Domineering Dad คุณพ่อหยิ่งผยอง

บทที่ 3 นี่ก็คือสิทธิ์



บทที่ 3 นี่ก็คือสิทธิ์

ห้าหมื่น……..

เหมิงเหมิงยื่นมือไปจับใบหน้าที่เจ็บเหมือนไฟไหม้ ตกใจจน ร้องไห้ออกมา

ที่บ้านไม่มีเงินอยู่แล้ว แม่ทำงานหาเงินอย่างเนินเหนื่อย ไม่ เพียงแต่ต้องจ่ายค่ารักษาโรคของปู แล้วต้องจ่ายค่าเช่าอีก

สองสามวันที่แล้วเธอยังเห็นแม่ขอร้องคนอื่นเพื่อยืมเงินอยู่เลย ถ้าให้รู้ว่าต้องชดใช้ห้าหมื่น แม่ต้องโดนด่าตายแน่เลย เหมิงเหมิงนั่งบนพื้น มือจับถุงที่เต็มไปด้วยขวดไว้แน่นๆ ตา ของเธอแดงขึ้นมาทั้งสองข้าง

“ลุงคะ บ้านหนูไม่มีเงิน แม่ต้องเอาเงินไปจ่ายค่าพยาบาลให้ แล้วต้องจ่ายค่าเช่าอีก ไม่มีเงินแล้วจริงๆ”

“หรือไม่ หนูติดไว้ก่อนได้ไหม หนูจะรีบคืนหลังจากที่เก็บขวด มาขาย หนูไม่อยากให้แม่ลำบากขนาดนั้น หนูขอร้อง

“ไม่ได้”

ผู้ชายตะโกนด้วยอารมณ์โมโหอย่างโหดๆว่า “ไม่มีเงินเธอ กล้ามาชนรถฉันได้ไง ถ้าไม่จ่ายเงินมา ใครก็ช่วยเธอไม่ได้” คนมารวมตัวกันที่บริเวณรอบๆนั้นเยอะขึ้นเรื่อยๆ
“ซวยแล้ว เด็กคนนี้ชนรถของนักเลงคนนี้ได้ไง

“นักเลงหัวไม้คนนี้ชื่อต้าหัว เป็นคนน่ารังเกียจที่ขึ้นชื่อมาก ชอบไถเงินคนอื่นไปทั่ว เด็กผู้หญิงคนนี้น่าสงสารจัง

“ไม่มีลอยอะไรเลยแท้ๆ นี่มันจงใจไถเงินของเด็กผู้หญิงคนนี้นี่ นา เลวจริงๆเลย”

“กลั่นแกล้งเด็กผู้หญิงเล็กขนาดนี้ นายภูมิใจในตัวเองมาก

หรือไง”

“พวกแกไปเลยนะ”ต้าหัวตะโกนอย่างโมโห

คนทั้งหมดตกใจจนปิดปาก โดยทันที

ให้พวกเขาช่วยเหมิงเหมิงพูดประโยคยังพอได้ แต่ถ้าต้าหัวโมโหใส่พวกเขา ก็จะทำให้พวกเขามีความรู้สึก

หวาดกลัวนิดๆ

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ต้าหัวเป็นนักเลงหัวไม้ที่มีชื่อเสียงของ ละแวกนี้

คนทั่วไปถ้ามีเรื่องกับเขา ชีวิตต้องลำบากแน่เลย

“ไอ้เด็กบ้า รีบโทรหาพ่อแม่เธอเร็ว”

ต้าหัวใช้เท้าถีบถุงกระเด็น แล้วตะโกนอย่างโมโหพร้อมกับ ใช้มือบีบคอของเหมิงเหมิงไว้

การถูกบีบคอไว้ ทำให้หน้าของเหมิงเหมิงแดงไปหมดเพราะ ไม่ได้หายใจ และมีเสียไอออกมาจากปากอยู่เรื่อยๆ
เผชิญกับเหตุการณ์ที่ผู้ใหญ่รอบข้างไม่ช่วยเหลือและการ ของผู้ชายบีเอ็มคนนี้

ในใจของเด็กเล็กคนนี้รู้สึกหมดหวังเหลือเกิน ทันใดนั้น ในใจ ของเธอก็นึกถึงผู้ชายที่เรียกว่าพ่อขึ้นมา เมื่อก่อนที่โรงเรียน ถ้ามีเพื่อนๆคนไหนโดนรังแก มักมีผู้ชายที่

ชื่อว่า ‘พ่อ’มาปกป้องพวกเขา

แล้วพ่อของเธอล่ะ

เธอไม่เคยเห็นเลย เหมือนโลกของเธอไม่มีพ่อคนนี้อยู่

ทันใดนั้นเหมิงเหมิงร้องไห้ไม่หยุด ขณะที่หมดหนทาง เธอได้ เรียกค่าที่ไม่เคยเรียกมาแต่เกิดออกจากปาก

“ต้าหัว นายพอได้แล้ว มีลอยข่วนที่ไหน ไม่เห็นต้องรังแกเด็ก

ขนาดนี้เลย”

หญิงวัยสาวคนหนึ่งที่แต่งงานแล้วทนดูต่อไปไม่ได้จึงตะโกน ออกมาเช่นนี้

ต้าหัวมองเขาแวบหนึ่ง แล้วโยนเหมิงเหมิงลงพื้น “อย่ามาทำเป็นพูดเลย งั้นเธอชนใช้แทนเด็กคนนี้ไหม”

พอหญิงคนนี้ได้ยินเช่นนี้ พูดต่อไม่ได้ทันที เพราะตอนนี้ชีวิต เธอก็ขาดเงินเหมือนกัน ไม่มีเงินชดใช้แทนเหมิงเหมิงได้ จึงมอง หน้าเหมิงเหมิงด้วยสายตาที่อยากช่วยแต่ช่วยไม่ได้
“ได้ ผมชดใช้เอง”

ขณะนี้มีรถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมสีดำคันหนึ่งค่อยๆ ดอยู่ หน้าผู้คน

เจียงเยวที่คุมเสื้อสีดำ สวยรองเท้าทหารสำหรับสู้รบ เดินลง มาจากรถด้วยสีหน้าเย็นชา

ใบหน้าอันแหลมคมของเขา ส่งออร่าของผู้นำชั้นสูงออกมา

ขณะที่เขาปรากฏตัว สภาพของบริเวณนั้นก็มีการเปลี่ยนแปลง เกิดขึ้น

เหมือนโลกทั้งใบก็กำลังก้มหน้าลงเพราะผู้ชายคนนี้ บรรยากาศในตอนนั้นแปลกประหลาดมาก

ทันใดนั้น ความแข็งกร้าวของชายบีเอ็มก็อ่อนลงไปจนไม่กล้า หายใจแรง

สายตาของผู้คนที่รวมตัวกันอยู่รอบๆ ก็ค้างอยู่ที่เจียงเยวกับ รถโรลส์-รอยซ์ของเขา

ท่าทีนั้นดูแล้วรู้เลยว่าไม่ใช่บุคคลธรรมดาแน่นอน

โดยเฉพาะป้ายทะเบียนรถของโรลส์-รอยซ์ที่มีเลขแปดห้าตัว นั้น ยิ่งแสดงถึงความไม่ธรรมดาของเจียงเยว่

เขาค่อยๆเดินมายังหน้าเหมิงเหมิง แล้วอุ้มเธอไว้ในก้มกอด ภายใต้สายผู้คน “เหมิงเหมิง ไม่ต้องกลัวแล้ว ผมจะแก้ไขปัญหาให้เอง”
“ขอบคุณค่ะ ลุง

พอเหมิงเหมิงเห็นชายคนนี้ที่เคยเจอที่ตลาด

ก็เศร้าเสียใจขึ้นมา แล้วก้มตัวลงร้องไห้ในอ้อมกอดของเจียง เยว่

ส่วนเจียงเยวก็ลูบหัวเล็กๆของเหมิงเหมิงอย่างเบาๆ พอมอง เด็กผู้หญิงคนนี้ที่เหมือนกับเขามากๆ ในใจเขาก็เต็มไปด้วย ความรู้สึกที่ไม่สามารถบรรยายออกมาได้

เด็กคนนี้ที่มีน้ำหนักเพียงยี่สิบกว่ากิโล อยู่ในอ้อมกอดเขา เหมือนหนักเป็นพันกิโล

พอเห็นลูกสาวที่ร้องไห้อยู่ในอ้อมกอด ตาของเขาก็แดงขึ้นมา รู้สึกเจ็บปวดเหลือเกิน

นี่หรือ ลูกสาวของเขา

วินาทีต่อมาเจียงเยวพูดด้วยสีหน้ามืดครึ้มว่า “เหล่าอู่ จ่าย เงิน”

เหล่าอู่พยักหน้าแล้วรีบหยิบเงินสดออกมาจากรถ โยนไปที่

เท้าของต้าหัวด้วยสีหน้าที่มืดครึ้ม

“ตอนนี้ชนใช้เงินห้าหมื่นที่หลานสาวผมชวนรถนายไปแล้ว แล้วทนายตบหน้าหลานผม เราจะเคลียร์กันยังไง”

พอเผชิญกับเหล่าอู่ที่มีออร่าทรงพลังเหมือนกัน ในตาของต้า หัวเริ่มมีความกลัวเกิดขึ้น หายใจแรงขึ้นเรื่อยๆ “ผม…….ผม
“ปัก”เหล่าอู่จับแขนซ้ายของต้าหัวไว้แล้วพูดว่า “แขนข้างนี้ใช่ ไหม ที่ตบเหมิงเหมิง”

“ไม่..……..ไม่ใช่”

“แควกๆ”

เหล่าอู่ไม่กล่าวอะไรทั้งสิ้น หักมือทั้งสองข้างของต้าหัวเลย “ในเมื่อที่ไม่ยอมพูด งั้นก็ทั้งสองข้างเลยละกัน

เสียงที่กระทบจิตใจนั้น ทำให้ทุกคนที่ตั้งอยู่รอบๆตัวสั่น

โดยเฉพาะตอนที่เห็นตาหัวกลิ้งอยู่บนพื้นเหมือนสุนัขตัวหนึ่ง

ในตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว แต่ในใจก็เต็ม ไปด้วยความสะใจ สุดท้ายเวรกรรมของนักเลงหัวไม้คนนี้ก็ตาม ทัน

หักขาทั้งสองข้างของเขาด้วย เมื่อสักครู่เขาใช้เท้าเตะขวดที่ ลูกสาวผมเก็บมาอย่างเหน็ดเหนื่อย

พอเจียงเยว่พูดจบ ก็อุ้มเหมิงเหมิงที่ร้องไห้หนักไปที่รถโรลส์ รอยซ์

วินาทีที่ประตูรถของโรลส์-รอยซ์ปิดลง

“แควกๆ เหล่าอู่ยกเท้าขึ้นมาเหยียบขาของต้าหัวแรงๆด้วย

สีหน้านิ่งๆ

“อา”ต้าหัวร้องขึ้นมาอย่างเสียงดัง เส้นเลือดที่หน้าผากนูนขึ้นมาหมดแล้วสลบคาพื้น

วินาทีที่รถโรลส์-รอยซ์ขับออกจากที่นั้น โจวรั่วหยินที่ตามหา เด็กอยู่ก็ได้เห็นฉากนี้กับตา สั่นสะเทือนใจเหลือเกิน

คนเลวที่ทำให้ลูกสาวของตนแปดเปื้อนและติดคุกไปแปดปีใน ตอนนั้น ไม่น่าเชื่อเลยว่าตอนนี้จะกลายเป็นคนรวยที่ขับรถโรลส์ รอยซ์

โดยเฉพาะฉากที่ปกป้องเหมิงเหมิง ทำให้จิตใจของเธอสับสน เหลือเกิน เธอรีบหยิบโทรศัพท์ออกมา

“ลูก เจอเหมิงเหมิงแล้วนะ เจียงเยวพาตัวหลานไปแล้ว”

คลินิกตระกูลเจียง

เจียงเยวนั่งอยู่บนโซฟามองเหมิงเหมิงที่กำลังจัดขวดอยู่มุม ห้องอย่างเงียบๆ

ตอนแรก เจียงเยว่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าความรู้สึกของเขาที่มีต่อ เฉินยี่เป็นแบบไหนกันแน่

ตอนนั้นเขามีอะไรกับเฉินขณะที่อาการโรคโมโหร้ายกำเริบ

จึงไม่มีสติเลย

ไม่ถึงขั้นชอบ ยิ่งไม่ใช่ขั้นรัก อาจจะมีเพียงแค่ความรู้สึกผิดต่อ เฉินยี่เท่านั้น

ตอนที่กลับมา เจียงเยวตัดสินใจว่าจะชดใช้สิ่งที่ทำร้ายเฉินไป

ขอเพียงเป็นสิ่งที่เฉิน อยากได้ ถึงแม้อาจจะเสียชีวิตเพราะสิ่ง นั้น เขาก็จะหากลับมาให้ได้

แต่การปรากฏตัวของเหมิงเหมิงและชีวิตอันโศกเศร้าของเฉิน ยี่ ทำให้เขาไม่รู้จะทำยังไงดี

สิ่งที่เขาทําลงไป ทำให้เป็นที่ต้องทนยากลำบากไปมากมาย

จากเด็กที่มีพรสวรรค์คนหนึ่งกลายเป็นผีบ้า ในตาคนอื่น

ทั้งครอบครัวก็ถูกไล่ออกจากตระกูลอีกด้วย กลายเป็นคนชั้น ในสังคม ความรู้สึกผิดในใจเขาทำเขาหายใจลำบากและไม่รู้ จะเผชิญหน้ากับเฉินยังไง

ในใจเขาตอนนี้รู้สึกว่าเป็นที่น่ากลัวกว่าทหารรับจ้างที่เป็นพัน เป็นหมื่นอีก

เขาสามารถเผชิญหน้ากับทหารรับจ้างเป็นพันเป็นหมื่นคน

ด้วยตัวคนเดียว แต่ไม่กล้าเผชิญหน้าเฉินด้วยตัวเอง

ส่วนเหล่าคู่นั้น นั่งย่อยๆอยู่ข้างเหมิงเหมิง ช่วยเด็กน้อยคนนี้ เก็บขวด

รอยมือที่ติดอยู่บนหน้าขาวๆของเธอทำเขารู้สึกปวดใจเหลือ

เกิน

แต่ตั้งแต่ที่ขึ้นรถมา เด็กคนนี้ไม่เคยเอ่ยคำว่าเจ็บเลยสักคำ กลับพูดอยู่ตลอดว่าเป็นความผิดของตนเอง เดินไม่ระวังไปชนรถคนอื่น

ลูกสาวของเทพแห่งสงครามเพียงถึงแม่จะทำผิดแล้วไง

ก็แค่ทำให้รถมีรอยข่วน ถึงแม้จะเผารถทิ้งแล้วไง คนนั้นก็ต้อง

ทน

ถึงเหมิงเหมิงจะทำอะไรตามใจตนเอง ในเมือง อย่างไม่กลัว เลย ใครกล้าห้าม

เรื่องอะไร

มีสิทธิ์อะไร

สิทธิ์นี้มาจากพ่อเขาเป็นยมราชเจียงของเป่ยเจียง

สิทธิ์นีมาจาก พ่อเขาเป็นผู้ปกป้องดูแลความปลอดภัยของ บ้านแต่ละหลังในหัวเซียและความสงบสุขของประเทศชาติ

สิทธิ์นี้มาจาก ความสงบของสังคมที่มีอยู่นั้น แลกมาด้วยเลือด ของพ่อเด็ก ที่เป็นคนถือทวนเฝ้าเป่ยเจียงคนเดียว

ที่ก็คือที่มาของสิทธิ์นี้

เหมิงเหมิง ต่อจากนี้ไป พวกเราไม่ต้องทน ไม่ร้องไห้อีก

พ่อของเธอใช้ทวนที่ถืออยู่ในมือ สร้างโลกให้เธอไว้แล้ว ขอเพียงแค่หนูอยากได้ โลกทั้งใบนี้จะเป็นของแม่ลูกหนูสองคน
“ลูกพี่ “เหล่ายืนขึ้นแล้วเดินเข้ามายืนข้างเจียงเยว่

“อืม”สายตาของเจียงเยวย้ายจากตัวเหมิงเหมิงมาที่เหล่าสัก ที แล้วพูดอย่างนิ่งๆว่า “มีอะไร

“บ่ายนี้ เนื่องจากต้องจ่ายค่าพยาบาลของพ่อ เฉินจึงไป ขอยืมเงินเจ้านายที่ชื่อจางซิน จางซิน ให้บัตรธนาคารที่มีเงินสอง แสน ในนั้นให้กับเธอ แต่มีเงื่อนไขว่าเป็นที่ต้องไปเที่ยวซานย่า กับเขาหนึ่งอาทิตย์ พี่น่าจะรู้ว่าเขาจะทำอะไร”

“แต่ถูกเฉินยี่ปฏิเสธ เลยไล่เธอออกทันที ตอนนี้เป็นที่กลาย เป็นคนว่างงาน และไม่ได้รับเงินเดือนของเดือนนี้อีกด้วย”

เนื่องจากข้อบกพร่องทางอารมณ์ของเฉิน เธอจึงไม่ได้เซ็น สัญญาจ้างกับบริษัท เขาไม่ให้เงินเดือน ก็ทำอะไรไม่ได้

พอได้ยินเช่นนี้ สีหน้านิ่งเฉยของเจียงเยวก็เริ่มกลายเป็นความ

โมโหอย่างรุนแรง

จางซิน

เจ้า อยากตายหรือไง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ