ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน

ตอนที่ 149 ติดกับดักแผนชั่วร้าย(1)



ตอนที่ 149 ติดกับดักแผนชั่วร้าย(1)

ผลินได้ยินชเยศพูด สูดอากาศเย็น เป็นอย่างที่คิดไว้ ป ยุตโกรธหน้าเขียวแล้ว

เขารีบดึงมือชเยศออก พูดกัดฟันว่า “ตามผมมา

“ปล่อยฉัน คุณปล่อยฉัน

ชเยศขัดขืนอย่างแรง ผลินยับยั้งอย่างตกใจ“คุณกำลัง ทำอะไร ทำให้เขาตกใจแล้ว”

ปยุตสะกดความโกรธในใจไว้ พูดทีละคำว่า”พา เขา ไป นอน”

“คุณจะพาเขาไปนอนที่ไหน”

“โรงแรม”

“ไปโรงแรมทำไม ในบ้านไม่ใช่ไม่มีห้อง

ปยุตเลิกคิ้ว“คุณไม่ได้ยินเจ้าหมอนี่พูดยังไงใช่ไหม เขา จะนอนด้วยกันกับคุณ ว่าไง คุณก็เห็นด้วยกับเขาใช่ ไหม

ผลินอารมณ์ไม่ดี ดึงแขนของปยุตออกจากมือของ ชเยศ“โอเค ทำไมหึงไปหมดทุกคน”

เธอพูดอย่างอดทนและอ่อนโยนกับชเยศ”ชเยศ คนสองคนที่ไม่ได้แต่งงานกันไม่สามารถนอนด้วยกัน เธอก็ นอนที่นี่ ผลินนอนที่ข้างห้องดีไหม

ชเยศพยักหน้า เหมือนไม่ดีใจอย่างยิ่ง

“มา ผลินร้องเพลงเสี่ยวหลัวห้าวให้ฟัง

ผลินใช้สายตาบอกให้ปยุตออกไป

ปยุตยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับ ตาจองมองดูผลินจูงชัยเยศไป นอนที่เตียง เหมือนกล่อมเด็กให้นอนหลับ เหมือนแม่ร้อง เพลงให้ลูกฟัง เสี่ยวหลัวห้าว ตีดีดีซี นกนางนวลได้ยินแล้ว กระพือปีกบิน เสียวหลัวห้าว ดีดีดีซี ดอกไม้ได้ยิน แล้วยิ้มๆ เสี่ยวหลัวห้าว ดีดีดีซี เสียงเรือกลับนํา เสี่ยวหลัวห้าว ดีดีดีซี พ่อได้ยินแล้วกลับไวไว”

เสียงคออันนุ่มเบาของผลินสะท้อนไปทุกตารางนิ้วของ ห้อง ชเยศค่อยๆหลับสนิท ปยุตไปประชดเธอ“ผู้ชายตัว โต ยังฟังเพลงเด็ก ทำให้พวกผู้ชายขายหน้าหมดจริงๆ ”

“คุณไม่พูดจะตายไหม

ผลินมองหน้าเขา ห่มผ้าให้ชเยศ จากนั้นผลักปยุตออก จากห้อง ปิดประตูเบาๆ

มองเห็นเธออ่อนโยนกับเขา ยิ่งทำให้ปยุต งมากขึ้น กลับถึงห้อง ดึงผ้าผมออกลงไปนอน ไม่สนใจผลินอีก ผลิน จ้องมองหลังที่เย็นชาของเขา หันกลับมา
เขาไม่พูด และก็ไม่ขยับ

“ฉันเรียกให้คุณหันกลับมาได้ยินไหม

ผลินออกแรงหันไหล่ของเขากลับมา ให้เขาหันมามอง เธอ ช่วยไม่ได้เขาตัวหนักมาก เธอพลิกตัวเขาไม่ไหว

“ใจแข็งไม่หันกลับมาใช่ไหม ได้ งั้นฉันไปพาชเยศนอน”

เธอประท้วงจะลงจากเตียง วิธีนี้ได้ผลตามคาด เท้ายัง ไม่แตะลงพื้น ก็โดนแขนกำยำของปยุตลากกลับมา เข้าไป ในอ้อมกอดอย่างแน่น

เขากอดเธอแน่นมาก เธอเกือบจะหายใจไม่ออก แต่ใจ รู้สึกปลาบปลื้มมาก กำลังขยับปากแดงอันนุ่มนวลนิดๆ

“ร้องเพลงให้ผมฟัง

“อะไรนะ”

ผลินเข้าใจผิดว่าตัวเองฟังผิด จ้องมองตาโตอย่างไม่

กล้าเชื่อ

“เรียกคุณร้องเพลง”

“เพลงอะไร”

เธอถามเขาอย่างตกลง
“เพลงเสี่ยวหลัวห้าวดีดี อะไรนั่น

ฮ่าๆๆ

ผลินอดหัวเราะไม่ได้ สามีเธอคนนี้ช่างน่ารักจริงๆ เสียง คออันนุ่มเบาดังออกมาทันที เสียงเพลงอันงดงามเหมือน พาคนกลับไปวัยเด็กที่อิสระปราศจากความกังวล ชั่วขณะ ที่ปยุตกําลังหลับตา คิ้วที่ขมวดของเขาค่อยๆคลายออก ปากบางทีเซ็กซี่ เพิ่มความสวยงามตามลำพัง

เช้าวันต่อมา หลังจากผลินตื่นขึ้น เปิดประตูห้อง เตรียมไปดูชเยศที่ห้องข้างๆ พอเปิดประตูออกมา ชเยศ เหมือน พระถือบาตรรอที่หน้าประตูห้องเธอ ทำให้เธอ ตกใจมาก เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เขามองเห็นปยุตนอนหลับ อยู่บนเตียง เธอรีบปิดประตู หันไปมองถามว่า ชเยศ เธอนั่ง ที่นี่ทําอะไร”

“ฉันคอยเธอตื่น”

“นั้นเธอก็ไม่ต้องนั่งบนพื้นตรงนี้

รีบลุกขึ้น”

เธอยื่นมือดึงเขาขึ้นมา จากนั้นพาเขาลงไปข้างล่าง

เวลาทานอาหารเช้า ชเยศกังวลไม่กล้าเงยหน้า แม้ว่า เขาจะพิการทางสมอง แต่เขารู้สึกได้ว่าทุกคนกำลังสบตา มองเขา สายตาแบบนั้น ทำให้เขาเหมือนนั่งไม่สบาย โดย เฉพาะปาณี สองตามองเขาไม่วางตา ในใจแอบถอนหายใจ มองเห็นอาหารที่น่าทาน สมองก็ไม่ทำงานแล้ว
“คุณพ่อคุณแม่ กลับบ้าน”

“ติดต่อกับคนที่บ้านเขาแล้วยัง

“อืม ติดต่อแล้วค่ะ”

ปยุตพูดแทรกประโยคนึงอย่างโกรธ ทำไมต้องให้คุณ ไปส่ง ลูกชายตัวเองไม่มารับเอง”

“สองวันนี้พ่อแม่เขาติดธุระมาไม่ได้”

“คุณเอาที่อยู่ให้ฉัน ฉันสั่งคนส่งกลับไป คุณก็หมดห่วงอยู่ ในบ้านไม่ต้องไปไหน

“แต่”

“ไม่ต้องมีแต่แล้ว ตกลงตามนี้”

ปยุตลุกขึ้น“ฉันไปบริษัทก่อน คอยสักพัก ชนัยมาแล้ว คุณก็ให้เขาจัดการ

พูดต่อไม่สนใจว่าผลินจะเห็นด้วยหรือไม่ หยิบกุญแจรถ แล้วออกจากบ้านไป

ผลินเข้าใจผิดว่าเขาแค่พูดไปอย่างนั้น แต่คิดไม่ถึงว่า ชนัยมาจริงๆ พอเข้าบ้านก็ถามคุณผู้หญิง ท่านประธาน ให้ ผมมา คุณมีอะไรจะกำชับโปรดบอกผมได้เต็มที่ ”

หลังจากทานข้าวแล้วสักพัก ฉันส่งเขา
“อืม ส่งเขากลับบ้าน

ผลินชี้ไปที่ชเยศ

“ฉันไม่ต้องการกลับบ้านกับเขา ฉันต้องการอยู่ด้วยกันกับ คุณ”

ชเยศจ้องมองชนัยอย่างกับศัตรู หลบที่ข้างหลังผลิน เหมือนลูกนกที่ตกใจตัวสั่นงันงก

มองเห็นเขาเป็นแบบนี้ ผลินทนไม่ได้ คิดหลายวินาที แล้วพูดว่า“ช่างเถอะ คุณกลับบริษัทเถอะ ฉันไปส่งเอง”

“ชแต่ท่านประธานมอบหมาย ผมกลับไปแบบนี้เกรงว่า ทำงานล้มเหลว”

“ไม่เป็นไร ถึงตอนนั้นฉันจะอธิบายกับเขา

เธอจูงมือชเยศ ปลอบเสียงเบาว่า”อย่ากลัว ฉันไปด้วย กันกับคุณ”

ผลินเอาชเยศเข้าในรถ จากนั้นสตาร์ทรถออก ขับรถออก จากคฤหาสถ์นภาอย่างรวดเร็ว

ชนัยยืนที่หน้ารถถอนหายใจ เปิดประตูรถเตรียมออก สายตาไม่ได้ตั้งใจมองเห็นปาณียืนอยู่ที่หน้าต่างชั้นสอง มอง เขาอยู่ไกลๆ
หลังจากทะเลาะกันครั้งก่อนก็เดือนกว่าแล้ว ทั้งสองคน ไม่ได้เจอหน้ากันอีก ไม่ได้คุยโทรศัพท์กันอีก

เวลานี้จ้องมองซึ่งกันและกัน รู้สึกอายอยู่ ชนัยยิ้มๆให้ เธอ ปาณีกุ้มหน้า ปิดผ้าม่านลง

หลังจากกลับถึงบริษัท ชนัยมาถึงห้องทํางานท่าน ประธาน ปยุตขมวดคิ้ว ทําไมคุณกลับมาแล้ว

“คุณผู้หญิงไม่ให้ผมไป เธอส่งชเยศกลับด้วยตัวเอง แล้ว”

ปยุตก่ายหน้าผาก ลุกขึ้นยืนที่ริมหน้าต่าง สองมือเท้า สะเอวพูดว่า เธอไม่ให้นายไปนายก็ไม่ไปใช่ไหม สรุปนาย ฟังคําสั่งใคร”

ชนัยอธิบายอย่างไม่มีความผิด ฟังคือฟังท่านครับ แต่ คุณผู้หญิงไม่ฟังก็ไม่ได้ครับ

“นั้นนายไม่ตามไป ทำไมปล่อยให้ผู้หญิงคนเดียวขับรถไป สถานที่ไกลหลายพันเมตร

“ผมอยากตาม แต่คุณผู้หญิงไม่อนุญาต เธอบอกว่าเธอคุ้น เคยกับสถานที่นั้นดี

ปยุตโกรธจนขมวดคิ้วตาขเม็ง มีพูดไหมว่าจะกลับมา เมื่อไหร่”
“ไปกลับใช้เวลาสองวัน

ชนัยเพิ่งพูดจบ เสียงโทรศัพท์ของปยุตดังขึ้น พอเขา เห็นว่าผลินโทรมา รีบรับสายอย่างด่วนจี๋“ฮัลโหล”

“ที่รัก กำลังด่าชนัยอยู่ใช่ไหม

“ตอนนี้คุณนับวันยิ่งดื้อแพ่ง ไม่ใส่ใจคำพูดของฉันแล้ว”

“ไม่ใช่อย่างแน่นอน ฉันอยากรีบส่งชเยศไป เพื่อไม่ให้คุณ เห็นแล้วขวางลูกตา

“มีเพียงคุณส่งได้ คนอื่นส่งไม่ได้ใช่ไหม

“คุณหากรู้ว่าชเยศกลัวคนแปลกหน้า นอกจากฉันแล้วเขา กลัวหมดทุกคน หากว่าฉันไม่ส่ง เขาก็ไม่ยอมไป งั้น คุณพูด มาสรุปให้ส่งหรือไม่ให้ส่ง

คำพูดของผลินไม่ใช่ไม่มีเหตุผล เมื่อคืนที่ปยุตอยู่กับ ชเยศก็เห็นแล้ว ชเยศติดผลินมากเป็นพิเศษ

“ได้ ครั้งนี้ผมจะปล่อยคุณไป ครั้งหน้ากล้าขัดคำสั่งผมอีก คอยดูผมจะจัดการคุณยังไง”

“รู้แล้ว ที่รัก ฉันรักคุณนะ”

ประโยคหวานที่ผลินยิงใส่ ปลอบอารมณ์โกรธของป ยุตได้ในขณะนี้ ใบหน้าที่แข็งอ่อนลงเยอะมาก น้ำเสียงตามใจมาก”ขับรถระวังหน่อย ส่งถึงแล้วรีบกลับมาทันที”

“รับทราบ”

ผลินถือโอกาสตอนที่ชเยศนอนหลับโทรศัพท์ หลังจาก วางหูเธอถอดเสื้อคลุมตัวเองออก ห่มบนตัวชเยศ จากนั้น ขับรถต่อ

ปยุตวางหูแล้วอารมณ์ดีมาก พูดกับชนัยอย่างยิ้มๆ ชนัย ต่อไปหาเมียต้องหาที่เชื่อฟัง ผู้หญิงที่ไม่เชื่อฟังจะทำให้ นายเป็นห่วงเธอตลอดทั้งวัน

ชนัยพูดแหย่ว่า ใช่ไหม มองท่านประธานปยุดยิ้มจน หุบปากไม่ลง เป็นห่วงควรจะเป็นความสุขแบบหนึ่งเช่นกัน

“พอแล้ว ไปทํางานได้

ปยุตจะให้เขาออกไป นึกถึงประโยคที่ผลินว่าฉันรักคุณ จิตวิญญาณเต็มเปี่ยมพลัง

ผลินตอนเย็นเพิ่งขับถึงเมือง รถจอดที่หน้าประ ตูคฤหาสถ์ตระกูลตันวิรัช เธอจูงชเยศเข้าประตูบ้าน ท่านผู้หญิง ตระกูลตันวิรัช พอเห็นหน้าลูกชายตักเตือน อย่างโกรธและสงสาร ชเยศ ลูกทำไมหนีออกไปคนเดียว อีกแล้ว ทำให้แม่เป็นห่วงแทบแย่แล้ว”

ชเยศไม่สนใจนําตักเตือนของแม่เขา แต่จับแขนของ ผลินพูดว่า”ผลิน เธอไม่ต้องไป ฉันไม่ให้เธอไป
ทาต มองหน้าลูกชาย สายตาที่ส่อออกมาซ่อนความซับ ซ้อนไม่ให้คนอื่นรู้ เขาพูดยิ้มกับผลิน ผลิน ไม่ได้เจอ กัน ตั้งนาน คืนนี้อยู่กินข้าวเย็นที่บ้านพวกเราสิ

ผลินส่ายหน้า ไม่ต้องแล้ว ฉันยังมีธุระต้องกลับไป ไม่ รบกวนพวกคุณแล้ว

สีหน้าจารุณีนิ่งลง ผลินหลังจากแต่งงานไม่เคยอยู่ที่ บ้านพวกเขานานหลายนาทีเลยสักครั้ง เหมือนอยู่นานขึ้น หนึ่งนาทีจะทรมาน

ทาตถุไม่พอใจมาก แต่ไม่แสดงออก“งั้นดื่มชาติ ขับมา ตั้งไกลส่งชเยศกลับมา ดื่มน้ำแล้วค่อยไป

พูดต่อ เชิญผลินไปห้องรับแขก ผลินรู้สึกว่าปฏิเสธอีกก็

ไม่เห็นแก่หน้าแล้ว จำเป็นต้องตามทาตฤไปนั่งบนโซฟา

จารุณียกถ้วยน้ำชาร้อนมาสองถ้วย ชเยศเห็นผลินไม่ไป นั่งข้างเธออย่างดีใจ

“ชเยศ ลูกกลับห้องไป แม่มีเรื่องอยากคุยกับผลิน”

ชเยศส่ายหน้า”

ฉันไม่ไป

“เชื่อฟัง พวกเราคุยกันสักพัก พ่อรับรองว่าผลินไม่ไปไหน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ