พิชิตใจนายปีศาจ

ตอน313การลักพาตัวอย่างแท้จริง



ตอน313การลักพาตัวอย่างแท้จริง

ตอนที่ 313 การลักพาตัวอย่างแท้จริง

“เจอกัน

เมื่อประสบความสําเร็จในการล้อเลียนธนภาค จนวิภา ออกจากห้องไปอย่างมีความสุข

เธอหนีออกมาโดยไม่บอกสุพจน์ ไม่รู้ว่านิเวศน์ที่อยู่บ้าน จะเป็นอย่างไรบ้าง แล้วก็ไม่รู้ว่าสุพจน์รู้สึกอย่างไรที่เธอมาหา มิตรโดยไม่ได้รับอนุญาต ที่สำคัญกว่านั้น หลังจากที่เธอกลับ ไปต้องเผชิญกับอะไร สุพจน์จะให้เธอออกมาอีกครั้งหรือเปล่า

แต่เมื่อนึกไปถึงสุมิตรที่ตอนนี้กำลังนอนอยู่บนเตียง ไม่รู้ เป็นตายร้ายดี แล้วก็ไม่รู้ว่าเมื่อไรเขาจะตื่นขึ้นมาอีก ทันใดนั้น อารมณ์ที่ผ่อนคลายและมีความสุขของฉันวิภาก็ค่อยๆ หน่วงลง มันหนักขึ้นมาก

บ้านของสุพจน์นั้นแน่นอนว่าจันวิภาไม่สามารถกลับไปได้ หลายปีมานี้จนวิภารู้จักสุมิตรดี รู้ว่าเขาเป็นคนมีหลักการ แข็งแกร่ง เมื่อเขาไม่อนุญาตเรื่องไหนมันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะ ฝ่าฝืนอีก ซึ่งจุดนี้มันสัมพันธ์กันกับความหัวรั้น

แต่ถ้าจนวิภาไม่กลับไป นิเวศน์จะทำยังไง แล้วเธอจะไป

อยู่ที่ไหนได้
สุพจน์เพ่งเล็งพียงแค่เรื่องที่เธอไปหาสุมิตร คงจะไม่เกี่ยว กับนิเวศน์มากนัก นอกจากนั้นนิเวศน์ยังเป็นลูกบุญธรรมของ เขา นิเวศน์อยู่บ้านนั้นก็คงจะไม่มีอะไรหรอกมั้ง

จนวิภาเดินข้างถนนอย่างกังวลไปด้วยและคิดไปด้วยว่าจะ ไปอยู่ที่ไหนดี

ในขณะที่กำลังคิดเกี่ยวกับปัญหาในวิภาก็ไม่ได้ทันสังเกต เห็นรถที่ตามหลังมา ดังนั้นเมื่อรถมาหยุดอยู่ข้างๆ เธอจึงไม่ได้ มีการระแวดระวังมากนัก

เมื่อวันวิภาได้สติขึ้นมา ก็ถูกสองชายชุดดำกระโดดลง จากรถมาขนาบทั้งซ้ายขวาแล้ว

ลักพาตัวอีกแล้วเหรอ!

ปฏิกิริยาแรกของจันวิภาคือความคิดนี้ ส่วนปฏิกิริยาที่ สองคือมันจะเป็นวิธีที่สุพจน์บังคับให้เธอกลับใช่หรือไม่

ใกล้โรงพยาบาลเหมือนกัน เป็นตอนกลางคืนเหมือนกัน และเป็นรถสีดำยาวกับคนชุดสองคนเหมือนกันด้วย จิตใต้สำนึกของจันวิภาสงสัยว่านี่คือการกระทำของสุพจน์

นี่เป็นครั้งที่สองแล้ว ทำไมพวกเขาไม่พาเธอกลับบ้านไป ด้วยวิธีที่ละมุนละม่อมกว่านี้หน่อย อย่างไรก็ตามมีบอดี้การ์ด สองคนคอยดูอยู่ แน่นอนว่าเธอก็วิ่งหนีไม่ออก

เธอไม่ใช่คนโง่ จะไม่ต่อต้านทั้งที่ไร้ทางสู้ สำหรับการ เชิญคนกลับนี้มีแต่วิธีการลักพาตัวงั้นเหรอ
และในคราวนี้คนก็ยิ่งโหดร้ายและไร้ความปราณียิ่งกว่า

เก่า

แขนของฉันวิภาถูกสองคนนั้นจับจนเจ็บ เกือบจะเป็นการ โยนเข้าไปในรถ สิ่งแรกที่ขึ้นรถมาคือเธอถูกปิดปากแถมยังมี การมัดมือและเท้าของเธออีก ทำทั้งหมดเสร็จในเวลาเพียงครู่ เดียว และจากนั้นสองบอดี้การ์ดก็เอาถุงผ้าสีดำคลุมศีรษะเธอ ปิดท้าย

ดวงตาของฉันวิภามืดมาก ตอนนี้เธอพูดไม่ได้ มันต้องถึง ขนาดนี้เลยเหรอ ครั้งนี้ถึงขนาดเอาถุงมาเล่น หรือว่าครั้งก่อน ไม่เป็นมืออาชีพ พอ คราวนี้จึงทำให้ดูมีสีสันแห่งความจริงจัง ขึ้นมาอีกหน่อย

มันเป็นคำสั่งของสุพจน์ หรือเพราะวิสัยที่ไม่ดีของคนเหล่า นี้ จันวิภาล้วนไม่สามารถเข้าใจได้

อย่างไรก็ตาม ในวิภาไม่ได้คาดหวังเอาไว้ว่าสิ่งที่เธอ สงสัยในครั้งที่แล้วมันจะเป็นจริงในครั้งนี้

ว่ากันอีกนัยหนึ่งก็คือครั้งก่อนที่เธอคิดว่าถูกลักพาตัว มัน ไม่ใช่การลักพาตัว มันเป็นเพียงวิธีที่สุพจน์จะเชิญเธอกลับไป เท่านั้น

คราวนี้จนวิภารู้สึกไม่ดีเกี่ยวกับการลักพาตัว เพราะมันคือ

การลักพาตัวอย่างแท้จริง…….
อีกด้านหนึ่ง คนของสุพจน์นั่งอยู่ในรถรอจนวิภาออกมา ใกล้กับโรงพยาบาล หลังจากที่จันวิภาออกมา พวกเขาเพิ่งได้ รับข้อความจึงมองตรงไปทางนั้น

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่พวกเขาไม่ได้คาดหวังคือรถของพวก เขาที่จอดอยู่ข้างถนนยังไม่เริ่มขยับ ก็มีรถอีกคันที่จอดอยู่ที่นั่น เป็นเวลานานขับตามหลังจนวิภาไปแล้ว และมีสองคนกระโดด ออกมาจากรถจับจนวิภาขึ้นรถไปอย่างรวดเร็ว

ดูการกระทำแล้วเป็นมืออาชีพ

ลูกน้องของสุพจน์เห็นฉากนี้ก็รู้ทันทีว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ พวกเขาไม่ได้สับสน สั่งให้คนขับรถตามไปก่อนที่จะได้รับคำสั่ง ต่อไปจากสุพจน์ และพยายามไม่แหวกหญ้าให้ตื่น

อีกคนใช้โอกาสนี้โทรออกหาสุพจน์

อีกด้านหนึ่งของเมือง วิลล่าของสุพจน์

“นายพูดว่าอะไรนะ! ฉันวิภาถูกลักพาตัวไปงั้นเหรอ” สุ พจน์รับโทรศัพท์ หลังจากที่ได้ฟังรายงานจากคนของเขาก็ ร้อนรนมากจนอยู่ไม่ติดที่แถมสีหน้ายังโกรธจัด

หลังจากปลายสายยืนยันมาอีกครั้ง ใบหน้าของสุพจน์ก็

กลายเป็นสีดำ เขาสีหน้าหนักหน่วง เริ่มเดินไปเดินมาอย่าง หงุดหงิดในห้องหนังสือ เขารีบถามอย่างรวดเร็ว “พวกนาย

ไหมว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน

“รู้ครับ ตอนนี้พวกเราตามรถคันนั้นอยู่…” ปลายสายตอบกลับมา

ได้ยินคำพูดนั้นแล้วสุพจน์ก็วางใจลงเล็กน้อย จิตใจเขา สงบลงและเรียบเรียงอย่างใจเย็น “ทำได้ดี ตอนนี้พวกนาย ตามมันไปเงียบๆ อย่าแหวกหญ้าให้ตื่น! แล้วพวกนายก็มา แจ้งที่อยู่กับฉัน เดี๋ยวฉันจะรีบไป! ติดต่อมาทางมือถือ รายงาน ตลอดเวลาเข้าใจไหม!

“รับทราบครับนาย!” ปลายสายตอบกลับมาอย่างแข็งขัน หลังสั่งจบสุพจน์ก็หยิบเสื้อโค้ต ถือโทรศัพท์มือถือในมือ แล้วกระชากประตูเปิดออกไปอย่างแรง

นิเวศน์ได้ยินเสียงจึงโผล่หน้าออกมาจากห้อง ดวงตา

ลึกล้ำ

เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ว่าเขาน่าจะรู้ได้ในไม่ช้า

ส่วนทางด้านนวิภาที่ศีรษะถูกคลุมอยู่ ไม่สามารถบอกได้ ว่าตอนนี้ตนอยู่ที่ไหน รถได้ขับมาประมาณครึ่งชั่วโมงแล้ว มัน เกือบจะเป็นระยะทางใกล้เคียงกับวิลล่าของสุพจน์ เห็นอย่างนี้ แล้วจันวิภาก็มั่นใจมากขึ้นว่านี่คือฝีมือของสุพจน์

ดังนั้นแม้ว่าจะถูกพวกเขาผลักอย่างรุนแรง จนวิภาก็ไม่ได้ ใส่ใจ เพราะว่าเธอรู้ บางทีมันอาจเป็นเพียงการกระตุ้นที่สุพจน์ จะต้องการล้อเธอเล่น ดังนั้นในวิภาจึงรู้สึกผ่อนคลายลง

สองคน ด ดูเหมือนจะพาเธอเข้าไปในลิฟต์ ตอนแรกจันวิภาสับสนว่าไม่ได้กลับไปที่วิลล่าของสุพจน์หรอกเหรอ ทำไมถึงเป็นอาคารที่มีลิฟต์ได้ล่ะ

แม้ว่าใจจะงง

สงบลง

แต่ด้วยความเชื่อมั่นในสุพจน์

จันวิภาจึง

และหลังจากมาถึงจันวิภาก็รู้ว่าเวลานี้ตัวเองไร้เดียงสา และไม่รู้เรื่องรู้ราวแค่ไหน

หลังจากรอมาประมาณสามนาที ในที่สุดลิฟต์ก็มาถึง ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออกก็เธอถูกผลักไปอีกไกล เดินไปและ เดินไป ทางข้างหน้าเป็นทางต่างระดับ ในตอนแรกจนวิภา สะดุดจนเกือบล้ม หากเธอไม่ได้คนที่อยู่ข้างๆ พยุงไว้ จนวิภา คงล้มลงหน้าจิ้มพื้นแน่

หลังจากนั้นก็มีเสียงดุร้ายและใจร้อนดังขึ้นมาจากด้าน ข้าง “ขึ้นบันไดอยู่นะ ระวังหน่อยสิ

เมื่อวันวิภาถูกตะคอกใส่หัวใจก็เริ่มไม่พอใจ นายไม่เตือน ฉันแต่แรกละแล้วจะมาโทษใคร! ถ้าปากไม่ถูกปิดจันวิภาจะหัน ไปด่า


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ