Stumble Love รักสะดุดใจ

ตอนที่ 4



ตอนที่ 4

ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูจากด้านนอกห้องของ หลิน

เสียงกฤษตะโกนถามเข้ามา “เสร็จเรียบร้อยหรือยังจ๊ะ สาว ๆ หัวเราะเจี๊ยวจ๊าวเสียงดัง”

แพรวาเดินไปเปิดประตูให้เขา

“เรียบร้อยค่ะ” กฤษยืนตะลึงอยู่ที่หน้าประตู มองสาว สวยตรงหน้า ยิ้มกว้างให้ เอ่ยชม

“แพรสวย น่ารักมากเลยครับ”

พอดีพี่ช่างหิ้วสัมภาระออก ชายหนุ่มทำท่าจะช่วยนิ้ว

“ไม่ต้องค่ะ พี่สองคนไปก่อนนะคะ ไว้โอกาสหน้าพี่ยินดี มาให้บริการอีก” สองสาวเดินตามหลังมายกมือไหว้ กล่าว ขอบคุณ

กฤษหันมาหาแพรวา ส่งสายตาหวานให้ อ้อนเธอด้วยคำ

พูด

“แพรช่วยพี่หาของหน่อยสิครับ พี่หาเข็มกลัดติดเนกไท ไม่เจอ” และเดินนำแพรวาเข้าไปในห้องของตนเองเธอรีบเดินตามเข้าไปหาของให้กับเขา

ชายหนุ่มปิดประตู เดินตามหญิงสาวที่รีบไปหาของใน กระเป๋าของเขา สักครู่ เธอก็เจอทันที หยิบมันขึ้นมาทันที แล้วหันกลับมาทางเขา หน้าชนกับปลายจมูกของกฤษเข้า พอดี เพราะเขาตั้งใจอยู่ก่อนแล้ว

“แพรนึกแล้วค่ะ ว่าพี่กฤษต้องมามุกนี้” เธอทุบหน้าอกขอ งกฤษเบา ๆ เขาคว้าเธอเข้ามาสู่อ้อมกอด

“แพรสวยมากรู้ไหมครับ” พูดจบก็จับเอามือแพรวาไป ทาบที่อก

“ใจพี่เต้นไม่เป็นจังหวะเลยได้ยินไหมครับ”

“เซี้ยวจริง ๆ พี่กฤษนี่ ใช่เวลาไหมคะ” แพรวาค้อนแบบ น่ารักให้กับกฤษไปเล็กน้อย

“ขอพี่หอมอีกทีนะ”

กฤษโอบเอวและกระชับแพรวาให้เข้ามาแนบกับลำตัว เชยคางมนของเธอขึ้นมาให้มองหน้าเขา แล้วก้มลงไปใช้ ปากตัวเองแตะริมฝีปากแพรวาเบา ๆ

หญิงสาวหลับตาพริ้ม ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ตื่นเต้นเพรายกฤษไม่เคยทำแบบนี้กับเธอมาก่อน อย่างมากก็แค่ หอมที่แก้มเท่านั้น

กฤษผละริมฝีปากออกอย่างเสียดาย และใช้ริมฝีปาก จุมพิตไปที่หน้าผากแพรวาเบา ๆ

“คืนนี้พี่มีของบางอย่างจะให้แพรด้วยครับ” เขาบอก

“อะไรคะ” เธอถาม

“ความลับครับ ถ้าบอกตอนนี้ก็ไม่เซอร์ไพรส์น่ะสิครับ” กฤษกระชับวงแขน กอดแพรวาไว้แนบอก

หลินรู้สึกหิวเพราะวันนี้เธอเพิ่งได้กินข้าวไปมื้อเดียว เอง ก่อนที่จะมาที่นี่ เธอก็ได้แวะซื้อแซนด์วิชกับนมที่ร้าน สะดวกซื้อกินก่อนทางเข้าสถานีรถไฟฟ้าตอนเดินทาง มายังโรงแรม หญิงสาวเดินไปที่ตู้เย็น เปิดดูว่ามีอะไรพอ ประทังความหิวได้บ้าง

“อู้หู ผลไม้เต็มเลย” แล้วเธอก็เลือกหยิบเอาแอปเปิล ออกมาหนึ่งลูก กำลังจะเอาเข้าปาก นึกขึ้นได้ ว่าถ้ากัดลง ไปแบบนี้ ลิปสติกที่ทาไว้ต้องเลอะแน่ ๆ

“ลองหามีดดีกว่า” เธอกำลังเขย่งเท้าตัวเอง เพื่อเปิดช่อง ต่าง ๆ ของเคาน์เตอร์ ตรงนั้น เพื่อหาของ คิดในใจ
‘ทําไมทําซะสูงเชียว ไม่เห็นใจพวกตัวเตี้ย ๆ บ้างเลย

หลินเพลินในการหาของกิน โดยไม่ได้ยินว่ามีเสียงเปิด ประตูเข้ามา พีคเดินเข้ามาทางด้านหลังของหญิงสาว หยุดนิ่งยืนมองเธอว่ากำลังทำอะไรอยู่

“ทำอะไรอยู่จ๊ะ” เขาเอ่ยถามขึ้น

หลินไม่ทันระวังตัว สะดุ้งตกใจ เซถลาลงมาทางด้าน หลังทําท่าจะล้ม ชายหนุ่มใช้วงแขนโอบรั้งร่างบางเอาไว้ ไม่ให้ล้ม ทำให้มือสัมผัสแผ่นหลังที่เนียนนุ่มของหลิน ทั้ง สองสบตากัน หลินอายหน้าแดง เลือดในกายสูบฉีด ส่ง ยิ้มเขินให้กับเขา

“ขอโทษครับ ที่พี่ทำให้หลินตกใจ” พร้อมกับส่งยิ้มตอบ กลับให้เธอ รีบปล่อยมือออกจากร่างบาง ทําท่าลูบหัวตัว เองอีกครั้งเหมือนเดิม

“หาอะไรกินน่ะค่ะ กำลังจะหามีดมาเฉาะแอปเปิลสัก หน่อย กินเข้าไปทั้งลูกแบบนี้ กลัวลิปสติกจะเลอะน่ะค่ะ” หลินหัวเราะเบา ๆ แบบแก้เก้อ

แพรวาและกฤษเดินออกมาจากห้อง กฤษทันเห็น พฤติกรรมลูบหัวของเพื่อน

“ทำอะไรกันอยู่คะ” เสียงแพรวาดังขึ้น พีคหันมาพูด
“สงสัยหลินคงจะหิวแล้ว ทุกคนรอแป๊บนะ ขอเปลี่ยนชุด นิดหนึ่ง ไม่นาน เดี๋ยวขึ้นไปที่งานพร้อมกัน” แล้วเขาก็เดิน ไปยกหูโทรศัพท์เพื่อสั่งอาหารจากรูมเซอร์วิสให้ขึ้นมาส่ง ยังห้องพัก

“เอ้… พี่ภุชงค์ยังไม่มาอีกหรือคะ” แพรวาหันไปถา มกับกฤษ

“คงอยู่ข้างบนงานแล้วแหละ ต้องเตรียมตัวหลายอย่าง” และทํามือป้องปาก

“มี Surprise ให้กับพีคมั้ง”

เสียงเปิดประตูห้องของพีค เขาเดินออกมา ทุกคนหันไป มองเป็นตาเดียวกัน

‘ว้าว ๆ หล่อจัง เฮ้ย… คนอะไรมองมุมไหนก็ดูดีไปหมด หลินคิดในใจ อมยิ้ม ใจเต้นตึกตัก เพราะแอบมองพีค ทุกครั้งที่ไปที่ร้าน เขาดูสะดุดตา สุขุม ไม่เสียงดังขี้เล่น เหมือนภุชงค์ ไปทีไร นั่งนิ่ง ยิ้มนิด ๆ ชวนให้หลงใหล

แต่เมื่อได้รู้ว่าชายหนุ่มชอบคบและคิดกับพวกผู้หญิง อย่างไร ก็หวาด ๆ อีกทั้งเรื่องตัวหลินเอง ทำให้ไม่กล้า และไม่พร้อมจะหาแฟนนั่นเอง

พีคเดินออกมาด้วยสูทผ้าไหมสีกรมท่า รับกับรองเท้าคัทชูที่สวมใส่ ทําผมทันสมัย และที่หลินสะดุดตาคือ ที่ คอปกเสื้อของเขา มีเข็มกลัดเนกไทที่หลินเพิ่งให้เป็นของ ขวัญกับพีคไปเมื่อตอนเจอกันวันนี้ เธอยิ้มดีใจที่เขาเห็น ความสำคัญเล็ก ๆ ของเธอ

“ฮู… lol” กฤษและแพรตบมือ

“สมกับตำแหน่งใหม่จริง ๆ” กฤษออกปากชมเพื่อน

“ดูดีมากค่ะ” แพรวาผสมโรง

ชายหนุ่มยิ้มกว้าง ก้มมองดูตัวเองอีกครั้ง พร้อมกับยก นาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู

“ไปกันได้แล้วมั้ง ได้เวลางานจะเริ่มแล้ว”

กฤษยื่นมือไปให้แพรวาจับ ฉุดเธอให้ลุกขึ้น เดินคล้อง แขนพากันออกไปจากห้อง หลินเดินตามคนทั้งคู่ไป เมื่อ ทุกคนเข้ามาอยู่ในลิฟต์ พีคกดลิฟต์ไปที่ชั้นหกสิบ

หลินยืนชิดฝาผนังลิฟต์ด้านเดียวกับพีค แอบมองเขา ด้วยแววตาชื่นชม ได้กลิ่นน้ำหอมแบบแมน ๆ จากชาย หนุ่ม เธอสูดหายใจดมกลิ่นน้ำหอมของเขาอย่างจงใจ ยิ้ม กรุ้มกริ่ม
‘ชื่นใจจริง ๆ มิน่าล่ะ ผู้หญิงพวกนั้น เพียงแค่ได้ควงสัก อาทิตย์ ก็คงสุขใจแล้วมั้ง’ เธอเริ่มเห็นด้วยคิดคล้อยตาม ไปกับผู้หญิงที่เข้ามาใกล้ชิดพีค พวกหล่อนคงเคลิ้มหลง ไปกับเสน่ห์ของผู้ชายคนนี้แน่ ๆ ทั้งที่แค่ยืนเฉย ๆ ยังดูดี มากหญิงสาวแอบกรี๊ดเล็ก ๆ อยู่ในใจ

ลิฟต์ขึ้นมาถึงที่ชั้นหกสิบ กฤษและแพรวาคล้องแขนกัน น้าออกไป หลินจะขยับตาม ชายหนุ่มรีบดึงข้อศอกบางไว้

“ช่วยดูสิคะว่า พี่ติดเข็มกลัดนี้ โอเคไหม เข้าที่หรือยัง”

หลินหันหน้าเข้าหาพีค ใช้มือขยับผ้าเช็ดหน้าที่อยู่ใน กระเป๋าที่หน้าอกให้ดูดี แล้วลูบที่เข็มกลัดเนกไท ยิ้มกับ ตัวเอง

“ดูดีแล้วค่ะ”

ชายหนุ่มจับมือของเธอให้มาคล้องที่แขนของตนเอง หลินเงยมองหน้าพีคแบบงง และประหลาดใจ

“วันนี้ พี่ยืมเป็นคู่ควงหน่อยนะ” เขาพูดพร้อมส่งยิ้มนิด ๆ ให้กับหลิน

‘อ้าว… ทำไมมีผู้หญิงในสังกัดเป็นกุรุส’ เธอคิดในใจ พูดขึ้นมาแบบรู้ทัน
“วันนี้เป็นวันสำคัญ หากพี่ควงกับสาว ๆ คนไหนไป พี่ ต้องโดนที่บ้านตำหนิแน่ ๆ และก็กลัวจะโดนสาว ๆ หลาย คนเข้าใจผิดด้วย อีกอย่างเลือกไม่ถูกด้วยว่าจะเป็นใครดี ครับ” พูดจบก็พาเธอเดินเข้าไปในงาน

สี่คนเดินเข้าไปที่บริเวณการจัดงาน บนชั้นหกสิบที่สูง ที่สุดของตึกนี้ มีสระว่ายน้ำขนาดไม่ใหญ่มากนัก อยู่ตรง กลางลานกว้าง การจัดวางสิ่งต่าง ๆ เป็นไปอย่างสวยงาม และมีระดับ ประดับประดาไปด้วยหลอดไฟสีต่าง ๆ และ หลอดไฟหยดน้ำแบบยาวสักหนึ่งฟุตเห็นจะได้ ประดับไว้ อย่างสวยงาม

นักข่าวเมื่อหันมาเห็นเป็นพีค รีบเดินเข้ามาหาชายหนุ่ม กดรัวชัตเตอร์กันยกใหญ่ เขาใช้อีกมือตบที่หลังมือหลิน เบา ๆ เธอหันยิ้มให้นักข่าว หันหน้าตามองกล้อง อย่างรู้ งาน แล้วยังหันหามุมองศาที่สวยรับแสงแฟลชจากกล้อง อีกด้วยพีคหันมาเห็น ยิ้มและหัวเราะในลำคอในความน่า เอ็นดูของเธอ

เสียงพิธีกรประกาศบนเวทีทั้งภาษาไทยและภาษา อังกฤษ

“Ladies and Gentlemen, on behalf of Grand SP Suriwong, we are say thank you very much for coming to celebration the grand opening with us this evening.” เสียงพิธีกรชายเอ่ยนา
เสียงพิธีกรหญิงสาว กล่าวเป็นภาษาไทย

“สวัสดีค่ะท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน ดิฉันในนามของ โรงแรม แกรนด์ เอส พี สุริวงค์ กราบขอบพระคุณทุก ท่านที่ให้เกียรติมาร่วมงานเลี้ยง แกรนด์โอเพนนิ่งในวันนี้ บัดนี้ได้ถึงเวลากล่าวเปิดงาน และต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ ทุกท่าน เรียนเชิญ คุณพีระ สุขประเสริฐ Managing Director ขึ้นกล่าวเปิดงานค่ะ”

“Ladies and Gentlemen, now is the time for Grand Opening. Please welcome to Mr. Peera Sukpresert, Managing Director of Grand SP Suriwong.”

สิ้นเสียงพิธีกรชาย เสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั้งชั้นหก สิบ พีคเดินขึ้นเวทีด้วยความสง่างาม แสงแฟลชและเสียง ชัตเตอร์กดรัวมาจากหลาย ๆ มุม พีคกล่าวเปิดงานเป็น ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว เขาได้รับคำชื่นชมกับ ทุกคนที่มาร่วมงาน พูดให้สองสาวได้ยินกันอย่างหนาหู

หลินมองขึ้นไปบนเวทีด้วยความปลาบปลื้ม ยิ้มปริ่มสุข เพ้อในใจ

‘หล่อมาก ๆ กรี๊ด กรี๊ด กรี๊ด’ สุดท้ายจบด้วยประโยคที่ว่า ‘แล้วแกไปเกี่ยวอะไรกับเขาเนี่ย’
จบคำกล่าวสุนทรพจน์ พีคได้รับเสียงปรบมือเช่นเดิม เขาเดินลงจากเวทีด้วยความสง่างาม มีแสงสปอตไลต์ ส่องตามพีค เมื่อเขาเดินเข้าไปทักทาย และกล่าว ขอบคุณแขกที่ได้รับเชิญมาไปทั้งงาน

บนเวที มีเสียงเปียโนเริ่มบรรเลง ไฟสปอตไลต์หันกลับ ไปส่องยังนักดนตรีด้านบน ที่กำลังบรรเลงเพลงแสดง ความยินดีเป็นภาษาอังกฤษ ทุกคนได้เห็น ชายหนุ่มรูป งาม ในชุดสีขาวทั้งชุด ทำผมทองนำสมัย กำลังบรรเลง เปียโน และร้องเพลงได้อย่างไพเราะ คือ

คุณภุชงค์ ศิริพัฒนยางกูร’ แขกปรบมือกันเกรียวกราว เสียงร้องของเขา ร้องเพลงที่เปล่งออกมาทําให้หลินถึง ตะลึง หันไปสะกิดเพื่อน

“ว้าว… สุดยอดจังเลย ดูเท่ เสียงก็เพราะมาก ๆ” แพรวา พยักหน้า

“ทางเขาล่ะ คุณภุชงค์ ขวัญใจสาว ๆ”

แขกเริ่มทยอยกันตักอาหารที่ไลน์บุฟเฟ่ต์ แพรวาชวน หลินไปตักผลไม้และขนมไทยที่แอบเหล่ไว้ เพราะอิ่มจาก อาหารที่พีคสั่งจากรูมเซอร์วิสให้ขึ้นมาเสิร์ฟที่ห้องกันแล้ว

พีค และกฤษ เข้ามาสมทบกับภุชงค์ เดินเข้าไปหาคุณพีรพัฒน์และคุณพรพรรณ พ่อและแม่ของพีค สองท่าน รับไหว้ และกล่าวชมลูกชาย

“ดีมาก ๆ เลยลูก สมฐานะ ไม่เสียแรงที่เป็นลูกพ่อ” คุณ พีรพัฒน์เอ่ยชม

“ขยันและตั้งใจทำงานนะลูก แม่อวยพรให้ลูกเจริญ รุ่งเรือง” เสียงมาจากคุณพรพรรณ พีคเข้าไปนั่งลงกราบ ที่ตักคุณพ่อและคุณแม่ ในโต๊ะเดียวกัน มีชายสูงอายุหนึ่ง คนนั่งอยู่ด้วยท่าทางน่าเกรงขาม แต่ใบหน้าเปื้อนไปด้วย รอยยิ้ม พีคคลานเข่าเข้าไปใกล้ และก้มลงกราบท่าน

“ตาขอให้หลานแข็งแรง มีมันสมองดีเยี่ยม รู้เท่าทัน คน คิดไตร่ตรองเสมอก่อนจะทำการอะไร แล้วให้ความ สำคัญกับพนักงานทุกคนเหมือนคนในครอบครัว ต้องรัก ดูแล และให้เกียรติเขานะลูก”

พีคก้มลงกราบรับคำ คุณตาตบหัวเบา ๆ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ