ตอนที่12 แก้แค้น
กิตติเดินตรงเบื้องหน้าชยานี และเอ่ยปากพูดด้วย ท่าทางจริงจัง
“คุณผู้หญิงครับ ในเมื่อจิลลาไม่สามารถทำงาน ดังนั้น บทโทษค่าชดเชยต้องให้ทางบ้านนิธิวรสกุลเป็นคนรับ ชอบ สัญญาที่คุณจิลลาเซ็นเป็นสัญญาตำแหน่งหัวหน้า แผนกการออกแบบสามปี ส่วนการชดเชยก็ไม่มากเท่า ไหร่ แค่หนึ่งล้านเท่านั้น”
เมื่อจิลลาได้ยินก็ตกใจช็อก หนึ่งล้าน? ทําไมเขาทํา เกินไป!
ชยานีสีหน้าเปลี่ยนสี “นี่…”
“ใช่ครับ คุณผู้ชายของพวกเราไม่ชอบคนที่ผิด สัญญา และนับตั้งแต่นี้เป็นต้นไปทางเราของยกเลิก สัญญากับบ้านนิธิวรสกุลทั้งหมด รวมถึงสัญญาที่อาจ เป็นไปได้ในอนาคตด้วย”
กิตติพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งสงบ เหมือนกับพูดเรื่องที่ไม่ ค่อยสำคัญสักเท่าไหร่
แต่สำหรับบ้านนิธิวรสกุล ไม่สามารถรับได้กับการ โจมตีแบบนี้ได้
เพราะโครงการที่ทำร่วมกันกับบริษัท KJ ในตอนนี้ หากถูกยกเลิกกลางคัน คงทำให้เศรษฐกิจของบริษัทตระกูลนิธิวรสกุลสะดุดแน่ และอาจจะล้มละลาย ได้ด้วย และหากไม่มีการทำงานร่วมกันอีก ก็เท่ากับ เป็นการตัดขาดตระกูลนิธิวรสกุล
กัมพล นี่เป็นการแก้แค้นที่โจ่งแจ้งมาก ต้องการบีบ คั้นให้ตระกูลนิธิวรสกุลหมดหนทาง ชยานีเผยสีหน้า ขาวซีดทันที จนเกือบยืนไม่มั่นคง
เธอดึงสติกลับมา และรีบพูดว่า “คุณกัมพลค่ะ ขอโทษด้วยค่ะ นี้เป็นการเข้าใจผิดเฉยๆ พรุ่งนี้จิลลาจะ ไปทำงานบริษัท KJ ตามปกติค่ะ จะได้ไม่ทำให้บริษัท เสียเวลา จิลลา ยืนทำอะไรอีกล่ะ รีบขอโทษกับคุณ กัมพลเร็ว”
ขณะที่พูด ชยานีก็รีบดึงจิลลาเข้ามา และผลักเธอต่อ หน้ากัมพล
“คุณกัมพลคะ พรุ่งนี้ฉันจะไปทำงานตรงเวลาค่ะ ส่วน เรื่องวันนี้ช่างมันเถอะนะค่ะ?”
“ได้ แต่ว่า…”
กัมพลยกมือจับคางของจิลลา แล้วดึงคางเธอมาที่ ใบหน้าของเขา
ระยะห่างของทั้งสองคนคลุมเครือมาก
ทันใดนั้นจิลลารู้สึกหวาดกลัว และมองใบหน้าอันหล่อ เหลาของกัมพลที่ยิ่งใกล้เข้ามา
มือของกัมพลลบรอยตบแดงจางๆบนแก้มของเธอ เบาๆ พร้อมส่งสายตาอันตรายออกมา
“ฉันเป็นคนเข้าข้างพวกตัวเอง ดังนั้นฉันสามารถ คน ของฉันได้คนเดียว หากคนอื่นมากทำร้าย ต้องได้รับ การชดเชยสิบเท่า”
หลังจากนั้นเขาก็มองด้านข้าง พร้อมกับส่งสายตาเย็น ชาต่อชยานี
เมื่อเห็นสายตาแหลมคมของผู้ชายเบื้องหน้า เธอก็ยิ่ง รู้สึกสับสน คิดไม่ถึงว่าเขาจะช่วยเธอ
จากนั้นเขาก็ปริปากพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ดังนั้น ฝ่ามือบนหน้าของเธอ ใครเป็นคนทำ?”
ชยานีตัวสั่นทั้งตัว และขาก็อ่อนแรงจนล้มลงบนพื้น
เธอจ้องมองกัมพลด้วยความหวาดกลัว และบ่นพรึม พรำอย่างไม่รู้ตัวว่า
“เธอ เธอเป็นลูกสาวขอฉัน ดังนั้นการที่ฉันสั่งสอนเธอ ถือเป็นสิ่งที่เหมาะสม หากคุณจะแก้แค้นแทนจิลลา เธอ ก็จะเป็นคนอกตัญญู”
กัมพลยิ้มจางๆ “เช่นนั้นความผิดของแม่ ลูกก็ต้องรับ แทน”
สิ้นสุดเสียง ไม่รู้ว่าบอดี้การ์ดสองคนที่รูปร่างสูงใหญ่มาจากไหน พวกเขาจับแขนขจีคนละข้าง และดันเธอ คุกเข่าลงกับพื้น จากนั้นก็ได้ยินเสียงตบ “แฟรีบแฟรีบ” ดังขึ้น
กำลังของบอดี้การ์ดแข็งแรงมาก ดังนั้นขจีจึงถูกตบ จนปากแตกมีเลือดไหล
ขจีร้องโหยหวนย่างเจ็บปวด “อ่า! ฮือฮือ——แม่ ช่วย
หนูด้วย”
“ขจี!”
ชยานีวิ่งเข้าไปช่วยลูกสาวอย่างเป็นห่วงเป็นใย แต่ กลับถูกกิตติกีดกั้นทางไว้
กิตติยิ้มแย้ม และตักเตือนว่า “ความอดทนของคุณ ผู้ชายไม่ค่อยดีนัก หากคุณยั่วโมโหเขาอีกครั้ง เกรงว่า คุณยอมรับกับผลที่ตามมาไม่ได้”
ชยานียืนนิ่งด้วยท่าทางแข็งทื่อ พร้อมจ้องมองขจีที่มี น้ำตาไหลอาบหน้า นี่เป็นครั้งแรกที่จิลลาเกินขจีตกอับ ถึงขนาดนี้ ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกสะใจ
ตั้งแต่ออกมาจากบ้านนิธิวรสกุล จิลลาติดตามหลัง
กัมพล
เมื่อเห็นผู้ชายร่างสูงใหญ่ข้างหน้า เธอก็รู้สึกสับสนขึ้นมา
เขาโหดร้ายมาก แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น?
“เรื่องนั้น…”
จิลลาพูดออกมาว่า “เมื่อกี้ขอบคุณมาก”
ได้รับการสั่งสอนครั้งนี้แล้ว ต่อไปขจีคงไม่กล้ากลั่น แกล้งเธออีกแน่
จู่ๆกัมพลก็หยุดฝีเท้าลง และหันหลังมา พร้อมกับสบ ตาจิลลา
จู่ๆจิลลาก็กระโจนเข้าไปกอดในอ้อมอกของกัมพล
“ขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ”
จิลลาหน้าแดงระเรื่ออย่างเก้อเขิน และรีบถอยหลังไป แต่จู่ๆเขาก็ดึงมือเธอ จนทำให้เธอกระโจนเข้าไปในอ้อม กอดของเขาอีกครั้ง
“ขอบคุณไม่ได้พูดได้อย่างเดียวนะ”
กัมพลจับคางของจิลลาขึ้น ทำให้ระยะห่างใกล้กัน เหมือนจะจูบกันเลย
เขาพูดด้วยน้ำเสียงแหบว่า “จูบผมสิ”
อะไรนะ!
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ