ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน

ตอนที่ 234 รูบิคของความรัก



ตอนที่ 234 รูบิคของความรัก

หึ ไวภพมองเธออย่างไร้อารมณ์ อะไรคือการต่อรอง ขนาดนี้แล้วก็ยังมาต่อรอง “ถ้าถึงจุดนั้นแล้วคุณไม่เอะอะ โวยวายตีโพยตีพายล่ะก็ ผมยอมเปลี่ยนไปใช้นามสกุล คุณเลย!”

“อ๊ะ นั่นก็เป็นชื่อนามสกุลที่ฟังดูดีนะ…” ชื่นใจวิ่งตาม เขาไปที่ห้องนอน

ทัตดาร่วมมือกับชุดาอย่างเป็นทางการ พวกเขาต่อต้าน ปยุตอย่างไร้ศีลธรรม ในที่สุดผลินก็ทนไม่ได้อีกต่อไป ไปที่ออฟฟิศของปยุตด้วยความโมโห โยนกองเอกสาร ในมือไปตรงหน้าเขา “คุณดูสิ คุณดูนี่ พันธมิตรในเครือ ตลาดของพวกเราหลายแห่งได้รับความเสียหายอย่าง ประสงค์ร้าย เห็นได้ชัดว่าเป็นกลุ่มของทัตดา คุณจะอยู่ เฉยไม่ทำอะไรเลยเหรอ”

“ใครบอกว่าผมอยู่เฉย ๆ เมื่อสองวันก่อนสินค้าจากทัต ดาที่ส่งไปยังรัสเซียพบว่ามีสินค้าต้องห้ามที่กรมศุลกากร เธอสูญเสียเงินไปหลายร้อยล้านดอลลาร์”

“แล้วชุดาล่ะ ตอนนี้เธอมีปัญหากับเราแล้วได้ท่าน นภันต์คอยสนับสนุนอย่างเปิดเผย คุณจะทำอะไรกับเธอ สุนัขถูกตีขึ้นอยู่กับเจ้านาย ถ้าคุณจัดการกับเธอแน่นอน ว่าท่านนภันต์ต้องไม่ยอม ตอนนี้มีทางเดียว คือบอกท่าน นภันต์ว่าชนัยเป็นเรื่องลูกชายของเขา ให้ท่านนภันต์หยุด ผู้หญิงคนนั้นจากการกระทำที่ชั่วร้าย”

“ทำไมคุณถึงเอาแต่พูดถึงชนัย นอกจากชนัยเราไม่มีอาวุธที่เป็นประโยชน์อื่น ๆ แล้วเหรอ”

“คุณอยากบอกอะไรฉัน ตอนนี้คุณกำลังต่อสู้กับศัตรู ทั้งต่อหน้าและลับหลัง พวกเขาเดินทั้งในที่มืดและที่สว่าง วิธีไหนก็ไม่มีทางสู้กลับได้

“คุณไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องพวกนี้ ผมจะแก้ปัญหาเอง คุณ ไปก่อนเถอะ”

“เห็นได้ชัดว่าสามารถแก้ปัญหาได้ทันที คุณต้องเด็ด ขาด ชนัยเขาเจาะคุณก็ตามไปเจาะ ตราบใดที่ท่าน นภันต์รู้ว่าชนัยคือลูกชายของเขา เขาก็กลายเป็นคนของ พวกเรา เมื่อถึงเวลานั้นเราได้ร่วมมือกัน เอาชนะทัตดา และให้ท่านนภันต์หย่ากับชุดา หลังจากนั้นก็จะไม่มีอะไร เกิดขึ้นอีก มันไม่ดีเหรอ”

“คุณรู้สึกดีขึ้น แล้วชนัยล่ะ เขารู้สึกดีขึ้นไหม คุณไม่ได้ ไปหาเขามาแล้วเหรอ เขาก็บอกคุณชัดเจนแล้วว่ามันเป็น ไปไม่ได้ที่เขาจะไปรู้จักท่านภันต์พ่อคนนี้ คุณยังต้องการ อะไรอีก”

“เขาปฏิเสธเพราะในหัวใจของเขามีอคติ มีเพียงท่าน นภันต์เท่านั้นที่สามารถกำจัดอคตินั้นได้ แต่คุณไม่ได้ บอกใคร แล้วใครจะมีโอกาสกำจัดอคติในหัวใจลูกชาย

“คุณไม่ควรพูดอย่างกล้าหาญเที่ยงธรรมเหมือนว่าพ่อ และลูกชายรวมตัวกันเป็นครอบครัวแล้วมันจะดี ใน ความเป็นจริงผมไม่อยากใช้โอกาสนี้ในการดึงดูดท่าน นภันต์ มันเห็นแก่ตัว!”
ผลินโกรธมาก เธอกระทืบเท้า “คุณสิเห็นแก่ตัว มอง ดี ๆ เหมือนว่ามีความชอบธรรมเคารพการตัดสินใจของ พี่น้อง แต่ในความเป็นจริงคือกำลังกีดกันความสัมพันธ์ พ่อลูกที่เลือดข้นกว่าน้ำ สำหรับคนที่ดีจริง ๆ น่าจะช่วย ให้เขาพบญาติของเขาแทนที่จะช่วยให้เขาอยู่ห่างจาก ครอบครัวของเขา!”

“คุณกำลังแสดงละครโทรทัศน์อยู่เหรอ ช่วยเหลือคน ที่มีความเข้าใจผิดต่อกันเปลี่ยนศัตรูให้เป็นมิตร ฟังดู เหมือนว่ามันน่าประทับใจ แต่คุณต้องคิดให้ออก ว่ามัน เป็นความจริงไม่ได้กำลังถ่ายละคร!”

“ละครก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ตอนที่คุณมีปัญหากับ คุณพ่อคุณแม่เพราะพ่อแม่ของจันทร คุณขู่ว่าจะไม่กลับ บ้านอีก ตอนนั้นฉันเคารพการตัดสินใจของคุณไม่ใช่เห รอ โบยบินไปด้วยกัน โดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกของคุณ พ่อคุณแม่ นั่นหมายความว่าฉันรักคุณใช่ไหม”

“คุณคิดให้ดีก่อนตอบ ฉันขอเตือนคุณเป็นครั้งสุดท้าย คุณสามารถกลั้นหายใจได้ แต่ฉันทนไม่ไหวแล้ว ถ้าคุณ ไม่พูดฉันจะพูดเอง!”

“คุณกล้า! ”

ผลินไปที่ประตู ไม่เต็มใจที่จะหันหลังกลับ “มีอะไรที่ฉัน ต้องกลัว เราจะได้เห็นกัน!”

ปยุตไม่ได้ใส่ใจคำพูดของผลิน จนกระทั่งสามวันต่อมาเขาได้รับโทรศัพท์จากท่านนภันต์

เขาไปที่บ้านของคุณนภันต์หลังเลิกงาน ท่านนภันต์ยื่น จดหมายนิรนามส่งให้อย่างใจเย็น “ดูนี่สิ

เขาลังเลชั่วครู่ ค่อย ๆ รับมา อาจเพราะกลัวว่าลายมือ จะถูกเปิดเผย ตัวอักษรนั้นจึงพิมพ์ออกมาจากเครื่องพิมพ์ “สวัสดีท่านนภันต์ ขออภัยที่ไม่สามารถแสดงตนลือกที่ จะเขียนถึงคุณในการแจ้งเรื่องสำคัญบางอย่าง ลูกชาย ที่คุณกำลังตามหาคือคุณชนัยผู้ช่วยฝีมือดีของคุณปยุต ทรัพยสาน เขาเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมเลเซอร์เมื่อปี ที่แล้วเนื่องจากเขามีอคติบางอย่างเกี่ยวกับคุณ ถ้าคุณ ต้องการที่จะกอบกู้หัวใจของลูกชายคุณ กรุณาหย่ากับชุ ดาก่อน แล้วใช้ความรู้สึกที่แท้จริงเพื่อเปลี่ยนเขา…

สีหน้าของปยุตจมลงทันที ท่านนภันต์ถามเขาว่า “มัน เป็นความจริงเหรอ ชนัยเป็นลูกชายของผมจริง ๆ เหรอ”

เขาไม่ได้ตอบคำถามของเขา แต่ลุกขึ้นยืนด้วยความ โกรธ “ท่านนภันต์ครับ เดี๋ยวผมจะตรวจสอบเรื่องนี้ให้ คุณ ตอนนี้ผมมีเรื่องด่วน ขอตัวก่อน”

เขารีบหุนหันออกจากอพาร์ตเมนต์ของท่านนภันต์ รีบ กลับบ้านด้วยความฉุนเฉียว ที่คฤหาสน์นภานั้นคุณนาย ท่านมีธุระบางอย่างต้องออกไปทำ เหลือเพียงผลินและ น้องสามีอยู่ในบ้านสองคน

เขาเดินอย่างรวดเร็วไปตรงหน้าผลิน จับแขนเธอและ ดึงเธอขึ้น นั่นทำให้น้องสาวตกใจ ถามสั้น ๆ ว่า “พี่คะ เกิด ๆ อะไรขึ้น”
ปยุตไม่สนใจเธอ แต่ถามผลิน “ความจริงเป็นคุณใช่ ไหมที่บอกท่านนภันต์เกี่ยวกับเรื่องของชนัย”

ผลินดวงตาเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ ส่ายหน้า ตกใจ “ฉันไม่ได้ทำ

“คุณยังไม่ยอมรับอีกเหรอ คุณไม่ได้บอกเหรอว่าให้ ผมคอยดู ผมได้เห็นมันแล้ว ผลิน คุณเป็นคนดีจริง ๆ ท้าทายบรรทัดฐานของผมด้วยการส่งจดหมายนิรนาม แต่ละบรรทัดเต็มไปด้วยความชอบธรรม ให้เขาหย่ากับ ชุดา แล้วยังให้เขาใช้ความรู้สึกที่แท้จริงต่อชนัย คุณ คิดว่าคุณเป็นสิ่งมีชีวิตที่เป็นเจ้าแม่กวนอิมกลับชาติมา เกิดงั้นเหรอ!”ผลินได้สติขึ้นมาจากอาการช็อก แก้ตัว ด้วยความกังวล “ฉันไม่ได้ส่งจดหมายนิรนามอะไรนั่นนะ ทำไมคุณถึงเอาแต่ไม่เชื่อฉันล่ะ”

“คุณจะให้ผมเชื่อคุณได้ยังไง นอกจากคุณกับผมก็ไม่มี บุคคลที่สามรู้เรื่องนี้ งั้นเป็นชนัยเหรอที่ส่งไปด้วยตัวเอง”

ปยุตเพิ่มระดับเสียง ผลินคับข้องใจจนอยากตาย “ฉัน บอกว่าไม่ได้ทำก็คือไม่ได้ทำ ถ้าคุณไม่เชื่อฉันก็ช่วยไม่ ได้!”

ตอนนี้ถ้ามีร้อยปากเธอก็จะบอกว่าไม่ได้ทำ ใครใช้ ให้เธอพูดในออฟฟิศของปยุตในวันนั้นเหมือนเป็นการ กระโดดลงไปในแม่น้ำฮวงโห มันแค่เจตนาที่จะทำให้เขา โกรธ และไม่ได้ตั้งใจจะบอกท่านนภันต์จริง ๆ เธอไม่ใช่ คนแบบนั้น เธอคิดว่าปยุตจะเข้าใจในตัวเธอ

“ผมเตือนคุณแล้วว่าบอกไม่ได้บอกไม่ได้ แต่คุณก็ดื้อรั้นกับผมถ้อยคำเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา ตอนนี้ชนัยจะต้อง คิดว่าผมผิดสัญญากับเขา ว่าผมไม่น่าไว้ใจ ผลิน คุณรู้ ไหมว่าคุณทำลายความไว้วางใจและมิตรภาพของพวก เราที่มีมากกว่าสิบปี!”

“ฉันไม่ได้ทำอย่างนั้น คุณต้องการให้ฉันพูดอะไร”

“มาถึงขั้นนี้แล้วคุณยังปากแข็มอยู่อีกเหรอ ผมจะ ทำความสะอาดความเละทะในทัศนคติของคุณได้ยังไง กัน”

หึ ผลินไม่ได้พูดอะไรมากอีก มันเป็นเรื่องยากที่จะพูด จู่ ๆ เธอก็สะบัดมือหลุดจากมือของปยุต พูดรอดไรฟันว่า “ใช่ ทั้งหมดนั่นฉันทำเอง ฉันผิดไปแล้ว ได้โปรดทำความ สะอาดความเละเทะให้ฉันด้วยเถอะ!”

เธอหันหลังและวิ่งออกไป ปยุตจับเธอไว้ “คุณกำลังจะ ไปไหน ทำผิดแล้วยังมีเหตุมีผลอีกเหรอ”

“ปล่อยฉัน”

เธอเสียใจมาก และโกรธมาก ปยุตใส่ร้ายเธอ จึงวิ่งออก จากบ้านไปโดยไม่หันกลับมา

ปาณีที่นิ่งไปด้วยความงุนงงหันเปลี่ยนทิศทางมาหา เขา รีบเร่งพูดว่า “พี่คะ รีบไปตามไปสิ พี่สะใภ้หนีไปแล้ว นะ…. ”

“ชอบวิ่งนักก็ให้เธอวิ่งไป…
ปยุตเสียงเย็น หันหลังกลับและเตรียมที่จะขึ้นไปข้างบน “พี่คะ เป็นฉัน จดหมายนั่นฉันส่งเอง เป็นฉันที่บอกความ ลับ”

ปยุตหันหลังกลับอย่างไม่อยากเชื่อ “แกพูดว่าอะไรนะ”

ปาณีขบฟัน ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงและพูดว่า “ที่ท่าน นภันต์ได้รับจดหมายนิรนามเป็นฉันที่ส่งมันไปเอง เข้าใจพี่สะไภ้ผิดแล้ว”

“แกรู้เรื่องนี้ได้ยังไง”

“ชนัยเมาแล้วพูดออกมาเอง…”

“แกจะบ้าเหรอ ใครอนุญาตให้แกตัดสินใจเอง”

ปยุตจับไหล่เธอไว้ ตั้งแต่เด็กไม่เคยทำร้ายเธอเลยสัก ครั้ง แต่ตอนนี้เขาอยากตีเธอ

เขาหันหลังและวิ่งออกไปจากบ้าน ขึ้นรถและโทรหา ผลิน “ขออภัย เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อ ได้…

“ยัยผู้หญิงบ้า มีอะไรก็ปิดเครื่อง!”

เขาสตาร์ตเครื่องยนต์ หมุนพวงมาลัย เสียงรถดัง กระหึ่มออกจากประตูคฤหาสน์

เขามองหาอย่างถ้วนถี่ไปตามถนนกว้าง ไม่นานก็ได้ เห็นรูปร่างที่คุ้นเคยตรงด้านหน้าของโรงภาพยนตร์ ผลินนั่งอยู่บนบันไดหินอ่อน มีกล่องข้าวโพดคั่วในมือ กำลัง ยัดมันเข้าไปในปาก

หึ ยังมีอารมณ์ที่จะกิน ก็ไม่ได้ดูเหมือนโกรธมากนี่นะ

เขาลงจากรถ เดินเข้าไปช้า ๆ และนั่งลงข้าง ๆ เธอ พูด เบา ๆ “ขอโทษนะ”

ผลินไม่ได้มองเขา ขยับตัวหนีให้เขามองไม่เห็นใบหน้า ของเธอ เคี้ยวบดข้าวโพดคั่วในปาก ปยุตฟังแต่เสียงจน ชาไปทั้งหนังศีรษะ

“ผมขอโทษคุณ ไม่ได้ยินเหรอ”

เขาดึงแขนเสื้อเธอไปมา เธอหันหน้ากลับด้วยความ โกรธ “ขอโทษเรื่องอะไร”

“จดหมายนั่นยัยณีเป็นคนส่ง ผมเข้าใจคุณผิด

ดวงตาของความคับข้องใจพลันเปลี่ยนเป็นสีแดง “ดัง นั้นคุณจึงออกมาหาฉัน เพราะคุณรู้ว่าเข้าใจฉันผิดเลย เพิ่งออกมาเหรอ ถ้าน้องณีไม่สารภาพ คืนนี้คุณก็จะ ปล่อยให้ฉันตายใช่ไหม”

“จะเป็นอย่างนั้นได้ยังไง ตอนนั้นผมกำลังโกรธมาก ถึง แม้ว่ายัยณีจะไม่ยอมรับ หลังจากที่ผมใจเย็นลงผมก็จะ ออกมาตามหาคุณทันที”

“คุณแน่ใจได้ยังไงว่าคุณจะหาฉันเจอ ถ้าฉันไปไกล แล้วคุณหาไม่เจอล่ะ เกรงว่าคุณจะไม่รู้สึกผิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยน่ะสิ!”

“ผมเชื่อว่าคุณจะไม่ไปไหนไกล นั่นคือเหตุผลในตอน ที่ผมเห็นคุณวิ่งออกไปจึงไม่หยุดคุณไว้ ตอนนี้คุณเป็น แม่ของเด็ก ๆ ไม่ใช่คนปกติอีกต่อไปแล้ว ดังนั้นคุณจะ ไม่ไปยังที่ที่ผมหาไม่เจอ ลินของเรามีความรับผิดชอบ แน่นอนว่าไม่มีทางวิ่งไปไกลเกินไป”

“คุณอย่ามาโกหก” คำพูดของเขาไม่ทำงาน “คุณเชื่อว่า ฉันจะไม่ไปไหนไกลแต่ไม่เชื่อในสิ่งที่ฉันพูด ยังไงก็ตาม เมื่อใดที่เกิดเรื่องคนแรกที่คุณจะสงสัยก็คือฉัน มันเป็น แบบนี้ทุกครั้ง ฉันง่ายที่จะถูกรังแกเหรอ”

ผลินร้องไห้อย่างขมขื่น ปยุตกอดเธอด้วยความรู้สึกผิด

“ก็ได้ ขอโทษนะ ครั้งนี้มันเป็นความผิดของผมเอง คุณ ก็อย่าคิดมาก ในตอนนั้นไม่มีทางที่ผมจะสงสัยคนอื่น ใน เมื่อสิ่งที่คุณพูดเมื่อสามวันก่อนมันเหมือนกับในจดหมาย ฉบับนั้นไม่มีผิด….


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ