ตอน420ข่าวดีและข่าวร้าย
ตอนที่ 420 ข่าวดีและข่าวร้าย
นิเวศน์ได้แต่ซุกอยู่ที่อ้อมอกของต้นวิภา ราวกับว่าเขาทน ไม่ได้ที่จะต้องจากอ้อมกอดแสนอบอุ่นนี้ไป
จันวิภารู้สึกได้ว่ามีอะไรอุ่นๆที่อกของเธอ เธอคิดว่าคงจะ เป็นน้ำตาของนิเวศน์ที่ไหลออกมาเพราะไม่อยากจากเธอไป จากในความทรงจําของเธอ นิเวศน์ร้องไห้น้อยมาก
ผ่านไปสักพักหนึ่ง นิเวศน์ก็เงยหน้าขึ้นมา ใช้มือเล็กๆที่ แสนจะนุ่มนิ่มของเขาขยี้ตาที่ตอนนี้แดงจากการร้องไห้ เขา หันหน้าไปพูดกับสุพจน์ว่า “ในเมื่อตอนนี้แผนของนายก็สำเร็จ แล้ว ฉันมีเรื่องหนึ่งอยากจะขอร้อง
สุพจน์รู้สึกแปลกใจมากที่อยู่ๆนิเวศน์ก็มีเรื่องขอร้องเขา
แต่เขาก็ตอบนิ่งๆว่า “พูดมาสิ แต่ว่าทำได้หรือไม่ได้ ฉันยังไม่ ตกลงนะ”
สุพจน์พยายามไม่ให้ตัวเองมีพิรุธ นิเวศน์ตอบว่า “ฉันรู้ ว่าการที่หม่ามี้ต้องอยู่กับนายในครั้งนี้ทำให้ฉันคงไม่ได้คุยกับ เธออีกนาน ฉันเลยอยากคุยกับเธอหน่อย
สุพจน์พยักหน้า เป็นสัญลักษณ์ว่าเขาอนุญาต นิเวศน์ส่ายหน้า “ฉันอยากคุยกับหม่ามีสองต่อสอง นายอยู่ที่นี่แล้วฉันพูดไม่ออก
สุพจน์รู้ดีว่านิเวศน์เป็นคนขี้อายมาแต่ไหนแต่ไร น้อยมาก ที่เขาจะพูดความในใจออกมา ดังนั้นเขาก็เลยไม่ได้ใส่ใจอะไร มาก พยักหน้าตอบรับ แล้วก็เรียกให้เจ้าหัวล้านออกไปนอก ห้องพร้อมกับเขา
เดิมทีเจ้าหัวล้านอยากจะคัดค้านและบอกสุพจน์ว่าอย่าไป ให้โอกาสสองแม่ลูกนี้ ไม่งั้นคงได้ก่อเรื่องอีกแน่ แต่ว่า เนื่องจากที่เขาโดนด่าเมื่อกี้นี้ ทำให้เจ้าหัวล้านไม่กล้าพูดอะไร ได้แต่เดินตามสุพจน์ไป
หลังจากเห็นสุพจน์กับเจ้าหัวล้านเดินออกไปแล้ว นิเวศน์ ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก จากดวงตาที่แดงก่ำเมื่อกี้ก็ กลับมาเป็นประกายอีกครั้งหนึ่ง
นี่สินิเวศน์ตัวจริง
จันวิภาถามด้วยความสงสัย “นิเวศน์ ลูกมีเรื่องสำคัญ อะไรจะบอกหม่ามีเหรอ? ถ้าเกิดว่าคิดจะพากันหนีอะเลิกคิดไป ได้เลยนะ คฤหาสน์หลังนี้มีแต่ลูกน้องเขาเต็มไปหมด ยังไงเรา สองคนก็ไม่มีทางออกไปได้หรอก แล้วอีกอย่างที่นี่ก็ถูกตัด สัญญาณทั้งหมดแล้วด้วย ยังไงก็ไม่มีทางติดต่อโลกภายนอก ได้เลย”
นิเวศน์ได้แต่ส่ายหัว “หม่าม พูดเบาๆหน่อยสิ ผมไม่ได้มี แผนจะพากันหนีอยู่แล้ว ผมไม่ได้โง่ขนาดนั้นนะ
จันวิภามองหน้านิเวศน์อย่างไม่เข้าใจ “แล้วลูกจะพูดอะไร ล่ะ?”
นิเวศน์มองไปรอบๆ แล้วก็ล้วงมือลงไปหยิบนาฬิกาใน กระเป๋ากางเกงของตัวเองแล้วยัดใส่มือจนวิภา แล้วก็กระซิบ บอกเธอว่า “หม่าม ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าสิ่งนี้จะทำให้ติดต่อ หม่ามีได้ไหม แต่ว่านาฬิกาเนี่ยมีฟังก์ชันเยอะมาก แล้วก็ใช้ไม่ ยากเท่าไหร่ ถ้ามีเวลาก็ลองหาทางดูนะหม่า ยังไงก็ห้ามให้ มันรู้เด็ดขาด”
แน่นอนว่าคนที่เขาหมายถึงก็คือสุพจน์ ตอนนี้เขาไม่ได้ มองสุพจน์ในฐานะพ่อทูนหัวอีกต่อไปแล้ว
จันวิภากนาฬิกาคู่นั้นแน่น แล้วก็พยักหน้า “เข้าใจแล้ว ถ้าแม่มีโอกาสจะรีบติดต่อลูกไปนะ พอลูกกลับไปแล้วก็ช่วย ปลอบใจปะด้วยนะ บอกเขาว่า หม่ามีโดนบังคับ ในใจของ หม่ามี มีแต่เขา แค่เขาคนเดียวตลอดมา
นิเวศน์ยิ้มอย่างขมขื่น แล้วก็พยักหน้า “หม่ามีวางใจเถอะ ยังไงปะก็ต้องรู้อยู่แล้ว ผมกับปะจะทำทุกวิถีทางเพื่อพาหม่า มีกลับมา ใครหน้าไหนก็ห้ามครอบครัวสามคนของพวกเราไม่ ให้อยู่ด้วยกันไม่ได้
จันวิภารู้สึกซาบซึ้งจนคว้านิเวศน์มากอดไว้ที่อก จนเวลา ผ่านไปเนิ่นนานเธอถึงจะทำใจยอมปล่อยได้
“หม่ามี การที่หม่าจะอยู่ที่นี่ไม่ใช่วิธีที่ดีเลย เดี๋ยวปะก ต้องรู้ว่าหม่ามีหายไป แล้วเขาก็จะยิ่งกังวลเข้าไปอีก ผมต้องรีบกลับไปแล้ว หม่ามี ดูแลตัวเองด้วยนะ
สิ่งที่ควรพูดและสิ่งที่ควรทำ นิเวศน์ก็ได้ทำไปหมดแล้ว เขาก็ไม่ควรจะอยู่ที่นี่ต่อ ความจริงแล้วเขาอยากจะอยู่แบ่งปัน ความทุกข์กับจันวิภามากๆ แต่ว่าการทำแบบนั้นก็ไม่เกิด ประโยชน์อะไร
นอกจากอารมณ์โมโหเพียงชั่ววูบของนิเวศน์เมื่อกี้นี้ นิเวศน์ก็กลับมาเป็นคนใช้เหตุผลในการวิเคราะห์สถานการณ์ ต่างๆเหมือนเดิม
จันวิภาทำได้เพียงแค่มองเงาร่างบางๆของนิเวศน์เดิน ออกจากประตูไป เธอนั่งหดหูอยู่บนโซฟา โดยที่ไม่รู้เลยว่าสุ พจน์ได้เข้ามานั่งข้างๆเธอนานแล้ว
สุพจน์ไม่ได้แตะเนื้อต้องตัวจนวิภา เขาได้แต่มองจันวิภา
นิ่งๆพร้อมพูดเสียงเรียบว่า “ฉันทำสำเร็จแล้ว
จันวิภามองสุพจน์ด้วยสีหน้าเดียวกัน พร้อมกับยิ้มอย่าง
เยือกเย็นแล้วตอบว่า “ใช่ นายทำสำเร็จแล้ว สบายใจได้แล้ว
สุพจน์สับสน นี่เขามีความสุขจริงๆเหรอ? ที่จริงแล้วเขา ควรจะมีความสุข ในเมื่อจันวิภามาอยู่ข้างๆเขาแล้ว แต่ทำไม ถึงยังรู้สึกไม่มีความสุขอยู่ล่ะ นั่นก็เพราะว่าเขาได้แค่ตัวของ เธอมา แต่ใจของเธอ ยังคงอยู่ที่สุมิตร
การที่จะทำให้ในวิภามาเป็นของเขาทั้งตัวและหัวใจนั้นเขายังต้องทำอะไรอีกมากมาย เขาจำเป็นต้องฆ่าสุมิตรให้ ราบคาบ ทำให้สุมิตรหายไปจากโลกใบนี้
แต่ว่าถ้าทำแบบนี้แล้วจันวิภาก็อาจจะเกลียดเขาได้ และ เธอก็คงจะยังอาลัยอาวรต่อสุมิตร แต่อย่างน้อยก็ถือสุพจน์ หมดคู่แข่งแล้วนี่
พอคิดได้ดังนั้นสุพจน์ก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา เขาแทบทนไม่ ไหวที่จะสั่งให้ลูกน้องไปฆ่าสุมิตรซะ พอคิดได้แบบนี้แล้ว เนื้อ ตัวเขาก็สั่นเทาไปด้วยความตื่นเต้น สายตาเต็มไปด้วยความ อิจฉาและอาฆาต
เจ้าหัวล้านมาส่งนิเวศน์ที่ด้านนอกคฤหาสน์ของธนภาค ตอนที่เขาเปิดประตูเข้าคฤหาสน์ไป ก็ทำให้ทุกคนช็อคไปเลย
สุมิตรรีบหยิบโทรศัพท์โทรหาฉันวิภาเพื่อบอกข่าวดี แต่ ว่าเขาก็ถูกนิเวศน์ยั้งไว้ก่อน
“ปะ หม่ามีไปที่บ้านของสุพจน์ เพื่อแลกตัวผมกลับมา
นิเวศน์พูดประโยคนี้ออกมาด้วยความละอายใจ พอเขา เห็นว่ามือของสุมิตรสั่นเทา จนปล่อยโทรศัพท์ในมือตกลงไปที่ พื้น แล้วมองนิเวศน์ด้วยสายตาที่คาดไม่ถึง
เขาหวังว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นการเล่นพิเรนทร์ของนิเวศน์ ตั้งแต่ต้น หวังว่าในเมื่อตอนนี้นิเวศน์กลับมาแล้ว จันวิภาก็อยู่ ที่นี่ด้วย แต่เมื่อคิดย้อนไปถึงท่าที่ผิดปกติของจันวิภาเมื่อกี้นี้ทุกอย่างก็ดูสมเหตุสมผล
มองดูสีหน้าที่ช็อคของสุมิตรแล้ว นิเวศน์ก็พูดออกมา เสียงเบา “ปะ ผมขอโทษ มันเป็นความผิดของผมเอง ผม ทำให้หม่ามีต้องแยกจากปะไป
สุมิตรไม่อยากจะแสดงท่าที่ดุร้ายออกมาให้ลูกชายเห็น เขาได้แต่ส่ายหน้าพร้อมพูดว่า “นี่ไม่ใช่ความผิดของลูกหรอก อย่าโทษตัวเองเลย ไม่ว่าเรื่องราวจะเป็นยังไง แค่ลูกกลับมาก็ ดีมากแล้ว”
“แล้วเราจะทำยังไงกับหม่ามีดีล่ะปะ?”
“จันวิภาไม่น่าจะโดนอะไรหรอก ถึงแม้ว่าครั้งนี้สุพจน์จะ ทำเกินไป แต่ว่ายังไงเขาก็ไม่มีวันลงไม้ลงมือกับจันวิภาแน่นอน เพียงแค่เธอจะไม่มีอิสระเท่านั้นเอง ยังไงปะก็ต้องหาทางช่วย หม่ามีออกมาให้ได้
สุมิตรรู้สึกเหนื่อยล้าอย่างมาก เขาพิงศีรษะลงกับโซฟา ทันทีที่เขารู้เรื่องกันวิภา สภาพเขาก็ดูอิดโรยราวกับคนชรายัง ไงยังงั้นเลย สิ่งนี้ทำให้นิเวศน์รู้สึกปวดใจอย่างมาก
“แล้วก็ ปะปี เป้าหมายของสุพจน์ไม่ใช่แค่ได้ตัวหม่ามีไป แล้วจะจบ ปะต้องระหว่างหน่อยนะ เกี่ยวกับเรื่องตัวตนของ ตัวเอง…………
ความจริงแล้วนิเวศน์รู้มาโดยตลอดว่าสุมิตรเป็นหัวหน้า แก๊งมาเฟีย แต่ว่าเขาพยายามที่จะไม่หลุดพูดมันออกไป
“ตัวตนของปะปี้เหรอ?” สุมิตรถามออกมาด้วยความ
สงสัย
นิเวศน์ค่อยๆพยักหน้า “เรื่องตัวตนที่ปะเป็นหัวหน้าของ แก๊งมาเฟียไง สุพจน์รู้เรื่องหมดแล้ว อันนี้หม่ามีเป็นคนบอกผม มา หม่ามีฝากบอกให้ปะประวังตัว เพราะว่าเขามีสิทธิจะใช้ เรื่องนี้มาโจมตีปะป๊
วินาทีนั้นสุมิตรรู้สึกใจหาย เพื่อที่จะปกป้องความสงบสุข ของนิเวศน์และจันวิภา เขาจึงพยายามปกปิดตัวตนนี้มาโดย ตลอด แต่ไม่คิดเลยว่าสุดท้ายจะมีคนรู้ความจริงเข้าจนได้
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ