บทที่ 691 แอนนี่เชื้อเชิญ
“เรื่องนี้ เรื่องนี้ ปรมาจารย์ฟางเจิ้งวางใจได้ครับ ผมรับรองว่าจะ ไม่พาเขาไปอีก!”
เฉินเพิ่งรีบตอบทันที สำหรับปรมาจารย์ฟางเจ๋งนั้นเฉินเฟิงยัง
คงให้ความเคารพ
เมื่อเห็นท่าทีของเฉินเฟิง ปรมาจารย์ฟางเจิ้งก็ไม่มีอะไรให้พูด แล้ว
“จ่าสิ่งที่พูดเอาไว้ ฉันจะให้ปรมาจารย์อู่คอยจับตาดูพวก นาย! ”
ปรมาจารย์ฟางเจิ้งพูดเสียงเคร่งขรึม จากนั้นตัดสายทันที “พระใหญ่ ผมสู้กับคุณเต็มที่!”
ศีลสามจับหัวล้านของตนเอง สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความ
โมโห
“เจี๊ยะ! เจี๊ยะ! เพียะ! ”
ไม่รอให้เขาได้ทำอะไร ก็มีเสียงดังขึ้นอีกสามครั้ง ศีลสามกุม หัวเอาไว้แล้วรีบหลบไปอีกด้านหนึ่ง กลัวว่าปรมาจารย์ฟางเจิ้งจะ เขาอีก
“ดี พระใหญ่ หลังจากเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ความ สามารถของผมต้องพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด ไม่แน่ว่าอาจจะบรรลุหัวจิ้งชั้นกลาง ถึงเวลานั้นทั้งบุญคุณและความแค้นเรามา ช่าระพร้อมกัน ! ”
“เฮ้อ จากสถานการณ์ในตอนนี้ การแข่งขันศิลปะการต่อสู้ ระดับโลก ในครั้งนี้เฉินเฟิงซึ่งเป็นศิษย์น้องของเยี่หนานเทียน ต้องเป็นหนามยอกอกในสายตาของทุกคนแน่ ไม่รู้ว่าเขาจะ รับมือยังไง!
ฟางเจิ้งไม่ได้สนใจศีลสาม ทว่ากลับครุ่นคิด วิเคราะห์ สถานการณ์การแข่งขันในครั้งนี้
ถึงแม้ไม่รู้สถานการณ์ที่ชัดเจน แต่การไปวาติกันในครั้งนี้ ถ้า ไม่ระมัดระวัง เกรงว่าคงจะไม่สามารถรักษาชีวิตเอาไว้ได้
แบ่งเป็นสองด้าน หลังจากเฉินเฟิงและศีลสามนัดแนะกันแล้ว เดิมทีคิดอยากจะเตรียมตัวออกเดินทาง ทว่าใครจะไปคิดเวลานี้ เทียนอิง จียนทั้งสองคนต่างก็โทรมาติดๆกัน ทั้งหมดล้วนบอกว่า จะไปวาติกันพร้อมกับเฉินเฟิง
สำหรับสถานการณ์นี้เฉินเฟิงมึนงงเล็กน้อย ความเป็นจริงเขา ไม่รู้ หลังจากสู้กับฉู่เหอเมื่อคราวที่แล้ว เขาได้กลายเป็นไอดอล ในใจของทั้งสองคนไปแล้ว กลายเป็นมาตรฐานบนเส้นทาง ร่าเรียนศิลปะการต่อสู้
ยิ่งไปกว่านั้นครั้งนี้พวกเขาทั้งสี่คนเข้าร่วมการแข่งขันด้วยกัน เป็นตัวแทนของวงการศิลปะการต่อสู้ประเทศหวา ต้องสามัคคีมี ใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน สู้กับคนนอก ในบรรดาสี่คนของพวก เขาในครั้งนี้ แน่นอนว่าเฉินเฟิงเป็นหัวหน้า
เวลาไม่เช้าแล้ว หลังจากตัดสาย เฉินเฟิงเตรียมที่จะไปห้อง ครัวเพื่อทําอาหารเช้าให้กับศิษย์พี่ของเขาเยี่หนานเทียน
“กริ่งๆๆ!
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง เฉินเฟิงยิ้มเศร้า ช่วงนี้โทรศัพท์ดัง บ่อยมาก
เฉินเฟิงหยิบโทรศัพท์ออกมา เบอร์ที่โทรเข้ามาเป็นเบอร์ แปลก แต่ว่าตรงหน้าจอโชว์ว่าเป็นเบอร์ที่โทรมาจากประเทศ อังกฤษ เมื่อเห็นสิ่งนี้ภาพในหัวของเฉินเฟิงอดไม่ได้ที่จะใบหน้า สดใสและคุ้นเคยนั้น
แอนนี่ องค์หญิงของราชวงศ์อังกฤษ
“สวัสดีครับ!”
“เฟิง ช่วงนี้นายสบายดีไหม?
ปลายสายมีเสียงคุ้นเคยขององค์หญิงแอนนี่ดังขึ้น แอนนี่ถามความเป็นอยู่ของเฉินเฟิง ในช่วงนี้ จากน้ำเสียงของ เธอสามารถฟังออกว่าเธอทั้งดีใจและตื่นเต้นเล็กน้อย
“ช่วงนี้ก็สบายดีครับ!
เฉินเฟิงตอบกลับ ช่วงนี้เขาไม่โอเคเท่าไหร่ แต่ไม่จำเป็นต้อง บอกกับแอนนี่
“เฟิง คือเรื่องมันเป็นแบบนี้!
แอนนี่ลังเลอยู่พักหนึ่ง เฉินเฟิงฟังจากโทรศัพท์ก็รู้ว่าแอนนี่”เฟิง อีกไม่นานฉันจะฉลองวันเกิดแล้ว ฉันหวังว่านายจะมา ฉลองวันเกิดกับฉัน!
แอนนี่รวบรวมความกล้าแล้วพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา เธอคาด หวังเล็กน้อย และตื่นเต้นเล็กน้อย เธอกลัวเขาจะปฏิเสธ
“อื้ม! ได้ครับ ถ้าช่วงนี้ผมมีเวลา ผมจะไป คุณบอกวันเกิด ของคุณมาสิครับ และสถานที่จัดงานวันเกิดมาให้ผม! ”
เฉินเฟิงลังเลอยู่พักหนึ่งจากนั้นตอบตกลง
“อะไรนะ! เฟิง! นายตกลงแล้ว ฮ่าๆดีมาก?” ปลายสายมี เสียงร้องด้วยความดีใจของแอนนี่ดังขึ้น เธอดีใจเหมือนเด็กน้อย
“พรุ่งนี้ตอนสองทุ่ม จัดที่หอคอยลอนดอน
“ครับ รู้แล้วครับ ผมจะไปให้ได้ครับ! ”
หลังจากเฉินเฟิงวางสาย เขาลังเลอยู่พักหนึ่งแล้วกดโทรหา
จื่อโจว
“สวัสดีครับ ผู้อาวุโสบู่ ผมคือเฉินเฟิง
หลังจากปลายสายรับสาย เฉินเฟิงไม่อ้อมค้อม พูดตรง
ประเด็นทันที
“ยิ้ม เฉินเฟิง สวัสดี! ” ผู้อาวุโสอู่ตอบกลับ
อู่จื่อโจวรู้ดีว่าการที่เฉินเฟิง โทรมาต้องมีเรื่องแน่ ไม่อย่างนั้น จากที่เขารู้จักเฉินเฟิง เฉินเฟิงไม่มีเวลาว่างพอที่จะโทรมาคุยเรื่องเรื่อยเปื่อยกับตนได้
“ผู้อาวุโส ก่อนหน้านี้คุณบอกพวกศีลสามว่าจะรวมตัวกันที่
เหลียง ศีลสามบอกผมแล้ว แต่ผมมีธุระก็เลยอยากจะขอลากับผู้ อาวุโสครับ! “ลา…..ลา?” อู่จื่อโจวไม่เข้าใจเล็กน้อย ในสถานการณ์หน้า
สิ่วหน้าขวานแบบนี้ทำไมเงินเฟิงถึงอยากจะขอลา
“ถูกต้องครับ ช่วงนี้ผมมีเรื่องต้องจัดการอยากจะไปลอนดอน ก่อน ดังนั้นครั้งนี้จึงไม่สามารถเดินทางพร้อมกันพวกผู้อาวุโส ได้! “เฉินเฟิงกลัวผู้อาวุโสจะโกรธ จึงรีบพูดอธิบาย
“อะไร? นายจะไปลอนดอน ในเวลาสำคัญแบบนี้?” ได้ยินคำ พูดของเฉินเฟิง อู่จื่อโจวชะงักอยู่ที่เดิม เขาในฐานะผู้อาวุโสของ สหพันธ์บูโด รู้เรื่องภายในมากมาย ตอนนี้ไม่รู้ว่ากองกำลังอะไร บ้างที่อยากจะเอาชีวิตของเฉินเฟิง
ต้องรู้ว่าในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ ถ้าเฉินเพิ่งออก นอกประเทศหวา สามารถพูดอย่างมั่นใจว่าพวกกองกำลังของ ศัตรูเหล่านั้น ต้องไม่ลังเลที่จะลงมือกับเขาอย่างแน่นอน ด้าน นอกมีผู้แข็งแกร่งมากมาย เฉินเพิ่งออกไปแบบนี้เป็นการรนหาที่ ตายชัดๆ
“เฉินเฟิง นายควรจะรู้ว่าตอนนี้เป็นเวลาไหน นายมีศัตรูอยู่ ด้านนอกมากมาย ถ้านายเดินทางนุ่มบ่าม กลัวว่าชีวิตจะน่าเป็น ห่วง! ”
อู่จื่อโจวบอกข้อดีข้อเสียของเรื่องให้เฉินเฟิงฟัง หวังว่าเฉินเพิ่งจะไม่เพิกเฉยต่อชีวิตของตนเองเพราะเรื่องเล็กน้อย
“ผู้อาวุโส พูดถูกครับ ผมเชื่อว่าถ้าเปลี่ยนเป็นปกติแล้ว ผม
ต้องตกอยู่ในอันตรายอย่างแน่นอน ผมถึงขั้นเชื่อว่าฝ่ายตรงข้าม ต้องระเบิดเครื่องบินที่ผมนั่งแน่นอน! ได้ฟังคำพูดของเฉินเฟิง อู่จื่อโจวซะงักไปพักหนึ่งไม่รู้ว่า
เฉินเพิ่งหมายความว่าอะไร
เฉินเฟิงพูดต่อ: “แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน ตอนนี้เป็นช่วงระยะ เวลาพิเศษ ผมไม่เพียงแต่ไม่มีอันตราย ในทางกลับกันปลอดภัย มากด้วยซ้ำ ศัตรูของศิษย์ที่มีมากมาย อีกทั้งผู้สืบทอดของพวก เขาอาจจะเป็นหนึ่งในคนที่เข้าร่วมการแข่งขัน อีกทั้งตอนที่ผม และพวกเขามีความแค้นต่อกัน แทบจะทุกคนรู้กันหมด ใน สถานการณ์แบบนี้ ถ้าฝ่ายตรงข้ามฆ่าผม พวกเขาจะกลายเป็น เรื่องตลกของวงการศิลปะการต่อสู้! ”
“อื้ม นายพูดต่อ! “อู่จื่อ โจวรู้สึกว่าเฉินเฟิงพูดมีเหตุผล
“ผู้อาวุโสคิดดูสิครับ ถ้าพวกมันฆ่าผมก่อน มันพิสูจน์ว่าอะไร? ข้อหนึ่ง คนข้างนอกต้องคิดว่าพวกเขากังวลว่าผู้สืบทอดของ ตนเองต้องแพ้ด้วยน้ำมือของผม ก็เลยฆ่าผมทิ้ง ข้อสอง ผมคิดว่า ถ้าเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นก่อนการแข่งขัน ถ้าอย่างนั้นองค์กรศิลปะ การต่อสู้ของโลกคงไม่นิ่งดูดายแน่”
“นายวิเคราะห์ได้มีเหตุผล แต่ก็ไม่มีเรื่องอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ไม่กลัวเรื่องที่แน่นอน กลัวเรื่องที่ไม่แน่นอน เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับ ชีวิต ต้องระมัดระวัง!
ถึงแม้จะบอกว่าเฉินเพิ่งพูดไม่ผิด แต่อจื่อโจวยังคงเป็นกังวล
“ผู้อาวุโสอ่วางใจเถอะครับ ถึงยังไงศัตรูพวกนั้นก็จะฆ่าผม
แน่นอน อีกทั้งพวกมันจะร่วมมือกัน แต่ไม่มีวันเป็นตอนนี้ แต่จะ เป็นหลังจากจบการแข่งขัน คำพูดของเฉินเฟิงหนักแน่น เขาคิดที่มาที่ไปของเรื่องทั้งหมด
หลายต่อหลายรอบ ไม่อย่างนั้นก็คงไม่ตัดสินใจทำแบบนี้
“เฮ้อ ก็ได้ ถ้าอย่างนั้นนายระวังตายหน่อย
อู่จื่อโจวรู้ว่าเฉินเฟิงตัดสินใจไปแล้ว พูดเกลี้ยกล่อมยังไงก็ได้ ประโยชน์ สุดท้ายจึงพูดกำชับเฉินเฟิง
“ครับ ขอบคุณผู้อาวุโสอู่ครับ”
เฉินเฟิงรีบพูดขอบคุณ จากนั้นตัดสายไป
ตอนเที่ยงวันเดียวกัน เฉินเฟิงเตรียมตัวพักหนึ่ง จากนั้นขึ้น เครื่องบินจากซีเหลียงบินไปลอนดอน จากนั้นเปลี่ยนเครื่องที่
ดูไบ
เรื่องที่เฉินเฟิงออกไปจากประเทศหวา ถูกวงการศิลปะการ
ต่อสู้รู้
คิดไม่ถึงว่าตอนที่เฉินเฟิงอยู่ในช่วงเวลาขับขัน ออกไปจาก ประเทศหวา แทบจะทุกคนต่างรู้ว่าเฉินเฟิงมีศัตรูมากมาย ออกไปเวลานี้ ต้องนับถือความใจกล้าของเฉินเฟิงจริงๆ
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ