ้ง” เป็นเสียงแก้ว ชนกันทั้งสามได้ชนแก้วกันดื่มให้มิตรภาพความเป็นเพื่อนของพวกเขา

“หวังว่างานนี้จะผ่านไปได้ด้วยดี พ่อของเทพที่เป็นประธานบริษัทเมื่อ เห็นเหล่าวัยรุ่นของบริษัทชนแก้วกันตนก็นึกขึ้นได้แล้วทำไมรุ่นทำงาน อย่างพวกเราไม่ชนกันมั่งละ

“ผ่านไปได้ด้วยดี” จังหวะนี้คนไทยกล่าวไทยคนจีนก็กล่าวไทยแล้ว ก

ขึ้นยืนบนแก้วกัน จะเผาหัวกันตั้งแต่เที่ยงเลยเรอะ เทพมองพวกรุ่นพ่อที่แก้วไวน์กรบ

เดียวหมดและยังขอเพิ่มกันเรื่อยๆ

“หลังจากนี้เราเป็นเพื่อนกันแล้วไม่ต้องเกรงใจถ้ามีอะไรให้ช่วย เทพ กล่าวอย่างเป็นมิตร

“แน่นอน” เหวินกล่าวจบรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากข้างขวา

“ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะ พรุ่งนี้เจอกัน” เทพลุกขึ้นลาเพื่อนใหม่

“แล้วเจอกัน” ถึงเวยและเหวินกล่าวพร้อมกัน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ