ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน

ตอนที่ 115 ความสมดุลภายในจิตใจ



ตอนที่ 115 ความสมดุลภายในจิตใจ

ลมของฤดูใบไม้ผลิพัดพาสายฝนเย็นฉ่ำทำให้หัวใจดวง นี้อบอุ่น เป็นของขวัญที่ไร้คำอวยพร แววตาอันอบอุ่นของ คุณสอนฉันให้มองไปข้างหน้าอย่างมุ่งมั่น คอยเตือนฉันว่า อย่ายอมแพ้เมื่อฉันล้มลง…

บรรยากาศดีถึงขีดสุด ผลินเหลือบมองไปทางจันทร เธอ เป็นนสาเหมือนดอกกุหลาบที่เงียบสงบ เบ่งบานในความ มืด มีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวเธอ

ดวงตาของเธอจับจ้องผู้ชายที่ร้องเพลงให้เธอบนเวที การแสดงออกทางสีหน้าเย็นชาเรียบนิ่งดังเช่นสายน้ำ ริม ฝีปากปราศจากรอยยิ้มที่อ่อนโยน ในสายตาไม่มีความรัก ระหว่างชายหญิง

ผลินย้ำเยาะให้กับเมียน้อยไร้ใจคู่รักที่แสนอาภัพ

การแสดงเต็มไปด้วยความตื่นตาตื่นใจน่าหลงใหล ใน ตอนท้าย ทุกคนต่างไม่เต็มใจจะให้มันจบ หลังจากธรรศ โค้งคำนับเก้าสิบองศา การแสดงก็จบลงอย่างเป็นทางการ

ผลินนั่งเฉย ๆ ไม่ขยับ ผู้คนรอบตัวทยอยกันออกจาก ห้องแสดง หลังจากที่เดินออกไปจนเกือบทุกคนแล้ว เธอจึง ลุกขึ้นและเดินไปในทิศทางของทางออก อีกสองร้อยเมตร คือประตูทางออก เห็นจันทรกำลังยืนรอธรรศออกมา

เธอเดินเข้าไปหา จันทรแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นเธอ แต่ก็ไม่มีท่าทหลบเลี่ยง

“คุณผลิน บังเอิญจังค่ะ”

จันทรยิ้มให้เธอ

“อืม บังเอิญจัง รอคุณธรรสเหรอคะ”

เธอไม่ได้ปฏิเสธ พยักหน้ายอมรับ“ใช่ค่ะ”

“ความสัมพันธ์ของพวกคุณคืออะไรเหรอคะ”

“ความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนค่ะ”

“ถึงแม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าเมื่อตอนที่เขาอยู่ข้างคุณเขามี บทบาทยังไง แต่ถึงเป็นคนโง่ก็มองออก ว่าธรรศรักคุณมาก ฉันมักจะคิดเสมอว่าทำไมถึงได้รักผู้หญิงคนหนึ่ง โดยที่ผู้ หญิงคนนั้นถูกกล่าวหาว่าเป็นคนทรยศ”

ใบหน้าของจันทรเศร้าหมองลงเราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน

ค่ะ”

“อ่า ดูเหมือนว่าธรรศจะคิดไปเองฝ่ายเดียว คุณรู้ไหมว่าวัน นี้คุณธรรศไปต่อสู้เพื่อคุณ”

“ต่อสู้?”

จันทรขมวดคิ้วเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น
“อืม กับคุณปยุต”

“เรื่องอะไรคะ”

จันทรกะพริบตาด้วยความประหลาดใจ

“เรื่องอะไร? นอกจากเรื่องของคุณแล้วจะมีเรื่องอะไรได้ อีก เขาบอกว่าที่คุณไปเพราะไม่มีทางเลือก ยังพูดอีกว่า เพระคุณปยุตครอบครัวของคุณถึงได้ถูกทำลาย บอกฉัน ได้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”

ทันใดนั้นใบหน้าของจันทรไม่มีสีเลือด เธอพูดด้วย สายตาเย็นชาว่า“ขอโทษด้วยค่ะ ฉันไม่อยากจะพูดตอนนี้แต่ ถ้าอยากจะพูด ก็ไม่ใช่กับคุณเช่นกัน”

เธอปฏิเสธอย่างเฉียบคมและไร้ความปราณี ผลินหายใจ เข้าลึก“ถ้าไม่อยากพูดก็แล้วแต่ แต่ฉันขอเตือนคุณ อย่าง จริงใจ หวงแหนคนปัจจุบัน ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเป็นเหมือนธร รศที่ติดตามคุณโดยไม่เรียกร้องหรือเสียใจ แม้แต่ คุณปยุต ก็อาจจะทำไม่ได้อย่างนั้น

หลังจากพูดจบ เธอก็เหยียบย่ำลงไปบนพื้นที่เปียกเล็ก น้อย ก้าวเดินไป

“คืนเขาให้ฉันสิ”

ทันใดนั้นก็มีเสียงเย็นของจันทรดังมาจากด้านหลัง เธอ ตกใจมาก คิดว่าตัวเองได้ยินผิด“คุณพูดว่าอะไรนะ”
ฉันพูดว่า คืนปยุตมาให้ฉันสิ

“เหตุผลอะไรที่ต้องให้

“เหตุผลที่ว่าพวกเรามีความรู้สึกลึกซึ้งต่อกันมาหลายปี และเพราะพวกเรายังคงรักกัน”

“ที่ว่ายังคงรักกันอยู่ นั่นคือสิ่งที่คุณคิดไปเอง หรือคุณป ยุตบอกคุณกันล่ะ

“ถึงเขาจะไม่ได้บอกฉัน แต่ใจของเขาฉันก็มองเห็นได้”

“หึ คุณนี่ช่างอวดดีเกินไปหน่อยนะผลินหัวเราะเยาะและ โต้แย้งกลับไป”ไม่ว่าใจของคุณปยุตจะมีคุณหรือ ไม่ ฉันก็ ไม่สามารถคืนเขาให้คุณได้เพราะว่าผู้ชายคนนั้นเป็นฉันที่ ช่วยเขาให้ขึ้นมาจากความสิ้นหวังทีละน้อย

“ฉันทิ้งเขาเพราะมีเหตุผลบางอย่าง”

“ไม่ว่าเหตุผลของคุณคืออะไร ตอนนี้คุณก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะ พูดแบบนั้นกับฉัน ความรักที่แท้จริงไม่ใช่หนีกันไปใน เวลา ที่ยากลำบาก แต่ต้องเผชิญหน้ากับมันด้วยกัน สามปีที่ผ่าน มาเมื่อคุณเลือกที่จะปล่อยเขาไป ก็สูญเสียโอกาส ที่จะได้ รับการยอมรับจากเขาอีกครั้งไปแล้ว”

จันทรเงยหน้าขึ้นมา ดวงตาเต็มไปด้วยน้ำตาที่เปล่ง ประกายระยิบระยับ ปยุตน่ะ ฉันจะได้คืนแน่นอน ฉันจะให้ คุณได้รู้ ว่าอะไรคือความจริงแล้วอะไรคือคิดไปเอง”
ฉันพูดว่า คืนปยุตมาให้ฉันสิ

“เหตุผลอะไรที่ต้องให้

“เหตุผลที่ว่าพวกเรามีความรู้สึกลึกซึ้งต่อกันมาหลายปี และเพราะพวกเรายังคงรักกัน”

“ที่ว่ายังคงรักกันอยู่ นั่นคือสิ่งที่คุณคิดไปเอง หรือคุณป ยุตบอกคุณกันล่ะ

“ถึงเขาจะไม่ได้บอกฉัน แต่ใจของเขาฉันก็มองเห็นได้”

“หึ คุณนี่ช่างอวดดีเกินไปหน่อยนะผลินหัวเราะเยาะและ โต้แย้งกลับไป”ไม่ว่าใจของคุณปยุตจะมีคุณหรือ ไม่ ฉันก็ ไม่สามารถคืนเขาให้คุณได้เพราะว่าผู้ชายคนนั้นเป็นฉันที่ ช่วยเขาให้ขึ้นมาจากความสิ้นหวังทีละน้อย

“ฉันทิ้งเขาเพราะมีเหตุผลบางอย่าง”

“ไม่ว่าเหตุผลของคุณคืออะไร ตอนนี้คุณก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะ พูดแบบนั้นกับฉัน ความรักที่แท้จริงไม่ใช่หนีกันไปใน เวลา ที่ยากลำบาก แต่ต้องเผชิญหน้ากับมันด้วยกัน สามปีที่ผ่าน มาเมื่อคุณเลือกที่จะปล่อยเขาไป ก็สูญเสียโอกาส ที่จะได้ รับการยอมรับจากเขาอีกครั้งไปแล้ว”

จันทรเงยหน้าขึ้นมา ดวงตาเต็มไปด้วยน้ำตาที่เปล่ง ประกายระยิบระยับ ปยุตน่ะ ฉันจะได้คืนแน่นอน ฉันจะให้ คุณได้รู้ ว่าอะไรคือความจริงแล้วอะไรคือคิดไปเอง”
เมื่อธรรคได้ยินชื่อของผลิน สีหน้าก็พลันแข็งทื่อ เขา ปล่อยมือของจันทร แล้วพูดเสียงแผ่ว ต้องพรากความสุข ที่เป็นของเธอด้วยเหรอ

“ความสุขนั้นเป็นของฉัน

“แต่คุณก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าตอนนี้ปยุตตกหลุมรัก เธอแล้ว

“คือเธอที่รู้จักเขา หรือฉันที่รู้จักเขา ถ้าคนคนหนึ่งอยู่ใน ช่วงเวลาที่เปราะบาง แล้วมีคนคนหนึ่งเข้ามาแทรกแซง ความสัมพันธ์ก็จะสามารถสร้างความรักขึ้นมาได้ก็เท่านั้น”

แล้วฉันล่ะ ฉันอยู่เคียงข้างเธอมาตั้งนาน เธอเคยมีความ รักให้ฉันบ้างไหม แม้เพียงเล็กน้อยก็เถอะ

จันทรพูดไม่ออก ไม่ใช่ว่าไม่มีคำตอบ แต่คําตอบนั้นพวก เขาต่างรู้

เป็นการยากที่ธรรศจะซ่อนความผิดหวังในดวงตา เขา จับมือเธอ และกล่าวด้วยความเศร้า ไปกันเถอะ ถือเสียว่า ฉันไม่ได้ถามแล้วกัน”

ผลินเดินอยู่คนเดียวบนถนนที่หนาวเย็น สองมือที่แข็ง ซาอยู่ในกระเป๋าเสื้อ ก้มลงมองพื้น ก้าวเดินไปทีละก้าว แต่จู่ ๆ ก็ชนเข้ากับกำแพงเนื้อ เธอเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจ แค่ อยากจะบอกว่าขอโทษ ก็พลันได้เห็นว่าคนที่ชนคือ ปยุต
ขมวดคิ้วถาม“คุณมาที่นี่ได้ยังไง”

“คอนเสิร์ตสนุกไหม

เธอตกใจอีกครั้ง คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันไปดูคอนเสิร์ต”

“ผมติดมอร์นิเตอร์ไว้ที่ตัวคุณ”

“บ้า”

ผลินสบถอย่างไร้อารมณ์ เดินต่อไปเรื่อย ๆ ตอนนี้เธอไม่ ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะเล่นตลกกับเขา

“หาเก็บเงินเหรอ ก้มหน้าก้มตา”

“เกี่ยวอะไรกับคุณ

คิดถึงสิ่งที่จันทรพูด ที่ว่าพวกเรารักกัน เธอก็ยิ่งเหมือน อยู่ในกองไฟ

ต่อหน้าคู่แข่ง สามารถแกล้งทำเป็นมั่นใจเหมือนไม่มี อะไรเกิดขึ้น แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าปยุต เธอไม่อยากพยายาม ปิดบังซ่อนความรู้สึกที่ไม่ดีของเธอ

“คุณหิวเหรอ ไปทานหม้อไฟกันไหม คนสองคนนั่งทาน หม้อไฟรอบเตาไฟท่ามกลางอากาศหนาวแบบนี้ต้องมี ความสุขมากแน่”
ขมวดคิ้วถาม“คุณมาที่นี่ได้ยังไง”

“คอนเสิร์ตสนุกไหม

เธอตกใจอีกครั้ง คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันไปดูคอนเสิร์ต”

“ผมติดมอร์นิเตอร์ไว้ที่ตัวคุณ”

“บ้า”

ผลินสบถอย่างไร้อารมณ์ เดินต่อไปเรื่อย ๆ ตอนนี้เธอไม่ ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะเล่นตลกกับเขา

“หาเก็บเงินเหรอ ก้มหน้าก้มตา”

“เกี่ยวอะไรกับคุณ

คิดถึงสิ่งที่จันทรพูด ที่ว่าพวกเรารักกัน เธอก็ยิ่งเหมือน อยู่ในกองไฟ

ต่อหน้าคู่แข่ง สามารถแกล้งทำเป็นมั่นใจเหมือนไม่มี อะไรเกิดขึ้น แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าปยุต เธอไม่อยากพยายาม ปิดบังซ่อนความรู้สึกที่ไม่ดีของเธอ

“คุณหิวเหรอ ไปทานหม้อไฟกันไหม คนสองคนนั่งทาน หม้อไฟรอบเตาไฟท่ามกลางอากาศหนาวแบบนี้ต้องมี ความสุขมากแน่”
หลังจากที่ปยุตได้ยินคำพูดของเธอ ก็กระชับไหล่ของ เธอ พลางถอนหายใจ”ผมต้องทำยังไงคุณถึงจะเชื่อ คุณ สําหรับผมน่ะ ไม่ใช่คนรักที่แก้ขัดแน่นอนเข้าใจไหม

ผลินครุ่นคิด ถ้าคุณกล้าไปพูดกับจันทรต่อหน้า ฉันก็จะ

เชื่อ”

แค่นั้น ปยุตก็เงียบไป

เธอดึงมือของเขา”ทุกครั้งที่ต้องการความจริง คุณก็จะ ตอบฉันด้วยความเงียบ

“ได้ ผมสัญญา”

ผลินก้าวไปเพียงสองก้าว ก็ได้ยินเสียงคําตอบของปยุต

เธอไม่แน่ใจจึงหันหลังกลับไป”จริงเหรอ”

“อืม”

“หลังจากคืนนี้คุณจะไม่กลับคำใช่ไหม”

“อยากให้ผมสาบานไหมล่ะ”

ในที่สุดเธอก็ยิ้ม“งั้นก็ดี ฉันจะเชื่อคุณอีกสักครั้ง คุณจะ พูดเมื่อไหร่”

“วันหยุดสุดสัปดาห์นี้ ผมนัดจันทร คุณนัดธรรศ
“นัดคุณธรรศด้วยเหรอ”

ผลินถามอย่างระมัดระวัง นึกไปถึงที่คนสองคนทะเลาะ กันเมื่อตอนบ่าย กลัวว่าจะมาทะเลาะกันอีกครั้ง

“อืม”

“เอางั้นก็ได้ เกี่ยวก้อยกัน

ปยุตจ้องนิ้วเล็กของเธอที่ยื่นออกมาอย่างไร้ อารมณ์“ต้องทำตัวเป็นเด็กแบบนี้ด้วยเหรอ” “นี่เป็นข้อ ตกลง จะทำตัวเป็นเด็กได้ยังไง จะได้ไม่ต้องกลัวว่าคุณจะ หนี”ผลินบ่นพลางเกี่ยวนิ้วก้อยของเขา

หลังจากนัดเสร็จแล้ว ก็อยู่ในอารมณ์ที่ดี แล้วดึงแขนป ยุต”ไปกันเถอะ ทานหม้อไฟ” ปยุตยิ้ม”สมเป็นคุณจริง ๆ”

ต่อจากนั้น ผลินเริ่มมองไปข้างหน้า ตั้งตาคอยให้ปยุต เคลียร์ใจตัวเอง ด้วยวิธีนี้ เธอจะได้ไม่ต้องอยู่อย่างกังวล เรื่องของจันทรอีก

ในช่วงเวลาที่เธอกำลังรอคอย วันเกิดของน้องสามีก็มา

ถึงแล้ว

เช้าตรู่ เธอหยิบเสื้อผ้าชุดใหม่ที่เพิ่งไปซื้อมากับปยุต มา ที่ห้องของน้องสามี

“น้องณีคะ ตื่นหรือยัง ขอฉันเข้าไปได้ไหม”
“เข้ามาสิคะ”

เมื่อได้รับอนุญาตจากน้องสามี เธอก็เดินเข้าไปข้างใน ยื่นกล่องของขวัญในมือ”แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะคะ

ปาณียิ้มรับ ขอบคุณมากค่ะ”

“มันคืออะไรเหรอคะ”เธอมองอย่างสงสัย

“มันเป็นของขวัญลึกลับที่จะทำให้คุณเป็นเจ้าหญิงค่ะ” ผลินนําเสื้อผ้าออกจากล่องของขวัญ ใส่มันเร็วสิคะ”

“ไม่ต้องหรอกค่ะ ยังไงก็อยู่บ้าน ทำไมต้องแต่งตัวสวย ด้วย”

“สำหรับวันเกิด ที่มีแค่ปีละครั้งเท่านั้น ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เราก็ต้องแต่งตัวให้สวยงามสิคะ”

ผลินพาเธอเข้าไปในห้องแต่งตัว หลังจากที่เธอเปลี่ยน เสื้อผ้า และหวีผมสวยของเธออีกครั้ง ไม่ถึงครึ่ง ชั่วโมง ปาณีเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง แต่เดิมก็เป็นสาวสวยอยู่แล้ว แต่ หลังจากการตกแต่งเพิ่มเล็กน้อย ก็กลายเป็นมี เสน่ห์ที่ไม่ สามารถบรรยายได้

เธอเขินอายเล็กน้อย “พี่สะใภ้คะ มันจะไม่ดูโตเกินไป หน่อยเหรอคะ”
“ไม่หรอกค่ะ คุณเป็นผู้หญิงที่โตแล้ว หลังจากนี้นิสัยเด็ก ๆ เหล่านั้นก็ต้องหายไป ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหรือการ แต่งหน้า ทั้งหมดจะเป็นตัววัดมาตรฐานของผู้หญิง”

เมื่อคําพูดของผลินจบลง โทรศัพท์มือถือในกระเป๋าก็ดัง ขึ้น เธอเหลือบมองไปที่ตัวเลข และกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไป กันเถอะค่ะ เราออกไปเดินเล่นข้างนอก สูดอากาศยามเช้าที่ สดชื่นกัน”

เธอนําผลินลงไปข้างล่าง เมื่อออกจากประตูห้องนั่งเล่น ก็พบกับความประหลาดใจ ชนัยยืนอยู่หน้าประตู

เธอพยายามจะเดินหนี แต่ผลินก็พาเธอกลับมา กระซิบ ที่ข้างหู“อย่าหนีนะคะ ผู้สูงศักดิ์ก็ต้องออกไปกับผู้สูง ศักดิ์ที่ เข้ามาสิ

ชนัยก้าวเข้ามาหา ยื่นของขวัญที่สวยงามให้คุณณี สุขสันต์วันเกิดนะครับ คราวที่แล้วบอกว่าอยากไปสวนเขา ทองใช่ไหม วันนี้ผมหยุด ผมจะพาคุณไป

เธอรับของขวัญมา เพื่อแสดงว่าเธอใจกว้าง

ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นคนรัก ก็ยังสามารถเป็นเพื่อนกันได้

ปาณีหยุดคิดชั่วครู่ แล้วพูดกับชนัย “พวกเราไปคุยกัน

เถอะ”

เมื่อชนัยพาเธอมาถึงมุมที่เงียบสงบ ปาณีเงยหน้าขึ้นมองตรงมาที่เขาและพูดว่า “ขอโทษนะคะ ฉันไม่สามารถ ออกไปกับคุณได้

“ทําไมครับ”

ชนัยแปลกใจ

“ฉันรู้ว่าพี่ชนัยแปลกใจที่ฉันปฏิเสธ ฉันไม่ได้ปฏิเสธเพราะ ฉันไม่อยากอยู่กับคุณหรอกนะคะ แต่เพราะฉันโตขึ้น มี ความภาคภูมิใจที่คุณมองไม่เห็น ซึ่งถึงแม้ว่าคุณจะไม่ชอบ ฉัน ก็ได้โปรดอย่าทำเหมือนฉันเป็นเด็กอีก”

เธอหยุดไปครู่หนึ่ง ฉันจะไม่ไปที่สวนเขาทองอีกแล้ว แม้ว่าฉันจะเจอคนที่รักฉัน ก็จะไม่ไปที่นั่นอีก เพราะที่นั่น มันเป็นอดีตไปแล้ว”

ปาณีพูดจบก็หันกลับไปช้า ๆ ก้าวไปทีละก้าวออกจาก สายตาของชนัย

ชนัยมองไปที่ด้านหลังของเธอ ท่ามกลางความรู้สึกที่ หลากหลาย ดูเหมือนว่าสาวน้อยที่คอยไล่ตามเขาและเรียก ว่าพี่ชนัย ตอนนี้โตขึ้นแล้วจริง ๆ

เมื่อผลินเห็นน้องสามีกลับมาคนเดียวก็ถามอย่างสงสัย ว่า“คุณชนัยล่ะคะ”

“ฉันให้เขากลับไปแล้วค่ะ”
“ทําไมล่ะคะ”

“ฉันไม่อยากออกไปค่ะ”

ปาณีมีนํ้าตาคลอในดวงตาที่สดใส เธอจึงไม่ถามอะไร อีก”ถ้าไม่อยากออกไปก็ไม่ต้องออกค่ะ พี่สะใภ้จะอยู่กับ คุณเพื่อดูซีรีส์เกาหลีเอง”

หลังจากวันเกิดของน้องสามีถัดมาอีกสองวันก็คือวันที่ สำคัญยิ่ง เพราะปยุตสัญญาไว้ ว่าจะบอกความรู้สึกที่มีต่อ เธอต่อหน้าจันทร

คืนก่อน เธอติดต่อไปหาธรรศ ไม่มีคําอธิบายเกี่ยวกับ วัตถุประสงค์กับเขา แค่บอกว่าให้ออกมาทานข้าวด้วยกัน

ธรรศเจอกับจันทรที่หน้าประตูโรงแรม และเริ่มรู้สึกถึง บางอย่าง แต่ถึงอย่างนั้นจันทรก็เห็นได้ชัดว่าไม่ได้คาดหวัง อะไร

เวลาเก้าโมงครึ่ง ผลินควงแขนปยุตเข้าไปในโรงแรม ก่อนเข้าห้อง ปยุตก็หยุดเดินกะทันหัน จากนั้นหัวใจของ ผลินก็หยุดเต้นตามจะไม่เสียใจเหรอ”

เธอถามคำถามนี้มาสามครั้งแล้ว เพราะความกังวลที่มาก เกินไป จึงทำให้หยุดถามไม่ได้

“ไม่”
มีแสงเย็นในดวงตาลึกของปยุต ก้าวเดินต่อไปอีกครั้ง เมื่อมีเสียงประตูเปิดออก ดวงตาสี่คู่ก็ปะทะกันในช่วงเวลา นั้น

ผลินจ้องมองแค่จันทร ภายนอกที่ดูสงบนิ่งมาก ในความ เป็นจริงแล้วตั้งแต่เริ่มก้าวเข้ามาในประตูนี้หัวใจก็เอาแต่ เต้นแรงไม่เป็น ในที่สุดก็ได้รู้ว่าผู้หญิงอย่างจันทร ไม่ใช่ คนธรรมดา อย่างน้อยในจิตใจของปยุต เธอก็ไม่ใช่คน ธรรมดาจริง ๆ

จันทรมองเธออย่างไร้ความรู้สึก โดยไม่มีการกล่าว ทักทาย ในเวลานี้ เธอมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้นในใจของ เธอ

ความเจ็บปวดถูกฉีกทิ้ง บางทีความลับที่ซุกซ่อนไว้ใน วันนี้ ทุกอย่างกำลังจะกระจ่างแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ