ตอนที่ 200 ซ่อนเร้น
ชื่นใจลกขึ้นด้วยความโกรธและวิ่งเข้าไปในห้องนอน กระแทกประตูปิด ไวภพลูบหน้าผากพลางถอนหายใจ เดิน ไปเคาะประตู “ชื่นใจ คุณเปิดประตูหน่อยได้ไหม คุณจะไม่ ฟังผมพูดให้จบก่อนเหรอ คุณเปิดประตูก่อน ผมจะบอกคุณ ว่าจะผมพูดว่าอะไร
“ฉันไม่อยากได้ยิน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเราแยกกันอยู่ คุณ พิจารณาตัวเองดี ๆ ก็แล้วกัน!”
ปัง! เธอโยนหมอนของไวภพออกไป
ผลินในอีกสัปดาห์ต่อมา ได้รับโทรศัพท์จากชนัย เธอกด ตอบรับด้วยความหวัง
“ฮัลโหล คุณชนัย มีข่าวอะไรไหม”
“นายหญิง จากการที่ผมสังเกตและเข้าใจ ทุกบ่ายวัน เสาร์ประธานยุตจะไปในที่ที่เรียกว่า Sunshine ห้องให้คำ ปรึกษาทางจิตวิทยาครับ”
“ห้องให้คําปรึกษาทางจิตวิทยาเหรอคะ เขาไปทำอะไรที่ นั่น”
“ผมก็ไม่แน่ใจเรื่องนี้ครับ บางทีอาจเป็นเพราะผลกระทบ PTSD กลับมากำเริบอีกครั้ง”
ผลินเงียบไปครู่หนึ่ง “คุณมีที่อยู่ของห้องให้คำปรึกษานั้น ไหมคะ”
“มีครับ”
“ส่งข้อความให้ฉันหน่อยค่ะ”
“ได้ครับ”
หลังจากได้รับข้อความจากชนัย บ่ายวันนั้นเธอขอลาหยุด มายังที่อยู่ในข้อความสั้นๆ นั่น Sunshine จิตวิทยาห้องให้ คําปรึกษา
เธอผลักประตูเปิด มันเป็นห้องที่ไม่เล็กไม่ใหญ่ หลังโต๊ะ เป็นชั้นหนังสือขนาดใหญ่ ซึ่งมีประวัติการเจ็บป่วยของ คนไข้แต่ละคน ผู้ชายอายุประมาณห้าสิบปีลุกขึ้นและเอ่ย ถาม “คุณหนู มีอะไรหรือเปล่าครับ”
ผลินสูดหายใจเข้าลึก และเอ่ยถามว่า “ฉันอยากรู้ ว่าคุณมี คนไข้ที่ชื่อ ปยุต ทรัพยสาน ใช่ไหมคะ”
ผู้ชายวัยกลางคนงุนงง ถามอย่างสงสัย “คุณถามเกี่ยวกับ เรื่องนี้ทำไมครับ”
“คุณช่วยบอกฉันทีได้ไหมคะ มันสำคัญกับฉันมาก”
“ใช่ครับ มีคนไข้คนนี้”
“แล้วเขาเป็นโรคอะไรคะ”
ผลินรีบถาม
“ขอโทษด้วยครับ มันเป็นเรื่องส่วนตัวของคนไข้ ทางเรา ไม่สะดวกที่จะเปิดเผย
“คุณช่วยบอกฉันทีเถอะค่ะ ฉันเป็นภรรยาของเขา ฉัน จําเป็นต้องรู้ถึงรายละเอียดอาการเจ็บป่วยที่เขาเป็น
ชายวัยกลางคนมองเธอขึ้นและลง พดด้วยเสียงต่ำ “เท่าที่ ผมรู้ตอนนี้เขายังโสด คุณหนู คุณต้องการอะไรกันแน่
ผลินเป็นกังวลมาก “ฉันต้องเรียกคุณว่าอะไรคะ”
“เรียกผมว่าหมอประวีร์ครับ”
“หมอประวีร์คะ ฉันเป็นภรรยาของคุณปยุตจริง ๆ ค่ะ สอง ปีที่ผ่านมาพวกเราถูกบังคับให้แยกจากกัน ช่วยบอกฉันทีว่า สามีของฉันมีอาการ PTSD กำเริบอีกแล้วเหรอคะ”
“คุณหนูครับ ผมขอโทษจริง ๆ ถ้าไม่ได้รับอนุญาต ทางเรา ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของผู้ป่วยได้”ผลินดวงตา แดงก๋า เสียงสะอื้นเล็กน้อย “วัตถุประสงค์ของห้องซันไชน์ ของคุณคือการขจัดความเศร้าโศกในจิตใจของผู้อื่น ฉัน แน่ใจว่ามันเป็นสิ่งที่ดีสําหรับคุณในการรักษาโรคทางจิตใจ ของผู้ป่วย ถ้าคุณบอกฉัน ว่าสามีของฉันป่วยทางจิตแบบ ไหนกันแน่ ฉันจะหาวิธีที่จะร่วมมือกับคุณเพื่อช่วยให้เขาเอาชนะมันให้ได้ค่ะ
หมอประหวั่นไหวเล็กน้อย เขาถอนหายใจ “ผมขอคุย กับคุณ ยุคก่อนนะครับ ถ้าเขาเห็นด้วยผมก็จะบอกคุณ
“ฉันจะไม่มาที่นี่คนเดียวถ้าเขาเห็นด้วย ก็เพราะเขาไม่ อยากให้ฉันรู้นั่นคือเหตุผลที่ฉันถือวิสาสะมารบกวนคุณ หมอประวีร์คะ กรุณาบอกฉันมาตามตรงเถอะค่ะ ฉันอยากจะ ช่วยคนรักของฉัน แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับเขาจะ จบลงไปแล้ว แต่ฉันหวังอยากให้เขาอยู่ได้อย่างมีชีวิตที่ดี
ในที่สุดน้ำตาของผลินก็เปลี่ยนความคิดหมอประวีร์ เขา พยักหน้า “งั้นก็ได้ครับ
หมอประวีร์ดึงประวัติของโรคจากชั้นหนังสือที่อยู่ทางด้าน
หลัง แล้วเขาก็ส่งมันให้กับผลิน
ปกของแฟ้มเอกสารเขียนชื่อของปยุต เธอตัวสั่นเทาและ เปิดมันออก ชั่วพริบตาเดียวที่เห็นสาเหตุ สมองก็ระเบิดด้วย เสียงดัง….
ความผิดปกติทางเพศในการมีเพศสัมพันธ์……..
เธอเงยหน้าขึ้นถามด้วยอาการชา ศีรษะของเธอวิงเวียน ในอกอึดอัด ถามเสียงสั่นเทา “มันหมายความว่ายังไงคะ
“หมายความว่าหากผู้ป่วยมีเพื่อนกับผู้อื่นจะไม่มีสติ ก่อ ให้เกิดเงามืดที่ยิ่งใหญ่ ทำให้ไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์เช่นปกติได้ครับ”
“เขาเริ่มเข้ารับการปรึกษาทางจิตตั้งแต่เมื่อไหร่คะ แล้วมัน ได้ผลหรือเปล่า
ผลินนํ้าตาไหลออกมา ในหัวใจเจ็บปวดเหลือคณานับ
“ประมาณปีครึ่งที่ผ่านมาครับ ตอนนี้มันไม่มีผลอะไรมาก นัก เพราะมันไม่ใช่ปัญหาที่สามารถแก้ไขได้ด้วยยา มันเป็น โรคทางด้านจิตใจ เป็นเพราะช่วงเวลาที่ผ่านมามีเรื่องต่าง ๆ มากมายเกิดขึ้นกับเขา เนื่องด้วยสาเหตุที่เขามีเพศสัมพันธ์ กับคนอื่นโดยไม่สมัครใจและยังมีลูกด้วย การที่คนรักจาก ไปและครอบครัวแตกแยก ภายใต้ผลกระทบซ้ำแล้วซ้ำเล่า จิตใจของเขาก่อเกิดความไม่สมดุลอย่างรุนแรง ทำให้เกิด ความผิดปกติครับ”
“คุณรู้ไหมคะว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างฉันกับเขา”
หมอประวีร์พยักหน้า “ผมเป็นนักจิตวิทยาของเขา ผมจะ ไม่รู้ได้ยังไง เหตุผลที่ผมบอกคุณเพราะถ้าคุณสามารถมี ส่วนร่วมในการรักษา มันจะช่วยอาการป่วยของเขาได้มากที เดียว เหตุผลที่เขามีความผิดปกติทางเพศ เหตุผลหลักคือ ความรู้สึกที่ทรยศคุณ ถ้าคุณไม่รังเกียจและอดทนแนะนำ เขาให้ออกมาจากเงามืด เขาก็จะมีความหวังในการรักษาไป ในทิศทางที่ดี”
ผลินเดินออกมาจากห้องให้คำปรึกษา แสงแดดภายนอก เจิดจ้า หัวใจเธอเศร้ามาก คนคนหนึ่งไปที่ทะเล นั่งอย่างไม่มีสติตลอดทั้งบ่าย
ในที่สุดเธอก็รู้ว่าทำไมปยุตถึงได้เย็นชากับเธอ ทําไมถึง พยายามขีดเส้นกั้นเธอ เขาเป็นคนที่ภูมิใจในตัวเอง มันเป็น ไปไม่ได้ที่จะให้คนอื่นรู้ว่าตัวเองผิดปกติ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้ หญิงที่เขารัก มันเป็นปัญหาที่ร้ายแรงมากกับการเห็นคุณค่า ในตนเอง
ผลินครุ่นคิดทั้งคืน เธอตัดสินใจที่จะช่วยปยุต สุดท้ายแล้ว ที่เขากลายเป็นแบบนี้ เธอก็ต้องรับผิดชอบเหมือนกัน ถ้าไม่ ทิ้งเขาไป เขาคงไม่ตำหนิตัวเองจนเกิดความบกพร่องใน ร่างกายเช่นนี้
หมอปวี บอกว่า ศักดิ์ศรีของผู้ชายมีค่ายิ่งกว่าทอง ดังนั้น เรื่องนี้จึงไม่สามารถบอกได้โดยตรง ต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้ ทีละน้อยทีละน้อยจนกว่าเขาจะสารภาพออกมาด้วยตัวเอง
ตลอดเวลาที่ผ่านมา คิดว่าตัวเองเป็นคนที่โชคร้ายที่สุด จนกระทั่งถึงตอนนี้ได้รู้โรคที่ซ่อนอยู่ของปยุต เธอเพิ่งจะ รู้ตัว ว่าเขาเองก็มีชะตากรรมไม่ต่างจากเธอ
ต้องทุกข์ทรมานจากโรคที่ยากจะอธิบาย และไม่สามารถ บอกกับใครได้ ได้แต่กลำกลืนฝืนทนความขมขื่น จนกระทั่ง ผู้หญิงที่รักปรากฏตัวขึ้นในเวลานี้ เอาบรรดาดอกไม้มา ไว้รอบ ๆ ตัวเพื่อเป็นเกราะคุ้มกัน ในขณะที่เขากำลังเศร้า ในขณะเดียวกันก็ต้องพัฒนาความรู้สึกของการเห็นคุณค่า ในตนเองที่ต่ำลง คิดว่าตัวเองไม่สามารถให้ในสิ่งที่คนอื่น ต้องการได้ ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะหนีดีกว่าอยู่ในนรกมืดและไม่อยากให้ผู้หญิงที่เขารักอยู่กับเขาเพราะความสงสาร
ผลินเข้าใจปยุตแล้วและเริ่มมีความเกลียดชังในตัวเอง ไม่ ได้รู้เรื่องอะไรเลยแต่กลับไปบ่นว่าเขาไม่แยแสเธอ เพราะ ต้องการแก้แค้นที่เขาแสดงความรักต่อผู้หญิงคนอื่น ๆ ต่อ หน้าเธอ ดังนั้นจึงยอมรับรักนภนต์ ในเวลานั้น เขาจะต้อง รู้สึกสิ้นหวังมากแค่ไหนกัน…..
เขาไม่สามารถควบคุมหัวใจที่รักเธอได้ อดไม่ได้จนต้อง คอยดูแลเธอ แต่เธอยังไปโกรธเขา มันเป็นเรื่องยากสำหรับ ตัวเขาที่จะพูดคำเหล่านั้น บังคับให้เขาพูดคำสุดท้าย ที่ไล่ เธอไปและไม่ต้องกลับมาอีก การพูดคำเหล่านั้นมันต้องเจ็บ ปวดและสิ้นวังมากขนาดไหน…..
เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อผลินไปทำงาน เป็นอีกครั้งที่ได้พบกับป ยุตในลิฟต์
ทำไมเมื่อวานคุณลาช่วงบ่าย “
ปยุตถามอย่างเย็นชา
“ฉันรู้สึกไม่สบายนิดหน่อย”
เธอตอบพลางกะพริบตา
“ไม่เป็นไรแล้วใช่ไหม”
“อืม ไม่เป็นไรแล้ว
ผลินมองไปที่เขา ในช่วงเวลานี้ที่ต้องเผชิญกับการปรากฏ ตัวของเธอ และการตายของพ่อ หว่างคิ้วของเขาเต็มไป ด้วยร่อยรอยความโศกเศร้า เขาคิดว่าคนอื่นมองไม่เห็น ที่ จริงแล้วถ้าใช้ใจมองมันสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน
ตกกลางคืน ในแผนกทํางานล่วงเวลาจนถึงสามทุ่ม มัน สั้นกว่าเวลาทํางานล่วงเวลาปกติ ผลินสามารถเดินกลับไป ที่อพาร์ตเมนต์ได้ แต่ยังคงอยู่ในออฟฟิศไม่ไปไหน จนกระ ทั่งปยุตมาสอบถามเธอ “คุณยังไม่เลิกงานอีกเหรอ”
“เดี๋ยวก็ไปแล้ว”
เธอค่อย ๆ เก็บของ และก้าวเดินออกไปไม่เร่งรีบ
ออกจากประตูบริษัท เธอยังไม่ไปทันที แต่ยืนอยู่ที่ประตู รอปยุตออกมา รอประมาณครึ่งชั่วโมง ปยุตถึงออกมาจาก ลิฟต์ ตอนที่เดินผ่านเธอไปก็เลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ “ทำไมคุณยังไม่ไปอีก”
เธอชี้นิ้วไปด้านบน “ชมดวงจันทร์
หึ ปยุตหัวเราะเยาะเธอ จากนั้นจึงเดินตรงไปที่รถของตัว เอง
เขาเพิ่งขึ้นรถ ทันใดนั้นประตูด้านขวาก็เปิดออก ผลินตาม เข้ามา
“ทำอะไร”
“ไปส่งฉันด้วย ขอบคุณ
“ใกล้แค่นี้ก็เดินไปเองสิ”
“ถึงใกล้ยังไง แต่ฉันรู้สึกไม่สบายนิดหน่อยเลยไม่อยาก เดินไป”
ปยุตเริ่มสตาร์ตเครื่องยนต์ รถมุ่งหน้าไปยังอพาร์ตเมนต์ ของเธอ รถหยุดลงหลังจากผ่านไปไม่กี่นาทีเขารอให้เธอ ลงจากรถ แต่เธอยังนั่งอยู่ในรถ “ลงรถไป” เขาเตือนเธอ
ผลินมองเขาแล้วจึงผลักประตูเปิดลงจากรถไป ก่อนที่จะ เดินไปสองก้าวแล้วล้มลงกับพื้น ปยุตรีบก้าวออกจากรถ วิ่ง ไปหาเธอและกอดเธอไว้ “ผลิน ผลิน คุณเป็นอะไร”
เธอแกล้งทําเป็นอ่อนแอและลืมตา พูดอย่างอ่อนแรงว่า “เวียนหัว ช่วยพาฉันเข้าไปข้างในหน่อย…..
ปยตอุ้มเธอขึ้น เปิดประตูอพาร์ตเมนต์และเข้าไปในห้อง นอนวางเธอไว้บนเตียง ก้มตัวลงถาม “ผิดปกติตรงไหน อยากไปโรงพยาบาลหรือเปล่า”
เมื่อเขากำลังจะยืดตัวขึ้น ผลินยื่นมือออกมาคล้องรอบลำ คอของเขา “ไม่มีอะไรที่ไม่สบาย ก็แค่ต้องการให้คุณอยู่ที่ นี่”
ปยุตมองเธอด้วยความตกใจ ผ่านไปนานกว่าจะมีการตอบ สนอง ในขณะที่กำลังจับมือของเธอออก เธอพูดว่า “คุณบอกว่าไม่มีภูมิคุ้มกันต่อการเชิญชวนของผู้หญิงใช่ไหม ตอนนี้ฉันกำลังเชิญชวนคุณอยู่”
“อย่าทำแบบนี้”
เขาลุกขึ้นยืนด้วยการแสดงออกที่ไม่เป็นธรรมชาติ กำลัง เดินไปที่ประตู ผลินชิงปิดประตูก่อน พูดอย่างคับข้องใจ ทำไม ฉันไม่มีเสน่ห์ดึงดูดคุณอีกต่อไปแล้วเหรอ ถึงได้รีบ ปฏิเสธฉันขนาดนี้”
“ลิน เลิกกวนได้แล้ว ผมมีบางอย่างต้องทำ หลีกไป”
“ฉันไม่หลีก”
ผลินรู้ว่าเขากำลังหลบหนีอะไร เธอมีความกล้าที่จะหลอก เขามาที่นี่ก็เพื่อการตรวจสอบ ว่าเขาผิดปกติจริง ๆ แล้วใช่ ไหม
“คุณจะหลีกไม่หลีก”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ