ตอนที่ 7 อย่าเตะต้องตัวฉัน!
เมื่อเหล่าบอดี้การ์ดเห็นฉากสยิวก็หันหลังแยกย้าย จากไปอย่างรวดเร็ว
มือข้างขวาของกัมพลลูบลงจากเอวของจิลลา จากนั้น ก็ได้ยินเสียง “ซี้ด” กระโปรงของเธอขาด
“อย่า!”
จิลลารู้สึกหวาดกลัวมาก และทุบตีแขนของกัมพล อย่างกระวนกระวาย พร้อมกับขมวดคิ้วและจ้องมองเขา อย่างแปลกใจ
เธอรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เมื่อสังเกตดีๆก็พบว่า แขนข้างขวาของกัมพลร่วงตกลงมาแล้ว เหมือนกระดูก จะหลุดหรือเปล่า?
เธอร่วงตกลงมาจากชั้นสี่ ซึ่งแรงโน้มถ่วงสูงมาก แต่ กัมพลกลับช่วยเธอ…
ทันใดนั้นจิลลาก็รู้สึกสับสนและพูดอะไรไม่ออก และ ไม่กล้าทุบตีแล้ว
“คุณรีบปล่อยมือออก แขนของคุณได้รับบาดเจ็บ แล้ว”
“ทําไมหรอ? เป็นห่วงมือข้างเดียวของผมไม่ สามารถ?”
กัมพลแค่นหัวเราะอย่างดูถูก พร้อมดึงกระโปรงของจิ ลลาอย่างหยามศักดิ์ศรี
เธอรู้สึกว่าอันตรายใกล้เข้ามา ทันใดนั้นจิลลาก็ตกใจ จนหน้าขาวซีด
เจ้าปีศาจแม้แต่แขนที่บาดเจ็บของตัวเองก็ไม่สนใจ หรอ?
เธอหวาดกลัวมาก พร้อมตะเกี่ยตะกายอย่างลุกลี้ ลุกลน “ถอยออกไป! อย่ามาเตะต้องตัวฉัน!” จิลลาจ้อง มองเงาหัวดำๆแอบซ่อนอยู่ เพราะมีไฟตรงทางเดิน ทำให้เห็นเธอเปลือยกายต่อหน้าผู้คน ซึ่งมันช่างน่า อับอายมาก
ผู้ชายแบบนี้ น่าหวาดกลัวกว่าหมาป่าเสือพวกนั้นเสีย อีก แบบนี้เธอจะสามารถหนีไปได้หรอ?
เมื่อตอนจิลลาเผยสีหน้าหมดหวัง กัมพลก็หยุดมือไว้ กลางอากาศ สุดท้ายความต้องการของเขาก็หายจาง ออกจากดวงตาเขา
เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “จิลลา ถ้าเธอไม่ อยากทำตามสัญญาก็ได้”
“คุณหมายความว่าอะไร”
จิลลาดึงสติกลับมา และจ้องมองกัมพลอย่าง หวาดระแวง เขาจะยอมเธอไปหรอ?
กัมพลพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “สัญญา ผมจะส่งไปที่ บ้านนิธิวรสกุล แล้วให้บ้านนิธิวรสกุลเป็นคนชดใช้
จิลลาเปลี่ยนสีหน้า ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกหนาวตั้งแต่หัว เท้าจนถึงหัว ถึงแม้เธอจะเป็นคุณหนูรองของบ้านนิธิ วรสกุล แต่พ่อแม่ของเขาไม่ชอบเธอกับพี่ชาย ตั้งแต่ พี่ชายเกิดอุบัติเหตุต้องนอนค้างโรงพยาบาล และ ต้องการเงินจํานวนมากเพื่อมารักษาชีวิต แต่โชคดีที่เธอ มีหมั้นหมาย ไม่เช่นนั้นพ่อแม่ใจร้ายคงไม่ยอมจ่ายค่า รักษาให้กับพี่ชายแน่
หากสัญญานี้ถึงบ้านนิธิวรสกุลไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริง หรือเปล่า เธอคงพังพินาศแน่
กัมพลไม่ใช่ต้องการปล่อยตัวเธอ แต่กลับบีบคั้นจน เธอหมดหนทางต่างหาก
จิลลากัดฟันอย่างแน่น ความเคียดแค้นภายในใจกำ ลังพลุ้นพล่านอยู่เต็มอก “กัมพล คุณมันน่ารังเกียจ!”
เป็นอย่างที่กิตติบอกไว้ เธอไม่มีทางเลือกจริงๆ เธอไม่ รักชีวิตก็ได้ แต่เธอไม่สามารถละเลยชีวิตของพี่ชายได้
เพราะพี่ชายเป็นญาติที่ดีต่อเธอเพียงคนเดียวของ บ้านนิธิวรสกุล
เธอเผยสีหน้าพ่ายแพ้ออกมา ดูเหมือนตอนนี้เธอหมด เรี่ยวแรงแล้ว
“ขอเพียงไม่ให้คนบ้านนิธิวรสกุลรู้เรื่องนี้ ฉันยอมรับ ปากคุณเป็น…ผู้หญิงของคุณ” ในตอนนี้เธอหมดความ ดื้อรั้นแล้ว
กัมพลยิ้มแย้ม เพราะนี่เป็นผลลัพธ์ที่คาดคิดไว้ “แต่”
จิลลาเงยหน้ามองกัมพล พร้อมเผยสีหน้าหนักแน่น “ถ้าหากฉันสามารถพิสูจน์ได้ว่าคนที่เซ็นไม่ใช่ฉัน สัญญาจะสิ้นสุดทันที!”
สัญญาไม่ใช่เธอเป็นคนเซ็น เรื่องนี้ดูมีพิรุธ เธอต้อง สืบเบาะแสให้ได้แน่นอน
เธอยังไม่ยอมรับอีกหรอว่าตัวเองเป็นคนเซ็น ปากแข็ง เสียจริง กัมพลแค่นหัวเราะอย่างเย็นชา และหลบหน้า ไม่อยากเห็นท่าทางจอมปลอมของเธอ จากนั้นก็เดินเข้า ในปราสาท
“กัมพล คุณรับปากหรือเปล่า?”
จิลลารีบเดินตามกัมพลอย่างรีบร้อน ตอนนี้เธอหนีไม่ พ้นแล้ว แต่เธอต้องหาโอกาสหนีในอนาคตให้ได้
บนเส้นทางเข้าปราสาท เธอกำลังเดินตามกัมพล สุด ท้ายจิลลากลับถูกประตูสกัดกั้นอยู่ข้างนอก
กิตติยืนอยู่ข้างนอก ใบหน้าหล่อเหลาของเขาเผย รอยยิ้มอ่อนโยน
“คุณจิลลาครับ คุณผู้ชายกำลังรักษาอาการบาด เจ็บอยู่ข้างใน ตอนนี้คุณไม่สามารถเข้าไปได้ คุณไป เปลี่ยนเสื้อก่อนดีไหมครับ”
จิลลานิ่งอึ้ง เธอเพิ่งนึกออกได้ว่าเสื้อของตัวเองถูก กัมพลฉีกขาด จนสามารถมองเห็นผิวหนังข้างในได้
ทันใดนั้นเธอก็หน้าแดงระเรื่อ และรีบวิ่งหนีจากไป
ในปราสาทเสื้อผ้าของผู้หญิง หากรอมาถึงต้องใช้ เวลาสักพัก จิลลาเลยต้องสวมชุดคนใช้ไปก่อน
ชุดคนใช้เป็นชุดแบบญี่ปุ่นที่กระโปรงเป็นผ้าบางลาย ลูกไม้ซ้อนทับกันจนดูสวยงาม
จิลลาไม่เคยสวมชุดแบบนี้มาก่อน เมื่อเห็นตัวเองใน กระจกก็รู้สึกว่าตัวเองสวมไม่ค่อยเหมาะ
เมื่อกัมพลเปิดประตูเห็นผู้หญิงเบื้องหน้ากระจกก็ สะดุ้งเล็กน้อย และสายตาก็เผยแววตาตกใจ
ชุดแบบนี้เขาเห็นคนใช้ในประสาทสวมทุกวัน แต่กลับ ไม่มีความรู้สึกพิเศษอะไร แต่เมื่อจิลลาสวมกลับมีเสน่ห์ น่าเย้ายวนใจ
เขามองจากบนลงล่าง จากนั้นสายตาก็ค่อยๆมืดครึ้ม
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ