ตอนที่ 202 ทําให้คุณผิดหวัง
ผลินที่โอบกอดปยุตไว้อย่างปวดใจ “ฉันรู้แล้ว ฉันรู้หมด แล้วค่ะ ไม่เป็นไร ไม่ว่าคุณจะเปลี่ยนไปอย่างไร คุณสมบูรณ์ แบบที่สุดแล้วสําหรับฉัน ฉันอยากจะช่วยคุณหาทางออก ค่ะ”
ร่างกายของปยุตแข็งทื่อราวกับก้อนหิน เขาถามตรงๆ อย่างปวดใจ “คุณรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?
“เพราะฉันเชื่อว่าคุณที่เคยรักฉันเท่าชีวิต คงไม่เพราะจาก กันเพียงแค่2ปี จะเกลียดขี้หน้าฉันถึงขนาดไม่ยอมมองหน้า กันขนาดนี้”
คำพูดนี้ของเธอปลอบโยนน้ำตาในหัวใจที่สิ้นหวังของป ยุต เขาค่อยๆโน้มเอียงลงมาซบที่อกของเธอ ราวกับเด็กคน หนึ่งที่เสียใจปรารถนาความรักจากอ้อมอกของแม่
“ไม่ต้องเสียใจไป ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรขนาดนั้น ก็แค่ ความทรงจำที่ไม่ดีเรื่องหนึ่ง ขอเพียงเรามีความตั้งใจที่แน่ว แน่ ไม่ว่าเงามืดนั้นจะเป็นเช่นไร พวกเราก็จะสามารถขับไล่ มันออกไปจากใจของเราได้
ผลินกอดรัดเขาเอาไว้อย่างอบอุ่น ปลอบประโลมจิตใจ เขาที่เจ็บปวด : “ตั้งแต่นี้ไป เอาตัวคุณฝากไว้ที่ฉัน เรื่อง ที่ลำบากใจต่อหน้าคนอื่น กับฉันแล้วคุณไม่ต้องปกป้อง ศักดิ์ศรีของตัวเอง ฉันเป็นเสมือนเงาของคุณ เงาไม่อาจ รังเกียจร่างของตัวเองได้
“ผลิน ผมทำได้หรือ? ผมไม่หลงเหลือความหวังใดๆในตัว ผมเองอีกแล้ว…..เวลา2ปี ไม่ว่าผมจะพยายามอย่างไร ก็ไม่ อาจทำให้ตัวเองกลับมาสู่สภาพเดิมได้อีกแล้ว”.
“คุณทำได้ เชื่อฉันสิ
ผลินปลุกความมั่นใจในตัวเขาขึ้นมา ที่จริงเธอไม่ได้เชื่อ มั่นในตัวเขาหรอก แต่เธอเชื่อมั่นในตัวเอง เธอเชื่อว่าใน เมื่อเธอจะคงอยู่ในหัวใจของปยุต เธอจะสามารถปลุกเอา สัญชาตญาณพื้นฐานความเป็นผู้ชายในตัวเขาขึ้นมาได้ แน่นอน
“ปิดไฟได้ไหม?
ปยุตเอ่ยขึ้น
“ค่ะ”
ผลินพยักหน้าอย่างหนักแน่น ยินดีสนับสนุนความต้องการ ของเขาทุกอย่าง ขอเพียงสามารถทำให้เขากลับไปเป็น เหมือนเดิมได้
ปิดไฟแล้ว พวกเขาตกอยู่ในความมืดสลัว ยังดีที่มี แสงจันทร์ส่องสว่างมาจากนอกหน้าต่าง พวกเขาจึงอาศัย แสงอ่อนๆนั้นมองเห็นร่างสลัวๆของกันและกันได้ชัดขึ้น
ปยุตยื่นมืออันสั่นเทาออกไปแกะกระดุมที่ชุดนอนของเธอ พวกเขานั่งหันหน้าเขาหากัน ราวกับวัยรุ่นชายหญิงเพิ่งเริ่มรักกันใหม่ๆ รู้สึกตื่นเต้นกับเรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป
อา –
ผลินส่งเสียงร้องแหลมออกมา ทว่าเสียงเจ็บปวดนั้นคือมี ความสุข และในตอนนี้ทั้งสองก็ตกลงมาจากก้อนเมฆอันสูง ลิบทันที ความสุขแบบนั้นช่างแสนสั้น ร่างกายเพิ่งจะรู้สึกถึง ปยุตกลับล่มไปก่อนแล้ว
บรรยากาศเงียบเหงาเหมือนตายซาก ผลินมองผู้ชาย ข้างๆเธอที่ไปไม่ถึงฝั่งอย่างใจหาย รีบยื่นมือออกมากอดเขา ทันที “ไม่เป็นไรค่ะ ไม่เป็นไร ได้แค่นี้ก็ดีมากแล้ว ถึงแม้จะ แค่แป๊บเดียว แต่อย่างน้อยก็รู้สึก นี่เป็นสัญญาณที่ดีมาก เรา ค่อยลองกันใหม่อีกครั้งนะคะ?”
ปยุตส่ายหน้าทันที พูดอย่างหมดแรง “เอาไว้ก่อนเถอะ
ผมเหนื่อยแล้ว”
ผลินเข้าใจความรู้สึกลึกๆของเขา จึงไม่อยากเซ้าซี้เขาใน ตอนนี้
ทั้งสองคนตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง ผลินแกล้งทำเป็นหลับสนิท ปยุตที่หันหลังให้เธอพลิกตัว กลับมา ค่อยๆจูบเธอลงที่หน้าผาก รู้สึกเสียใจกล่าวว่า “ผม ขอโทษ ผลิน ผมทำให้คุณผิดหวัง”
ฉันไม่ได้ผิดหวัง ฉันไม่ได้ผิดหวัง ฉันไม่ได้ผิดหวังเลย แม้แต่นิดเดียว
ผลินตะโกนอยู่ข้างในหัวใจเธอ ไม่ยอมลืมตาขึ้นมาบอก กับปยุตที่อยู่ตรงหน้า ณ ขณะนี้ถ้ายิ่งเธอแสดงออกว่าไม่ ถือสาเขาเท่าไหร่ เขาจะยิ่งรู้สึกเวทนาตัวเองมากยิ่งขึ้น ปฏิเสธไม่ได้ว่าจะทำให้เธอห่างเขาออกไปอีก
เธอฟังเสียงเขาถอนหายใจอย่างทำอะไรไม่ถูก จากนั้น เขาก็ลุกขึ้น เดินไปที่หน้าต่าง จุดบุหรี่ ภายใต้ความมืดมิด แสงของบุหรี่ที่เผาไหม้อยู่ต่างก็แสดงความโดดเดี่ยวและ เสียใจอย่างมากออกมา ใช่แล้ว ศักดิ์ศรีความเป็นผู้ชายของ เขาได้รับการเปิดเผยออกมาแล้ว ความพยายามซ้ำแล้วซ้ำ เล่า ในที่สุดกลับไม่อาจหลบหนีจากผลลัพธ์ที่ล้มเหลวไป ได้
นี่ทำให้เขารู้สึกถึงความผิดหวัง อย่างไม่อาจมีอะไรมา เทียบได้
ผลินจ้องมองที่เงาร่างเดียวดายที่หน้าต่างนั้น น้ำตาค่อยๆ ไหลออกมาจากดวงตา อยากจะลุกขึ้นเดินไปกอดเขา ไม่ ให้เขาหมดกำลังใจ แต่เธอทำอย่างนั้นไม่ได้ ทุกๆคนต่าง ก็ต้องการพื้นที่ส่วนตัว เธอไม่อาจรีบเร่งที่จะช่วยเขากำจัด อุปสรรค โดยไม่ปล่อยให้เขามีโอกาสอยู่กับตัวเองบ้าง
ค่ำคืนนี้ สายตาของเธอจ้องมองเขาอยู่ตลอด
ค่ำคืนนี้ ไฟจากบุหรี่ในมือเขาสว่างอยู่ตลอดจนฟ้าสาง มวนหนึ่งดับ มวนหนึ่งต่อ
ปยุตก้าวผ่านความอึดอัดใจไปแล้วในคืนนี้ ตามมาด้วยความมืดมนในใจอย่างมากในอีกหลายวันต่อมา ผลินรู้ดี อยู่แก่ใจจึงไม่อยากจะรบกวนเขาอีก อยากให้เวลาเขาเพื่อ จัดการอารมณ์ตัวเองให้ดีก่อน
เย็นวันนี้ผลินอยู่ที่ห้องทำงานทำความสะอาดสิ่งของ เตรียมตัวเลิกงาน วารีเดินเข้ามา
“มีอะไรหรือ?”
เธอถามอย่างสงสัย
วารีหน้าหงิกหน้างอถลึงตามองเธอ สักพักจึงพูดว่า “คุณรู้เรื่องโรคของหัวหน้าปยุตแล้ว ใช่หรือไม่?”
ผลินตกใจนิดหน่อย ไม่ใช่เพราะคำถามของวารี แต่เป็น เพราะเธอที่เป็นเลขาของปยุตก็รู้เรื่องนี้ด้วย หรือว่าผู้หญิง คนนี้ มีความสําคัญมากกับปยุตนะ?
“ใช่ค่ะ มีปัญหาอะไรไหม?”
“ฉันเคยเตือนคุณแล้วไม่ใช่หรือว่าอย่าพยายามละลาบ ละล้วงเรื่องส่วนตัวของคนอื่น ทำไมคุณยังจงใจดันทุรังอีก? เห็นหัวหน้าปยุต2-3วันมานี้ซึมเศร้าไปคุณพอใจหรือยัง ล่ะ?”
ผลินรู้สึกไม่ค่อยพอใจแต่ก็พูดอะไรไม่ได้ และไม่ต้องการ จะอธิบายอะไรมากนักกับผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า “ฉันขี้เกียจ จะพูดกับเธอ นี่เป็นเรื่องระหว่างเราสองคน” เธอเอากระเป๋าสะพายหลังแล้วเดินออกไปแบบไม่เหลียวหลังมอง
ตอนเย็นเมื่อกลับถึงบ้านสีหน้าของเธอไม่สู้ดีนัก ถึงเวลา ทานข้าวก็ไม่ได้พูดอะไรมาก แม่สามีจึงเอ่ยถามด้วยความ เป็นห่วง “หนูผลิน เจอเรื่องไม่ดีมาหรือจ๊ะ?”
เธอส่ายหน้า “เปล่าคะ”
“ทําไมดูหดหู่จัง สีหน้าไม่สดใสเลยล่ะ?”
ตั้งแต่ย้ายเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์ของนภา เพื่อที่จะเติมเต็ม ความสุขภายในบ้านหลังนี้ ทุกมื้ออาหารเธอจะคอยพูดคุย เรื่องมากมาย แม้ว่าปยุตจะไม่ค่อยได้พูดอะไร เพราะว่าเขา ไม่ค่อยสบายใจแต่ก็ยังฟัง วันนี้เธอแทบจะไม่ได้พูดอะไร เลย หญิงชราหมดหนทางแก้ไข ปยุตก็ซังกะตายแบบนั้นไม่ เปลี่ยนท่าทีเหมือนเดิม
หลังทานอาหารเย็นเสร็จเรียบร้อย เธอนั่งคุยเป็นเพื่อนแม่ สามีอยู่ที่ห้องรับแขก แม่ผัวลูกสะใภ้สองคนคุยกันอยู่สอง ชั่วโมงกว่า ผลินก็ยังไม่ขึ้นไปชั้นบน
เวลานี้ โทรศัพท์ของเธอได้รับข้อความอันหนึ่ง : “ช่วยชง กาแฟให้ผมหน่อย ส่งมาที่ห้องอ่านหนังสือนะครับ
อ่อ เธออุทานออกมา กล้าปฏิบัติต่อเธอเหมือนเป็นคนรับ ใช้เชียวหรือ?
ไม่พอใจแล้วไม่พอใจอีก แต่เธอก็ยังลุกขึ้นไปชงกาแฟให้เขา เดินเข้าไปเสิร์ฟยังห้องอ่านหนังสือแบบไม่เคาะประตู ก่อน วางกาแฟลงบนโต๊ะแล้วหันหลังจะเดินออกไป ปยุตอ้า ปากถาม คุณเป็นอะไรไป?”
เธอหยุดยืนทันที เดิมทีคิดว่าจะไม่พูด แต่เก็บความไม่ ยุติธรรมเอาไว้ในใจไม่ไหว หันหน้ามาพูดด้วยความโกรธ “ฉันรู้ว่าเรื่องอาการป่วยของคุณสำคัญมาก แต่ทำไมเรื่อง สําคัญมากขนาดนี้วารีก็รู้ด้วยล่ะ? คุณปกปิดทุกเรื่องที่เป็น ไปได้ต่อภรรยาคนนี้ของคุณ ปิดบังแม้กระทั่งบุพการี ปิดบัง พี่น้องแท้ๆที่คลานตามกันมา แต่กับเด็กเมื่อวานซืนที่ไม่ ได้รู้จักหัวนอนปลายเท้ายังรู้เรื่องก่อนพวกเราอีก หรือว่า เธอสำคัญมากกว่าพวกเรา? หรือว่าคุณคิดว่าเธอเข้าใจคุณ มากกว่าพวกเราอีกต๊ะ!?”
ปยุตจ้องมองใบหน้าสีแดงและตื่นเต้นของเธออย่าง เงียบๆ ถามเบาๆว่า “คุณแคร์ด้วยหรือ?”
“ใช่ค่ะ ฉันแคร์ ฉันแคร์มากด้วยในความสัมพันธ์ที่ไม่ ชัดเจนแบบนี้ระหว่างพวกคุณทั้งสองคน!”
หลังจากที่ผลินหยุดคำราม เธอก็สะบัดสะบิ้งเดินออกไป
ตอนเย็นของวันหยุด ปยุตนัดวารีออกมา ใบหน้าของวารี เผยรอยยิ้มแป้น เมื่อเห็นไวน์แดงและอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะ
“หัวหน้าคะ ทําไมเย็นนี้ถึงนัดฉันออกมาทานอาหารเย็นใต้ แสงเทียนละค่ะ?”
ปยุคใช้มือแสดงท่าทีให้เธอนั่งลง “เดี๋ยวจะหาว่าผม เหนียว ไม่เคยชวนคุณทานข้าวเย็นเลย” เขาพูดเย้ยหยัน
“อาหารเย็นน่ะ เคยทานแล้ว แต่ว่าบรรยากาศไม่ได้ดี ขนาดนี้”
วาเก็บความรู้สึกเอาไว้ในใจไม่อยู่ “คุณคงไม่ได้พาฉันมา ในบรรยากาศดีๆแบบนี้ เพื่อจะบอกข่าวร้ายกับฉันหรอกนะ คะ?”
“ทานข้าวก่อนสิ”
ปยุตตัดบท
ทั้งสองรับประทานอาหารที่จัดเตรียมอย่างประณีตใน จานรองตรงหน้า พูดคุยเรื่องจิปาถะในชีวิต เมื่อรับประทาน อาหารเสร็จแล้ว วาลุกขึ้นเดินไปยืนที่หน้าปยุต ถามเสียง อ่อนว่า “เร็วๆนี้ คุณยังไปหาคุณหมอประวีร์อยู่บ้างไหมคะ?”
“อ๋อ ไปสิ”
“งั้นคุณอยากให้ฉันลองช่วยอีกไหม ฟื้นตัวได้ขนาดไหน แล้ว?”
ปยุตมองเธอนิ่งๆ กล่าวอย่างหนักแน่น “วารี วันนี้ผมนัด คุณออกมาก็เพื่อที่จะบอกเรื่องนี้แหละ ต่อไปผมคงไม่ต้อง รบกวนคุณแล้วล่ะ ผลินรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้ว เธอจะเป็นคน ช่วยผมเอง”
วารีย์นนิ่ง “คุณเป็นคนบอกเธอหรือ?”
“เปล่าหรอก เธอรู้เองน่ะ”
“คุณโกหก ถ้าคุณไม่ได้บอกเธอ เธอจะรู้ได้อย่างไร?
“เธอไปพบคุณหมอประวีร์
อ่อ วารีหัวเราะเยาะ “เธอดูมีความตั้งใจแน่วแน่และหวังดี กับคุณนะ ถ้าเป็นอย่างนั้น ทีแรกทำไมเขาถึงได้ทิ้งคุณไป เสียล่ะ?”
“นั่นไม่ใช่ความผิดเธอ
“คุณกำลังหาข้ออ้างให้เธอยู่นะ”
“ผมก็ไม่ได้ต้องการทำแบบนี้ ความรู้สึกระหว่างผมและ เธอ คุณไม่มีวันเข้าใจได้หรอก”
“ถ้างั้นความรู้สึกที่ฉันมีต่อคุณละคะ? คุณเข้าใจบ้างไหม?”
ทันใดนั้นวารีของขึ้นถามตรงๆบ้าง
ปยุตถอนหายใจออกมา กล่าวคําขอโทษ “ขอโทษนะครับ วารี ผมรักผลิน เพราะรักเขา เวลาอยู่ต่อหน้าเขา อย่างน้อย ผมก็มีแรงกระตุ้น แต่ว่าต่อหน้าคุณ ผมไม่มีเลย ทั้งหมดดู ได้จากผลการรักษา นี่คือความแตกต่างระหว่างรักกับไม่ รัก..……………เขาหยุดไปครู่หนึ่ง “สองปีมานี้ขอบคุณคุณที่อยู่เคียงข้างผมมาตลอด ต่อไปคุณก็ไปตามหาความสุขของ คุณเถอะ”
“คุณหมายความว่าอย่างไรคะ? ให้ฉันลาออกจากบริษัทงั้น หรือ?”
น้ำตาเริ่มซึมออกมาจากตาของเธอ
ปยุตหยิบเช็คใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋าสตางค์ “คุณ อยากไปเรียนต่อที่ต่างประเทศไม่ใช่หรือ? เงินก้อนนี้ผม ให้จากใจ กรุณาอย่าถือเอาเงินนี้ว่าเป็นค่าตอบแทนเพื่อ ปิดปากที่ช่วยเหลือผมตลอดสองปีมานี้
“นี่ใช่เธอเป็นคนสั่งหรือเปล่าคะ?”
“ไม่ใช่ครับ เป็นตัวผมเอง
“ทำไมคะ? ”
“ผมไม่อยากให้เธอไม่สบายใจถ้าหากว่าคุณยังอยู่”
วารีร้องไห้โฮออกมา ไม่ยอมรับเช็คใบนั้น วิ่งออกไปจาก ร้านอาหารตะวันตกที่เต็มไปด้วยบรรยากาศโรแมนติก
วันนี้เป็นวันศุกร์ นภนต์มาที่เมืองB เขาขอให้ผลินลางาน หนึ่งวันมาเป็นเพื่อนเขา ผลินไม่ได้ปฏิเสธอะไร
ไม่ได้เจอหน้ากันครึ่งเดือน พอนภนต์ลงจากเครื่อง ก็รีบตรงมาหาเธอทันที ยื่นมือโอบกอดเธอ “เพื่อนรักผมคิดถึง คุณเหลือเกิน”
ผลินทําท่าบ่ายเบี่ยง “พอแล้ว คนดูอยู่เยอะแยะ ทำไม วันนี้คุณถึงว่างมาได้ล่ะ?”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ