บทที่ 4 ถ้าใครกล้าบังคับให้นายพูด ก็เอาเงินฟาดมันให้ ตายเลย
ตั้งแต่ที่เสี่ยวเป่าขึ้นรถมาก็เอาแต่ก้มหน้า ยังคงไม่มีการ เปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่น้อย
สีหน้าขาวซีดของเห้ออี้ลัวที่กำลังขับรถ เห็นได้ชัดเลยว่า
เขากําลังโกรธ
ไม่รู้ว่ากำลังโกรธเสี่ยวเป่าที่หนีออกจากบ้านไป หรือว่า โกรธเรื่องของผู้หญิงคนนั้น
รถเลื่อนเข้ามาจอดที่หน้าวิลล่าแห่งหนึ่ง เพิ่งจอดนิ่ง ประตูรถด้านหลังก็ถูกคนเหวี่ยงใส่
ร่างเล็กๆ ก็พุ่งตรงเข้าไปในวิลล่าอย่างรวดเร็ว เหวี่ยง ประตูใหญ่ซะจนสั่นสะเทือนไปทั้งบ้าน
เห้ออี้ล้วลงจากรถมาอย่างหน้าดำ
คุณพ่อบ้านรีบตามออกมาดู: “คุณชายครับ คุณชายเล็ก เขา.
“เรื่องของวันนี้ คราวหลังอย่าให้เกิดขึ้นอีก” เห้ออี้ถั่วพูด
ร่างกายของคุณพ่อบ้านสั่นเทา “แต่ว่าคุณชายเล็กเขา ขอบคุณหมอเฉียวมากนะครับ”
“ดังนั้น เขาก็สามารถไปรบกวนชีวิตคนอื่นได้อย่างนั้น หรอ?” เห้ออี้ล้วถามกลับอย่างเย็นชา
“คุณชายครับ สิ่งที่ผมจะพูดต่อไปนี้คุณอาจจะไม่อยากฟัง แต่หลังจากเกิดเรื่องขึ้นคุณชายเล็กถึงจะหนีออกจากบ้าน ไป และคุณหมอเฉียวก็เป็นคนแรกที่เขายอมใกล้ชิดด้วย ผม คิดว่านี่เป็นสัญญาณที่ดีนะครับ”
“ถ้าหากว่าคุณคิดแบบนั้นละก็ กลับบ้านไปพักผ่อนเถอะ ด้านคุณชายเล็กผมจะหาคนอื่นมาดูแลเอง”
เห้ออี้ล้วมองพ่อบ้านเบาๆหนึ่งครั้ง แล้วเข้าไปในห้อง หนังสือบนชั้นสอง
คุณพ่อบ้านมองไปที่แผ่นหลังของเห้ออี้ลัว แล้วถอน หายใจอย่างช่วยไม่ได้
พอเห้ออี้ลัวเพิ่งจะนั่งลงในห้องหนังสือ ก็ได้ยินเสียงกรีด ร้องดังขึ้นเป็นระยะ และยังมีเสียงขวางสิ่งของอีก
เห้ออี้ลั่วหลับตาลง และเปิดประตูห้องหนังสือออก
ในเวลาเพียงไม่กี่นาที ห้องรับแขกที่เคยสะอาดเรียบร้อย ก็กลายเป็นที่ทิ้งขยะขนาดใหญ่
สิ่งของที่สามารถขว้างได้ก็โดนขว่างแตกจนหมด
เสี่ยวเปาเดินเท้าเปล่าไปตามพรมที่เต็มไปด้วยเศษแก้วที่แตกออก
คุณพ่อบ้าน แม่นม และสาวใช้ตามอยู่ด้านหลังเขา แต่ กลับไม่มีใครกล้าห้ามเขาเลย
เห้ออัล้วยืนมองเสี่ยวเป่าอาละวาดอย่างไม่มีเหตุผลอยู่บน ระเบียงทางเดินชั้นสองด้วยใบหน้าที่เย็นชา
จนกระทั่งเท้าที่ขาวเนียนของเสี่ยวเป่าโดนเศษแก้วชิ้น หนึ่งบาดเข้า เขาถึงเอ่ยปาก “เห้อเวยเฟย ถึงจะอาละวาด ต่อไป ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นกับตัวเธอ!”
เห้ออี้ถั่วจะเรียกชื่อเต็มของเขาเฉพาะเวลาที่โกรธ
ร่างเล็กตัวสั่นเทา จากนั้นเขาก็ผลักแจกันโบราณที่สูงกว่า ตัวเองจนล้มลงบนพื้น
เครื่องลายครามที่เปราะบางกับพื้นที่แข็งทำให้เกิดเสียง แก้วแตกเพรังดังขึ้น
แจกันโบราณที่มีมูลค่ากว่าสิบล้านแตกละเอียดในทันที
เสี่ยวเป่ายืนอยู่กลางพื้นที่ยุ่งเหยิง
ใบหน้าเล็กๆที่ดื้อรั้นและยังไม่บรรลุนิติภาวะของเสี่ยวเป่า เงยขึ้นไปมองเห้ออี้ลัวอย่างท้าทาย
เห้ออี้ล้วขมวดคิ้วแน่น และเดินลงบันไดมาทีละก้าว
เสี่ยวเป่ายังคงยืนอยู่ตรงนั้นด้วยเนื้อตัวที่สั่นเทา ปล่อย ให้เลือดไหลออกมาจากบาดแผลที่เท้า แต่ยังไม่มีสีหน้าที่ อ่อนแอเล็ดลอดออกมา
เห้ออี้ลั่วค่อยๆเดินไปนั่งที่โซฟา แล้วโบกมือให้พ่อบ้าน แม่นมและสาวใช้
ไม่นานห้องโถงขนาดใหญ่ก็เหลือแค่เพียงคนสองคน
เห้ออี้ลัวยังคงไม่สนใจแผลตรงเท้าของเขาที่กำลังมีเลือด ไหลออกมา “บอกมาสว่านายอยากจะทำอะไร?”
เสี่ยวเป่าหยิบมินิแท็บเล็ตออกมาอย่างไม่พอใจ พิมพ์ตัว อักษรหนึ่งบรรทัด “เธอไม่ต้องการผม!”
“เธอไม่ได้เสียสติสักหน่อย จะต้องการเด็กที่น่ารำคาญ อย่างนายไปทำไมกัน?! ถ้านายไม่ใช่ลูกฉัน ฉันก็ไม่เอานาย หรอก!”
ทันทีที่สิ้นเสียงของเห้ออี้ลั่ว ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องที่แสบ แก้วหูดังขึ้น
เห้ออี้ลั่วปิดริมฝีปาก แล้วยื่นมือออกไปยกเสี่ยวเป่ามาไว้ที่
เสี่ยวเป่าขัดขืน
เห้ออี้ถั่วเหลือบมองเขาด้วยหางตา พูดอย่างเย็นชา“ก่อนที่จะเจรจากับฉัน ควรนับเบี้ยของตัวเองซะก่อน”
หลังจากพูดจบ เสี่ยวเป่าก็เหมือนกับว่าโดนปิดเครื่อง ยอม ให้เห้ออี้ลั่วอุ้มโดยไม่ส่งเสียงใดๆอีก
เห้ออี้ล้วยกเท้าอ้วนๆเล็กๆของเขาขึ้นมาอย่างไม่อ่อนโยน เลยสักนิด เมื่อเห็นบาดแผลก็ขมวดคิ้วแล้วยื่นมือไปดึงเศษ แก้วออกมาจากเท้าอ้วนๆของเขา
ต่อมาก็หยิบกล่องประถมพยาบาลออกมาจากลิ้นชักด้าน ข้าง แล้วทําแผลให้เขา
หลังจากทำแผลเสร็จ ก็โยนเสี่ยวเป่าไปที่โซฟาด้านข้าง อย่างโกรธเคือง มือสองข้างกอดอกแล้วมองไปที่เขา
เสี่ยวเป่าก็เบิกตากว้างมองเห้ออี้ลัวโดยไม่พูดอะไร
ทั้งสองคนจ้องหน้ากันอยู่สักพัก
เห้ออี้ล้วกรอกตาท่าทางโกรธ “พ่อนักรบ นายช่วยเข้าใจ ถึงความลำบากของพ่อบ้างได้ไหม? การประชุมนานาชาติ ของฉันเพิ่งจะได้เริ่มขึ้น ก็โดนคนอื่นเขาโทรมาตามให้รีบ ออกไปแก้ปัญหาเรื่องของนาย หลังจากนั้นนายก็อาละวาด ซะ นายคิดว่าสิ่งเดียวที่พ่อของนาย ฉันคนนี้มีชีวิตอยู่บน โลกใบนี้เพื่อช่วยแก้ปัญหาให้นายหรอ?”
เสี่ยวเป่าไม่สนใจเห้ออี้ลั่ว แม้แต่แท็บเล็ตก็ไม่อยากจะ
พิมพ์
เห้ออี้ล้วรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ “นายมีอะไรจะขอก็รีบ พูดมาให้ชัดเจน อย่าปล่อยให้พลาดโอกาสเจรจาที่ดีแบบนี้ ไป แล้วนายก็มาทำลายข้าวของอีก ไม่มีใครมีภาระหน้าที่ที่ จะต้องมาคอยเอาใจนายหรอกนะ พ่อนาย ฉันก็ไม่มีข้อต่อ รองที่สูงมาก ก่อนที่นายจะขออะไรจากฉัน ก็เตรียมใจที่จะ ตอบคําถามฉันไว้ก็พอ หากนายไม่คิดจะต่อรอง รบกวนนาย ช่วยขึ้นไปคิดไตร่ตรองข้างบน
ใบหน้าเล็กของเสี่ยวเป่าก็เกิดประกายความคิดออกมา
เห้ออี้ลั่วนั่งพิงโซฟารอปฏิกิริยาตอบรับจากเขา
นิ้วเล็กๆของเสี่ยวเป่ารีบจิ้มไปที่มินิแท็บเล็ตอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นก็ปีนข้ามโซฟามาอยู่ข้างๆเห้ออี้ลั่ว แล้วส่งมินิ แท็บเล็ตไปให้เห้ออี้ล้ว
เห้ออี้ถั่วเหลือบมอง บนหน้าจอเขียนไว้ว่า: ผมอยากให้ หมอเฉียวอยู่กับผม
“เงื่อนไขที่สัญญากับฉันหละ?”
ใบหน้าเสียวเป่าแสดงออกถึงความลำบากใจ สุดท้ายก็ กัดฟันแล้วแกว่งเท้า พิมพ์อักษรอีกบรรทัดลงบนจอ “ผมจะ ไปโรงเรียน”
เห้ออัล้วมองอักษรบนหน้าจออย่างเงียบๆ ด้วยไอคิวของ นาย ถ้าให้ไปเรียนอนุบาลละก็เสียเวลาเปล่าๆ แถมนายก็ไม่ ยอมพูด ไปเรียนอนุบาลก็ไม่มีประโยชน์”
เสี่ยวเป่าได้ยินอย่างนั้นดวงตาสีดำแปลงประกายมองไปที่ เห้ออี้ลัวอย่างเงียบๆ รอคำตอบของเห้ออี้ ว
“ต้องพูดคุยกับฉันสามประโยคต่อวัน แต่ละประโยคจะต้อง ไม่น้อยกว่าสิบคำ
เสี่ยวเป่าก้มหน้าลง มือเล็กๆขยี้ชุดนอนตัวเล็ก อย่าง ลำบากใจ
เห้ออี้ลัวมองไปที่สมองแตงโมของเขา ถอนหายใจอย่าง ต่อเนื่อง: “ชาติที่แล้วฉันไปขุดหลุมศพบรรพบุรุษนาย หรือ ไปเผาบ้านของบรรพบุรุษนายหรอ ถึงได้ส่งนายมาทรมาน ฉันแบบนี้ คนอื่นเขาเลี้ยงลูกหมียังสามารถได้ยินคำว่าพ่อ ส่วนฉันก็ได้บวบที่ไม่ยอมพูดบวกกับความไม่เชื่อฟัง น่า รำคาญและยังชอบก่อปัญหาอีก”
เสี่ยวเป่ามองเห้ออี้ลั่ว ใบหน้าบูดเบี้ยวเล็กน้อย แล้วก็ไม่ ได้พูดอะไร
เห้ออี้ลั่วเอื้อมมือไปขยี้หัวที่เต็มไปด้วยเส้นผมของเขา
“ได้แล้ว ยังไงฉันก็จะไม่บังคับนาย นายอยากเป็นเด็กหมี ก็ตามใจนาย ฉันจะพยายามหาเงินมาเก็บไว้ในตอนที่ยังอาย น้อย อีกหน่อยก็ให้นายสืบทอด ใครกล้าสั่งให้นายพูดก็เขา เงินฟาดมันให้ตายเลย!
พูดจบ เห้ออี้ลั่วปัดเข่าของตัวเองลุกขึ้นแล้วเดินจากไป
เสี่ยวเป่านั่งซึมอยู่ที่โซฟา โดยที่คำพูดของพ่อเขานั้นไม่ ได้ทำให้รู้สึกดีขึ้นเลย
**
หลังจากผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ เฉียวเมิ่งเยว่ก็ใช้เวลาไปกับ งานที่ยุ่ง
ในหนึ่งวันก็จะมีเคสที่ต้องผ่าตัดสองเคสขึ้นไป วันวันก็ยุ่ง เหมือนหมา
เธอคิดว่าจะต้องเป็นสัปดาห์ที่ผ่านไปอย่างยากลำบาก แต่ ก็ผ่านมันไปได้พร้อมกับงานที่ยุ่ง
วันศุกร์ ในตอนที่เฉียวเมิ่งเยว่กำลังออกมาจากห้องผ่าตัด เป็นเวลาสามทุ่มกว่าแล้ว
ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้น เธอก็ยังหยิบโทรศัพท์ออกมา เปิด เข้าไปในวีแชท
ในนั้นมีข้อความมากกว่าสิบข้อความที่คนอื่นได้ส่งถึงเธอ
ในนั้นของหยางเสว่หลินเยอะที่สุด
เฉียวเมิ่งเยว่เปิดดูข้อความจากหยางเสว่หลิน
“เมิ่งเมิ่ง เธอจะมาไหม?”
“ฉันว่าเธอไม่ต้องมาจะดีกว่า โจวจื่อหยางกับเย่ชิงสุนัข ชายหญิงสองคนนั้นน่ารำคาญสุดๆ เย่ชิงแสดงความรักต่อ หน้าพวกเรา โจวจื่อหยางยังพอเอาหน้าอยู่ไม่ค่อยยอมร่วม มือกับเธอเท่าไหร่นัก
“เย่ชิงยังพยายามล้วงข้อมูลของเธอจากฉันอีก แต่ฉันก็ไม่ ได้สนใจเธอ ไม่รู้ว่าเพื่อนคนอื่นๆจะพูดหรือเปล่า”
“ได้ยินว่าพวกเขาเข้าไปแผนกศัลยกรรมสมองของโรง พยาบาลเยว่เฉิงด้วยกัน พอเข้าไปก็ได้เป็นรองหัวหน้า แพทย์เลยโธ่เอ๊ย คนไร้ยางอายสองคนนี้ เกือบทำฉันบ้า ตาย!”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ