one more time เรารักกันอีกครั้งนะ

ตอนที่6 รับมาราคาถูกและขายดี



ตอนที่6 รับมาราคาถูกและขายดี

เซียวลั่วหยาวมองดูเขาด้วยดวงตาสีดำกลมโต เงยหน้า มองเขาและนิ่งงันไปชั่วครู่ จากนั้นก็นึกขึ้นได้ว่าควรทักทาย “ฮาย สวัสดี”

เขาดูหยิ่งมาก เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยและทำเสียงออกมา จากจมูก “อืม” เช่นนั้นก็ถือว่าเป็นการตอบกลับแล้ว

ผู้ชายหล่อๆมักจะเจ้าอารมณ์ สามารถเข้าใจได้

เฮยๆ

เซี่ยวลั่วหยาวคิดว่าตัวเองโชคดีมาก ที่มาทำงานวันแรก ก็ได้พบชายหนุ่มรูปงาม

“ฉันชื่อเซี่ยวลั่วหยาว เป็นผู้ช่วยชั่วคราวของตาแก่เฉียว ใช่ๆ เธอเห็นตาแก่เฉียวบ้างไหม อ่อใช่แล้ว ตาแก่เฉียวนั่น ก็คือ ประธานเฉียวของเราไง” เซี่ยวลั่วหยาวเป็นเหมือนหนู ตัวเล็กๆเธอมองซ้ายมองขวาและมองรอบๆเพื่อหาประธาน “ไม่เห็นว่าเขาจะอยู่ในห้อง?

ชายรูปงามยิ้มมุมปากและหรี่ตามองเธอ “เธอมองอะไรใต้ โต๊ะ? ประธานเฉียวสามารถเข้าไปอยู่ในนั้นได้งั้นเหรอ?”

“เฮ้ๆ ฉันก็แค่มองไปรอบๆ พี่ชาย ทำความรู้จักกันหน่อย ฉันชื่อเซี่ยวลั่วหยาว” ชายหนุ่มรูปงามตอบเพียงแค่ไม่กี่คำ ก็ทำให้เชี่ยวลั่วหยาวตาโตและเกือบจะหยุดหายใจ
นี่….ชายรูปงามคนนี้ มีทักษะในการพูดมากๆ

ไม่ง่ายที่จะเจอชายรูปงามเช่นนี้

เชียวลั่วหยาวโน้มตัวเข้าหาชายรูปงามคนนั้นและกระพริบ ตา “เฮ้ๆ ในตอนที่ตาแก่เฉียวยังไม่กลับมา พวกเรารีบมาคุย กันดีกว่า เธอชื่ออะไร?”

ชายหนุ่มรูปงามก้าวเท้าไปข้างหน้าสองก้าวและค่อยๆ

นั่งลงบนโซฟาและกุมมือตัวเองไว้พูดอย่างเย็นชา “เฉียวอี

ฟาน”

“ฮ่าๆ เฉียวอีฟานเหรอ เป็นชื่อที่ดีเป็นชื่อที่….เฉียว เฉียว อะไรนะ เฉียว…อี…ฟาน? “ทำไมฟังแล้วคุ้นหูเหรอ?” ” เซี่ยวลั่วหยาวหน้าซีดเซียว

ในตอนนั้นประตูก็เปิดขึ้น หลิวโอเฉินได้เดินข้ามา นํา เอกสารมาให้เฉียวอีฟานและพูด “ประธานเฉียว คุณช่วยดู หน่อยว่านําไปปรับมาแล้วเป็นอย่างไรบ้าง ใช้ประโยคแบบนี้ เหมาะสมหรือยัง?”

ดวงตาของเซี่ยวลั่วหยาวเบิกกว้างขึ้นไปอีก

มองดูหลิวโอเฉินและหันไปมองชายหนุ่มรูปงามที่นั่ง อย่างใจเย็น

รองประธานหลิวเรียกหนุ่มรูปงามนี้ว่าอะไร?…เฉียว ประธานเฉียว?
เฉียวอีฟานมองดูไฟล์งานและพยักหน้า “แบบนี้โอเค แล้ว”

หลิวโอเฉินก็ได้ถืองานและเดินออกไป แต่ก็เหลือบมอง เซี่ยวลั่วหยาวที่กำลังยืนอย่างหวาดกลัว

เมื่อหลิวโอเฉินเดินออกไปแล้ว ในห้องกว้างๆนี่จึงมีเพียง

แค่เซี่ยวลั่วหยาวและเฉียวอีฟาน

เฉียวอีฟานค่อยๆเงยหน้ามองเซี่ยวลั่วหยาวอย่างเยือก เย็น เขาพูดและยิ้ม “พูดสิ เมื่อกี้ยังพูดไม่หยุดอยู่เลย ทำไม ตอนนี้ไม่พูดแล้วล่ะ?”

ใบหน้าของเซี่ยวลั่วหยาวเปลี่ยนเป็นสีแดงและพูดติดๆ ขัดๆ “คุณ คุณ คุณคือเฉียว ประธานเฉียว?”

ชายคนนั้นเลิกคิ้วซ้ายขึ้นและริมฝีปากบางๆก็ได้พูดขึ้น “อืม ตาแก่เฉียว”

เซี่ยวลั่วหยาวรู้สึกเหมือนน้ำตาจะไหลออกมา

“ทำไมคุณคือประธานเฉียว?”

ประธานไม่ใช่ว่าต้องเป็นคนแก่ที่แก่มากๆหรอกเหรอ?

“งั้นเธอคิดว่าใครควรจะเป็นล่ะ?”

สมองสั่งการของเซียวลั่วหยาวได้หยุดลงไปชั่วขณะ และใช้น้ำเสียงที่รู้สึกผิดพูดขึ้น “ฉันผิดไปแล้ว เป็นครั้งแรกที่ฉัน เจอประธานเฉียว คิดไม่ถึงเลยว่าประธานจะยังหนุ่มขนาดนี้ และยังมีความหล่อมีออร่าอีกด้วย”

เฉียวอีฟานคิดอยากจะหัวเราะแต่ก็ต้องกลั้นเอาไว้ “เรา สองคนไม่ได้เจอกันครั้งแรก”

“เอ๊ะ!” เซียวลั่วหยาวเงยหน้าขึ้นและมองเขาอย่าง ประหลาดใจ

เธอยอมฟังเขาอย่างจำนน ผู้ชายคนนี้ทำมาจากวัสดุอะไร ทำไมถึงได้หล่ออะไรขนาดนี้ ดวงตาเธอมองเขาอย่างไม่ละ สายตา

เฉียวอีฟานยกขาซ้ายของเขาวางลงบนขาขวาอย่าง เอื่อยๆและอ้าแขนกว้างเอนหลังพิงโซฟาและมองไปยัง เชี่ยวลั่วหยาวและถอนหายใจ “เธอ ความผิดพลาดที่แย่ ที่สุด คือลืมในสิ่งที่ไม่ควรลืม ! ”

“หา? งั้นคือเรื่องอะไรล่ะ?” เซี่ยวลั่วหยาวคิดแล้วคิดอีกใช้ สมองคิดวกไปวนมา

เฉียวอีฟานเริ่มแสดงความเฉยชาบนใบหน้าและมีท่าทีไม่ พอใจ “เธอลืมจริงๆเหรอ?”

เซียวลั่วหยาวเกาหัว “คุณพูด เราเคยเจอกันที่ไหน?”

ชายรูปงามหรี่ตามองเธอเป็นท่าทีที่ชัดเจน
เขียวลั่วหยาวเงยหน้ามองเพดาน ภายในสมองเธอก็คิด ไม่ออก นึกถึงเรื่องอื่นๆและไม่มีความคิดแวบขึ้นมาเลยว่า เธอเคยเจอเขามาก่อน “ฉันไม่เคยเจอคณมาก่อน…

“โง่จริงๆ” หนุ่มรูปงามให้คำพูดทิ้งท้ายไว้กับเชี่ยวลั่วหยาว เซี่ยวลั่วหยาวทําได้เพียงแต่ยิ้ม

ถ้าเธอเคยเจอเขา ถ้าเป็นผู้หญิงเธอก็ต้องจ๋าได้จากความ งดงามนี้แน่นอนเธอต้องจำได้ และถ้าเป็นผู้ชายหล่อขนาดนี้ ถือว่าเป็นปาฏิหาริย์ที่เชี่ยวลั่วหยาวไม่โผเข้าหาเขา

เฉียวอีฟานเหลือบมองเซี่ยวลั่วหยาวและลุกขึ้นอย่าง ขัดใจ ทันใดนั้นเชี่ยวลั่วหยาวก็รู้สึกว่าประธานเฉียวคนนี้สูง มาก จนเธอต้องมองหา

ช่องว่างความสูงนี้ … ไม่ควรถูกล่อลวงใช่ไหม? มันยากที่ จะก้มตัวลงเพื่อมาจูบ

เฉียวอีฟานเดินไปยังโต๊ะทำงาน ใบหน้าเล็กของเซียวล้ว หยาวก็เดินเกาหัวและตามเขามา

“เซี่ยวลั่วหยาว…”

“คะ?”

“คืนนั้นเธอโวยวายทั้งคืน ฉันเหนื่อยกับเธอมาก เธอจาก ไปโดยที่ไม่บอกฉันก่อนเลย?”
“เอ๊ะ?หา?” เซี่ยวลั่วหยาวจ้องมองไปยังแผ่นหลังของเขา

เฉียวอีฟานเดินไปยังเก้าอี้ประธานและนั่งลง หมุนเก้าอี้ เล็กน้อยเพื่อหันไปทางเซี่ยวลั่วหยาวและถอนหายใจ “ตอน ฉันอาบนํ้า เธอก็หนีออกไป ใช่มั้ย? ”

* หลังจากความเงียบเกิดขึ้น เซี่ยวลั่วหยาวก็เริ่มเข้าใจ “อ่อ!” ด้วยเรียกร้อง เธอก้าวถอยหลังและเอามือขึ้นมาปิด หน้าอกไว้ แสดงท่าทางป้องกันตัวและใช้สายตาดุดัน “คุณ คุณเป็นผู้ชายขายบริการคนนั้นใช่ไหม?”

ผู้ชายขายบริการ? เฉียวอีฟานนิ่งเงียบรู้สึกอับอาย

นิ้วเรียวยาวรวมกันเป็นหนึ่งและทุบลงบนโต๊ะ “คุณพูด

อะไรผู้ชายขายบริการ?

เซี่ยวลั่วหยาวก็รู้สึกหวาดกลัวด้วยออร่าของน่ากลัวของ เขาและพูดด้วยความเศร้าใจ “ฉันคิดไม่ถึงจริงๆว่าคุณจะ ทำงานเป็นผู้ชายขายบริการด้วย….

“เชี่ยว ลั่ว หยาว!” ชายหนุ่มรูปงามเริ่มจะระเบิดอารมณ์

“อ่า คุณวางใจเถอะ ประธานเฉียว เรื่องราวนี้ฉันจะเก็บเป็น ความลับ เรื่องที่คุณทำอาชีพขายบริการน่ะ จะไม่มีคนอื่นรู้จะ ไม่มีบุคคลที่สามรู้อย่างเด็ดขาด ฉันสาบาน!

“จนตอนนี้ เธอก็ยังไม่เข้าใจอะไรเลยใช่ไหม?”
เฉียวอีฟานไม่สามารถชมเชยความเซ่อซ่าของเธอได้

“เข้าใจอะไร? อะไรคือเข้าใจ?” ดวงตาของเซี่ยวลั่วหยาว เบิกกว้างขึ้น และเหมือนจะเริ่มรับรู้

เฉียวอีฟานยิ้มอย่างเย็นชา “ตอนเธอตื่นมา เธออยู่ใน สภาพอย่างไร?”

“สภาพอย่างไร?…เฮ้ย!” ในสมองของเซี่ยวลั่วหยาวมีคำ ว่า “ร่างกายเปลือยเปล่า” 4พยางค์ดังขึ้นมา

“แล้วฉันล่ะ?”

เซี่ยวลั่วหยาวกัดปากและพูดเหมือนจะร้องไห้ “คุณ..กำลังอาบน้ำ….

“งั้น ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของเธอ ฉันและเธอ เกิดอะไรขึ้นในคืนนั้น?”

“เอ๊ะ ฉันไม่รู้!” เซียวลั่วหยาวแกล้งปฏิเสธทำเป็นไม่รู้เรื่อง ราว

“อ่อ ไม่รู้เหรอ? งั้นให้ฉันเล่ารายละเอียดทีละเล็กทีละน้อย ให้เธอฟังดีไหม?”

“ไม่ต้อง ไม่ ไม่ต้องพูด ฮือ ไม่ต้องพูด ฉันเข้าใจแล้ว”

เซี่ยวลั่วหยาวก้มหน้าและจับมุมเสื้อเอาไว้
เฉียว ฟาน

จ้องมองเธอโดยเฉพาะที่หน้าอกและใช้มือแตะลงบนโต๊ะ และพูดขึ้น “งั้น..ฉันขอถามเพื่อนเชี่ยว จู่ๆเธอก็วิ่งเข้ามา หาฉัน คว้าเสื้อฉันไว้ ขอร้องไห้ฉันนอนกับเธอ คืนนั้นฉัน เหนื่อยมาก หลังจากใช้ประโยชน์กับฉันเสร็จแล้ว ทำไมถึง หนีออกไปโดยไม่พูดอะไรเลย นี่เป็นเรื่องปกติของการซื้อ มาขายไปอย่างนั้นเหรอ? “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ