รักเธอนิรันดร์ สัญญาไม่ลืมเลือน

บทที่ 50 แผนลวงใจ : เจ้าสาวราคาแพงของท่านประธาน



บทที่ 50 แผนลวงใจ : เจ้าสาวราคาแพงของท่านประธาน

ผู้หญิงคนนี้ ไม่โอ้อวด ไม่แย่งชิง ไม่ใจร้อน ถึงแม้จะ เผชิญหน้ากับความตาย ก็จะตายอย่างสง่างาม

เธอคนนี้ก็คือ ลูกสาวคนโตของตระกูลวระกูล อารญา

วระกูล

ไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยเก่าหรือยุคสมัยนี้ ลูกสาวคนโต กับลูกชายคนโตล้วนเป็นลูกที่ครอบครัวรักที่สุด เพราะเป็น ลูกคนแรกของครอบครัว แต่ไม่ใช่สำหรับตระกูลวระกูล เพราะเธอคือลูกที่เกิดมาจากเมียน้อย แม่ของเธอคือนัก เต้นในงานสังสรรค์

ตั้งแต่เมื่อคืน มีข่าวใหญ่โตดังที่เมืองเวกัส ทายาท ตระกูลผู้ดีอย่างตระกูลอัคระกูลได้หย่ากับภรรยาคนที่หก ของเขา ตระกูลนี้ไม่เคยมีสะใภ้คนไหนอยู่ได้นาน และ คุณนายก็ได้ไปดูดวงที่วัดเพื่อที่จะมาแก้ไขเรื่องนี้

ความสำคัญของประเด็นอยู่ตรงนี้ คนที่ดูดวงให้กับ คุณนายบอกว่า ต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่นามสกุลมีคำว่า กูลเหมือนกันเท่านั้น ถึงจะไปกันรอด

เมืองเวกัสเป็นเมืองที่ใหญ่พอสมควร เศรษฐกิจเจริญ รุ่งเรื่องมาก ประชากรมากล้น คนที่มีคำว่ากูลในนามสกุล ย่อมมีไม่น้อย
หลังจากที่คุณนายฟังคำแนะนำแล้ว ก็กลับมาคิดวิธี หาลูกสะใภ้ที่เหมาะสมที่สุด

หลังจากที่ไตร่ตรองมานาน คุณนายตัดสินใจจัดงาน เลี้ยง เชิญทุกตระกูลที่มีนามสกุลคำว่ากูลมาร่วมงาน และ ให้ลูกชายของเธอเลือกคนที่เขาชอบที่สุด คนที่ถูกเลือก จะได้รับสินสอดเป็นเงินหนึ่งพันแปดร้อยล้าน

ไม่ใช่ใครก็ได้มาร่วมงานได้หมด แต่ต้องเป็นคนที่มี คำว่ากูลในนามสกุลเท่านั้น ทุกคนในเมืองต่างพูดถึงเรื่อง นี้กันใหญ่ ถึงจะเคยหย่ามาแล้วหกครั้ง แต่เพื่อเงินหนึ่ง พันแปดร้อยล้านแล้วทุกคนยอม

ประตูบานหนึ่งเปิดออก มีเสียงทะเลาะดังขึ้นมา

“คุณบ้าไปแล้ว คุณจะให้ลูกรินินของเราไปร่วมงาน ได้ไง คุณไม่รู้หรอว่าคุณประกรเขาเป็นคนเย็นชาขนาด

ไหน ? คุณส่งลูกลงนรกชัดๆ”

คนที่กำลังพูดคือคุณพลอยเป็นภรรยาของ พงพัน ว

ระกูล เธอเป็นคนที่ใจร้อนมาก

“คุณคิดว่าผมอยากหรอ? แต่ตอนนี้บริษัทเรากำลัง เจอปัญหา คุณประกรเขาไม่เคยอยู่กับใครได้นาน บางทีไม่ถึงสามเดือนก็หย่ากันแล้ว รินินแค่อดทนแปปเดียว เรา ก็จะได้เงินหนึ่งพันแปดร้อยล้านมาฟรีๆ

“คุณพูดง่าย แค่ให้ลูกอดทน แล้วก็ให้หย่ากัน? แล้ว ชีวิตหลังจากนั้นของลูกล่ะ?”

“จะทำไงได้ ก็เขาต้องการคนที่มีคำว่ากูลใน นามสกุล ตระกูลเราตรงพอดี”

“คุณยังมีลูกสาวอีกคนไม่ใช่หรอ? เรื่องยิ่งใหญ่แบบ

นี้ ไม่มีใครเหมาะสมเท่าอารญาแล้ว

ที่มุมห้อง มีผู้หญิงใบหน้าสวย ยืนฟังอยู่ เธอยิ้มที่มุม

คนที่ไม่เคยยอมรับเธอ ตอนนี้กลับมายอมแล้วสินะ

ในห้องรับแขกที่กว้างขวาง คุณพลอยปาดน้ำตา หัน หน้าไปทางอารญา ร้องให้มาเกือบจะครึ่งชั่วโมงแล้ว

“ญา ลูกก็รู้ว่าบริษัทของพ่อเขากำลังเจอปัญหา ทำให้ติดหนี้เยอะมาก ถ้าเรายังไม่รีบหาเงินมาคืน บริษัท

จะล้มละลาย พ่อของลูกก็จะติดคุก ‘

“ต้องการให้จับทำอะไร?”

ปาก
เธอถามด้วยความชัดเจน เธอไม่อยากเสียเวลามานั่ง ฟังเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้

คุณพลอยมองไปทางคุณพงพัน เขารีบพูดออกมา “ตอนนี้มีทางเดียวที่จะช่วยพ่อได้ ก็คือลูกต้องแต่งงานกับ คุณประกร ทายาทคนเดียวของตระกูลอัคระกูล แต่ว่า…”

เขาหยุดชะงักไปสักพัก

“ชื่อเสียงของเขาไม่ค่อยดี แต่นั่นเป็นแค่ข่าวลือ พ่อ เคยเจอเขาที่ห้าง เขาเป็นผู้ชายที่ดี มีความรับผิดชอบ และ หน้าตาดีมาก”

ถึงแม้ควรจะชินแล้ว แต่เธอก็ยังรู้สึกเจ็บที่หัวใจ เมื่อ ตะกี้ยังพูดกันอยู่ว่าคนนั้นเย็นชา พอมาตอนนี้กลายเป็นคน ที่ดีมีความรับผิดชอบ ถึงเธอจะเป็นลูกของเขา แต่เขาไม่ เหมาะสมกับการเป็นพ่อเลย

“เขาเคยหย่าถึงหกครั้งใช่ไหมคะ?

เธอถามด้วยสีหน้าเฉยชา การอยู่กับคนบ้านนี้มานาน ทำให้เธอปลงกับทุกๆเรื่อง

“ใช่”
คุณพลอยสะอื้น และกุมมือเธอไว้ “นี่คือสิ่งที่ฉันรู้สึก ผิดมาตลอด ฉันเป็นแม่เลี้ยงที่ไม่ดี ถ้าไม่ใช่เพราะรินินยัง เด็ก ฉันจะให้เธอทำหน้าที่นี้ได้ไง”

เหอะ เธอหัวเราะในใจ เด็กกว่าเธอแค่สามวันเอง ตอนนั้นแม่ของเธอกับคุณพลอยท้องพร้อมกัน คนหนึ่ง ท้องเดือนมีนาคม อีกคนเดือนเมษายน คนที่ท้องเดือน เมษายนคลอดก่อนกำหนด เลยคลอดก่อนคนที่ท้องเดือน มีนาคม จริงๆแล้วเธอควรจะเป็นลูกคนรอง แต่กลับกลาย เป็นลูกคนโต

พูดถึงลูกคนโต ไม่เคยมีแม้แต่วันเดียวที่เธอถูก

ปฏิบัติเหมือนลูกคนโต

“อืม ได้”

“เธอตกลงหรอ?”

สองคนนี้สีหน้ายิ้มแย้ม ไม่คิดว่าเธอจะตอบตกลง ได้เร็วขนาดนี้ ตอนแรกคิดว่าเธอจะไม่ยอม เลยจะแบ่งค่า

สินสอดให้ด้วยซ้ำ

“ใช่ พวกท่านเลี้ยงดูฉันมา ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่ฉัน

จะตอบแทน”
“ดูสิ สมกับเป็นครูจริงๆเลย รู้เหตุรู้ผล ถ้ารินินได้ครึ่ง ของเธอ ฉันคงจะดีใจมาก

ไม่ต้องหรอก ตอนนี้ก็ดีใจได้แล้ว

วันรุ่งขึ้น หน้าบ้านตระกูลวระกูล มีคนยืนส่งเธอเป็น

แถว

วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ตระกูลอัคระกูลคัดเลือกลูก สะใภ้ เธอแต่งหน้าแต่งตัวมาอย่างดี เหมือนกับดอกที่

กำลังบาน สวย สง่า ไม่มีที่เปรียบ

“เมื่อกี้ที่พูดไปไม่ได้ลืมใช่ไหม?

“ค่ะ”

“ดีแล้ว เรารอข่าวดีจากเธอนะ”

สิ่งที่คุณพลอยพูดก็คือ ไม่ว่ายังไง ก็ต้องทำให้ ตนเองถูกเลือกให้ได้ เธอจะทำให้ตนเองถูกเลือกแน่นอน

ด้วยวิธีของเธอเอง

รถกำลังจะขับออกไป คณพลอยยังคงกังวลเล็กน้อยกลัวเธอจะทำหน้าที่อันยิ่งใหญ่นี้ไม่สำเร็จ เลยพูดต่อว่า “ญา จำไว้สามข้อ ต้องใช้มารยาที่แม่เธอมายั่วพ่อเธอ ในตอนนั้น ต้องจำไว้ว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับความเป็นอยู่ของ ตระกูลเรา และข้อสุดท้ายคือต้องสำเร็จเท่านั้น ไม่สำเร็จ ไม่ล้มเลิก”

คำสุดท้าย เธอตะโกนออกมา

เล็บของเธอถูกบีบจนแทงเข้าไปในมือ แต่บนใบหน้า ของเธอนั้นนิ่งราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

คนขับรถของอารญาจอดรถไว้ตรงหน้าวิลล่าที่ หรูหราหลังหนึ่ง พื้นที่ประมาณหนึ่งพันตารางเมตร แสดงออกเลยว่าคนในวิลล่าหลังนี้ต้องมีเกียรติและเป็น มหาเศรษฐีแน่ๆ โดยเฉพาะธรณีประตูที่สูงๆนั้น มีผู้หญิง ไม่น้อยเลยที่ฝันอยากจะเข้าไป ถึงแม้ว่า ผู้หญิงที่เข้าไป แล้ว สุดท้ายจะออกมาทีละคนๆ

อารญามองออกไปทางหน้าต่าง มองดูรถที่จอดอยู่ หน้าประตู ดูเหมือนว่าถึงจะเป็นวันสุดท้ายแล้ว แต่ผู้หญิง ที่โชคดีนามสกุลคล้ายกับเขาก็มาไม่น้อย

“คุณหนูใหญ่เข้าไปเถอะครับ”
คนขับรถมาเปิดประตูให้เธอ แล้วทาทาเชิญลงมา

หลังจากที่เธอลงจากรถแล้ว ก็พูดเบาๆๆว่า “เรียกฉัน ว่าอารญา ถ้าคุณนายได้ยินแล้วนายจะโดนด่าเอานะ”

ตระกูลวระกูลไม่มีคุณหนูใหญ่ ตระกูลวระกูลมีคุณหนู เพียงคนเดียว คือรินิน

เสียงเพลงที่ดังออกมาจากวิลล่า เหมือนกับท้องฟ้า ที่มีห้าสี ผู้คนต่างก็คล้อยตามไปกับเสียงดนตรี อารญา ค่อยๆเดินตรงไปข้างหน้า แล้วถูกผู้ดูแลงานนี้สองคนพา เธอเข้าไป หลังจากที่เธอลงชื่อแล้ว เธอก็นั่งรอการเรียก ชื่อเหมือนผู้หญิงทุกคน

“เวลาที่จะได้พบใกล้จะถึงแล้ว ขอให้ทุกคนเตรียม ตัวด้วย หลังงานจบแล้วไม่ต้องรีบไปไหน ไม่ว่าจะถูกเลือก หรือไม่ถูกเลือก ในช่วงกลางวันคุณนายจะจัดงานปาร์ตี้ สําหรับทุกคน”

หลังจากพูดจบ ก็หยิบใบรายชื่อขึ้นมา แล้วเรียกชื่อ คนที่หนึ่ง “นาริน เชิญตามฉันมา

ผู้หญิงที่สวยหวานน่ารักเดินเข้าไปด้วยความตื่นเต้น แต่ว่ายังไม่ถึงสิบนาที เธอก็เดินออกมา เดินออกมาพร้อมกับได้รับความเหยียดหยาม…..

ต่อจากนั้น คนที่สอง คนที่สาม….ทั้งหมดนี้เดิน เข้าไปอย่างมีความสุข และเดินออกมาพร้อมกับร้องไห้ ทำเอาทุกคนที่กำลังจะเข้าไปกระวนกระวายไปหมด และ ไม่มีความกล้าที่จะเข้าไปต่อ

ในหมู่ผู้หญิงนี้ มีแต่อารญาที่เงียบสงบและมีสติ เธอ ไม่มีส่วนร่วมกับพวกเขาเลย ตอนที่พวกเขาคุยกันว่าจะทำ ยังไงกับความโหดร้ายนี้ดี เธอก็หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้ว ส่งข้อความไปหนึ่งข้อความ

ในที่สุดก็ถึงเธอ เธอมองดูสายตาของทุกคน แต่ก็ไม่ ได้รู้สึกว่าไม่ปลอดภัยอะไร หลังจากออกมา คนขับรถลุง ชินรออยู่ที่หน้าปรูตูแล้ว “คุณหนูครับ ของที่คุณหนูฝาก ผมซื้อครับ”

“ขอบคุณค่ะ”

เธอรับไป แล้วเข้าไปในห้องที่มืดมิดกับผู้ดูแล

ผ้าม่านถูกปิดสนิท สามารถปิดบังแสงที่ส่องเข้ามา จากข้างนอกได้ ในห้องให้ความรู้สึกว่าไม่สามารถหายใจ

ได้แต่ก็ไม่ถึงขั้นไม่มีอากาศหายใจเลย
ในมุมซ้ายของห้อง มีผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ หนังสีดำ ผมที่ดำและมันวาว คิ้วที่เรียวยาวแหลมคม ขนตาที่ยาว ริมฝีปากบางๆ เหมือนอินทรีย์ในยามราตรี เหมือนจะเยือกเย็นและเย็นชาแต่ก็เหมือนจะโหดร้าย ความรู้สึกแรกที่ให้ก็คือความใหญ่โตและมีอำนาจ

อารญาค่อยๆสำรวจเขา จากนั้นก็นั่งอยู่ตรงหน้าเขา แกะถุงพลาสติกในมือเธอออก แล้วนำกระดาษทิชชู่ถุง ใหญ่ออกมาไว้ตรงหน้าเขา

“ทำอะไร?”

การกระทำทุกๆอย่างของเธอไม่ค่อยชัดเจนเลย

ผู้ชายขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

“เดี๋ยวจะเอาไว้เช็ดน้ำตา”

เธอตอบกลับด้วยเสียงอ่อนๆ

ผู้ชายเงียบไปสักพักแล้วหัวเราะออกมา : “เธอคิดว่า ผู้หญิงทุกคนจะร้องไห้แล้ววิ่งออกไปหรอ?”

“แต่อย่างน้อยก็ไม่มีใครยิ้มแล้วเดินออกไป”

“นั่นเป็นเพราะฉับมีลำดาบ พายเขาตอบกลับลับด้วยคำตอบทีฉันไม่พอใจ”

“ผู้หญิงทุกคนเข้ามา ล้วนต้องตอบคำถามนาย

ทั้งหมดใช่ไหม?”

“ใช่”

อารญาพยักหน้า : “ได้ งั้นนายถามเถอะ”

“เธอรู้ไหมว่าฉันหย่ามาแล้วกี่ครั้ง?”

“หกครั้ง”

“งั้นเธอคิดว่าผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่สามรถจัดการกับ ปัญหาครอบครัว จะมีความสามารถไปดูแลบริษัทหนึ่งได้

ไหม?”

“ฉันคิดว่ามีความสามารถ เพราะความรู้สึกกับงานไม่

เหมือนกัน”

เธอตอบอย่างแน่วแน่และมั่นใจ ถึงแม้ความจริงแล้ว อาจจะไม่ใช่อะไรก็ตาม กับผู้หญิงข้างหน้าพวกนั้นแล้ว ช่างมีข้อเปรียบเทียบจริงๆ ประกรมองเธอไปแวบหนึ่ง แล้วถาม : “เธอชื่ออะไร?”
“อารญา”

“ออกไปเถอะ”

ไม่ได้พูดว่าเธอไม่ผ่าน แต่แค่ตะโกนออกไปข้างนอก ว่า “คนต่อไป”

“จะเลือกฉันไหม?”

เธอไม่ได้เดินจากไป แต่จ้องไปทางเขา แล้วถาม

ประกรรู้สึกสนใจ “ทำไมต้องเลือกเธอ? ให้เหตุผล

ฉันหน่อย?”

“ฉันมั่นใจว่าจะเป็นภรรยาคนสุดท้ายของคุณ”

‘เฮอะ ภรรยาคนสุดท้าย?” เขาหัวเราะ สายตาที่ ร้ายกาจ : “ยังไม่มีผู้หญิงคนไหนกล้าพูดอะไรบ้าๆแบบนี้ ต่อหน้าฉัน”

“ถ้าไม่เชื่อ สามารถลองดูได้ นอกจากว่านายจะกลัว ฉันมีความสามารถนี้จริงๆ”

ฮ่าๆ เขาหัวเราะหนักมาก ถูกเธอดึงความสนใจสะ

แล้ว : “ได้สิ ความกล้านี้ จับให้โอกาสเธอจะยับ แต่ว่าเธอต้องจำไว้ ที่จริงแล้วการเลือกไม่ได้มีความหมายกับฉัน เพราะ ฉันไม่มีใจที่อยากรักผู้หญิงเลย

หลังจากที่ประกรลุกขึ้นแล้วเดินจากไป อารณาถอน หายใจเยือกใหญ่ แล้วเดินตามออกไป

ณ ข้างนอก ผู้ดูแลที่พาเธอมาก็พาผู้หญิงอีกคนหนึ่ง เข้ามา พอเห็นประกร เขาก็ถามว่า : “คุณชายไม่เลือกแล้ว หรอครับ?”

“เธอละกัน”

มือของเขาชี้ไปทางข้างหลัง อารญาอึ้งไปซักพัก

เธอก็มองไปทางผู้หญิงคนที่เสียโอกาสไป ในตา ของเขามีแต่ความอิจฉา และมองเห็นถึงความยินดีและ ดีใจของผู้ดูแล เธอยิ้ม และไม่ได้แสดงออกว่าตกใจมาก

คุณอารญาคะ เชิญตามพวกเราเข้าไปในบ้านไปพบ คุณนายค่ะ”

อารญาพยักหน้า แล้วมองไปทางประกร จากนั้นก็ เดินตามผู้ดูแลเข้าไป….

นี่แหละข้ามขวงมาะสมสี ฉงช่วยเร็วออกสะใภ้แม่ของลูกก็ต้องเห็น

วิลล่าที่ดูเหมือนคฤหาสน์ขนาดใหญ่ โซฟาสีอ่อนๆ มีคุณนายที่ดูสง่านั่งอยู่ ไม่ค่อยเหมือนแม่ยายโหดร้ายที่ เป็นข่าวลือ บนหน้าของเธอมีแต่รอยยิ้ม

“คุณนายครับ คุณหนูคนนี้เป็นคนที่คุณชายเลือก

ครับ”

ผู้ดูแลรายงาน เธอลุกขึ้นแล้วสำรวจผู้หญิงข้างหน้า เธอ แล้วถามอย่างอ่อนโยนว่า “หนูเป็นลูกบ้านไหน?”

หนูเป็นลูกสาวคนโตของบ้านวระกูล หนูชื่อ อารญา

“ปีนี้อายุกี่ปีแล้วล่ะ?”

“24ปีค่ะ”

“เมื่อกี้ลูกชายฉันไม่ได้ทำให้ตกใจใช่ไหม?”

“ไม่ค่ะ ประกรไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นค่ะ”

คุณนายอึ้งจนตาโต แล้วถามอย่างมีความสุขว่า “หนู

ค่ะ”แม่ของลูกก็ต้องเห็น

วิลล่าที่ดูเหมือนคฤหาสน์ขนาดใหญ่ โซฟาสีอ่อนๆ มีคุณนายที่ดูสง่านั่งอยู่ ไม่ค่อยเหมือนแม่ยายโหดร้ายที่ เป็นข่าวลือ บนหน้าของเธอมีแต่รอยยิ้ม

“คุณนายครับ คุณหนูคนนี้เป็นคนที่คุณชายเลือก

ครับ”

ผู้ดูแลรายงาน เธอลุกขึ้นแล้วสำรวจผู้หญิงข้างหน้า เธอ แล้วถามอย่างอ่อนโยนว่า “หนูเป็นลูกบ้านไหน?”

หนูเป็นลูกสาวคนโตของบ้านวระกูล หนูชื่อ อารญา

“ปีนี้อายุกี่ปีแล้วล่ะ?”

“24ปีค่ะ”

“เมื่อกี้ลูกชายฉันไม่ได้ทำให้ตกใจใช่ไหม?”

“ไม่ค่ะ ประกรไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นค่ะ”

คุณนายอึ้งจนตาโต แล้วถามอย่างมีความสุขว่า “หนู

ค่ะ”ไม่กลัวเขาหรอ?”

“ไม่กลัวค่ะ เมื่อกี้หนูมีความสุขมากๆค่ะ”

“โอ้แม่เจ้า ดีมากเลย….” เธอดึงมือของอารญาไว้ แล้วพูดอย่างแน่วแน่ว่า “งั้นลูกชายฉันก็ต้องฝากหนูไว้ แล้วนะ ต่อจากนี้ถ้าหนูแต่งเข้ามา พวกเราทั้งบ้านจะยินดี มากๆเลยนะ”

“ขอบคุณ คุณนายค่ะ”

อารญาออกจากวิลล่าของประกร แสงอาทิตย์ส่อง เข้ามาจากข้างนอก เธอหลับตาลง แล้วพูดในใจเบาๆว่า :

คุณแม่คะ หนูทำได้แล้วค่ะ

ในที่สุดก็สําเร็จ เธอยิ้มแฉ่ง ได้แต่ชมตัวเองว่าดวงดี

ได้แต่งงานกับบ้านที่ดี

ได้แต่งานกับบ้านที่ดีไม่ได้แปลว่าจะได้สามีที่ดี ยิ่ง แต่งเข้าไปในบ้านดีๆ ก็ยิ่งไม่มีอะไรดี อารญาเคยฟังเอ๋พูด เธอได้แต่รู้สึกโหดร้าย

พวกเขาอยากให้เธอมีชีวิตที่ตกต่ำ แต่เธอกลับจะมี ชีวิตแบบสูงส่ง ต้องมีสักวัน เธอจะฉุดคนที่ขี่อยู่บนหัวเธอลงมาเหยีบบให้หมด

โรงแรมไดม่อนด์ งานแต่งของประกรถูกจัดขึ้นที่นี่

เจ้าสาวคือผู้หญิงที่สวยมาก ชุดแต่งงานสีขาวทำให้ เธอดูสง่าเรียบร้อย ในงานไม่ได้มีคนเยอะ แต่ทุกคนที่ไป ล้วนมีจำกัด ในงานแต่งไม่มีพิธีกร ในระหว่างที่บ่าวสาวยก แก้วดื่ม ถ้าไม่ใช่เพราะการแต่งตัวของเจ้าสาว ยังทำให้ รู้สึกเหมือนเป็นงานเลี้ยงบุฟเฟ่ต์เสียอีก

ประกรไม่ได้อยากจัดงานนี้ แต่คุณนายยืนยันว่าจะจัด แต่ถึงแม้ว่าลูกชายจะแต่งมาถึงเจ็ดรอบ แต่ลูกสะใภ้กลับ แต่งรอบแรก เธอไม่อยากทำให้ลูกสะใภ้คนที่เจ็ดลำบาก ใจ

พึ่งเจอหน้ากันเมื่อวาน ก็จัดงานแต่งแล้ว งานแต่งที่

ฟ้าแลบจริงๆ

“สวัสดีค่ะพี่สะใภ้ แนะนำตัวหน่อยนะคะ หนูชื่อใบ เฟิน เป็นน้องสาวของสามีพี่ในอนาคตค่ะ”

ข้างหน้าของอารญาจู่ๆก็มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งโผล่เข้า
“หวัดดิจ๊ะ” เธอตอบกลับด้วยรอยยิ้ม แค่เห็นรอบ แรกก็ชอบยัยเด็กนี้เข้าแล้ว

“พี่สะใภ้ดูแล้วสวยและมีความจริงใจมากๆค่ะ หวังว่า ครั้งนี้จะนานหน่อย….”

เธออึ้งไปสักพัก แล้วตอบกลับว่า : “นานหน่อย หมายความว่าอะไรจ๊ะ?”

“แฟนเก่าของพี่หนูเมื่อก่อนแต่งเข้ามาไม่กี่วันก็หย่า แล้ว ดังนั้นก็เลยไม่หวังว่าพี่จะอยู่กับเขาตลอดชีวิต แต่ นานหน่อยก็ดีค่ะ”

“แล้วคนที่นานที่สุดนี่นานเท่าไหร่จ๊ะ”

ใบเฟินเอียงหัวคิดแล้วคิด ยังไม่ทันตอบ ข้างหลังขอ งอารญาก็มีเสียงๆหนึ่งดังเข้ามา “คำถามนี้ ควรถามเจ้าตัว จะชัดเจนสุด”

บนใบหน้าที่หล่อเหลาของประกรแอบแฝงรอยยิ้มที่ ลึกลับอยู่เหมือนกับกำลังจะมีพายุเข้ามา ทำให้เธอไม่สา มาถหายใจได้

“นานสุดไม่เกิน3เดือน ดังนั้นพยายามสัมผัสช่วงเวลาดีๆนี้ให้ดี”

ท้องฟ้าหมุนเวียนไปถึงช่วงสุดท้าย ท้องฟ้าที่มืดมน ค่อยๆเลื่อนเข้ามา ค่อยๆเข้ามา

งานยังไม่ทันจบ อารญาก็ถูกประกรพาออกจาก โรงแรม พูดจริงๆก็คือ ถูกดึงออกมา

“นายจะพาฉันไปไหน?”

ยืนอยู่ข้างๆรถของเขา ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วย

ความสงสัย

“กลับบ้าน”

“แต่ว่าแขกยัง….”

เธอชี้ไปยังโรงแรมที่อยู่ข้างหลัง คำพูดยังไม่ทันพูด จบ : “เธอชอบอยู่ตรงนี้คอยดูสีหน้าที่สงสารเธอแบบนี้

ของพวกเขาหรอ?”

อารญาอึ้งมาก แล้วตอบกลับว่า : “ทางเลือกของฉัน

เอง ฉันไม่ต้องการให้ใครมาสงสาร”

แต่งงานกับผู้ชายอย่างลับ เธออกกำหนดไว้แล้วว่าต้องได้รับความสงสารจากคนอื่น”

ประกร เฮอะ ไปคำหนึ่ง ภายในตาไม่มีความเห็นใจ เลยสักนิด มีแต่ความสนุก

รถถูกขับมายังหน้าวิลล่าของประกร คนเฝ้าประตูได้ เปิดประตูเหล็กใหญ่ๆนี้ออก ทางซ้ายของประตูมีประโยค หนึ่งติดอยู่ ทำให้เธอคิดถึง คำโบราณที่เคยพูดไว้ว่า เข้า บ้านคนรวยแล้วออกยาก และต่อจากนี้ก็จะเป็นเพียงคน แปลกหน้า

ถึงแม้จะเป็นกาาแต่งงานครั้งแรก แต่ก็เคยร่วมงาน แต่งมาไม่น้อย แต่ก็ไม่เคยเห็นเลยว่าคู่บ่าวสาวจะออกจาก งานก่อนแขก เธอถอนหายใจ คงจะได้แต่งกับผู้ชายแบบ นั้นแล้วจริงๆ

หลังเธอเข้าไปในวิลล่า ประกรก็ไม่ได้ตอแยอะไรเธอ อีกแล้ว ทำเหมือนไม่มีอารญาอยู่ด้วยซ้ำ เขาไม่มองเธอ แต่ก็ไม่แปลว่าเธอจะไม่แสดงให้เห็นว่าเธอมีตัวตน

เธอเดินตามเขามาถึงห้องนอน ขณะที่ผลักประตู อารญาอึ้งจนตาโต

นี่คือห้องนอนในงานวันแต่งหรอ? นี่คงเป็นหลุมฝังศพไม่ใช่หรอ! นี่คือที่อยู่ของคนหรอ ? นี้คงเป็นที่อยู่ของ ไม่ใช่หรอ! เธอมองไปรอบๆ นอกจากขาวดำก็ไม่มีสีที่สาม

แล้ว

“เข้าห้องนอนเธอไป”

ประกรถอดเสื้อสูทออก แล้วโยนลงเตียง เขาอ่อนล้า

ไปทั้งร่างกาย

กลับห้องของเธอไป

อารญาทวนคำพูดนี้ แล้วถามด้วยความไม่แน่ใจว่า :

“พวกเราไม่ได้อยู่ด้วยกันหรอ?”

เขามองไปทางเธอ แล้วเดินไปต่อหน้าเธอ ถามกลับ ว่า : “ความถี่ในการแต่งงานของฉันแบบนี้ ถ้าอยู่ด้วยกัน ทุกครั้ง งั้นเตียงของฉันจะมีผู้หญิงมานอนแล้วกี่คน?”

“คิดไม่ถึงว่านายเองก็รักนวลสงวนตัวเหมือนกันนะ

“ไม่ใช่สักหน่อย ฉันแค่กลัวว่าจะทำให้เตียงของฉัน

สกปรก”

ลงไปผัดข้อ แล้วนย้อหน้า : แจ่า รู้ล่ะๆ แล้วห้อง

เนี่ย”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ